ประจวบฯ บูรณาการภาคีเครือข่ายจัดโครงการบ้านนี้มีรักปลูกผักกินเอง

วันที่ 20 มิถุนายน 2566 นายวิทยา เขียวรอด นายอำเภอเมืองประจวบคีรีขันธ์ เป็นประธานเปิดกิจกรรมโครงการบ้านนี้มีรักปลูกผักกินเอง และทางนี้มีผลผู้คนรักกัน และกิจกรรมขับเคลื่อนโครงการหนึ่งตำบล หนึ่งหมู่บ้านยั่งยืน มีนางพิสมัย ศักดิ์เกิด พัฒนาการอำเภอเมืองฯ นางอุราวรรณ ภู่เพ็ชร เกษตรอำเภอเมืองฯ นายพลสิทธิ์ เวที สาธารณสุขอำเภอ นายพงศ์นรินทร์ สุขประเสริฐ, น.ส.กัญจน์พร แทนรินทร์, น.ส.สุประวีณ์ ชัยบาล ปลัดอำเภอเมือง ส.ต.ฐนโรจน์ ชัยสิริธนานนท์ จิตอาสา 904 / สมาชิกสภาเทศบาลเมืองฯ นางสุคนธ์ สุขอนุเคราะห์ ประธานคณะกรรมการพัฒนาสตรีจังหวัดประจวบฯ / ประธานกลุ่มแม่บ้านเกษตรกรร่องแก้ว นายมานพ ครุฑเผือก กำนันตำบลเกาะหลัก นายมนัส สุขอนุเคราะห์ ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 4 บ้านหนองบัว นายมานพ มีจุ้ย อิหม่ามประจำมัสยิดนูรุสซอลิฮีน ผู้อำนวยการ รพ.สต.บ้านหนองบัว ผู้แทนส่วนราชการ คณะกรรมการหมู่บ้าน ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน สมาชิก อส. และประชาชนจิตอาสา เข้าร่วม ณ ชุมชนบ้านหนองบัว หมู่ 4 ต.เกาะหลัก อ.เมือง จ.ประจวบคีรีขันธ์

นายวิทยา เขียวรอด นายอำเภอเมืองประจวบฯ กล่าวว่า กิจกรรม “โครงการบ้านนี้มีรักปลูกผักกินเอง และทางนี้มีผลผู้คนรักกัน” ถือเป็นอีกหนึ่งภารกิจที่สำคัญของกระทรวงมหาดไทย ในการเสริมสร้างความมั่นคงทางด้านอาหาร น้อมนำแนวพระราชดำริของสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี “บ้านนี้มีรัก ปลูกผักกินเอง” โดยการปลูกผักสวนครัวในทุกครัวเรือน และขยายผลโครงการ “ทางนี้มีผล ผู้คนรักกัน” ซึ่งเมื่อครัวเรือนปลูกผักสวนครัวรับประทานเอง เหลือไปแบ่งปันเพื่อนบ้าน ถ้ามีจำนวนมากก็สามารถนำไปขายสร้างรายได้เพิ่มขึ้นอีกด้วย การสร้างความมั่นคงทางอาหารสู่การปฏิบัติการปลูกผักสวนครัว สร้างความรักความสามัคคีให้เกิดขึ้นในครัวเรือน ทำให้ประชาชนสามารถพึ่งพาตนเองได้ ตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง เพื่อส่งเสริมและสนับสนุนการพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชนในหมู่บ้านให้มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น ลดความเหลื่อมล้ำ ด้วยการบูรณาการภาคีเครือข่ายร่วมกันบำบัดทุกข์ บำรุงสุข ทำสิ่งที่ดี เพื่อให้ประชาชนคนไทยทุกคนมีความสุข นำไปสู่การเป็นหมู่บ้านยั่งยืน ขับเคลื่อนเป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืน

จากนั้น นายอำเภอได้มอบต้นไม้ให้กับผู้นำชุมชนและชาวบ้าน จำพวกพืชผักสวนครัวและพืชสมุนไพร โดยร่วมกันนำไปปลูกบริเวณริมถนนซอยบ้านหนองบัว ซอย 3 – ถนนซอยมัสยิดนูรูสซอลิฮีน ซึ่งเป็นพื้นที่ชุมชนของกลุ่มพี่น้องชาวมุสลิมอาศัยอยู่ ทั้งนี้ได้นำหลัก “บรม” (บ้าน – ราชการ – มัสยิด) มาปรับใช้ในการดำเนินกิจกรรมโครงการในพื้นที่ รวมถึงการนำหลักการ กลไก 3 5 7 มาช่วยขับเคลื่อนในระดับพื้นที่ด้วย 3 หมายถึง 3 ระดับ ได้แก่ ระดับชุมชน/หมู่บ้าน ระดับจังหวัด และระดับประเทศ 5 หมายถึง 5 กลไก ได้แก่ การประสานงานภาคีเครือข่าย การบูรณาการแผนงานและยุทธศาสตร์ การติดตามหนุนเสริมและประเมินผล การจัดการความรู้และการสื่อสารสังคม 7 หมายถึง 7 ภาคีเครือข่าย ได้แก่ ภาครัฐ ภาควิชาการ ภาคศาสนา ภาคประชาชน ภาคเอกชน ภาคประชาสังคม และภาคสื่อสารมวลชน เพื่อช่วยกันพัฒนาและส่งเสริมอาชีพ สร้างกลไกการรวมกลุ่มเพื่อให้เกิดเครือข่ายการทำงานร่วมกันในพื้นที่ต่อไป

