ผู้ว่าฯ ประจวบฯ นำประชาชนเดินทางกราบพระบรมศพ ‘สมเด็จพระพันปีหลวง’
วันที่ 24 พฤศจิกายน 2568 นายสิทธิชัย สวัสดิ์แสน ผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบฯ พร้อมด้วย พญ.บุษกร สวัสดิ์แสน ประธานแม่บ้านมหาดไทยจังหวัดประจวบฯ นำหัวหน้าส่วนราชการ นายอำเภอ เจ้าหน้าที่หน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และประชาชนชาวจังหวัดประจวบฯ เข้าเฝ้าฯ กราบถวายบังคมพระบรมศพ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท พระบรมมหาราชวัง กรุงเทพฯ ท่ามกลางบรรยากาศแห่งความอาลัย และความสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดมิได้
นายสิทธิชัย สวัสดิ์แสน กล่าวว่า จังหวัดประจวบฯ ได้อำนวยความสะดวก จัดรถบัสโดยสารปรับอากาศ ให้บริการประชาชนที่ได้ลงทะเบียนไว้กับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เพื่อเปิดโอกาสให้ประชาชนทุกพื้นที่ในจังหวัดประจวบฯ ได้ร่วมแสดงความอาลัยและน้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณอย่างทั่วถึง ตลอดการเดินทางได้รับการดูแลและอำนวยความสะดวกอย่างใกล้ชิดจากทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้ประชาชนเดินทางด้วยความปลอดภัย ทันตามกำหนด ครั้งนี้นับเป็นชุดแรกของจังหวัด มีประชาชนจาก 2 อำเภอ คือ อ.หัวหิน และ อ.ปราณบุรี รวม 750 คน เดินทางเข้าเฝ้าฯ โดยใช้รถบัสโดยสารรวม 17 คัน ในการเดินทาง ออกจากหน้าที่ว่าการอำเภอหัวหิน ตั้งแต่เวลาเที่ยงคืน และถึงท้องสนามหลวงในเวลา 05.30 น. ของวันที่ 24 พฤศจิกายน
การเดินทางครั้งนี้เป็นส่วนหนึ่งของโครงการ “รวมพลังแห่งความภักดี ศึกษาเรียนรู้และน้อมนำแนวพระราชกรณียกิจฯ”ซึ่งจังหวัดประจวบฯ จัดทำเป็นต้นแบบให้ อบจ.ประจวบฯ ใช้เป็นแนวทาง แบ่งการเดินทางเป็น 4 รอบ ได้แก่ รอบที่ 1 ในวันนี้ ถัดไปรอบที่ 2 จาก อ.สามร้อยยอด และ อ.กุยบุรี จะออกเดินทางในวันที่ 13 ธันวาคม รอบที่ 3 จากอำเภอเมืองประจวบฯ และ อ.ทับสะแก จะออกเดินทางในวันที่ 1 มกราคม 2569 และรอบที่ 4 ซึ่งเป็นรอบสุดท้าย จาก อ.บางสะพาน และ อ.บางสะพานน้อย จะออกเดินทางในวันที่ 20 มกราคม 2569 โดยในแต่ละรอบจะมีประชาชนร่วมเดินทางประมาณ 750 คน รวมประชาชนชาวจังหวัดประจวบฯ กว่า 3,000 คน ที่จะได้เดินทางเข้ากราบสักการะพระบรมศพ
ด้านชาวจังหวัดประจวบฯ ที่เข้าร่วมกิจกรรมในครั้งนี้ ต่างกล่าวด้วยความตื้นตันใจว่า ดีใจที่ครั้งหนึ่งในชีวิตได้มีโอกาสเดินทางไปกราบถวายบังคมพระบรมศพอย่างใกล้ชิด หลายคนบอกว่า “เป็นโอกาสที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในชีวิต” พร้อมตั้งมั่นว่าจะน้อมนำพระราชจริยวัตรและพระราชกรณียกิจของพระองค์ท่าน มาปรับใช้ในการดำรงชีวิต พัฒนาตนเอง โดยเฉพาะเรื่องการช่วยเหลือสังคม ที่มีพระองค์ท่านเป็นแบบอย่าง.
