
สถานพินิจฯ ประจวบฯ อบรมเด็กและเยาวชนตามโครงการ TO BE NUMBER ONE ป้องกันเป็นเหยื่อยาเสพติด
วันที่ 26 ธันวาคม 2568 นางลิษา อึ้งเห่ง ประธานคณะกรรมการสงเคราะห์เด็กและเยาวชน สำหรับสถานพินิจฯ จังหวัดประจวบฯ เป็นประธานเปิดโครงการพัฒนาศักยภาพเด็กและเยาวชน บุคลากร ด้านการดำเนินงาน TO BE NUMBER ONE ที่ห้องประชุมสถานพินิจฯ จ.ประจวบคีรีขันธ์ ซึ่งเป็นหน่วยงานในสังกัดกระทรวงยุติธรรม มี น.ส.จุไรวรรณ บุญฤทธิ์ ผู้อำนวยการสถานพินิจฯ จ.ประจวบฯ กล่าวรายงาน และมีนางจรี วัชรวงษ์ รองประธานกรรมการสงเคราะห์เด็กฯ นายธนะกิจ แทนคุณ เลขาฯ คณะกรรมการสงเคราะห์ฯ นางจีรสุภี เพชรคีรีสกุล, นางธัญพร ตูวิเชียร, นายบุญมา ลิบลับ กรรมการสงเคราะห์เด็กและเยาวชนฯ เจ้าหน้าที่สถานพินิจฯ เยาวชนและผู้ปกครอง เข้าร่วม ทั้งนี้ได้รับความร่วมมือจากคณะวิทยากร วิทยาลัยการอาชีพวังไกลกังวล ซึ่งเป็นต้นแบบการดำเนินงานชมรม TO BE NUMBER ONE ในสถานศึกษา ถ่ายทอดความรู้และประสบการณ์ เพื่อสร้างความเข้าใจเกี่ยวกับโทษของยาเสพติด เสริมสร้างภูมิคุ้มกันทางจิตใจ และพัฒนาศักยภาพเด็ก เยาวชน และบุคลากรอย่างรอบด้าน
นางลิษา อึ้งเห่ง ประธานคณะกรรมการสงเคราะห์ฯ กล่าวว่า การอบรมในครั้งนี้ เป็นโอกาสอันดีที่ทุกคนเล็งเห็นความสำคัญของการดำเนินงานโครงการ TO BE NUMBER ONE โดยการจัดกิจกรรมเสริมความรู้นันทนาการ และการสร้างความเข้าใจในเรื่องโทษของยาเสพติด ตลอดจนเป็นการรณรงค์ป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติด สร้างภูมิคุ้มกันทางจิตใจให้เด็กและเยาวชน และพัฒนาศักยภาพทั้งเด็กและเยาวชน เจ้าหน้าที่ สามารถพัฒนาความเข้มแข็งและดำเนินการภายใต้กิจกรรม TO BE NUMBER ON อย่างยั่งยืน เด็กและเยาวชนที่เข้ารับการอบรมในครั้งนี้ จะต้องไม่ยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติดทุกประเภท
น.ส.จุไรวรรณ บุญฤทธิ์ ผู้อำนวยการสถานพินิจฯ กล่าวว่า ปัจจุบันสถานการณ์การแพร่ระบาดของยาเสพติด ยังคงระดับความรุนแรงอย่างต่อเนื่อง รัฐบาลจึงกำหนดให้การป้องกันและแก้ไขยาเสพติด เป็นแนวนโยบายที่สำคัญและเร่งด่วนในการบริหารราชการแผ่นดิน โดยยึดหลักผู้เสพคือผู้ป่วยที่ต้องได้รับการบำบัดรักษา ผู้ค้า คือผู้ที่ต้องได้รับโทษ ตามกระบวนการยุติธรรม ซึ่งกำหนดให้เร่งรัดปราบปรามการค้ายาเสพติด และป้องกันไม่ให้กลุ่มเสี่ยงเข้าไปเป็นเหยื่อของยาเสพติด โดยใช้กระบวนการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วนในชุมชน และในสังคม ให้ร่วมดำเนินการในลักษณะบูรณาการ ควบคู่กับมาตรการทางกฎหมาย
ผู้อำนวยการสถานพินิจฯ กล่าวต่อว่า จากสถานการณ์การแพร่ระบาดดังกล่าว พบว่ามีเด็ก เยาวชน ประชาชนจำนวนไม่น้อยที่เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด ทั้งเกิดจากความตั้งใจและเกิดจากการหลงผิดโดยรู้เท่าไม่ถึงการณ์ อีกทั้งยังมีปัจจัยเสี่ยงต่างๆ ที่จะทำให้คนกลุ่มนี้ โดยเฉพาะเด็ก และเยาวชนมีโอกาสเข้าไปติดยาเสพติด จึงได้จัดทำโครงการดังกล่าวขึ้น โดยมีวัตถุประสงค์ ดังนี้ 1. เพื่อให้เด็ก เยาวชนและบุคลากร สถานพินิจฯ มีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับโทษของยาเสพติด 2. เพื่อเสริมสร้างภูมิคุ้มกันโดยจัดตั้งการดำเนินงานของชมรม TO BE NUMBER ONE แก่เด็ก เยาวชนและเจ้าหน้าที่สถานพินิจฯ 3. เพื่อสร้างความร่วมมือในการร่วมกันดำเนินงาน ภายใต้โครงการรณรงค์ป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติด TO BE NUMBER ONE ต่อต้านยาเสพติด
ทั้งนี้ ชมรม TO BE NUMBER ONE สถานพินิจฯ จ.ประจวบฯ ได้ขับเคลื่อนการดำเนินงานโครงการรณรงค์ป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติด ในทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญาสิริวัฒนาพรรณวดี ภายใต้ 3 ยุทธศาสตร์หลักของโครงการ ได้แก่ ยุทธศาสตร์ที่ 1 รณรงค์ปลุกจิตสำนึกและสร้างกระแสนิยมที่เอื้อต่อการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติด ยุทธศาสตร์ที่ 2 การสร้างเสริมภูมิคุ้มกันทางจิตใจให้แก่เยาวชน และยุทธศาสตร์ที่ 3 การสร้างและพัฒนาเครือข่ายเพื่อการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดเสมอมา เพื่อบูรณาการความร่วมมือและขยายเครือข่ายในการขับเคลื่อนการดำเนินงานอย่างเข็มแข็ง
โดยมีเป้าหมายเพื่อส่งเสริม สนับสนุนและพัฒนาการดำเนินงาม ดังนี้
1. ร่วมพัฒนา แลกเปลี่ยน และสนับสนุนการดำเนินงานทั้งด้านบริหาร ด้านวิชาการ ด้านบุคลากร และด้านอื่นๆ ของชมรม TO BE NUMBER ONE ในหน่วยงานสังกัดยุติธรรม ให้เป็นเครือข่ายเดียวกันอย่างเข้มแข็ง
2. ส่งเสริมและสนับสนุนสมาชิกและเครือข่ายชมรม TO BE NUMBER ONE ให้มีโอกาสแลกเปลี่ยนเรียนรู้ในการทำงานซึ่งกันและกัน อันนำไปสู่การพัฒนาและขยายผลการดำเนินงานให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น
3. พัฒนาเครือข่ายการดำเนินงาน นวัตกรรมและองค์ความรู้ในการดำเนินงานโครงการรณรงค์ป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติด (TO BE NUMBER ONE).
บุญมา ลิบลับ…รายงาน