ต่อจากนั้น ได้เยี่ยมชมครัวเรือนต้นแบบ “บ้านนี้มีรัก ปลูกผักกินเอง” ครัวเรือน น.ส.อุษาวดี นิลใบ บ้านเลขที่ 79/2 โดยใช้พื้นที่บริเวณหน้าบ้านในการปลูกผักสวนครัวและสมุนไพร เช่น กะเพรา ตะไคร้ มะเขือ มะละกอ ซึ่งเป็นการลดรายจ่ายภายในครัวเรือน และเป็นการสร้างรายได้ให้กับครัวเรือน โดยเก็บผลผลิตออกจำหน่ายที่ตลาด และร้านค้าบริเวณชุมชนทุกวัน รายได้เฉลี่ยวันละ 200 – 300 บาท และครัวเรือนนางนิตยา สุขอนุเคราะห์ บ้านเลขที่ 214/7 ปลูกผักสวนครัวไว้ในพื้นที่ข้างบ้าน ประกอบด้วยมะเขือ พริก ถั่วฟักยาว ตะไคร้ ข่า แตงกวา ยอ มะระ มะละกอ เป็นต้น โดยนางนิตยา กล่าวว่าได้น้อมนำหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงมาปรับใช้ ซึ่งผักสวนครัวที่ปลูก นอกจากจะใช้กินใช้ในครัวเรือน ยังมีแบ่งปันให้กับเพื่อนบ้าน และเก็บผลผลิตที่ได้จำหน่ายให้กับร้านค้าชุมชน แม่ค้าในชุมชน เฉลี่ยได้รายได้เสริมจากการปลูกผักสวนครัว เดือนละประมาณ 9,000 บาท

ด้านนายมนัส สุขอนุเคราะห์ ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ 4 บ้านหนองบัว กล่าวว่า หมู่บ้านหนองบัว เป็นหมู่บ้านต้นแบบโครงการหนึ่งตำบล หนึ่งหมู่บ้านยั่งยืน ที่น้อมนำหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงมาปรับใช้ในการดำเนินชีวิต เสริมสร้างให้หมู่บ้านสามารถพึ่งพาตนเองได้ แก้ไขปัญหาได้ด้วยตนเอง และยกระดับการพัฒนาคุณภาพชีวิตได้อย่างยั่งยืน สำหรับกิจกรรมบ้านนี้มีรัก ปลูกผักกินเอง ทางนี้มีผล ผู้คนรักกัน เป็นกิจกรรมที่ประชาชนในหมู่บ้านได้ร่วมกันคิด ร่วมกันบริหารจัดการ และร่วมแรงร่วมใจในการทำกิจกรรม เพื่อการเป็นหมู่บ้านพัฒนาสู่ความยั่งยืนต่อไป

ด้านนางสุคนธ์ สุขอนุเคราะห์ ประธานคณะกรรมการพัฒนาสตรีจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ และคณะกรรมการหมู่บ้านหนองบัว กล่าวเชิญชวนให้ทุกคนได้ริเริ่มปลูกผักสวนครัว รั้วกินได้ สร้างความมั่นคงให้กับตนเอง ลดรายจ่าย ทั้งยังเสริมสร้างรายได้ให้กับตนเองและครอบครัว รวมถึงยังสามารถช่วยรักษาสภาพสิ่งแวดล้อมด้วยการใช้ปุ๋ยอินทรีย์ เพื่อสร้างความยั่งยืนให้กับสิ่งแวดล้อมต่อไป

นายอำเภอเมืองฯ ได้กล่าวทิ้งท้าย ว่าอาหารที่ดี เริ่มมาจากดินที่ดี ซึ่งกิจกรรมในวันนี้ ชาวชุมชน ประชาชนจิตอาสาทุกท่าน ได้ร่วมไม้ ร่วมมือ ทำให้แผ่นดินของเรา เป็นแผ่นดินที่อุดมสมบูรณ์ สมกับเจตนารมณ์ในการขับเคลื่อนกิจกรรมวันดินโลก ซึ่งตรงกับวันที่ 5 ธันวาคมของทุกปี ร่วมกันทำให้แผ่นดินนี้เป็นแหล่งก่อกำเนิดของอาหารเพื่อมวลมนุษยชาติ อาหารก่อกำเนิดเกิดจากดิน ด้วยการน้อมนำหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงมาใช้ในชีวิต พลิกฟื้นแผ่นดินไทย ฟื้นฟูความอุดมสมบูรณ์ของดินเพื่อรักษาคุณภาพทางชีวภาพและเป็นแหล่งกำเนิดอาหารที่สมบูรณ์เพื่อหล่อเลี้ยงคนไทยและคนทั้งโลก “ดินดี อาหารดี สุขภาพดี ชีวีมีสุข” อย่างยั่งยืนสืบไป.

บุญมา ลิบลับ….รายงาน

ข่าวแนะนำ