
ตำรวจประจวบฯ รวบแก๊งโจ๋ดวลปืนกลางถนน ทำรถยนต์ชาวบ้านถูกลูกหลงเสียหาย 2 คัน
วันที่ 5 เมษายน 2568 ร.ต.อ.หญิง ศุภลักษณ์ หวานวาจา รองสารวัตรสอบสวน สภ.เมืองประจวบคีรีขันธ์ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจ ตำรวจชุดสืบสวนและเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดตรวจพิสูจน์หลักฐาน ร่วมลงพื้นที่ตรวจสอบจุดเกิดเหตุ บริเวณหน้าร้านส้มตำสะเดาหวาน ถนนประจวบศิริ เขตเทศบาลเมืองประจวบฯ หลังกลุ่มวัยรุ่นหลายสิบคน ก่อเหตุทะเลาะวิวาทแล้วใช้อาวุธปืนไล่ควบยิงกันบนถนน จนเป็นเหตุทำให้รถยนต์ของชาวบ้านที่จอดอยู่ริมถนนได้รับความเสียหาย จำนวน 2 คัน ส่วนชาวบ้านที่มานั่งรับประทานอาหารมื้อเที่ยงภายในร้านส้มตำสะเดาหวาน รวมถึงเจ้าของร้านและพนักงานต้องวิ่งหนีหลบกระสุนกันจ้าละหวั่น
จากการตรวจสอบที่เกิดเหตุ พบรถยนต์ยี่ห้อโตโยต้า รุ่นฟอร์จูนเนอร์ สีดำ ถูกกระสุนปืนไม่ทราบชนิดเจาะเข้าที่บริเวณกระจกหน้ารถจนแตกร้าว จำนวน 1 จุด และกระจกด้านประตูหลังรถจำนวน 2 จุด ส่วนอีกคันเป็นรถยนต์กระบะ 4 ประตู ยี่ห้ออีซูซุ สีบรอนซ์เงิน ถูกกระสุนปืนเจาะเข้าที่บริเวณกระจกหน้ารถได้รับความเสียหาย จำนวน 1 จุด นอกจากนี้ในที่เกิดเหตุ ยังพบรถจักรยานยนต์ของกลุ่มวัยรุ่นที่จอดทิ้งไว้ ก่อนวิ่งหลบหนีกันไปคนละทิศละทางอีก 2 คัน เจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจค้นและเก็บวัตถุพยานหลักฐาน พร้อมยึดรถจักรยานยนต์ไปไว้ที่โรงพัก และเชิญเจ้าของรถรถยนต์ที่ได้รับความเสียหายทั้งสองคัน ไปให้ปากคำเพิ่มเติมที่โรงพัก สภ.เมืองประจวบฯ
จากการสอบถามเจ้าของรถยนต์กระบะที่ถูกลูกปืนและเป็นลูกค้าที่มานั่งรับประทานอาหารที่ร้านส้มตำแห่งนี้ เล่าว่า ขณะเกิดเหตุตนกับสามีกำลังมานั่งกินส้มตำอยู่ภายในร้าน ระหว่างนั้นมีกลุ่มวัยรุ่นจำนวนหลายคน วิ่งไล่ควบกันมาบนถนน และได้ยินเสียงคล้ายประทัดดังขึ้น ตนก็ไม่ได้คิดอะไร แต่รู้สึกตกใจและไม่คิดว่ารถของตนจะถูกลูกปืน เมื่อกำลังจะขับรถกลับบ้าน ก็พบว่ากระจกหน้ารถแตกได้รับความเสียหาย
ด้านเจ้าของร้านและพนักงานร้านส้มตำสะเดาหวาน เปิดเผยว่า ขณะเกิดเหตุตนกำลังทำอาหารและขายของให้กับลูกค้า มีลูกค้าอยู่เต็มร้าน ระหว่างนั้นมีกลุ่มวัยรุ่นจำนวนหลายสิบคน วิ่งไล่ควบกันจากร้านขายน้ำกระท่อม กัญชา ซึ่งอยู่ฝั่งตรงข้ามเยื้องกับร้านของตน และชักอาวุธปืนขึ้นมายิงจำนวนหลายนัด ตนตกใจแล้วบอกเพื่อนพนักงานในร้านและลูกค้าให้หมอบลงและวิ่งหลบไปอยู่ด้านหลังร้าน รอจนเสียงปืนสงบ ก็พบว่ามีรถยนต์ของลูกค้าได้รับความเสียหาย 2 คัน โชคดีที่พนักงานในร้านและลูกค้าไม่มีใครได้รับบาดเจ็บ ตนเปิดร้านมากว่า 20 ปีไม่เคยเจอเหตุการณ์ลักษณะเช่นนี้
ต่อมาวันที่ 6 เมษายน พ.ต.อ.ภาคภูมิ โห้ใย รอง ผบก.ภูธรจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ รับมอบหมายจาก พล.ต.ต.นครินทร์ สุคนธวิท ผบก.ภูธรจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ร่วมกับ พ.ต.อ.ครรชิต โขวัฒนชัย ผกก.สืบสวนภูธรจังหวัด พ.ต.ท.ศักดิ์ดา จำปาทอง รอง ผกก.