อำเภอกุยบุรีร่วมกับชลประทานเร่งปล่อยน้ำช่วยเหลือชาวบ้านเตรียมรับมือสถานการณ์ภัยแล้ง
วันที่ 26 มกราคม 2567 จากกรณีของเกษตรกรในพื้นที่จังหวัดประจวบคีรีขันธ์หลายอำเภอ ประสบปัญหาภัยแล้ง ขาดแคลนน้ำใช้ในการประกอบอาชีพเกษตรกรรมและเลี้ยงสัตว์ เมื่อปี พ.ศ.2566 ที่ผ่านมา ส่งผลกระทบให้สวนทุเรียน ขนุน สับปะรด และเกษตรกรที่ประกอบอาชีพปลูกพืชผักสวนครัวได้รับความเสียหายและขาดรายได้นั้น
ดังนั้น เมื่อช่วงต้นเดือนมกราคมที่ผ่านมา นายไพศาล ช่อผกา นายอำเภอกุยบุรี พร้อมด้วยนายชัยชาญ มูลมาก ปลัดอาวุโสอำเภอกุยบุรี นายชัยวุฒิ คุณาธิมาพันธ์ ปลัดอำเภอฝ่ายปกครอง นายศักดิ์สิทธิ์ พวงเพชร ปลัดอำเภอฝ่ายความมั่นคง นำกำลังเจ้าหน้าที่อาสารักษาดินแดน พร้อมชุดจิตอาสา เราทำความดีด้วยหัวใจอำเภอกุยบุรี ร่วมกับชลประทานปราณบุรี และผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น กำนัน ผู้ใหญ่บ้านในพื้นที่อำเภอกุยบุรี นำรถแบคโฮและเครื่องจักรกล ขุดลอกคลองชลประทาน กำจัดวัชพืชและสิ่งปฏิกูลต่างๆ ที่กีดขวางทางน้ำ เพื่อเปิดทางเดินน้ำให้สามารถไหลได้สะดวก พร้อมกับใช้เครื่องสูบน้ำ ดูดผันน้ำจากคลองชลประทานที่ส่งน้ำมาจากอ่างเก็บน้ำเขื่อนปราณบุรี เข้าสู่พื้นที่ทำการเกษตรของชาวบ้าน และดูดผันน้ำจากคลองกุยบุรีที่ไหลมาจากเขื่อนยางชุม เข้าสู่คลองส่งน้ำลงพื้นที่ทำการเกษตร เพื่อช่วยเหลือชาวบ้านที่ประกอบอาชีพเกษตรกรรมปลูกพืชและเลี้ยงสัตว์ ซึ่งมีแนวโน้มได้รับผลกระทบจากปัญหาภัยแล้งที่ใกล้จะมาถึงในปี พ.ศ.2567 นี้ โดยมีชาวบ้านหลายครัวเรือน ออกมาช่วยกันกำจัดเศษสวะและวัชพืชที่ปิดปกคลุมทางไหลของน้ำ รวมไปถึงประตูระบายน้ำคลองไส้ไก่ เพื่อให้ไหลเข้าสู่พื้นที่กักเก็บน้ำของชาวบ้านได้สะดวก พร้อมกับนำท่อนาคและรถไถนาติดเครื่องสูบน้ำ มาดูดน้ำจากคลองชลประทานเข้าไปเก็บกักตุนยังสระน้ำในพื้นที่ทำการเกษตรและเลี้ยงสัตว์ของตนเอง เพื่อเป็นการสำรองน้ำไว้ใช้ในช่วงฤดูแล้ง ซึ่งชาวบ้านต่างดีใจที่เห็นน้ำในคลองชลประทานสายนี้ไหลอีกครั้ง หลังจากที่คลองสายนี้ไม่เคยมีน้ำไหลมานาน
นายไพศาล ช่อผกา นายอำเภอกุยบุรี เปิดเผยว่า ที่ผ่านมา สถานการณ์ภัยแล้งในอำเภอกุยบุรียังไม่ถึงกับขั้นวิกฤติ คลองกุยบุรีมีน้ำไหลอยู่ตลอด ไม่เคยแห้ง ส่วนน้ำในอ่างเก็บน้ำเขื่อนยางชุมและเขื่อนวังเต็น มีปริมาณน้ำน้อย ประมาณ 40% ของความจุอ่าง เนื่องจากปีที่ผ่านมามีปริมาณฝนตกลงมาน้อย ทำให้พื้นที่เกษตรกรรมของชาวบ้าน ที่ส่วนใหญ่ประกอบอาชีพปลูกพืช เลี้ยงสัตว์และทำนา อาจได้รับน้ำไม่ทั่วถึง