คอมเพรสเซอร์แอร์ กว่า 20 เครื่องถูกขโมยไปไร้ร่องรอย
วันที่ 6 มีนาคม 2567 นายเลิศพันธุ์ แก้วพิมพ์ ผู้ใหญ่บ้านหนองบัว หมู่ 4 ต.ปากน้ำปราณ อ.ปราณบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์ ได้ประชาสัมพันธ์ในสื่อออนไลน์กลุ่มปากน้ำปราณ ประกาศเตือนภัยว่า เช้าวันที่ 4 มีนาคม 2567 ได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่าถูกลักขโมยคอมเพรสเซอร์แอร์ จำนวน 2 เครื่อง ในหมู่บ้านโครงการเคเอ็มและตามโรงแรมต่างๆ จึงอยากให้ทุกท่านระมัดระวัง และสอดส่องดูแลช่วยกัน หากเจอเหตุ หรือพบเห็นเหตุการณ์ผิดปกติ กรุณาโทรแจ้งสายด่วน 191 หรือ 032 – 631046 สถานีตำรวจปากน้ำปราณ หรือแจ้งผ่านไลน์แจ้งเหตุฉุกเฉินปากน้ำปราณ จากทีมงานผู้ใหญ่บ้าน และคณะกรรมการหมู่บ้านหนองบัว
ผู้สื่อข่าวจึงเดินทางไปพบนายเลิศพันธุ์ ผู้ใหญ่บ้าน ที่โครงการเคเอ็ม ซึ่งได้รับแจ้งจากคนดูแลบ้านหลังหนึ่ง ว่าคอมเพรสเซอร์แอร์ถูกคนร้ายไม่ทราบจำนวน มายกไปเมื่อวันที่ 4 มีนาคมที่ผ่านมา โดยคนร้ายยกเอาคอมเพรสเซอร์ไป และคนดูแลบ้านฝั่งตรงข้ามอีกหลังหนึ่ง บอกว่าที่บ้านเจ้านายก็ถูกคนร้ายขโมยคอมเพรสเซอร์ไป 2 ตัวเช่นกัน คาดว่าน่าจะหายวันเดียวกัน ซึ่งบ้านสองทั้งหลังไม่มีใครอยู่ เจ้าของซื้อทิ้งไว้ นานๆ จะมาพัก แต่จ้างคนดูแลคอยทำความสะอาด ภายในโครงการแห่งนี้ไม่มีกล้องวงจรปิด และเหตุการณ์แบบนี้ก็เพิ่งจะเคยเกิดขึ้นตั้งแต่มีโครงการขึ้นมา
นายพลนิกร นิลโอโล คนงาน เล่าว่าวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ตนมาทำความสะอาดและดูแลสวนบริเวณบ้าน ยังไม่พบอะไรผิดปกติแต่วันจันทร์มาเปิดประตูรั้วเข้าไป ก็เห็นว่าคอมเพรสเซอร์แอร์ที่อยู่ที่โรงจอดรถหายไป เดินดูรอบๆ บ้านตามประตูหน้าต่าง ก็ไม่มีร่องรอยถูกงัดแต่อย่างใด จึงรีบโทรศัพท์แจ้งเจ้านายและโทรแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจให้มาตรวจสอบ และทราบว่าจากคนดูแลบ้านหลังฝั่งตรงข้าม ว่าคอมเพรสเซอร์ที่ตั้งไว้หลังบ้านก็หายไป 2 เครื่อง ซึ่งคนร้ายถอดเอาเฉพาะคอมเพรสเซอร์ไปอย่างเดียว บางตัวก็ไม่เอาโครงไป ตรวจสอบรอบๆ บ้าน ไม่มีทรัพย์สินอื่นสูญหายเลย คาดว่าคนร้ายน่าจะมาขโมยในเวลากลางคืน
นายเลิศพันธุ์ กล่าวว่า ช่วงนี้มีเหตุลักขโมยในตำบลปากน้ำปราณบ่อยมาก ส่วนมากจะเป็นแอร์หรือคอมเพรสเซอร์ ไม่ว่าจะเป็น โรงแรมใหญ่ รีสอร์ทและบ้านในโครงการต่างๆ รวมๆ กันมากกว่า 20 ตัวแล้ว ซึ่งตนได้ประสานงานกับเจ้าหน้าที่ตำรวจและประชาสัมพันธ์แจ้งเตือนไปตามไลน์ต่างๆ ของหมู่บ้าน เพจหมู่บ้านและไลน์ตำบลปากน้ำปราณ เพื่อให้ทุกคนช่วยเป็นหูเป็นตากัน คิดว่าโจรที่เข้ามาลักทรัพย์ น่าจะทำเป็นขบวนการและมีความรู้ในเรื่องของแอร์ ไฟฟ้าเป็นอย่างดี เพราะการตัดแอร์ไม่ได้ง่าย ถ้าไม่มีความรู้จะเกิดอันตรายถึงขั้นระเบิดได้ ทั้งนี้ทรัพย์ที่หายส่วนใหญ่จะเป็นคอมเพรสเซอร์แอร์ เท่าที่สอบถามร้านรับซื้อของเก่า จะขายได้ประมาณ 1,500 – 2,000 บาทต่อตัว อยากให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเร่งติดตามตัวผู้ก่อเหตุมาลงโทษตามกฎหมายให้รวดเร็ว.
สมบัติ ลิมปจีระวงษ์….รายงาน