พบซากกระทิงนอนขึ้นอืดในไร่สับปะรด คาดสู้กันเองจนเสียชีวิต
วันที่ 28 ตุลาคม 2567 นายสมเจตน์ จันทนา ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 3 (สบอ.3) สาขาเพชรบุรี ได้รับรายงานจาก นายอรรถพงษ์ เภาอ่อน หัวหน้าอุทยานแห่งชาติกุยบุรี ว่ามีชาวไร่พบวัวกระทิงนอนตายขึ้นอืดอยู่บริเวณท้ายไร่สับปะรด ซึ่งเป็นพื้นที่ปลอดภัยทางทหาร บริเวณพิกัดที่ 47 P 0574000 E 1365344 N ท้องที่หมู่ 5 ต.เขาจ้าว อ.ปราณบุรี จ.ประจวบฯ อยู่นอกเขตอุทยานฯ ประมาณ 5 กิโลเมตร จึงนำกำลังไปตรวจสอบพบว่าเป็นวัวกระทิงเพศเมียขนาดใหญ่ นอนตายในสภาพตะแคงขวา ขึ้นอืดส่งกลิ่นเหม็นคละคลุ้งมีแมลงวันตอมอยู่ทั่ว อุจจาระจุกก้น ตามลำตัวพบร่องรอยคล้ายบาดแผลตกสะเก็ดทั่วร่างกาย คาดว่าเสียชีวิตมาแล้วประมาณ 5 วัน จึงให้เจ้าหน้าที่ฯ เฝ้ารักษาซากวัวกระทิงตัวดังกล่าวไว้ ก่อนจะประสานสัตว์แพทย์เข้าตรวจสอบ
ต่อมา นายนพพร อัคคมณี นักวิชาการป่าไม้ปฏิบัติการ ทำหน้าที่ผู้ช่วยหัวหน้าอุทยานแห่งชาติกุยบุรี พร้อมด้วยนายอนุรักษ์ สกุลพงษ์ นายสัตวแพทย์ ประจำสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 3 สาขาเพชรบุรี และเจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้องร่วมกันตรวจสอบ พบว่าเป็นกระทิงเพศเมียโตเต็มวัย อายุประมาณ 15 – 20 ปี น้ำหนักประมาณ 800 – 1,000 กิโลกรัม สภาพร่างกายภายนอกอยู่ครบสมบูรณ์ ไม่มีร่องรอยบาดแผลใดๆ มีรอยโรคลักษณะคล้ายหูด (Wart) ก่อนทำการสแกนตรวจหาชิ้นส่วนโลหะ ไม่พบวัตถุอื่นใดในซากกระทิง จากการผ่าพิสูจน์ซากพบภายในบริเวณหน้าอกไปจนถึงบริเวณสะโพก มีลักษณะช้ำและมีเลือดคลั่ง สัตวแพทย์วินิจฉัยการตายคาดว่าอาจเกิดจากการถูกทำร้ายระหว่างกระทิงด้วยกันได้รับบาดเจ็บจนเสียชีวิต เนื่องด้วยระยะห่างของรอยช้ำ มีขนาดความกว้างใกล้เคียงกับเขาของกระทิงตัวผู้ และเห็นควรทำลายซากด้วยวิธีฝังกลบซากในพื้นที่เพื่อไม่ให้เกิดการแพร่กระจายของเชื้อสู่สัตว์ป่าตัวอื่นๆ สำหรับในส่วนหัวของซากกระทิง เจ้าหน้าที่ได้ดำเนินการนำมาเก็บรักษาไว้ที่อุทยานฯ พร้อมมอบหมายให้นายนพพร อัคคมณี ผู้ช่วยหัวหน้าอุทยานแห่งชาติกุยบุรี เป็นผู้ลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐานที่ สภ.ปราณบุรี ต่อไป.