ฝ่ายปกครองบุกจับแอบขายบุหรี่ไฟฟ้ากลางเมือง หลังผู้ปกครองนักเรียนเข้าร้องเรียน

วันที่ 22 กันยายน 2566 ว่าที่พันตรี อดิศักดิ์ น้อยสุวรรณ รองผู้ว่าราชการจังหวัด รักษาราชการแทนผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบฯ เปิดเผยว่า ได้มอบหมายให้นายชัยวุฒิ คุณาธิมาพันธ์ รักษาการป้องกันจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ นำกำลังเจ้าหน้าที่อาสารักษาดินแดน สนธิกำลังบูรณาการร่วมกับฝ่ายปกครองอำเภอ ศูนย์ยาเสพติดจังหวัด ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดและตำรวจ สภ.เมืองประจวบฯ เข้าจับกุมนายอภิวิชญ์ อายุ 24 ปี ชาวบ้านหมู่ 6 ต.ร่อนทอง อ.บางสะพาน จ.ประจวบฯ ที่เปิดร้านจำหน่ายบุหรี่ไฟฟ้าและอุปกรณ์ ที่บริเวณริมถนนเลียบทางรถไฟ ถนนมหาราช 1 เขตเทศบาลเมืองประจวบคีรีขันธ์ ซึ่งตั้งอยู่ใกล้กับด้านหลังโรงเรียนมัธยมชื่อดัง และเทคนิคอาชีวะชื่อดังกลางใจเมืองประจวบฯ โดยแอบขายให้กับเยาวชนนักเรียนเป็นจำนวนมาก

จากการตรวจสอบ พบว่าร้านค้าดังกล่าวด้านหน้าเป็นกระจกทึบ ระบุว่าเปิดบริการทุกวัน 09.00 – 21.00 น. โดยร้านมีการโฆษณาผ่านทางของเพจร้าน ในขณะเจ้าหน้าที่เข้าจับกุมและกำลังสอบสวนเจ้าของร้าน มีเด็กเยาวชน ประชาชนทั่วไปและ นักเรียนอาชีวะ เข้ามาซื้อสินค้าอย่างต่อเนื่อง เจ้าหน้าที่จึงตรวจยึดและอายัดของกลางจำนวนมากหลายรายการ อาทิ เงินสด ของกลาง ภาพถ่ายเพจร้าน และ QR Code บัญชีรับเงิน และบุหรี่ไฟฟ้าพร้อมน้ำยาสำหรับเติมบุหรี่ไฟฟ้ากว่า 170 รายการ นำไปบันทึกจับกุมที่ห้องศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ พร้อมแจ้งข้อกล่าวหาครอบครองหรือรับไว้ ซึ่งบุหรี่ไฟฟ้าเป็นสินค้าห้ามนำเข้ามาในราชอาณาจักร อีกทั้งจำหน่ายหรือจัดหาด้วยประการใดๆ เสนอหรือชักชวนให้มีการขาย ให้บริการจัดหาด้วยประการใด ซึ่งสินค้าบุหรี่ไฟฟ้าหรือน้ำยาสำหรับเติมบุหรี่ไฟฟ้า โดยเรียกค่าตอบแทนเป็นเงิน หรือผลประโยชน์อย่างอื่น อันเป็นการฝ่าฝืนคำสั่งคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภคที่ 9/2558 ของวันที่ 28 มกราคม 2558 ก่อนส่งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองประจวบคีรีขันธ์ ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

ว่าที่พันตรี อดิศักดิ์ น้อยสุวรรณ เปิดเผยเพิ่มเติมว่า บุหรี่ไฟฟ้าเป็นสินค้าต้องห้ามและผิดกฎหมาย และที่สำคัญยังทำลายสุขภาพอย่างรุนแรง ยิ่งกว่าบุหรี่แบบเดิมซะอีก สามารถทำให้ปอดทะลุได้ จึงฝากไปถึงผู้ที่เสพบุหรี่ไฟฟ้าและน้องๆ เยาวชนนักเรียน นักศึกษา ว่าบุหรี่ไฟฟ้าและน้ำยา ผู้ที่เสพผู้ที่ครอบครองเป็นสิ่งที่ผิดกฎหมาย โดยเฉพาะผู้ค้าจะมีโทษที่รุนแรง ซึ่งขณะนี้ปลัดกระทรวงมหาดไทย และนโยบายกระทรวงมหาดไทย รวมไปถึงนโยบายรัฐบาล มุ่งเน้นปราบปรามเรื่องนี้อย่างจริงจัง จากการที่มีผู้มาร้องเรียนที่ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัด ว่าบุหรี่ไฟฟ้าเริ่มมีการระบาดหนัก จึงได้บูรณาการร่วมกันระหว่างฝ่ายปกครอง ตำรวจ และ กอ.รมน.จังหวัด จับกุมปราบปรามอย่างจริงจัง จึงอยากฝากไปถึงพ่อแม่พี่น้องประชาชน ขอให้ความมือช่วยกันเมื่อพบเห็นผู้กระทำผิด ให้แจ้งกับฝ่ายปกครอง ถ้าไม่มีผู้บริโภค ไม่มีผู้เสพ ร้านค้าก็ไม่รู้ว่าจะขายใคร และหากมีข้าราชการ หรือเจ้าหน้าที่ของรัฐ หากกระทำผิด จะมีโทษทั้งอาญาและวินัยด้วย

ทั้งนี้ในพื้นที่เมืองประจวบฯ และอำเภอใกล้เคียง พบว่ามีการใช้บุหรี่ไฟฟ้ากันอย่างแพร่หลาย ไม่ว่าจะเป็นเจ้าของห้างธุรกิจร้านค้าดังๆ หลายแห่ง นักเรียน นักศึกษา เด็กอาชีวะ รวมไปถึงข้าราชการหน่วยงานหลายสังกัด อีกทั้งเริ่มมีการระบาดเข้าไปสู่โรงเรียนระดับประถม จนทำให้พ่อแม่ผู้ปกครองหลายรายสุดทน เข้าร้องเรียนกับศูนย์ดำรงธรรมจังหวัด ขอให้ช่วยปราบปรามแก้ไขปัญหาเรื่องนี้ เนื่องจากบุตรหลานส่วนหนึ่งนำเงินที่ให้มาเป็นค่าขนมโรงเรียน นำไปซื้ออุปกรณ์ในการเสพ และบางส่วนขโมยเงินผู้ปกครองมาซื้อบุหรี่ไฟฟ้า เนื่องจากมีราคาสูงกว่า 600 บาทขึ้นไป

สามารถแจ้งเบาะแส หรือร้องเรียนได้ที่ เลขที่ 1/42 – 1/43 หมู่บ้านเตชินี 5 ถนนมหาราช ต.ประจวบคีรีขันธ์ อ.เมืองประจวบคีรีขันธ์ จ.ประจวบคีรีขันธ์ 77000 โทรศัพท์ 032 – 908288, 061 – 4365554 Line OA : TCC032 Facebook : หน่วยประจำจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ สภาองค์กรของผู้บริโภค.

เอกภพ วงษ์ประเสริฐ….รายงาน

ข่าวแนะนำ