
ประจวบฯ สืบสานประเพณีตักบาตรเทโวแห่เรือพระปีที่ 25 เทศกาลออกพรรษา
เวลา 07.00 น. ของวันที่ 8 ตุลาคม 2568 นายสิทธิชัย สวัสดิ์แสน ผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบฯ มอบหมายให้นายประทีป บริบูรณ์รัตน์ รองผู้ว่าราชการจังหวัด เป็นประธานเปิดงานสืบสานประเพณีตักบาตรเทโว ประเพณีแห่เรือพระ เนื่องในเทศกาลออกพรรษา ประจำปี พ.ศ.2568 ซึ่งเทศบาลเมืองประจวบคีรีขันธ์ร่วมกับวัดธรรมิการามวรวิหาร จัดขึ้นเป็นปีที่ 25 ที่บริเวณด้านหน้าเขาช่องกระจก วัดธรรมิการามวรวิหาร อ.เมืองประจวบคีรีขันธ์ เพื่อเป็นการสืบสานประเพณีอันดีงามของชาวไทยศาสนาพุทธ และเป็นการส่งเสริมด้านการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมของจังหวัดประจวบฯ มีนายสมพร ยโสธร รองนายกเทศมนตรี รักษาราชการแทนนายกเทศมนตรีเมืองประจวบฯ กล่าวรายงานวัตถุประสงค์การจัดงาน มีผู้พิพากษาหัวหน้าศาลจังหวัด อัยการจังหวัด สภาวัฒนธรรมจังหวัด ผู้แทนทหารบก ทหารอากาศ ตำรวจ ผู้บริหารเทศบาล ข้าราชการ และประชาชนชาวจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เข้าร่วมพิธีประมาณกว่า 2,000 คน
ภายในงาน มีกิจกรรมประกอบด้วยการถวายจังหันเช้าแด่พระสงฆ์ สามเณร ณ วัดธรรมิการามวรวิหาร การแสดงของเยาวชนนักเรียนจากโรงเรียนในสังกัดเทศบาลเมืองประจวบฯ จากนั้นประธานในพิธีกล่าวเปิดงานพร้อมลั่นฆ้องชัย มีพระสงฆ์ สามเณร เดินลงจากเขาช่องกระจก เพื่อออกรับบิณฑบาตข้าวสารอาหารแห้งจากพุทธศาสนิกชน พร้อมด้วยการแห่ขบวนรถบุษบก (เรือพระ) ขบวนเทวดา นางฟ้า ขบวนแห่พุทธประวัติ พุทธตํานานของชุมชนต่างๆ ในเขตเทศบาลเมืองประจวบฯ ทั้ง 15 ชุมชน ไปตามถนนสละชีพและถนนต่างๆ ในเขตเทศบาล เพื่อให้พุทธศาสนิกชนชาวพุทธได้ร่วมทำบุญและรับแจกขนมข้าวต้มลูกโยนไปรับประทานเพื่อความเป็นสิริมงคล
วันออกพรรษา ตรงกับวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 11 ของทุกปี ถือเป็นวันสำคัญทางพระพุทธศาสนาอีกวันหนึ่ง ที่พุทธศาสนิกชนทุกหมู่เหล่าจะได้ร่วมกันทำบุญตักบาตรและบำเพ็ญกุศลเพื่อระลึกถึงองค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ตามประเพณีที่สืบต่อกันมาแต่โบราณ ปี พ.ศ.2568 นี้ วันออกพรรษา ตรงกับวันอังคารที่ 7 ตุลาคม 2568 ซึ่งวันออกพรรษามีความเป็นมาตั้งแต่สมัยพุทธกาล โดยพุทธบัญญัติที่กำหนดให้พระภิกษุต้องจำพรรษาอยู่ประจำวัด ตลอดฤดูฝนเป็นระยะเวลา 3 เดือน ตามธรรมเนียมของคณะสงฆ์ในสมัยโบราณ การจำพรรษานี้มีจุดมุ่งหมายเพื่อป้องกันไม่ให้พระภิกษุเดินทางไปมา จนทำให้เกิดความเสียหายแก่พืชผลทางการเกษตรและสัตว์เล็กสัตว์น้อย หลังจากครบกำหนด 3 เดือน ในวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 11 แล้ว จึงถือวันนั้นเป็นวันออกพรรษา พระสงฆ์สามารถจาริกไปค้างแรมที่อื่นได้โดยไม่ผิดพระพุทธบัญญัติ และจะได้นำความรู้จากหลักธรรรมและประสบการณ์ที่ได้รับระหว่างจำพรรษาไปเผยแผ่ให้แก่ประชาชนต่อไป.
เอกภพ วงษ์ประเสริฐ…..รายงาน