
สาวเมียนมาดีใจ พบหน้าแม่ครั้งแรก หลังพลัดพรากหลายปี จนเปิดด่านสิงขร ที่คาดว่ามีเงินหมุนเวียน 10 ล้านบาท
วันที่ 4 กรกฎาคม 2568 ที่บริเวณจุดผ่อนปรนพิเศษทางการค้าช่องสิงขร ชายแดนไทย – เมียนมา หมู่ 6 บ้านด่านสิงขร ต.คลองวาฬ อ.เมืองประจวบคีรีขันธ์ มีแรงงานชาวเมียนมา ที่มารับจ้างทำงานอยู่ในประเทศไทยได้พาครอบครัวมาที่บริเวณหน้าด่านพรมแดนสิงขร เพื่อมารอพบหน้าบิดา – มารดา ที่ยังอาศัยอยู่ประเทศเมียนมา บริเวณหมู่บ้านมูด่อง หลังจากที่ประเทศเมียนมา ได้ปิดด่านห้ามบุคคลเข้าออกข้ามประเทศ เนื่องจากปัญหาสถานการณ์โควิด – 19 และปัญหาการสู้รบในฝั่งเมียนมา เป็นเวลาหลายปี หลังจากที่หลายหน่วยงานของจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ได้บูรณาการร่วมกันทุกภาคส่วน หารือกับฝั่งเมียนมา เพื่อกลับมาเปิดตลาดนัดชายแดนเหมือนเช่นในอดีต สามารถนำสินค้าเครื่องอุปโภค – บริโภค และสินค้าเกษตรและสินค้าพื้นเมืองของจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ มาจำหน่ายร่วมกับสินค้าเกษตรและสินค้าพื้นเมืองของฝั่งเมียนมา แล้วมาจำหน่ายร่วมกัน ที่บริเวณอาคารโดมและบริเวณตลาดด่านสิงขร
น.ส.เซ็นต์ อายุ 25 ปี หญิงสาวชาวเมียนมา กล่าวว่า ตนกับสามี รวมถึงญาติพี่น้องมารับจ้างกรีดยาง อยู่ในอำเภอทับสะแก จ.ประจวบคีรีขันธ์ วันนี้พาครอบครัวมารอพบหน้าพ่อและแม่ หลังจากที่ไม่ได้เจอหน้ากันเป็นเวลา 2 – 3 ปี เพราะมีการปิดด่านห้ามบุคคลเข้า-ออก แต่เมื่อทราบว่ามีการจัดตลาดการค้าร่วมกัน จำนวน 10 วัน จึงได้นัดพ่อแม่และยาย มาพบเจอหน้ากันที่ฝั่งไทย โดยแม่บอกว่าทางเมียนมา ผ่อนปรนยังไม่เก็บค่าใช้จ่ายใดๆ ทั้งสิ้นในการข้ามมาฝั่งประเทศไทยช่วงระยะนี้
นายศุภชัย ครุฑดำ นายอำเภอเมืองประจวบคีรีขันธ์ เปิดเผยว่า การจัดกิจกรรมส่งเสริมการค้าบริเวณตลาดชายแดนด่านสิงขรแห่งนี้ ได้เตรียมความพร้อมร่วมกับหลายหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวมถึงภาคประชาชน วิสาหกิจชุมชนในพื้นที่ ซึ่งเปิดรับลงทะเบียนในการแบ่งล็อคจัดสถานที่ มีผู้มาลงทะเบียนแล้วประมาณ 200 ร้านค้า บรรยากาศวันแรกเริ่มคึกคัก มีรถพ่อค้าแม่ค้าทยอยมาจัดตั้งร้านค้า ส่วนพ่อค้าแม่ค้าฝั่งเมียนมา สามารถมาขายสินค้าบริเวณตลาดฝั่งไทยจุดนี้ได้ ส่วนนักท่องเที่ยวฝั่งไทยสามารถข้ามไปท่องเที่ยวฝั่งประเทศเมียนมาได้ แต่ไม่เกินบริเวณหมู่บ้านมูด่อง ระยะทางไม่เกิน 4 กิโลเมตร นักท่องเที่ยวทั้งสองฝั่ง จะมีจัดรถไว้คอยบริการ โดยการเดินทางเข้าออกผ่านแดน จะใช้หนังสือผ่านแดน (Border Pass) หรือหนังสือผ่านแดนชั่วคราว (Temporary border pass) ซึ่งจะเสียค่าธรรมเนียมตามปกติ แต่ค่าใช้จ่ายอื่นๆ ฟรีทั้งหมด ส่วนพ่อค้าแม่ค้าชาวเมียนมา ที่แจ้งความประสงค์จะนำสินค้าพื้นเมืองมาขายร่วมกับฝั่งไทย มีประมาณ 50 – 60 ร้านค้า แต่อาหารทะเลน่าจะยังไม่มี เนื่องจากพื้นที่ตอนในของฝั่งเมียนมา ยังมีการสู้รบอยู่ หลังจากจัดงานครบ 10 วันแล้ว จะนำไปสรุปถอดบทเรียนในการแก้ปัญหาอุปสรรคต่างๆ และถ้าเศรษฐกิจการค้าขายดีขึ้น ต่อไปอาจจะมีการจัดตลาดทุกสุดสัปดาห์ โดยยึดประโยชน์ของพ่อค้าประชาชนของทั้งสองประเทศ คาดว่างานที่จัดครั้งนี้ จะมีเงินหมุนเวียนประมาณ 10 ล้านบาท
ด้าน น.ส.อรทัย ประกอบปราน อายุ 20 ปี แม่ค้าชาวบ้านด่านสิงขร เปิดใจว่าอยากให้มีการเปิดด่านการค้าชายแดนไทย – เมียนมา เหมือนในอดีต เพราะปัจจุบันตลาดด่านสิงขรเงียบเหงามาก มีนักท่องเที่ยวเข้ามาเที่ยวบ้าง แต่ไม่มาก การเปิดตลาดรอบนี้หวังว่าจะขายดีทุกวัน
นอกจากนี้ตลอดงานทั้ง 10 วัน ในช่วงกลางคืนยังมีมินิคอนเสิร์ตแนวคันทรี เพื่อสร้างความคึกครื้น และในวันที่ 12 กรกฎาคม จะมีกิจกรรมปั่นจักรยานข้ามแดนไทย – เมียนมา ซึ่งขณะนี้มีผู้ลงทะเบียนแล้วกว่า 200 คัน และสรุปจำนวนคนไทยและเมียนมา เดินทางข้ามแดนวันแรก มีชาวไทยผ่านออก 26 คน ผ่านเข้า 26 คน ชาวเมียนมา ผ่านเข้า 152 คน ผ่านออก 152 คน.
เอกภพ วงษ์ประเสริฐ…..รายงาน