
ทช. ยันโครงการติดตั้งหัวหาดเทียมฯ หาดปราณบุรี ใช้แนวทางธรรมชาติแก้ปัญหาอย่างยั่งยืนให้ประชาชน
วันที่ 16 สิงหาคม 2568 ดร.ปิ่นสักก์ สุรัสวดี อธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง (ทช.) กล่าวถึงกรณีที่ สส.พรรคประชาชน อภิปรายถึงโครงการติดตั้งหัวหาดเทียม ผสมผสานแนวทางการแก้ปัญหาสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืนจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร เพื่อพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2569 ที่ผ่านมา ว่ามีความซ้ำซ้อนกับโครงการแนวกันคลื่นที่มีอยู่แล้วในพื้นที่ และเลี่ยงการทำ EIA นั้น ในข้อเท็จจริงโครงการดังกล่าวเป็นไปตามหลักวิชาการที่ต้องการแก้ไขปัญหาให้กับพี่น้องประชาชนในพื้นที่อย่างยั่งยืน เนื่องจากพื้นที่ ที่จะดำเนินโครงการดังกล่าว เป็นพื้นที่บริเวณหาดปราณบุรี อยู่ในพื้นที่เทศบาลตำบลปากน้ำปราณ อ.ปราณบุรี จ.ประจวบฯ ที่ได้รับผลกระทบจากการดำเนินการก่อสร้างกำแพงกันคลื่น ทำให้ชายหาดเสียหาย สูญเสียความหลากหลายทางชีวภาพ ประชาชนในพื้นที่ไม่สามารถใช้ประโยชน์จากชายหาดได้ จึงต้องมีการฟื้นฟูชายหาดที่มีความเสียหาย เพื่อให้ประชาชนสามารถกลับมาใช้ประโยชน์จากทรัพยากรที่มีในพื้นที่ได้อีกครั้งอย่างยั่งยืน
เมื่อพิจารณาจากผลกระทบที่เกิดขึ้น ประกอบกับลักษณะของพื้นที่แล้ว กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม โดยกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง เห็นว่าการแก้ไขปัญหาการกัดเซาะชายฝั่งโดยการก่อสร้างแนวกันคลื่นด้วยการใช้โครงสร้างแข็งในรูปแบบต่างๆ มักก่อให้เกิดผลกระทบกับพื้นที่ข้างเคียง และมีความเสียหายที่ค่อนข้างรุนแรง และนายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้มีนโยบายส่งเสริมให้พิจารณาใช้แนวทางการแก้ไขปัญหาด้วยโครงสร้างอ่อน หรือการใช้แนวคิดธรรมชาติเป็นฐาน หรือที่เรียกว่า Nature-based solution แม้ว่าจะใช้เวลาในการเห็นผล แต่ก็ไม่นานมาก ทั้งยังจะช่วยฟื้นฟูและรักษาความสมดุลของระบบนิเวศชายฝั่งทะเลได้เป็นอย่างดี สามารถสร้างความสมบูรณ์ของระบบนิเวศตามสภาพธรรมชาติให้กลับคืนมาได้ และที่สำคัญคือช่วยป้องกันและลดผลกระทบการกัดเซาะชายฝั่งในพื้นที่ได้อย่างยั่งยืน ลดผลกระทบที่จะเกิดต่อพื้นที่ข้างเคียงที่จะทำให้เกิดการส่งต่อปัญหาไม่สิ้นสุด ซึ่งเมื่อพิจารณาจากความลาดชันของชายหาด ลักษณะคลื่นและความรุนแรงของคลื่นแล้ว พื้นที่หาดปราณบุรีมีลักษณะพื้นที่ที่เหมาะสมและมีศักยภาพที่จะสามารถฟื้นฟูชายหาดโดยใช้แนวทางการแก้ไขปัญหาด้วยแนวคิดธรรมชาตินี้ได้
โดยโครงการติดตั้งหัวหาดเทียม ผสมผสานแนวทางการแก้ไขปัญหาสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืนจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ จะเป็นโครงการต่อเนื่อง 2 ปี คือปี 2569 ถึงปี 2570 การฟื้นฟูจะประกอบด้วยหลายส่วนในพื้นที่ระยะทาง 500 เมตร ตั้งแต่การฟื้นฟูระบบนิเวศหาดทราย ด้วยการเติมทรายและการสร้างเนินทรายชายฝั่ง การฟื้นฟูระบบนิเวศหาดหิน ด้วยการใช้องค์ประกอบของโครงสร้างที่มีผลกระทบน้อย การฟื้นฟูระบบนิเวศชายฝั่งพื้นที่ใต้น้ำ ด้วยการทำการฟื้นฟูสันดอนทราย และการฟื้นฟูระบบนิเวศป่าชายหาด ด้วยการปลูกต้นไม้ป่าชายหาดและพืชคลุมดินเพื่อรักษาเสถียรภาพของชายฝั่ง ซึ่งตามแนวทางในการจัดทำ EIA โครงการในลักษณะดังกล่าวนี้ เป็นโครงการที่ไม่เข้าข่ายต้องจัดทำ EIA จึงไม่ใช่เป็นการเลี่ยงที่จะไม่ทำ EIA แต่ประการใด
ในส่วนของพื้นที่ ที่จะดำเนินโครงการนั้น เป็นพื้นที่ของเทศบาลตำบลปากน้ำปราณ ซึ่งไม่ได้มีพื้นที่ติดต่อกันกับเทศบาลตำบลปราณบุรี และพื้นที่เทศบาลตำบลปราณบุรีไม่ได้ติดกับชายหาด โครงการนี้จึงไม่ได้เป็นการเอื้อประโยชน์ต่อเทศบาลตำบลปราณบุรี แต่เป็นการแก้ไขปัญหาอย่างจริงจังให้กับพี่น้องประชาชนในพื้นที่ชายหาดที่ได้รับผลกระทบ จนไม่สามารถใช้ทรัพยากรที่มีในท้องถิ่นได้ ให้สามารถกลับมามีทรัพยากรที่สมบูรณ์ให้ได้ใช้ประโยชน์ในการประกอบอาชีพและสร้างคุณภาพชีวิตที่ดีได้ต่อไปอย่างยั่งยืน.