
หลายฝ่ายบุกช่วย 3 พี่น้อง หลังมีคนนำไปเลี้ยง แล้วถูกทำร้ายร่างกาย
วันที่ 6 พฤศจิกายน 2566 น.ส.ชลิดา พะละมาตย์ ประธานกลุ่มเป็นหนึ่ง พร้อมด้วย น.ส.วารุณี ดอกจันทร์ หัวหน้าบ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ นักสังคมสงเคราะห์ พมจ.ประจวบคีรีขีนธ์ เข้าพบ พ.ต.ท.วิชาญ ยศชู รอง ผกก.สืบสวน สภ.บางสะพานน้อย และ พ.ต.ท.ชาติ แสนทวีสุข รอง ผกก.ป.สภ.บางสะพานน้อย เพื่อร้องเรียนกรณีพบเด็ก 3 พี่น้อง ถูกสองตายาย บุญธรรม ที่รับมาเลี้ยงทำร้ายร่างกาย ก่อนมีการประสานไปยังโรงเรียนที่ ด.ช.A (นามสมมติ) อายุ 7 ปี และ ด.ช.B อายุ 6 ปี กำลังเรียนอยู่ เพื่อนำเด็กมาพบกับนักสังคมสงเคราะห์ และเจ้าหน้าที่เพื่อสอบถามข้อเท็จจริงจากเด็กทั้งสองคน
เบื้องต้นพบว่า ด.ช.A พี่ชายคนโต มีบาดเเผลคล้ายถูกน้ำร้อนลวกที่มือทั้งสองข้างตั้งแต่ช่วงปลายนิ้วมือจนถึงข้อศอกทั้งสองข้าง และ ด.ช.B มีแผลฉีกขาดที่บริเวณกลางหลัง เหนือเอว ยาวประมาณ 6 เซนติเมตร ลักษณะถูกของมีคม และยังมีน้องสาว ด.ญ.C อายุ 3 ปี อาศัยอยู่บ้านหลังเดียวกับสองตายาย ทราบชื่อภายหลังคือนายพนอ ทิพย์คีรี อายุ 57 ปี และนางพันธุ์ศิริ ทิพย์คีรี อายุ 46 ปี ภรรยา
จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บางสะพานน้อย ร่วมกับ นายสุทิน ประเสริฐศักดิ์ นายอำเภอบางสะพานน้อย เจ้าหน้าที่จาก พมจ.ประจวบคีรีขันธ์ และ กลุ่มเป็นหนึ่ง เดินทางไปยังบ้านของนายพนอและนางพันธุ์ศิริ ที่อยู่ในสวนยางพารา บ้านทุ่งไทร ต.บางสะพาน อ.บางสะพานน้อย จ.ประจวบฯ โดยบ้านดังกล่าวเปิดเป็นโรงฆ่าหมูขนาดเล็ก เมื่อเจ้าหน้าที่ไปถึงพบนางพันธุ์ศิริอยู่ภายในบ้านร่วมกับบุตรสาวและหลาน พร้อมกับ ด.ญ.C แต่นายพนอเข้าไปทำงานในสวนยาง
สำหรับ ด.ญ.C วัย 3 ขวบ มีแผลถลอกที่หัวและรอยขีดข่วนที่เอวขวา และที่มือซ้ายนิ้วชี้ไม่สามารถเหยียดตรงได้ เนื่องจากมีพังผืดใต้ผิวหนัง เด็กมีลักษณะซึม ไม่พูดคุย แต่เมื่อทีมเป็นหนึ่งเข้าไปหา เด็กก็เข้ามาสวมกอดเจ้าหน้าที่ ที่เข้าไปไว้แน่น เจ้าหน้าที่จึงได้สอบถามข้อมูลเบื้องต้นกับนางพันธุ์ศิริ ถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้น
นางพันธุ์ศิริ เปิดเผยว่าตนและสามีได้รับเด็กทั้งสามคนมาดูแลจากพ่อเด็ก ซึ่งแยกทางกับแม่ของเด็ก ตนเพิ่งเสียหลานชายไป จึงรับเด็กๆ มาดูแลเลี้ยงดู ค่าใช้จ่ายทุกอย่างตนเป็นคนส่งเสีย ส่วนแผลน้ำร้อนลวกที่เเขนทั้งสองข้าง เนื่องจาก ด.ช.A ไปใช้ตะแกรงตักขนหมู ในน้ำร้อนที่ตั้งไฟอยู่ เเต่เด็กลื่น มือหลุดลงไปในน้ำร้อน ที่อยู่ในกระทะ จึงเป็นแผลที่มือทั้งสองข้าง ส่วนเรื่องตีเด็กยอมรับก็มีบ้าง ตามประสาที่เด็กดื้อ ไม่ได้ตีรุนแรงชนิดที่ว่าจะเอาถึงตายอะไร ส่วนแผลที่หลัง ด.ช.B เกิดจากเด็กวิ่งเล่นอยู่ใกล้ๆ จุดที่กำลังทำหมูอยู่ เด็กวิ่งมาชนเอง ไม่ได้ตั้งใจทำร้ายเด็ก หลังจากนี้ หากเจ้าหน้าที่พัฒนาสังคมฯ จังหวัดประจวบฯ จะนำเด็กทั้งสามคนไปดูแลต่อ ก็ยินดีที่จะมอบให้ไปดูแล
