ครอบครัวต่างด้าวชาวเมียนมา เริ่มทะลักเข้าชายแดนประจวบฯ

วันที่ 20 พฤษภาคม 2568 นายคณพศ สายสกล ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 5 บ้านเนินแก้ว ต.อ่าวน้อย อ.เมือง จ.ประจวบคีรีขันธ์ เปิดเผยว่า เมื่อช่วงบ่ายของวันที่ 19 พฤษภาคม ได้รับแจ้งจากสายข่าวพบเบาะแสจะมีการนำเข้าแรงงานต่างด้าวเข้าประเทศผ่านเส้นทางธรรมชาติในพื้นที่เขตรับผิดชอบของหมู่บ้าน จึงได้รายงานให้นายศุภชัย ครุฑดำ นายอำเภอเมืองประจวบฯ ในฐานะผู้บังคับบัญชาทราบ พร้อมนำกำลังเจ้าหน้าที่ ชรบ. และเจ้าหน้าที่อาสารักษาดินแดน จัดวางกำลังซุ่มเพื่อจับกุม ต่อมาเวลาประมาณ 19.00 น. มีแรงงานต่างด้าวชาวเมียนมาจำนวนหนึ่งเดินเท้าผ่านช่องทางธรรมชาตินนช่องเขาหลักเข้ามาในพื้นที่ จึงได้แสดงตัวเข้าจับกุม พบเป็นชาย 3 คน หญิง 1 คน และผู้ติดตามเป็นเด็กทารกอายุ 2 เดือน 1 คน จึงควบคุมตัวไว้ทั้งหมด โดยจะมีคนมารับ เจ้าหน้าที่จึงซุ่มต่อไป จนต่อมามีรถยนต์กระบะตอนครึ่ง ยี่ห้อมาสด้า สีเขียว ทะเบียน บจ 783 ประจวบฯ มีชายไทยไม่สวมเสื้อเป็นคนขับเข้ามารับ จึงได้ควบคุมตัวไว้ ก่อนประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.อ่าวน้อยมารับตัวไปดำเนินคดีตามกฎหมาย

จากการสอบถามแรงงานต่างด้าวบางรายที่พูดภาษาไทยได้ ให้ข้อมูลว่าเดินทางมาจากจังหวัดมะริด ประเทศเมียนมา เพื่อหวังเข้าไปทำงานในประเทศไทย ที่ร้านอาหารแห่งหนึ่งในหมู่บ้านดงไม้งาม อ.บางสะพาน จ.ประจวบฯเมื่อเดินเท้าข้ามมายังฝั่งไทยแล้ว มาหลบพักอาศัยอยู่ในบ้านพักแรงงานกรีดยางของเพื่อนชาวเมียนมา บริเวณชายแดนระหว่างรอรถมารับ และจากการสอบถาม นายด่วน อายุ 38 ปี ซึ่งเป็นคนขับรถกระบะที่เข้ามารับ ระบุว่าได้รับจ้างเข้ามารับชาวเมียนมากลุ่มดังกล่าว จากชายแดนออกไปส่งที่สี่แยกไฟแดงอำเภอเมืองประจวบคีรีขันธ์ โดยคิดค่ารถมารับไปส่ง รายละ 2,000 บาท หลังจากนั้นจะมีรถมารับไปส่งต่อที่จุดหมายปลายทางอีกทอดหนึ่ง

ระหว่างทำการจับกุมชาวเมียนมาพบรถจักรยานยนต์ ยี่ห้อฮอนด้า เวฟ สีน้ำเงิน สภาพใหม่ ทะเบียน 1 กผ 8084 ประจวบฯ ซึ่งทราบว่ามีชาวเมียนมานำมาจอดไว้แล้วเดินเข้าป่าชายแดนไป เจ้าหน้าที่จึงตรวจยึดเพื่อให้ตำรวจดำเนินการตรวจสอบประวัติหาตัวเจ้าของรถ พร้อมควบคุมตัวผู้ต้องหาชาวเมียนมาทั้งหมด และของกลางเป็นรถยนต์กระบะ และรถจักรยานยนต์ ไป สภ.อ่าวน้อย เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

นายคณพศ ผู้ใหญ่บ้าน ระบุเพิ่มเติมว่า ระยะนี้เริ่มมีแรงงานต่างด้าวทยอยลักลอบข้ามแดนเข้ามาแบบกองทัพมด ตามช่องทางธรรมชาติช่องเขาหลักและช่องชุมนุมมะละกอ ซึ่งเป็นช่องทางธรรมชาติข้ามแดนที่ใกล้ที่สุด ใช้เวลาเดินเท้าเพียง 1 ชั่วโมงเท่านั้น และเริ่มทยอยข้ามแดนมาตั้งแต่ช่วงวันที่ 17 พฤษภาคมที่ผ่านมา ซึ่งสามารถจับกุมได้ 3 – 4 ครั้งแล้ว ส่วนใหญ่พูดภาษาไทยได้และเคยทำงานอยู่ในไทยและกลับไปอยู่ประเทศเมียนมา เมื่อช่วงที่โควิด 19 ระบาด นายคณพศ ผู้ใหญ่บ้าน กล่าว.

บุญมา ลิบลับ…..รายงาน