
ผู้ว่าฯ ประจวบฯ เยี่ยมศูนย์ปฏิบัติการ “คนละครึ่งพลัส” มีร้านค้าลงทะเบียนเข้าร่วมกว่า 2,000 ราย
วันที่ 17 ตุลาคม 2568 นายสิทธิชัย สวัสดิ์แสน ผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบฯ ตรวจเยี่ยมศูนย์ปฏิบัติการคนละครึ่งพลัส ประจวบคีรีขันธ์ ที่ห้องประชุมบางนางรม ชั้น 2 ศาลากลางจังหวัด ภายหลังมอบหมายให้ นายปรีดา สุขใจ รองผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบฯ เป็นผู้อำนวยการศูนย์ เพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่ผู้ประกอบการและประชาชนที่มีความประสงค์เข้าร่วม “คนละครึ่งพลัส” ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 7 ตุลาคม 2668 ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายสำคัญของรัฐบาลที่จะสร้างร้ายได้ ลดรายจ่ายให้กับประชาชนในการใช้ชีวิตประจำวัน และเพื่อให้มีกำลังใจในการจับจ่ายใช้สอยมากยิ่งขึ้น โดยศูนย์ปฏิบัติการฯ เริ่มให้บริการตั้งแต่วันที่ 15 – 31 ตุลาคม เวลา 08.30 – 16.30 น. (เว้นวันหยุดราชการ) ที่ห้องบางนางรม ชั้น 2 ศาลากลางหลังเก่า จ.ประจวบฯ
นายสิทธิชัย สวัสดิ์แสน กล่าวว่า จังหวัดประจวบฯ ได้มอบหมายให้แต่ละอำเภอในพื้นที่ จัดตั้ง “ศูนย์ให้บริการ One Stop Service คนละครึ่งพลัส” เป็นศูนย์ย่อยให้บริการประชาชนกระจายครอบคลุมทุกอำเภอในจังหวัด และมีศูนย์กลางให้บริการ ประจำการที่ศาลากลางจังหวัด เปิดให้บริการและสนับสนุนช่วยเหลือปัญหาอุปสรรคต่างๆ ในการเข้าร่วมโครงการคนละครึ่งพลัส เพื่อให้ประชาชนในจังหวัดไม่พลาดสิทธิในการเข้าร่วมโครงการ โดยมีเจ้าหน้าที่คอยอำนวยความสะดวกให้ รวมถึงประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนได้รับทราบโอกาสในการใช้สิทธิตามเงื่อนไขของโครงการ สำหรับร้านค้าได้เริ่มเปิดลงทะเบียนให้สมัครเข้าร่วมโครงการ ตั้งแต่วันที่ 15 ต.ค. – 19 ธ.ค. จนถึงขณะนี้มีผู้ประกอบการร้านค้าลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการแล้วมากกว่า 2,000 ราย
“ในส่วนของประชาชนจะเปิดให้ผู้ที่อายุ 16 ปีขึ้นไป ลงทะเบียนผ่านแอปฯ “เป๋าตัง” ตั้งแต่วันที่ 20 – 26 ตุลาคม เวลา 06.00 – 22.00 น. และใช้สิทธิได้ในวันที่ 29 ต.ค. – 31 ธ.ค.ใน68 ด้านสิทธิประโยชน์ของประชาชนที่สมัครเข้าร่วมโครงการฯ ภาครัฐจะช่วยจ่าย 50% ของค่าสินค้าและบริการ มีวงเงินสูงสุด 200 บาทต่อคนต่อวัน โดยผู้ที่ยื่นแบบภาษีจะได้รับวงเงินรวม 2,400 บาท ผู้ที่ไม่ยื่นแบบภาษีจะได้รับวงเงินรวม 2,000 บาท เริ่มใช้จ่ายได้ตั้งแต่วันที่ 29 ต.ค. – 31 ธ.ค.68 เวลา 06.00 – 23.00 น. สำหรับผู้ที่เคยได้รับสิทธิในเฟส 5 ไม่ต้องลงทะเบียนใหม่ แต่ต้องอัปเดตแอปพลิเคชัน “เป๋าตัง” และกดเข้าร่วมโครงการได้เลย” นายสิทธิชัย กล่าวตอนท้าย.