
มอบตัวแล้วเก๋งปืนโหด หลังซัลโวกระสุน 11 มม. ใส่คนขับรถบรรทุกพ่วงสาหัส
วันที่ 27 เมษายน 2568 ความคืบหน้ากรณีคนขับรถเก๋งโตโยต้า วีออส สีบรอนซ์เงิน ทะเบียนประจวบคีรีขันธ์ ใช้อาวุธปืนขนาด 11 มม. ยิงใส่คนขับรถบรรทุกพ่วง เข้าที่บริเวณชายโครง 1 นัด จนต้องหามตัวส่งโรงพยาบาลประจวบคีรีขันธ์ เหตุเกิดเมื่อช่วงเวลาประมาณ 03.00 น. ของวันที่ 27 เมษายนที่ผ่านมา บริเวณถนนเพชรเกษม ฝั่งขาล่องใต้ หลักกิโลเมตรที่ 315 + 600 หมู่ 8 บ้านนาทอง ต.คลองวาฬ อ.เมืองประจวบคีรีขันธ์
คืบหน้าล่าสุด เวลา 18.00 น. คนขับรถเก๋งคันดังกล่าวได้ประสานตำรวจขอเข้ามอบตัว พร้อมรถเก๋งคันที่ก่อเหตุ ทะเบียน กข 5526 ประจวบฯ เพื่อสู้คดีที่โรงพัก สภ.คลองวาฬ ซึ่งเป็นพื้นที่เกิดเหตุ หลังจากที่เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.คลองวาฬ และชุดสืบสวนภูธรจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ร่วมกันแกะรอยจากภาพกล้องวงจรปิดตามเส้นทางและตรวจลายนิ้วมือแฝงจากปลอกกระสุนที่ตกอยู่ในที่เกิดเหตุ จนทราบตัวผู้ก่อเหตุและประสานตำรวจท้องที่ช่วยกดดันอย่างหนัก ทราบชื่อต่อมาคือนายชูฤทธิ์ (สงวนนามสกุล) อายุ 45 ปี มีอาชีพเป็นครูสอนวิชาพลศึกษา ที่โรงเรียนสอนศาสนาแห่งหนึ่งในอำเภอทับสะแก จ.ประจวบฯ เบื้องต้น พ.ต.ท.พนม หงส์ทอง สารวัตรหัวหน้างานสอบสวน สภ.คลองวาฬ เจ้าของคดีได้แจ้ง 3 ข้อหาหนัก 1. พกพาอาวุธปืนไปในเมืองหมู่บ้านหรือทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต 2. ยิงปืนในที่สาธารณะโดยไม่รับอนุญาต และ 3. พยายามฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา ซึ่งคดีนี้ผู้ต้องหาได้ติดต่อขอเข้ามอบตัวด้วยตนเอง ไม่มีพฤติกรรมในการหลบหนี จึงมีสิทธิ์ที่จะสามารถใช้สิทธิ์ในการประกันตัวชั้นตำรวจได้
ก่อนหน้าผู้ต้องหาเข้ามาอบตัว เวลาประมาณ 17.00 น. พ.ต.ท.พนม หงษ์ทอง สารวัตรสอบสวน สภ.คลองวาฬ ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบที่เกิดเหตุอย่างละเอียดอีกครั้ง พบปลอกกระสุนปืนเพิ่มเติมในจุดบริเวณที่เกิดเหตุอีก 1 ปลอก จึงเก็บเป็นหลักฐานรวมปลอกกระสุน 11 มม.ทั้งหมด 6 ปลอก หัวกระสุนปืนตะกั่ว 1 เม็ด
ทั้งนี้ กล้องวงจรปิดที่แผงขายพวงมาลัยริมทาง ซึ่งอยู่ใกล้กับจุดเกิดเหตุ ยังสามารถบันทึกเสียงปืนขณะเกิดเหตุได้จำนวน 7 นัด ตั้งแต่เวลา 02.54 น. เป็นต้นไป และภาพจากกล้องวงจรปิดของบ้านเรือนประชาชนที่อยู่ใกล้เคียง สามารถบันทึกภาพเหตุการณ์ขณะรถบรรทุกพ่วงจอดเรียงแถวบริเวณริมทาง และมีคนขับเดินลงจากรถไปทางท้ายรถ ซึ่งคาดว่าเป็นจุดที่รถเก๋งจอดอยู่เอาไว้ได้
ด้าน พ.ต.ท.พนม หงษ์ทอง สารวัตรสอบสวน สภ.คลองวาฬ เจ้าของคดี เปิดเผยว่า หลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายสืบสวน และฝ่ายสอบสวน ทั้งในส่วนของ สภ.คลองวาฬ และภูธรจังหวัด ได้ร่วมกันเก็บหลักฐานและแกะรอยจากวัตถุพยานต่างๆ เพื่อหาตัวผู้ก่อเหตุ ระหว่างนั้นมีข่าวเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นผ่านสื่อมวลชนต่างๆ ผู้ก่อเหตุเห็นข่าวจึงได้ประสานขอเข้ามอบตัว เจ้าหน้าที่ตำรวจขอขอบคุณสื่อมวลชนทุกแขนงที่ช่วยนำเสนอข่าว ทำให้การทำงานของตำรวจสามารถได้ตัวผู้ก่อเหตุได้ง่ายขึ้นใช้เวลาไม่ถึง 1 วัน หลังจากนี้จะรวบรวมพยานหลักฐาน ส่งดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป.
เอกภพ วงษ์ประเสริฐ…..รายงาน