ตามหากระเป๋าเงินหายด้วยระบบ GPS จนพบอยู่ในตู้ไปรษณีย์

วันที่ 8 ธันวาคม 2566 ผู้สื่อข่าวรายงานว่ามีนักท่องเที่ยวเดินทางมาจากกรุงเทพฯ มาพักผ่อนในพื้นที่อำเภอเมืองประจวบคีรีขันธ์ แล้วไปนั่งรับประทานข้าวต้มที่ร้านแห่งหนึ่ง บริเวณตลาดโต้รุ่ง หน้าที่ว่าการอำเภอเมืองประจวบคีรีขันธ์ และได้ลืมวางกระเป๋าเงินไว้ที่ร้าน และมานึกได้ในภายหลัง จึงออกหาบริเวณริมถนน หน้า สภ.เมืองประจวบฯ และหน้าที่ว่าการอำเภอเมืองประจวบคีรีขันธ์ รวมไปถึงบริเวณลานตลาดโต้รุ่ง ก็ไม่พบ จนทำให้ตำรวจที่เปิดร้านขายน้ำปั่นและอาหารตามสั่งอยู่ที่บริเวณนั้นเข้าไปสอบถาม จนทราบเรื่อง และช่วยคุ้ยเขี่ยในถังขยะที่อยู่ใกล้เคียงเพื่อหากระเป๋าสตางค์ของนักท่องเที่ยวที่สูญหาย เนื่องจากนักท่องเที่ยวบอกว่าได้ติดตั้งระบบ gps ไว้ในกระเป๋าเงิน ซึ่งสามารถระบุตำแหน่งได้ จนพบว่ากระเป๋าเงินดังกล่าว ถูกพลเมืองดีนำใส่กล่องตู้ไปรษณีย์รับจดหมาย ซึ่งอยู่ใกล้เคียงกับถังขยะ และเมื่อเปิดออกดูก็พบว่าของทุกอย่างอยู่ครบ ยกเว้นเงินจำนวนหนึ่งสูญหายไป

น้องบุ๊ค อายุ 23 ปี นักท่องเที่ยวที่เดินทางมาจากกรุงเทพฯ กล่าวว่า ตนเดินทางมาท่องเที่ยวพักผ่อนที่จังหวัดประจวบคีรีขันธ์กับพ่อแม่ และเมื่อคืนไปนั่งกินข้าวต้มที่ตลาดโต้รุ่ง และได้ลืมกระเป๋าสตางค์ไว้ พอนึกได้จึงออกมาเดินหา โดยค้นหาผ่านระบบ gps เนื่องจากกระเป๋าสตางค์ของตนเคยสูญหายมาครั้งหนึ่งและตามหาไม่เจอ จึงเกิดไอเดียขึ้นว่าน่าจะมีระบบ gps ติดกระเป๋าสตางค์ได้ เพื่อจะได้ติดตามหาได้ง่ายเวลากระเป๋าสตางค์หล่นหาย จึงเข้าไปค้นหาในระบบอินเตอร์เน็ต พบว่าระบบ gps Card มีจำหน่ายอยู่ที่ต่างประเทศและมีขายในร้านสะดวกซื้อออนไลน์ จึงสั่งมาไว้ในกระเป๋าสตางค์ ซึ่งการ์ดจีพีเอสมีขนาดใกล้เคียงกับบัตรประชาชน สามารถใส่ไว้กระเป๋าเงินได้ สัญญาณมีรัศมี 50 เมตร ทำให้วันนี้ค้นหากระเป๋าสตางค์ที่สูญหายจนพบ โดยมีพี่ตำรวจกับภรรยาช่วยค้นหาด้วยอีกแรงหนึ่ง

ด.ต.ธนัช ยะหัวฝาย ผบ.หมู่ กก.สส.ภ.จว.ประจวบคีรีขันธ์ เปิดเผยว่าขณะที่ตนกำลังช่วยภรรยาเปิดร้านขายน้ำอยู่ที่บริเวณหน้าโรงพัก พบเห็นน้องผู้ชาย ลักษณะเป็นนักท่องเที่ยวมาเดินหาอะไรบางอย่างกับพ่อแม่ เดินวนไปวนมาหลายรอบ จึงเกิดความสงสัย เข้าไปสอบถามพอทราบว่าตามหากระเป๋าสตางค์ โดยค้นหาผ่านระบบติดตามจีพีเอส (gps) จากโทรศัพท์มือถือ ซึ่งน้องบอกว่าสัญญาณระบุอยู่ในบริเวณนี้ คาดว่าอาจจะถูกทิ้งไว้ในถังขยะ จึงชวนภรรยามาช่วยค้นหากระเป๋าสตางค์ในถังขยะ 3 ถัง ก็ยังไม่พบ จึงได้เดินค้นหาต่อ จนมาถึงตู้ไปรษณีย์ที่อยู่ใกล้กับถังขยะ ปรากฏว่าสัญญาณขึ้นมากที่สุด คิดว่าน่าจะมีพลเมืองดีหย่อนใส่ตู้ไปรษณีย์เอาไว้ จึงพาน้องนักท่องเที่ยวไปขอให้พนักงานไปรษณีย์ช่วยนำกุญแจมาไขตู้ให้ ปรากฏว่ากระเป๋าสตางค์ถูกพลเมืองดีนำมาหย่อนใส่ตู้ไว้จริงๆ ส่วนตัวเห็นด้วยเกี่ยวกับไอเดียนี้ที่ติด GPS ไว้ในกระเป๋าสตางค์ เพื่อติดตามหาเวลากระเป๋าสตางค์หล่นหาย และทำให้ตำรวจทำงานได้ง่ายขึ้น

ด้านพนักงานไปรษณีย์ เปิดเผยว่าตู้ไปรษณีย์จะถูกไขเป็นเวลาโดยประมาณ คือ 14.30 น. ในแต่ละวัน หากพบว่ามีกระเป๋าสตางค์และมีที่อยู่ของเจ้าของ จะจัดส่งไปให้ตามที่อยู่ในบัตรประชาชน เพราะตู้ไปรษณีย์จะมีช่องขนาดที่สามารถหย่อนใส่กระเป๋าสตางค์ได้ แต่ถ้าเจ้าของกระเป๋าสตางค์พบว่ากระเป๋าสตางค์ของตนอยู่ในตู้ไปรษณีย์ สามารถไปแจ้งกับพนักงานที่ไปรษณีย์ได้ตลอดเวลา จะมาบริการไขตู้ให้เป็นกรณีพิเศษ แต่ต้องมีหลักฐานว่าเป็นเจ้าของที่แท้จริง.

เอกภพ วงษ์ประเสริฐ….รายงาน

ข่าวแนะนำ