นายอำเภอปราณบุรี ตั้งโต๊ะเจรจาชาวบ้าน สางปัญหาบุกรุกป่าชายเลน

จากกรณีที่นายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร อดีตผู้อำนวยการส่วนอุทยานแห่งชาติฯ ได้ทำหนังสือเชิญหน่วยงานต่างๆ ยที่เกี่ยวข้อง ลงพื้นที่ตรวจสอบและพูดคุยทำความเข้าใจกับชาวบ้านนับร้อยคน ที่บุกรุกครอบครองพื้นที่ป่าชายเลน ที่บ้านคลองเก่า หมู่ 1 ต.ปากน้ำปราณ อ.ปราณบุรี จ.ประจวบฯ จนเป็นกระแสกระแสวิพากษ์วิจารณ์ไปทั่วจังหวัดนั้น ล่าสุดวันที่ 9 พฤษภาคม 2568 ที่ศาลากลางหมู่บ้าน บ้านคลองเก่า หมู่ 1 ต.ปากน้ำปราณ อ.ปราณบุรี จ.ประจวบฯ นายราม สิงหโศภิษฐ์ นายอำเภอปราณบุรี พร้อมด้วยนายสมเจตน์ จันทนา ผู้อำนวยการสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมประจวบฯ นายพีรศักดิ์ จิวรรจนะโรดม นายกเทศบาลตำบลปากน้ำปราณ นายชัชนรินทร์ ชัชวงศุ์วาลย์ ผู้อำนวยกานส่วนอนุรักษ์ทรัพยากรป่าชายเลน สำนักงานทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งที่ 3 นายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร อดีตผู้อำนวยการส่วนอุทยานแห่งชาติ และหัวหน้าสำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 10 สาขาเพชรบุรี พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ ร่วมลงพื้นที่ตั้งโต๊ะเจรจา พูดคุยตรวจสอบกรณีมีราษฎรบุกรุกครอบครองพื้นที่ป่าชายเลน ที่บ้านคลองเก่า หมู่ 1 ต.ปากน้ำปราณ อ.ปราณบุรี พร้อมทำความเข้าใจกับชาวบ้าน ปมที่อยู่อาศัย ที่ทำกินบนพื้นที่กระบวนการจัดที่ดินทำกินให้ชุมชน ตามนโยบายรัฐบาล (คทช.) ปากน้ำปราณ

เบื้องต้นจากการพูดคุยทำความเข้าใจและตรวจสอบพื้นที่ดังกล่าวแล้ว ได้ชี้แจงข้อมูล ข้อเท็จจริงเกี่ยวกับพื้นที่ก่อสร้างที่มีการบุกรุก อยู่ในความรับผิดชอบของ สำนักงานทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งที่ 3 ซึ่งได้ลงตรวจสอบพื้นที่และให้กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งพิสูจน์ร่องรอยการทำประโยชน์ที่ดิน หากเป็นไปตามหลักเกณฑ์โครงการจัดที่ดินทำกินให้ชุมชน คทช. จะดำเนินการสำรวจและจัดที่ดินต่อไป

สำหรับพื้นที่ดังกล่าว เป็นพื้นที่เป้าหมาย คทช. ป่าชายเลน ชุมชนบ้านคลองเก่า หมู่ 1 เนื้อที่รวมประมาณ 18 ไร่ ปัจจุบันอยู่ระหว่างรอการอนุญาตใช้พื้นที่จากกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง ขณะที่กรณีราษฎรบุกรุกพื้นที่ 2 ราย เจ้าหน้าที่ได้ส่งภาพถ่ายดาวเทียม ก่อนส่งไปให้กรม ทช.ตรวจสอบ ว่าราษฎรเข้าใช้ประโยชน์พื้นที่ก่อนหรือหลังประกาศพื้นที่ คทช. เพื่อหาข้อเท็จจริงต่อไป

ด้านนายราม สิงหโศภิษฐ์ นายอำเภอปราณบุรี กล่าวว่า วันนี้ได้มาทำความเข้าใจให้ความรู้แก่ชาวบ้าน เกี่ยวกับเขต คทช. ที่ได้รับอนุญาตให้อยู่ ซึ่งชาวบ้านยังไม่เข้าใจ ต้องเร่งทำความเข้าใจกับชาวบ้าน หากมีการก่อสร้างหลังปี 2557 นั้นไม่สามารถทำได้แล้ว แต่ถ้าเป็นเขต คทช.ที่กำหนดไว้ให้ ต้องขออนุญาตดำเนินการจาก ทช. หรือเทศบาลทุกครั้งในการก่อสร้างอาคารใดๆ

ส่วนที่ 2 มีข้อกังขาเกี่ยวกับเรื่องการเลือกปฏิบัติ มติที่ประชุมตกลงกันว่าหน่วยงานจะร่วมกันทำพร้อมๆ กันทั้งหมด โดยดูตามระเบียนและกฎหมายที่เกี่ยวข้อง ใครผิด ก็ว่าไปตามผิด จึงฝากถึงชาวบ้านในพื้นที่ คทช.ว่าทางหน่วยงานดูแลทุกคนเท่ากันและอยุ่ภายใต้กฎหมายเดียวกัน ครั้งนี้ชาวบ้านที่อยู่อาศัยในที่ดินของรัฐแล้ว ประชาชนมีหน้าที่ต้องทำตามกฎหมายและระเบียบการใช้พื้นที่ คทช.ที่กำหนดไว้เหมือนกันทั่วประเทศ เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาตามมา และอาศัยอยู่ด้วยกันอย่างมีความสุข.

ข่าวแนะนำ