กองทุนฟื้นฟูฯ มอบคืนโฉนดให้เกษตรกรประจวบ 18 ราย
วันที่ 30 เมษายน 2567 นายสุรชัย เบ้าจรรยา ประธานกรรมการบริหารสำนักงานกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร พร้อมคณะ มาเป็นประธานเปิดโครงการและติดตามประเมินผลการดำเนินงานด้านการฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร ในภารกิจของสำนักงานตามบันทึกข้อตกลงกับกรมบัญชีกลาง (ภาคกลาง) ภายใต้สโลแกน “คิดใหม่ ทำใหม่ คิดใหญ่ ทำเป็น เพื่อเกษตรกรไทยทุกคน” และมอบนโยบายการปฏิบัติงาน พร้อมมอบโฉนดที่ดินคืนให้กับเกษตรกรจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ จำนวน 18 ราย ที่โรงแรมประจวบแกรนด์ ถนนสละชีพ เขตเทศบาลเมืองจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ซึ่งได้รับการช่วยเหลือจัดการหนี้จากกองทุนฟื้นฟูฯ รวม 26 แปลง เนื้อที่รวม 212 ไร่ 1 งาน 68.3 ตารางวา โดยมีนายสไกร พิมพ์บึง เลขาธิการสำนักงานกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร กล่าวรายงานวัตถุประสงค์ของโครงการ
ปัจจุบันมีองค์กรเกษตรกรที่ขึ้นทะเบียนเป็นสมาชิกองค์กรเกษตรกรกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกรแล้ว 56,107 องค์กร มีสมาชิกเกษตรกร 5,719,220 ราย โดยสนับสนุนโครงการและงบประมาณให้กับองค์กรเกษตรกร ตั้งแต่ปี 2549 – 2566 จำนวน 12,311 โครงการ งบประมาณ 1,503,432,480 บาท (เงินอุดหนุน 9,558 โครงการ จำนวน 407,857,364 บาท เงินกู้ยืม 2,753 โครงการ เป็นเงิน 1,095,575,116 บาท) และในปีงบประมาณ 2567 มีองค์กรเกษตรกรแสดงความประสงค์ขอรับการสนับสนุนโครงการเงินกู้ยืมไว้กับสำนักงานสาขาจังหวัด 2,080 โครงการ เป็นเงิน 12,063, 454,468 บาท มีเกษตรกรเข้าร่ามโครงการ 53,110 ราย
นอกจากจะมีการมอบคืนโฉนดที่ดินให้กับเกษตรกร จำนวน 18 รายแล้ว ยังมีเวทีเสวนาแลกเปลี่ยนแนวคิดด้านยุทธศาสตร์ และกลยุทธ์ด้านการฟื้นฟู การมอบนโยบายแนวทางการดำเนินงานด้านการฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร ปี 2567 และการบริหารงานตามแนวทางยุทธศาสตร์กองทุนระยะ 5 ปี (2568 – 2572) ภายใต้พระราชบัญญัติกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร การแลกเปลี่ยนการดำเนินงานตามตัวชี้วัดของกรมบัญชีกลาง การแลกเปลี่ยนเรียนรู้การสนับสนุนการติดตามและประเมินผลการดำเนินงานด้านการฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร ภายใต้บริบท “ลานนาบีฟโมเดล” ความยั่งยืนของอาชีพการเลี้ยงโคเนื้อ เพื่อสมาชิกกองทุน และการศึกษาดูงานการขับเคลื่อนการฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกรสู่การเป็นผู้ประกอบการ ณ กลุ่มส่งเสริมอาชีพชาวประมง ต.ห้วยยาง อ.ทับสะแก จ.ประจวบคีรีขันธ์ เป็นต้น โดยมีทีมวิทยากรผู้เชี่ยวชาญด้านสาขาอาชีพต่างๆ อาทิ เช่น ด้านการเกษตร ด้านปศุสัตว์ และด้านแปรรูปผลผลิต
นางสมจิตร ชัยจักร อายุ 65 ปี เกษตรกรผู้ปลูกมะพร้าว และเลี้ยงโคขุน ในพื้นที่หมู่ 1 บ้านห้วยลึก ต.นาหูกวาง อ.ทับสะแก เปิดเผยว่า ตนและครอบครัวมีอาชีพปลูกมะพร้าวจำนวน 6 ไร่ ได้นำโฉนดที่ดินไปกู้เงินกับ ธ.ก.ส. จำนวน 240,000 บาท เพื่อนำเงินมาซื้อวัวมาเลี้ยง จำนวน 8 ตัว เป็นรายได้เสริม ต่อมาผ่อนจ่ายไม่ไหว เนื่องจากประสบปัญหาทางด้านการเงิน ขาดทุน และปัญหาทางภัยพิบัติธรรมชาติ ทำให้ไม่สามารถผ่อนจ่ายกับ ธ.ก.ส.ได้มานานกว่า 10 ปี จึงสมัครเป็นสมาชิกกับกองทุนเพื่อให้ช่วยเหลือ โดยการผ่อนจ่ายกับกองทุนฟื้นฟูในอัตราดอกเบี้ย 0% ซึ่งปัจจุบันได้ผ่อนจ่ายจนครบหมดแล้ว และได้โฉนดคืนแล้ว วันนี้ตนรู้สึกดีใจมากและขอบคุณที่กองทุนได้เข้ามาให้ความช่วยเหลือกับเกษตรกรให้สามารถลืมตาอ้าปากได้
นายสุรชัย เบ้าจรรยา ประธานกรรมการบริหารฯ กล่าวว่า กองทุนฟื้นฟูฯ มีภารกิจสำคัญที่ช่วยเหลือเกษตรกร 2 ด้าน คือ ด้านการจัดการหนี้และการฟื้นฟู ในส่วนของการฟื้นฟูและพัฒนาอาชีพเกษตรกร ให้เกษตรกรรวมกลุ่มยื่นเสนอแผนและโครงการของบประมาณ เพื่อใช้พัฒนาอาชีพทางการเกษตร และการแก้ไขปัญหาหนี้ให้พี่น้องเกษตรกรสมาชิก ซึ่งเป็นการยกระดับชีวิตของเกษตรกรให้ดีขึ้น ทั้งนี้ยืนยันว่าสำนักงานกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร พร้อมให้การสนับสนุนอย่างเต็มที่ในการช่วยเหลือพี่น้องเกษตรกรสมาชิก.
เอกภพ วงษ์ประเสริฐ….รายงาน