ลุงวัย 64 รับจ้างเฝ้าไร่สับปะรด โดนกระทิงขวิดเข้าหน้าอกทะลุปอด อาการสาหัส

เช้าวันที่ 2 กันยายน 2568 นายอรุณชัย สมมิตร ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ 6 ต.หาดขาม อ.กุยบุรี จ.ประจวบฯ รับแจ้งจากชาวบ้านว่ามีคนถูกกระทิงป่าขวิดได้รับบาดเจ็บสาหัส ในไร่สับปะรด บริเวณหุบตาเวียน หมู่ 6 ต.หาดขาม จึงประสานมูลนิธิหลวงพ่อในกุฏิ วัดกุยบุรี นำรถพยาบาลให้การช่วยเหลือ

เมื่อไปถึง พบว่าชาวบ้านนำคนเจ็บออกจากที่เกิดเหตุและนำส่งโรงพยาบาลกุยบุรี ทราบชื่อคนเจ็บว่านายสมพงษ์ สะอาดลออ อายุ 64 ปี ชาวบ้านรวมไทย หมู่ 7 ต.หาดขาม อ.กุยบุรี ได้รับบาดเจ็บถูกเขากระทิงทิ่มใต้ราวนมขวาเป็นรูขนาดใหญ่ ประมาณ 10 ซม. หรือขนาดเท่ากำปั้นของเด็กวัยรุ่น ปอดฉีก แพทย์ได้ทำการปฐมพยาบาลเบื้องต้น พร้อมทั้งใส่เครื่องช่วยหายใจและนำส่งต่อโรงพยาบาลประจวบคีรีขันธ์

จากการสอบถาม นางสมพร หรือป้ารวย คีรีนิล เจ้าของบ้านระเบียงดาวและเป็นผู้ที่ถ่ายคลิปขณะไปพบคนเจ็บนอนอยู่และให้การช่วยเหลือ ซึ่งอยู่ไม่ห่างจากจุดที่พบนายสมพงษ์นอนอยู่กับพื้น หลังถูกกระทิงทำร้ายมา เล่าว่า ตนกับสามีกำลังเตรียมนำถังน้ำขนาด 1,000 ลิตร ใส่ในกระบะรถเพื่อไปฉีดยามะม่วง ขณะนั้นมีคนงานที่รับจ้างปลูกหน่อสับปะรด มาบอกว่ามีคนถูกกระทิงทำร้ายได้รับบาดเจ็บอาการหนัก นอนอยู่ในไร่สับปะรด ขอให้ช่วยติดต่อกู้ภัยด้วย ตนจึงได้ติดต่อกู้ภัย แล้วนำรถกระบะของตนไปยังที่เกิดเหตุ พบนายสมพงษ์ผู้บาดเจ็บนอนอยู่กับพื้น มือกุมอยู่ที่หน้าอกขวา มีเหลือดไหลออกมาไม่หยุด ตนจึงให้คนช่วยยกถังน้ำออกจากกระบะ และนำคนเจ็บขึ้นรถเพื่อไปส่งที่รถของกู้ภัยระหว่างทาง เพื่อนำส่งโรงพยาบาลได้เร็วขึ้น

ป้ารวย เล่าต่อว่า พื้นที่ ที่ตนอยู่นี้ มีชาวบ้านที่ต้องมาเฝ้าไร่เพื่อป้องกันการรบกวนจากช้างป่าและกระทิง จำนวนหลายหลังคาเรือน แต่ที่ประสบปัญหานอกจากการถูกรบกวนจากสัตว์ป่าแล้ว ยังมีปัญหาจากการไม่มีสัญญาณโทรศัพท์มือถือใช้ ทำให้เวลามีเหตุฉุกเฉินแต่ละครั้ง ต้องขับรถออกไปหาสัญญาณหลายกิโลเมตร อย่างเช่นครั้งนี้ หากไม่มีชาวไร่ผ่านมาพบเข้า ผู้บาดเจ็บอาจจะเสียชีวิตก่อนก็เป็นได้ เพราะไม่สามารถใช้โทรศัพท์ติดต่อใครได้ จึงอยากวิงวอนไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ช่วยดูแลปัญหาของชาวบ้าน นอกจากการถูกรบกวนจากสัตว์ป่าแล้ว อยากให้จัดหาเครือข่ายสัญญาณโทรศัพท์มาให้ชาวบ้านด้วย

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ชาวบ้านกุยบุรี ได้รับความเดือดร้อนจากช้างป่าเข้าบุกรุกทำลายพืชผลมานานมาก ชาวบ้านต้องอดนอนเฝ้าไร่ตอนกลางคืน อดหลับอดนอนจนหลายคนสุขภาพไม่ดีเพราะนอนพักผ่อนไม่เพียงพอ และในช่วงนี้ยังมีภัยจากกระทิงป่า ที่นับวันจะดุร้ายไม่เกรงกลัวคนเหมือนเมื่อก่อน เคยมีชาวบ้านถูกทำร้ายมาหลายครั้ง แต่ยังไม่ถึงกับเสียชีวิต นับว่าครั้งนี้รุนแรงที่สุด ชาวบ้านได้แต่ช่วยเหลือตัวเองไปพลางๆ เท่านั้น.

พันธุ์พงษ์ โพธิ์จินดา…..รายงาน