
หว้ากอเตรียมเปิดพื้นที่ชายหาดทำสปาทราย หมกแร่ควอตซ์ – แร่ฟันม้า
วันที่ 9 กรกฎาคม 2568 อุทยานวิทยาศาสตร์พระจอมเกล้า ณ หว้ากอ จ.ประจวบฯ ร่วมกับมหาวิทยาลัยสวนดุสิต จัดกิจกรรมอบรมให้ความรู้เรื่อง “สปาทราย” และยกระดับมาตรฐานการให้บริการด้านสปาทรายกับนักท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ ให้กับผู้ที่สนใจในการประกอบอาชีพการให้บริการสปาทรายกว่า 20 คน เพื่อขานรับนโยบายส่งเสริมด้านการท่องเที่ยวของผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบฯ ซึ่งเป็นหนึ่งใน 10 ข้อ ประจวบต้องไปต่อ next move prachuap
ภายในกิจกรรมจัดฝึกอบรมความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพสปาทราย เรียนรู้คุณสมบัติทรายและประโยชน์ของแร่ธาตุต่างๆ ที่อยู่ในทราย รวมถึงรูปแบบการให้บริการสปาทราย การเตรียมทรายและการต้อนรับลูกค้าอย่างถูกวิธี เพื่อยกระดับมาตรฐานของการให้บริการที่มีคุณภาพกับลูกค้าทุกระดับ
นายวราวุธ พยัคฆพงษ์ ผู้อำนวยการอุทยานวิทยาศาสตร์พระจอมเกล้า ณ หว้ากอ จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เปิดเผยว่า โครงการดังกล่าวเกิดขึ้นจากนโยบายของผู้ว่าราชการจังหวัด ที่มาเห็นหาดทรายที่สวยสะอาดของหว้ากอ จึงมีแนวคิดที่จะพลิกฟื้นการให้บริการสปาทรายให้กลับมามีชื่อเสียงอีกครั้ง เป็นการส่งเสริมด้านการท่องเที่ยวตามนโยบาย 10 ข้อ ประจวบ ต้องไปต่อ (next move prachuap) และยังเป็นสานต่ออาชีพสปาทรายและยกระดับมาตรฐานการให้บริการ เนื่องจากพื้นที่จังหวัดประจวบฯ มีพื้นที่หาดทรายยาวตลอดแนวจนถึงจังหวัดชุมพร เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจและส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของกิจกรรมด้านวิทยาศาสตร์ในการนำทรายไปตรวจหาคุณสมบัติและแร่ธาตุต่างๆ ที่อยู่ในทรายบริเวณนี้ โดยมหาวิทยาลัยสวนดุสิต พบว่าแร่ควอตซ์และแร่ฟันม้ามีอยู่จำนวนมาก และมีประโยชน์ต่อร่างกาย ทั้งนี้ อุทยานวิทยาศาสตร์พระจอมเกล้า ณ หว้ากอ ส่งเสริมให้ประชาชนได้เรียนรู้เกี่ยวกับวิทยาศาสตร์ ดาราศาสตร์ อวกาศ เพื่อให้ประชาชนนำวิถีชีวิตความรู้ด้านวิทยาศาสตร์ไปใช้ ซึ่งสปาทรายเป็นตัวอย่างที่ดี ที่จะนำสิ่งที่มีอยู่เดิมอยู่แล้วมาสร้างจุดขายและพัฒนาให้ดียิ่งขึ้น สร้างโอกาสให้กับชาวบ้าน จากการสำรวจกระแสน้ำบริเวณชายหาดหว้ากอ เป็นกระแสน้ำวนออกไปแล้วกลับเข้ามา ดังนั้นทรายและสิ่งต่างๆ จะมาจากคลองวาฬ อ่าวประจวบฯ และบางสะพาน ไหลวนกลับเข้ามาที่อ่าวหว้ากอ หลังจากนี้ อุทยานวิทยาศาสตร์พระจอมเกล้า ณ หว้ากอ จะเริ่มเปิดให้นักท่องเที่ยวเข้ามาใช้บริการ จากความรู้ที่มหาวิทยาลัยสวนดุสิตได้ถ่ายทอดไว้ให้ พร้อมกับเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ ในส่วนประชาชนที่ผ่านการอบรมไปแล้ว มีความรู้ความสามารถ มีทักษะด้านการสปาทราย สามารถเข้ามาใช้พื้นที่แห่งนี้ได้โดยที่ไม่ต้องมีการลงทุนอะไรมากมาย เนื่องจากมีทรัพยากรธรรมชาติอยู่แล้ว อนาคตจะมีการเชื่อมโยงกับผู้ประกอบการโรงแรม ที่พักและรีสอร์ทต่างๆ ต่อไป สำหรับผู้ที่สนใจจะใช้พื้นที่หาดทรายของอุทยานหว้ากอ เพื่อบริการสปาทรายให้กับนักท่องเที่ยว สามารถติดต่อได้ที่กลุ่มงานลานกางเต็นท์ค่ายเด็กของอุทยานวิทยาศาสตร์พระจอมเกล้า ณ หว้ากอ หรือโทร.093 – 4747859
รองศาสตราจารย์ ดร.พนารัตน์ ศรีแสง ผู้อำนวยการมหาวิทยาลัยสวนดุสิต ศูนย์การศึกษาหัวหิน เปิดเผยว่า จากการที่ได้เก็บตัวอย่างทรายในหลายพื้นที่ ตั้งแต่อำเภอหัวหินไปถึงอำเภอบางสะพาน พบว่าทรายมีคุณสมบัติในเชิงวิทยาศาสตร์และการรักษา โดยคุณสมบัติหลักของทรายมี 2 ส่วน คือ แร่ควอตซ์ (Quartz) กับเฟลด์สปาร์ (feldspar) หรือแร่ฟันม้า แร่ควอตซ์มีประโยชน์ในด้านของการปรับพลังงานในร่างกาย ส่วนแร่ฟันม้า หรือเฟลด์สปาร์ มีประโยชน์ในเรื่องของการคลายเครียด ช่วยปรับสมดุลของระบบประสาท หากใครได้มาทำสปาหมกทราย จะได้ประโยชน์ในเรื่องของการผ่อนคลายเป็นหลัก ซึ่งการหมกทรายในแต่ละครั้งควรจะประมาณ 20 นาที เพื่อไม่ให้นานเกินไปหรือน้อยเกินไป โดยก่อนการหมกทรายจะต้องตรวจสุขภาพและเตรียมความพร้อมของร่างกาย ซึ่งข้อควรระวังผู้ที่มีโรคหัวใจ ความดันสูง มีรอบเดือนและหญิงตั้งครรภ์ ไม่เหมาะกับกิจกรรมห่มทราย.
เอกภพ วงษ์ประเสริฐ…..รายงาน