ประจวบฯ จัดพิธีทำบุญถวายพระพรชัยมงคลในวันคล้ายวันประสูติ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภาฯ
วันที่ 7 ธันวาคม 2567 นายสิทธิชัย สวัสดิ์แสน รองผู้ว่าราชการจังหวัด รักษาราชการแทนผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบฯ เป็นประธานในพิธีถวายพระพรชัยมงคลและพิธีทำบุญตักบาตรถวายพระราชกุศลเนื่องในวันคล้ายวันประสูติสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา นเรนทิราเทพยวดี กรมหลวงราชสาริณีสิริพัชร มหาวัชรราชธิดา 7 ธันวาคม 2567 ที่ลานพิธีอเนกประสงค์ หน้าศาลากลางจังหวัดประจวบฯ (หลังเก่า) โดยมีนายกิตติพงศ์ สุขภาคกุล, นายสินาทร โอ่เอี่ยม, นายประทีป บริบูรณ์รัตน์ รองผู้ว่าราชการจังหวัด ศาล ทหาร ตำรวจ เหล่ากาชาดจังหวัดประจวบฯ หัวหน้าส่วนราชการ ข้าราชการทุกหมู่เหล่า และประชาชนชาวจังหวัดประจวบฯ เข้าร่วมพิธี ร่วมกันแสดงความจงรักภักดีและสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณอันหาที่สุดมิได้
โอกาสนี้ นายสิทธิชัย สวัสดิ์แสน รองผู้ว่าราชการจังหวัด ประธานในพิธีนำทุกภาคส่วน กล่าวถวายพระพรเบื้องหน้าพระฉายาลักษณ์ สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา นเรนทิราเทพยวดี กรมหลวงราชสาริณีสิริพัชร มหาวัชรราชธิดา และร่วมพิธีทำบุญตักบาตรข้าวสารอาหารแห้งถวายพระราชกุศล โดยได้รับเมตตาจากพระเทพวชิรสุธี เจ้าอาวาสวัดธรรมิการามวรวิหาร เจ้าคณะจังหวัดประจวบฯ (ธรรมยุต) ประธานสงฆ์ นำพระภิกษุสงฆ์และสามเณร จำนวน 47 รูป เดินรับบิณฑบาต เป็นอันเสร็จพิธี
สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา นเรนทิราเทพยวดี กรมหลวงราชสาริณีสิริพัชร มหาวัชรราชธิดา ทรงอุทิศพระองค์ปฏิบัติพระกรณียกิจนานัปการ ด้วยพระวิริยะ อุตสาหะเพื่อบำบัดทุกข์ บำรุงสุขแก่พสกนิกรชาวไทย โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การให้ความช่วยเหลือฟื้นฟูคุณภาพชีวิตผู้ตกทุกข์ได้ยาก ผู้ด้อยโอกาสทางสังคม รวมถึงผู้ต้องขัง โดยได้น้อมนำพระบรมราโชบายของ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เป็นแนวทางในการดำเนินงานโครงการราชทัณฑ์ปันสุข ด้วยการประสานความร่วมมือระหว่างกระทระทรวงสาธารณสุขและกระทรวงยุติธรรมเพื่อให้ผู้ต้องขังได้รับบริการทางการแพทย์ และสาธารณสุขเท่าเทียมกับประชาชนทั่วไปตามหลักมนุษยธรรม อีกทั้งทรงรับเป็นประธานกรรมการมูลนิธิอาสาเพื่อนพึ่ง (ภา) ยามยาก สภากาชาดไทย เพื่อให้ความช่วยเหลือบรรเทาทุกข์ ผู้ได้รับผลกระทบจากอุทกภัย ภัยพิบัติที่รุนแรงให้สามารถกลับมาดำรงชีวิตอย่างปกติสุข สนับสนุนให้ผู้ทุกข์ยากน้อยกว่าช่วยเหลือผู้ทุกข์ยากมากกว่า ผู้ที่แข็งแรงช่วยผู้อ่อนแอภายใต้แนวคิด “แบ่งปัน พอเพียง ยั่งยืน”.