เนื่องจากระดับน้ำมีน้อยและมีวัชพืช เศษสวะปกคลุมกีดขวางทางไหลของน้ำ ทำให้น้ำที่ไหลไปตามคลองส่งน้ำ ไหลได้ช้าในพื้นที่ตำบลกุยเหนือ ตำบลดอนยายหนู และตำบลกุยบุรี รวม 3 ตำบล 17 หมู่บ้าน จึงร่วมกับชลประทานและผู้บริหารท้องถิ่นเข้าช่วยเหลือชาวบ้าน ในพื้นที่ ที่มีแนวโน้มคาดว่าจะได้รับผลกระทบ เพื่อป้องกันและเตรียมพร้อมรับมือสถานการณ์ภัยแล้งที่ใกล้จะมาถึงตั้งแต่เนิ่นๆ นอกจากนี้ยังได้ประชาสัมพันธ์ขอความร่วมมือกับพี่น้องเกษตรกร ให้งดการทำนาและการปลูกพืชที่ใช้น้ำมาก แล้วหันไปปลูกพืชที่ใช้น้ำน้อยเป็นการชั่วคราวแทน เมื่อมีน้ำอุดมสมบูรณ์แล้วค่อยกลับมาทำนาใหม่อีกครั้ง เพื่อเป็นการบรรเทาแก้ปัญหาให้ชาวบ้านสามารถผ่านช่วงฤดูแล้งนี้ไปได้
นางสมร สัตย์ซื่อ อายุ 67 ปี ชาวบ้านหมู่ 7 บ้านกุยเหนือ – หนองเตาปูน เปิดเผยว่า ครอบครัวตนมีอาชีพทำนา ปีนี้ต้องหยุดทำนา เพราะไม่มีน้ำเพียงพอ ต้องหันไปประกอบอาชีพรับจ้างแทน และถ้าหากผ่านพ้นฤดูแล้งไปแล้ว หากมีน้ำเพียงพอก็จะสามารถทำนาปรังได้ แต่ถ้ามีน้ำน้อย ก็จะทำนาได้เพียงปีละ 1 ครั้ง ซึ่งในปีที่ผ่านมาทำนาได้เพียงครั้งเดียว เมื่อชลประทานปล่อยน้ำมาให้ชาวบ้านได้ใช้ จึงดีใจมาก และได้ช่วยกันสูบน้ำเข้าไปเก็บไว้ในสระน้ำของวัด เพราะวัดไม่มีน้ำประปาใช้ ลำบากมาก และในช่วงแล้งจัด ชาวบ้านก็ได้อาศัยใช้น้ำจากสระของวัด แต่เมื่อน้ำในสระของวัดเหลือน้อย น้ำจะมีกลิ่นเหม็นมาก ชาวบ้านกับวัดก็จะลำบากในช่วงฤดูแล้ง
นายสมพงษ์ ตุ้มทอง อายุ 47 ปี เล่าว่า ตนทำเกษตรกรรมปลูกพืชผสมผสาน วันนี้ได้ร่วมกับเพื่อนบ้านที่ปลูกผักขาย ช่วยกันสูบน้ำเข้าไปกักเก็บไว้ใช้ในไร่สวนของตน เนื่องจากที่ผ่านมาชลประทานไม่ได้ปล่อยน้ำมาให้ใช้หลายเดือนเกือบครึ่งปีแล้ว ชาวบ้านในหมู่บ้านละแวกนี้ ส่วนใหญ่จะอาศัยน้ำทำการเกษตรจากคลองชลประทาน พอชลประทานมีการปล่อยน้ำ ชาวบ้านจึงได้รีบมาเก็บกักตุนน้ำไว้ใช้ เพราะคาดว่าปีนี้จะแล้งจัด ขนาดต้นปียังแล้งขนาดนี้ และเมื่อฤดูแล้งมาถึงจะขนาดไหน ถ้าฤดูแล้งไม่มีน้ำใช้ พืชผลที่ลงทุนมาก็จะได้รับความเสียหาย และขาดทุน
นายอิ้น หนวดพราหมณ์ นายก อบต.กุยเหนือ กล่าวว่า วันนี้นำรถแบคโฮมาขุดลอกคลอง เพื่อเปิดทางระบายน้ำให้ไหลเข้าสู่พื้นที่ทำการเกษตรของชาวบ้านได้สะดวก เพื่อเข้าไปเก็บในพื้นที่เก็บกักตุนน้ำไว้ใช้ช่วงฤดูแล้ง เนื่องจากทางชลประทานปล่อยน้ำมาให้ชาวบ้านในพื้นที่แห่งนี้ใช้ ที่ผ่านมาชลประทานไม่ได้ปล่อยน้ำมาให้ชาวบ้านแถวนี้ใช้ประมาณ 2 ปีแล้ว.
เอกภพ วงษ์ประเสริฐ….รายงาน