วันที่ 14 ธันวาคม 2566 นายรุ่งโรจน์ รัตนแก้ว อายุ 40 ปี ชาวบ้านหมู่ 4 ต.ทองมงคล อ.บางสะพาน จ.ประจวบคีรีขันธ์ เปิดเผยว่าได้มาร้องเรียนสื่อมวลชน กรณีโครงการระบบประปาอ่างเก็บน้ำโป่งสามสิบ ซึ่งเป็นโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ มีการก่อสร้างตั้งแต่ปี 2563 – 2564 แต่ปัจจุบันยังไม่เคยมีการเปิดใช้งานให้ชาวบ้านใช้ตามวัตถุประสงค์ และหลังจากมีการร้องเรียนผ่านสื่อมวลชนเมื่อเดือนมิถุนายน 2566 ทำให้กรมชลประทานสนใจดำเนินการปรับปรุงระบบประปาและขุดลอกอ่างเก็บน้ำ ขณะที่ อบต.ทองมงคล รับการถ่ายโอนบริหารจัดการระบบการผลิตระบบส่งน้ำ แต่ปัจจุบันโครงการนี้ยังไม่ได้บรรลุเป้าหมายจากการใช้งบประมาณแผ่นดินจำนวน 48 ล้านบาท เนื่องจากยังไม่มีผู้ใช้น้ำตามเป้าหมายที่กำหนด สาเหตุจากการผลิตน้ำประปาใช้ต้นทุนสูง ทำให้ค่าน้ำต่อหน่วยมีราคาแพงและระบบท่อยังไม่สมบูรณ์

นายรุ่งโรจน์ กล่าวว่า สาเหตุที่มาร้องเรียนครั้งนี้ เนื่องจากต้องการให้โครงการนี้ใช้ประโยชน์ได้จริง คุ้มค่ากับการใช้จ่ายงบประมาณ แต่หลังจากนี้ทราบว่าเมื่อเจ้าหน้าที่กรมชลประทานปรับปรุงระบบเสร็จแล้วก็จะหมดภารกิจ โดยจะเป็น อบต.คอยดูแลระบบแทน เกรงว่าในอนาคตโครงการนี้จะถูกทิ้งร้างเหมือนเดิม เนื่องจากหากไม่มีผู้ใช้น้ำตามเป้าหมาย อบต. จะไม่มีงบการบริหารจัดการในระยะยาว ที่สำคัญโครงการนี้หลังจากร้องเรียนผ่านสื่อมวลชนเมื่อเดือนมิถุนายน 2566 ปรากฏว่าได้รับความสนใจจากเจ้าหน้าที่สำนักงาน ป.ป.ช.ประจวบคีรีขันธ์ และอีกหลายหน่วยงานภาครัฐไปดูการปรับปรุงโครงการ “นายพีระ ทองโพธิ์ หัวหน้าผู้ตรวจราชการสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานคณะกรรมการธรรมาภิบาลจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ พร้อมคณะได้ติดตามความคืบหน้าของโครงการ จากนั้นได้ทำหนังสือถึงผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เพื่อประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินงานให้สามารถให้ประชาชนได้ใช้ประโยชน์จากโครงการ แต่จนกระทั่งปัจจุบันระบบประปาอยู่ระหว่างการทดสอบ ยังไม่สามารถใช้งานได้จริง” นายรุ่งโรจน์ กล่าวและบอกว่าปกติชาวบ้านในพื้นที่หมู่ 4 หมู่ 5 และหมู่ 8 ต.ทองมงคล เกือบทั้งหมด จะใช้น้ำดิบจากอ่างเก็บน้ำโป่งสามสิบ ที่มีความจุประมาณ 8 แสนลูกบาศก์เมตร เป็นแหล่งน้ำหลักเพื่อการเกษตร แต่ในปี 2567 อาจจะมีสถานการณ์ภัยแล้งรุนแรง จึงต้องการให้ระบบประปา 48 ล้านบาทได้งานจริง หลังจากก่อสร้างเสร็จนานกว่า 3 ปี