จากนั้นนางพันธุ์ศิริได้พาไปดูจุดที่ ด.ช.A โดนน้ำร้อนลวก มีลักษณะเป็นเตาที่ก่อขึ้นจากปูนขนาดใหญ่ มีกระทะเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 85 – 90 เซนติเมตร ซึ่งเป็นบริเวณที่ใช้สำหรับลวกหมูเพื่อขูดขน และได้ทำท่าทางขณะที่ ด.ช. A ถูกน้ำร้อนลวก พร้อมกับยืนยันว่าเด็กลื่นและมือจุ่มลงไปในกระทะเอง จนเป็นแผลที่มือทั้งสองข้าง
น.ส.ชลิดา พะละมาตย์ ประธานกลุ่มเป็นหนึ่ง กล่าวว่ามีประชาชนผู้หวังดีได้ร้องเรียนมาทางเพจเป็นหนึ่ง ให้ข้อมูลมาว่ามีบ้านหลังหนึ่งได้นำเอาเด็กสามคนพี่น้อง มาเลี้ยง แต่ได้รับการเลี้ยงดูที่ไม่เหมาะสม มีการใช้แรงงานเด็ก และทำร้ายร่างกายเด็กโดยพบบาดแผลที่ร่างกายเด็ก และได้ประสานเจ้าหน้าที่บ้านพักเด็ก และ พัฒนาสังคมความมั่นคงของมนุษย์ (พมจ.) จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เพื่อให้มาตรวจสอบ จึงได้ประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บางสะพานน้อย และอำเภอบางสะพานน้อย ร่วมกันเข้าไปรับเด็กอีกคนที่อยู่ที่บ้าน พอได้คุยกับเด็กแล้ว ก็พบว่ามีบาดแผลจากน้ำร้อนลวก ตั้งแต่ปลายนิ้วถึงข้อศอกทั้งสองข้าง ไม่ได้รับการรักษา ทาแค่น้ำมันมะพร้าว พอเข้าไปที่บ้านหลังดังกล่าว ยังเหลือน้องผู้หญิง เขาเห็นเรา ก็เดินมาหาแล้วกอดเราแน่นเลย แสดงว่ามีความกลัว ต้องรีบพาออกมาข้างนอกก่อน ตอนนี้ต้องจัดให้ไปอยู่บ้านพักเด็กจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ส่วนคดีความกับคนที่นำเด็กไปเลี้ยงต้องให้เจ้าหน้าที่ตำรวจสอบสวนอีกครั้ง
ล่าสุด ผู้สื่อข่าวสอบถามไปยัง น.ส.วารุณี ดอกจันทร์ หัวหน้าบ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ได้ให้รายละเอียดว่าหลังจากได้นำเด็กทั้งสามคนเข้ามาดูแล ปรากฎว่าเด็กทั้งสามคน มีนิสัย ร่าเริง เล่นเป็นปกติ และวันที่ 8 พฤศจิกายน จะนำตัวเด็กทั้งสามคน เข้าพบแพทย์ที่โรงพยาบาลประจวบคีรีขันธ์เพื่อตรวจร่างกาย แล้วนำผลตรวจร่างกายส่งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินการต่อไป หลังจากนั้นจะพาเด็กทั้งสามคน เข้าตรวจร่างกาย สภาพจิตใจที่โรงพยาบาลหัวหิน พร้อมตามผู้ปกครองเข้ามาปรึกษาพูดคุยในวันจันทร์ที่จะถึง และประสานไปยังโรงเรียนที่เด็กเรียนอยู่ เพื่อให้ส่งใบงาน หรือการบ้านให้เด็กทำ ซึ่งเด็กทั้งสามคนจะอยู่ที่บ้านพักเด็กได้ไม่เกิน 3 เดือน และจะสอบถามผู้ปกครองหรือญาติแท้ๆ ว่าจะนำกลับไปเลี้ยงดูแลต่อหรือไม่ หากไม่มี ก็ต้องนำเด็กไปยังสถานสงเคราะห์เด็กฯ ต่อไป.
ทีมข่าวเฉพาะกิจ….รายงาน