
ชาวบ้านร้องให้ตรวจสอบผู้ประกอบการซื้อแมงกะพรุน สร้างฝืนประชาพิจารณ์และส่งกลิ่นเหม็น
วันที่ 21 ตุลาคม 2568 เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองจังหวัด ร่วมกับกรมเจ้าท่า สำนักงานประมงอำเภอเมืองประจวบฯ สำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดประจวบฯ, สาธารณสุขอำเภอเมืองฯ, อบต.บ่อนอก รวมถึงฝ่ายปกครองอำเภอเมืองและผู้ใหญ่บ้าน หมู่ 1 บ้านปากคลองเกลียว ต.บ่อนอก อ.เมือง จ.ประจวบฯ ลงพื้นที่ร่วมกันตรวจสอบผู้ประกอบการรับซื้อแมงกะพรุนในพื้นที่ ข้างวัดปากคลองเกลียว อ.เมือง จ.ประจวบฯ โดยมีชาวบ้านจำนวนหนึ่งมาร่วมตรวจสอบด้วย
สถานที่ดังกล่าว เป็นเพิงพักอยู่ริมคลองกุยบุรี บริเวณปากคลองเชื่อมต่อกับทะเลอ่าวไทย ริมคลองมีการใช้ไม้ไผ่ทำเป็นโครง ขึงด้วยผ้าใบ ใส่น้ำดองแมงกะพรุนเอาไว้ มีคนงานจำนวนหนึ่งกำลังคัดแมงกะพรุนขึ้นจากเรือที่นำมาส่ง และบางส่วนก็ปล่อยน้ำเสียไหลมาบนพื้นจนมีกลิ่นเหม็นคาวรุนแรง ทำให้เจ้าหน้าที่และชาวบ้านบางคนทนไม่ไหว ถึงกับต้องหาหน้ากากอนามัยมาใส่ป้องกันกลิ่น
เจ้าหน้าที่จึงเข้าพบเจ้าของกิจการ ชื่อนางวิไล สาหลัง อายุ 56 ปี ซึ่งทราบว่าเมื่อประมาณ 1 สัปดาห์ที่ผ่านมา นางวิไลได้เข้าร่วมกันทำประชาพิจารณ์กับชาวบ้าน เรื่องการใช้สถานที่แห่งนี้รับซื้อแมงกะพรุน แต่ที่ประชุมไม่เห็นด้วย ไม่ยินยอมให้สร้าง แต่นางวิไลกลับมาสร้างโดยไม่ฟังมติของชาวบ้านแต่อย่างใด เจ้าหน้าที่จึงแจ้งให้นางวิไลหยุดดำเนินกิจการทั้งหมด และให้นำแมงกระพรุนทั้งหมดออกจากพื้นที่ จากนั้นให้ทำตามขั้นตอนของกฎหมาย เริ่มตั้งแต่ขออนุญาตประกอบกิจการจากองค์การบริการส่วนตำบล เจ้าของพื้นที่เสียก่อน และต้องได้รับอนุญาตเท่านั้นจึงจะเปิดกิจการได้ วันนี้ตรวจพบว่ามีการกระทำผิดแล้ว จึงให้นางวิไลไปเสียค่าปรับ และให้ย้ายแมงกะพรุนออกให้หมดภายใน 24 ชั่วโมง ซึ่งนางวิไลได้พยายามต่อรองกับผู้ใหญ่บ้านและชาวบ้าน ว่าขออยู่เพื่อทำการดองแมงกะพรุนอย่างน้อยอีก 3 วัน แต่ชาวบ้านไม่มีใครยินยอมด้วย
นายบุญชู จงรักษ์ นายก อบต.บ่อนอก กล่าวว่า ตนได้รับการร้องเรียนจากผู้ใหญ่บ้าน ว่ามีการสร้างโรงรับซื้อแมงกะพรุนโดยไม่ได้รับอนุญาต ทั้งๆ ที่มีการทำประชาพิจารณ์แล้วมีมติว่าไม่ให้สร้าง แต่ผู้ประกอบการยังเข้ามาสร้าง จนชาวบ้านต้องไปร้องเรียนดังกล่าว วันนี้จึงได้ประสานกับหลายหน่วยงานเข้ามาตรวจสอบ พบว่า เพียงแค่ 2 วัน ก็มีกลิ่นเหม็นรุนแรงขนาดนี้แล้ว จึงได้ให้นิติกรทำการบันทึกข้อตกลงกับนางวิไลว่า ให้เวลาจนถึงเที่ยงวันพรุ่งนี้ หรือ 24 ชั่วโมง ในการขนย้ายแมงกะพรุนออกจากพื้นที่
นางวิไล สาหลัง ผู้ประกอบการรับซื้อแมงกะพรุน กล่าวว่าทำอาชีพนี้มา 30 ปีแล้ว มีที่นี่ที่เดียว ที่เป็นแบบนี้ รู้สึกเสียใจที่เป็นคนนำเงินมาเข้าหมู่บ้าน ทำให้หมู่บ้านมีเงินสะพัดขึ้น ทำไมไม่ต้อนรับ แต่ฝั่งตรงข้ามทำไมถึงทำได้ 3 แพ ซึ่งในเรื่องนี้ เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองได้สอบถามไปยังฝ่ายปกครองอำเภอกุยบุรี ซึ่งเป็นเจ้าของพื้นที่ 3 แพ ที่นางวิไลกล่าวถึง และพื้นที่ดังกล่าวอยู่อีกฝั่งคลอง เป็นพื้นที่รับผิดชอบของ อบต.กุยเหนือ ซึ่งถูกระงับการรับซื้อไปก่อนหน้านี้ 1 สัปดาห์แล้ว.
พันธุ์พงษ์ โพธิ์จินดา…..รายงาน