สุวัจน์ เปิดมหกรรมอนุรักษ์และประกวดพระเครื่องพระบูชาระดับประเทศ ครั้งแรกที่บลูพอร์ตหัวหิน
วันที่ 10 ธันวาคม 2566 นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ อดีตรองนายกรัฐมนตรี ประธานพรรคชาติพัฒนากล้า เป็นประธานเปิดมหกรรมการอนุรักษ์และประกวดพระเครื่องพระบูชาระดับประเทศ ซึ่งถือเป็นมหกรรมประกวดพระงานใหญ่สุดของปีนี้ โดยมีนายพยัพ คำพันธุ์ นายกสมาคมผู้นิยมพระเครื่องพระบูชาไทย พล.ต.อ.วุฒิ ลิปตพัลลภ อดีตผู้ตรวจราชการพิเศษประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และอดีตผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ นายนพพร บุญลโภ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.ทิพย์ประกันภัย นายพิศาล เตชะวิภาค (ต้อย เมืองนนท์) นายนพพร วุฒิกุล นายกเทศมนตรีเมืองหัวหิน นายสัญญา วิจิตรจินดา ประธานกรรมการบริหารสมาคมผู้นิยมพระเครื่องจังหวัดประจวบฯ นายกิติพงษ์ สิริเพชรเกษม อุปนายกสมาคมธุรกิจท่องเที่ยวหัวหิน – ชะอำ และคนวงการพระเครื่องจากทั่วประเทศ มาเปิดแผง นำพระเครื่อง พระบูชา เหรียญคณาจารย์ต่างๆ รวมถึงเครื่องราง ของขลังกว่าพันแผง ให้ผู้ที่สนใจเลือกเช่าบูชากันอย่างคึกคัก ระหว่างวันที่ 9 – 10 ธันวาคมนี้ ที่ศูนย์การค้าบลูพอร์ตหัวหิน จ.ประจวบฯ
นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ กล่าวว่า เป็นเรื่องที่น่ายินดีกับเมืองหัวหิน เพราะเป็นครั้งแรกที่มีการจัดมหกรรมการอนุรักษ์ ประกวดพระเครื่องพระบูชาในครั้งนี้ โดยมีเหล่าบรรดาคนในวงการพระกว่าพันคน นำพระเครื่องพระบูชาที่มีมูลค่าและคุณค่าทางจิตใจ มาร่วมงานกันอย่างคึกคัก นับเป็นประโยชน์ทางเศรษฐกิจของหัวหิน สร้างรายได้ให้กับประชาชนและโรงแรม ห้างร้านต่างๆ พระเครื่อง พระบูชา เป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ช่วยพยุงความรู้สึกของคนในช่วงที่เศรษฐกิจไม่ดี ทำให้รู้สึกมีกำลังใจที่จะต่อสู้กับภาวะวิกฤติต่างๆ และรู้สึกปลอดภัย วันนี้นักท่องเที่ยวมาเมืองไทยเป็นจำนวนมาก ส่วนหนึ่งเพราะบ้านเรามีวัดถึง 40,000 กว่าวัด มีพระเครื่อง พระบูชาที่นักท่องเที่ยวให้ความนิยม กิจกรรมวันนี้จึงสร้างประโยชน์หลายอย่าง ทั้งกระตุ้นเศรษฐกิจ กระตุ้นการท่องเที่ยว ตลอดจนส่งเสริมให้มีการอนุรักษ์พระเครื่อง พระบูชา เพื่อความเป็นสิริมงคล พร้อมกันนี้ตนได้นำหลวงพ่อคูณ “รุ่นยอดธง” มามอบเพื่อร่วมทำบุญเพื่อการกุศล โดยรุ่นยอดธงเป็นรุ่นสุดท้ายที่หลวงพ่อคูณสร้าง ก่อนที่ท่านจะมรณภาพ โดยหลวงพ่อได้ทำการปลุกเสกเองที่วัดบ้านไร่ อ.ด่านขุนทด จ.นครราชสีมา เราเรียกว่ารุ่น 90 เพราะสร้างขึ้นในปีที่ท่านมีอายุครบ 90 ปี (รุ่นแรกสร้างเมื่อหลวงพ่ออายุ 72 ปี) โดยส่วนตัวตนศรัทธาหลวงพ่อคูณ และมีโอกาสใกล้ชิด ทำให้รู้ถึงพุทธคุณของหลวงพ่อ อย่างไรก็ตาม ท่านมักจะมองทุกอย่างด้วยหลักทางวิทยาศาสตร์ มีเหตุ มีผล แม้จะมีคนบอกว่าท่านศักดิ์สิทธิ์ มีหลวงพ่อแล้วแคล้วคลาดปลอดภัย แต่ท่านก็มักจะสอนให้ตั้งตนอยู่ในความไม่ประมาท
“ผมเองเคยมีประสบการณ์ตรงที่อยากจะแบ่งปัน คือเมื่อ 30 ปีก่อน หลวงพ่อคูณได้รับนิมนต์ให้ไปหล่อพระ รุ่น“คูณพิทักษ์” ที่โรงเรียนสุรธรรมพิทักษ์ ผมกับ พล.อ.ชาติชาย ชุณหะวัณ ก็ไปร่วมงานด้วย เมื่อหล่อเสร็จ ท่านได้มอบพระให้กับ พล.อ.ชาติชายและผมคนละองค์ ผมก็รับมาเก็บไว้ แล้วเดินทางเข้ากรุงเทพฯ พอออกจากงานได้ประมาณ 30 นาที ตอนที่รถผ่านโค้งแถวอำเภอปักธงชัย มีรถสิบล้อวิ่งสวนมา ทำให้รถเสียหลัก ตกไปที่ไหล่เขา ความลึกประมาณ 30 เมตร ปรากฏว่าผมไม่เป็นอะไรเลย ชาวบ้านที่มาช่วย ต่างเดากันว่าผมต้องมีหลวงพ่อคูณติดตัวมาแน่ๆ ซึ่งก็จริง นั่นคือประสบการณ์ตรงที่ผมรับรู้ถึงพุทธคุณของหลวงพ่อคูณ” ประธานพรรคชาติพัฒนากล้า กล่าว
ส่วนรางวัลสำหรับผู้ชนะเลิศในการประกวดพระแต่ละรายการ ได้รับเหรียญรางวัลเกียรติยศจากนายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ พร้อมด้วยเงินรางวัล 50,000 บาท และรางวัลชนะเลิศแต่ละรายการ (ที่ 1) รับเหรียญพระครูปลัดสุขวัฒน์ (พระอาจารย์ต้อม) รุ่นนะรวย ๙ เฮง เนื้อทองแดงอะไหล่ทอง (ที่ 2) รับเหรียญพระครูปลัดสุขวัฒน์ (พระอาจารย์ต้อม) รุ่นนะรวย ๙ เฮง เนื้อทองระฆัง (ที่ 3) รับเหรียญพระครูปลัดสุขวัฒน์ (พระอาจารย์ต้อม) รุ่นนะรวย ๙ เฮง เนื้อชนวนตั้งธาตุ (ที่ 4) รับเหรียญพระครูปลัดสุขวัฒน์ (พระอาจารย์ต้อม) รุ่นนะรวย ๙ เฮง เนื้อทองแดงผิวไฟ.