
วุฒิสภาแถลง กรณีดีเอสไอรับเรื่องให้สอบสวนการได้มาซึ่ง สว. ปี 2567 เป็นคดีพิเศษ
เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 21 กุมภาพันธ์ 2568 นายมงคล สุระสัจจะ ประธานวุฒิสภา พร้อมด้วยพลเอก เกรียงไกร ศรีรักษ์ รองประธานวุฒิสภา คนที่ 1 และสมาชิกวุฒิสภา หรือ สว. ร่วมแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนที่อาคารรับรอง 2 โรงแรมสวนสนประดิพัทธ์ อ.หัวหิน จ.ประจวบฯกรณีกรมสอบสวนคดีพิเศษหรือดีเอสไอ รับเรื่องจากกลุ่มตัวแทน สว.สำรอง และผู้สมัครรับเลือก สว.จำนวนกว่า 40 คน กรณีขอให้สอบสวนการได้มาซึ่ง สว.ปี 2567 เป็นคดีพิเศษ เพราะเชื่อว่าเป็นไปโดยมิชอบด้วยกฎหมาย โดยนายมงคล สุระสัจจะ ประธานวุฒิสภา ระบุว่าอำนาจในการตรวจสอบการเลือก สว. เป็นของคณะกรรมการเลือกตั้ง หรือ กกต. ซึ่งเป็นองค์กรอิสระ สว.ชุดนี้เมื่อได้รับการรับรองจาก กกต.ให้เข้ามาปฏิบัติหน้าที่ ก็ทำหน้าที่อย่างตรงไปตรงมา ให้ความร่วมมือกับ กกต.มาโดยตลอด ในการส่งข้อมูลตามที่ได้รับการร้องขอ ยืนยันว่า สว.ที่ได้รับเลือกเข้ามาอย่างถูกต้องตามรัฐธรรมนูญ ไม่ได้ฝักใฝ่หรือเกี่ยวข้องกับผู้หนึ่งผู้ใด การที่หน่วยงานที่ไม่มีอำนาจหน้าที่ในการตรวจสอบออกมาให้ข่าว อาจสร้างความเสียหาย และถือว่าเป็นหน้าที่ ที่ สว.ต้องออกมาปกป้องสิทธิ ปกป้องศักดิ์ศรี เชื่อว่าการยื่นเรื่องให้ตรวจสอบครั้งนี้ มีกลุ่มขบวนการที่ต้องการให้เข้าสู่วังวนวิกฤตรัฐธรรมนูญอีกครั้ง
ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 10 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา กลุ่ม สว.สำรอง และตัวแทนผู้สมัครรับเลือก สว.จำนวนกว่า 40 คน นำโดยพลตำรวจโท คำรบ ปัญญาแก้ว อดีตผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้เข้ายื่นหนังสือต่ออธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ ขอให้สอบสวนการได้มาซึ่ง สว.ปี 2567 เป็นคดีพิเศษ เพราะเชื่อว่าเป็นไปโดยมิชอบด้วยกฎหมาย ซึ่งแต่เดิมกรมสอบสวนคดีพิเศษได้รับการร้องขอให้ดำเนินการสืบสวนสอบสวนการได้มาซึ่ง สว.ไว้ดำเนินการแล้ว และได้รับการร้องเรียนเพิ่มเติมในความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 116 ซึ่งในการร้องขอครั้งก่อนหน้า กรมสอบสวนคดีพิเศษได้ทำการสืบสวนกรณีดังกล่าวตั้งแต่ได้รับการร้องเรียนในเดือนกรกฎาคม 2567 โดยมีการออกเลขสืบสวนที่ 151/2567 ทำการแสวงหาข้อเท็จจริงและหลักฐานเบื้องต้น และได้แจ้งเรื่องไปยังสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เพื่อพิจารณาว่าจะรับเรื่องไปดำเนินการหรือจะมอบหมายให้กรมสอบสวนคดีพิเศษดำเนินการ ซึ่งตามกฎหมายให้อำนาจหน้าที่ กกต.เป็นหน่วยงานหลักในการดำเนินคดีที่เกี่ยวกับการเลือกตั้ง โดยที่ผ่านมา กกต.ได้ตั้งคณะร่วมทำการสืบสวนในกรณีนี้ด้วยหลายหน่วยงาน เช่น กรมสอบสวนคดีพิเศษ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ปปง. ต่อมาเมื่อวันที่ 24 มกราคม 2568 กกต.ได้มีหนังสือสอบถามว่ากรมสอบสวนคดีพิเศษมีการรับเรื่องไว้จำนวนเท่าไร มีผลการดำเนินการเป็นเช่นไร กรมสอบสวนคดีพิเศษได้แจ้งผลการดำเนินงานไปยัง กกต.เมื่อวันที่ 3 กุมภาพันธ์ 2568 พร้อมสอบถามความคืบหน้าว่าจะให้กรมสอบสวนคดีพิเศษดำเนินการอย่างไร ขณะนี้อยู่ระหว่างการรอผลการพิจารณาของ กกต.