สืบสวนภูธรเมืองประจวบคีรีขันธ์ ร่วมกันสอบปากคำกลุ่มวัยรุ่นที่ร่วมกันก่อเหตุ แล้วยกพวกใช้อาวุธปืนดวลกันบนถนนประจวบศิริ หลังจากเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดฝ่ายสืบสวนภูธรจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ร่วมกับชุดสืบสวนภูธรเมืองประจวบคีรีขันธ์ แกะรอยติดตามจับกุมตัวกลุ่มวัยรุ่น ที่ถูกอ้างว่าเป็นฝั่งที่เริ่มต้นเปิดฉากก่อเหตุก่อนมาได้เกือบทั้งหมด ยังคงเหลืออีก 1 ราย ชื่อนายโค้ก ผู้ที่ถูกอ้างว่าเป็นคนก่อเหตุใช้อาวุธปืนเปิดฉากยิงฝั่งเจ้าของร้านจำหน่ายน้ำกระท่อมก่อนเป็นคนแรก ขณะนี้ยังหลบหนีอยู่ และขณะเดียวกันด้านเจ้าของร้านจำหน่ายน้ำกระท่อม ได้ติดต่อขอเข้ามอบตัวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ โดยมีบิดาเป็นผู้ประสานนำเข้ามอบตัว
เจ้าของร้านจำหน่ายน้ำกระท่อม ให้การว่า เริ่มต้นของเหตุการณ์นี้ โดยนายโค้กเคยเป็นลูกจ้างของตน ที่จ้างให้ช่วยขายของภายในร้าน และมีการติดเงินกับตนไว้ หลังจากนั้นตนจึงให้ออกจากงาน แล้วเกิดความไม่พอใจและมีปัญหากันในเรื่องอื่นๆ อีกหลายเรื่อง จนมีการด่าทอท้าทายกันผ่านทางเฟซบุ๊ก ต่อมานายโค้กคู่กรณีตนได้มาท้าทายอยู่ที่หน้าร้านตน ก็นึกว่าท้าต่อยกันตัวต่อตัว แต่เมื่อน้องชายของตนวิ่งออกไปหน้าร้าน ก็ถูกนายโค้กชักปืนยิงใส่หลายนัด จนน้องชายต้องวิ่งหลบหนีกระสุนปืน ตนจึงคว้าปืนออกมายิงสวนกลับและวิ่งตามออกไปยิงต่ออีก ขณะนั้นด้วยความโมโห พวกตนก็ไม่ได้คิดว่าชาวบ้านจะถูกลูกหลงหรือไม่ ต้องขอโทษชาวบ้านที่ได้รับความเดือดร้อนรวมถึงผู้ที่ได้รับผลกระทบทุกคนด้วย ส่วนน้องชายเจ้าของร้าน เล่าว่า ระหว่างที่นายโค้กมาท้าทายอยู่ที่หน้าร้าน จึงได้วิ่งออกไปหาเพื่อจะไปต่อย แต่กลับถูกนายโค้กชักปืนยิงสวนใส่ คาดว่าน่าจะหมดแม็ก จึงวิ่งหลบหนีกระสุนปืนปลิวผ่านเฉียดหัวไป เนื่องจากแอบอยู่ที่ข้างรถ โดยส่วนตัวตนคิดว่าที่แคล้วคลาดไม่โดนกระสุนปืนเลยสักนัด เชื่อว่าเป็นเพราะบารมีหลวงพ่อพาน วัดโป่งกะสัง และหลวงปู่ทวดเหยียบน้ำทะเลจืดที่ห้อยคอไว้
พ.ต.อ.ภาคภูมิ โห้ใย รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เปิดเผยว่า หลังจากมีการเผยแพร่ข่าวออกไป ผู้บังคับบัญชาได้กำชับให้ตำรวจภูธรจังหวัดประจวบคีรีขันธ์เร่งรัดติดตามจับกุมตัวผู้ก่อเหตุมาดำเนินคดีโดยเร็ว โดยได้บูรณาการร่วมกับทุกภาคส่วน นำกำลังเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนภูธรจังหวัด ร่วมกับชุดสืบสวนภูธรเมืองประจวบคีรีขันธ์ ติดตามจับกุมตัวผู้ก่อเหตุมาดำเนินคดีให้ได้โดยเร็ว ซึ่งขณะนี้ได้ออกหมายจับผู้ต้องหาที่หลบหนีไปแล้ว 3 ราย คาดว่าจะได้ตัวเร็วๆ นี้ทั้งหมด และมีบางส่วนที่ติดต่อขอเข้ามอบตัวบ้างแล้ว จากการสอบสวนทราบว่า มีการนัดแนะท้าทายกันผ่านทางเฟซบุ๊ก ยืนยันว่าจะให้ความเป็นธรรมกับทั้งสองฝ่าย เบื้องต้นแจ้งข้อหากับผู้ก่อเหตุไปแล้ว 3 ข้อหา 1.พยายามฆ่า 2.มีและพาอาวุธปืนไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะ โดยไม่ได้รับอนุญาต 3.ยิงปืนในที่สาธารณะ โดยในส่วนของการพกพาอาวุธปืน เจ้าหน้าที่ตำรวจได้พยายามตั้งด่านตรวจค้น กดดันและป้องปรามการพกพาอาวุธปืนตามนโยบายของผู้บังคับบัญชาเป็นประจำอยู่แล้ว และตำรวจจะดำเนินการอย่างต่อเนื่อง ในส่วนประเด็นที่อ้างว่าวัยรุ่นไม่กลัวตำรวจ คงมีส่วนน้อย ซึ่งทางตำรวจมีมาตรการปราบปรามอยู่แล้ว บางครั้งอาจจะได้รับผลกระทบกับพี่น้องประชาชนผู้สุจริตชน ทำให้ไม่ได้รับความสะดวกบ้างต้องขออภัยด้วย.
เอกภพ วงษ์ประเสริฐ…..รายงาน