ชาวบ้านไร่เครา เดือดร้อนขาดแคลนน้ำอุปโภคบริโภค น้ำประปาไม่พอใช้
วันที่ 13 กรกฎาคม 2566 ผู้สื่อข่าวเดินทางลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริง ที่หมู่บ้านไร่เครา หมู่ 6 ต.คลองวาฬ อ.เมืองประจวบคีรีขันธ์ หลังได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่าได้รับผลกระทบจากภัยแล้ง และมีความเดือดร้อนอย่างหนัก ขาดแคลนน้ำใช้เพื่อการอุปโภคบริโภค เนื่องจากปริมาณน้ำมีน้อย ไม่เพียงพอต่อความต้องการกับประชากรที่อาศัยในพื้นซึ่งมีจำนวนมาก และเพิ่มขึ้นตามลำดับ
จากการตรวจสอบเบื้องต้น พบว่าอ่างเก็บน้ำเขาคันหอก ซึ่งเป็นสถานที่กักเก็บแหล่งน้ำดิบตามธรรมชาติ เป็นโครงการชลประทานขนาดเล็ก สร้างขึ้นโดยกรมชลประทาน กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ซึ่งรัฐบาลได้สร้างขึ้นให้ราษฎรในพื้นที่ เพื่อใช้ประโยชน์และดูแลรักษาร่วมกัน เมื่อปีงบประมาณ พ.ศ.2543 ปัจจุบันอ่างเก็บน้ำแห่งนี้มีอายุ 23 ปี ซึ่งขณะนี้น้ำดิบใช้ผลิตน้ำประปาเหลือปริมาณน้อยเพียงติดก้นอ่าง และฝายกักเก็บชะลอน้ำบริเวณด้านล่างของอ่างถล่มพังเสียหาย ทำให้ไม่สามารถกักเก็บชะลอน้ำได้ ปัจจุบันมีสภาพแห้งขอด ทำให้ชาวบ้านในพื้นที่ขาดแคลนน้ำใช้เพื่อการอุปโภคบริโภคไม่เพียงพอ โดยต้องสลับแบ่งน้ำกันใช้เพื่อประทัง 1 – 2 วันต่อครั้ง
น.ส.อภิอรอินท์ หวั่นวะดี ชาวบ้านในหมู่บ้านไร่เครา และเป็นผู้ใช้น้ำประปาจากแหล่งน้ำเขาคันหอก เล่าว่าชาวบ้านในหมู่บ้านมีจำนวนมากกว่า 500 หลังคาเรือน ได้รับความเดือดร้อนเนื่องจากน้ำใช้เพื่อการอุปโภคบริโภคไม่เพียงพอ แหล่งผลิตน้ำประปาที่แจกจ่ายให้กับชาวบ้าน ทั้งที่อาศัยอยู่ส่วนบนและส่วนล่าง ต้องหาภาชนะกักตุนน้ำไว้ใช้ เนื่องจากการประปาหมู่บ้านสลับแบ่งการจ่ายน้ำให้ชาวบ้านใช้เป็นโซน 1 – 2 วัน จึงจะปล่อยน้ำให้ชาวบ้านใช้ 1 ครั้ง ซึ่งชาวบ้านในพื้นที่ต้องอยู่กับสภาวะแบบนี้มานานหลายปีแล้ว เนื่องจากอ่างเก็บน้ำเขาคันหอก เป็นแหล่งเก็บน้ำดิบมีการรั่วไหล ไม่สามารถกักเก็บน้ำได้ในปริมาณมากเหมือนแต่ก่อน และในปัจจุบันแหล่งเก็บน้ำขนาดเล็กหรือฝายชะลอน้ำด้านล่างก็พังถล่ม ทำให้น้ำไหลลงสู่พื้นที่ด้านล่างจนหมด คนและสัตว์เลี้ยงแทบไม่มีน้ำใช้ แต่โชคยังดีที่ชาวบ้านในพื้นที่ไม่ได้ประกอบอาชีพทำการเกษตร มิฉะนั้นอาจทำให้ขาดแคลนน้ำหนักมากกว่านี้ จึงอยากขอให้หน่วยงานภาครัฐและส่วนที่เกี่ยวข้องเข้าช่วยเหลือการจ่ายน้ำให้ชาวบ้านได้มีน้ำใช้อย่างเพียงพอ โดยแก้ไขแหล่งกักเก็บน้ำไม่ให้รั่วไหล และซ่อมแซมจุดที่พังทลายให้ดีเหมือนเดิม เพราะบริเวณจุดนี้เป็นแหล่งน้ำที่สะอาดที่สุด.
ภาพ/ข่าว : เอกภพ วงษ์ประเสริฐ