
ประจวบฯ เปิด“มหกรรมแก้หนี้ สร้างวิถีแห่งความเป็นธรรม” ครั้งที่ 22 มูลหนี้กว่า 76 ล้านบาท
วันที่ 1 กรกฎาคม 2567 นายยู่สิน จินตภากร ผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เป็นประธาเปิดงานมหกรรมแก้หนี้ สร้างวิถีแห่งความเป็นธรรม ครั้งที่ 22 ที่โรงแรมประจวบแกรนด์ อ.เมือง จ.ประจวบคีรีขันธ์ จัดโดยกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ กระทรวงยุติธรรม ร่วมกับสำนักงานยุติธรรมจังหวัดประจวบฯ มี น.ส.ดวงดาว เกียรติพิศาลสกุล รองอธิบดีกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ นายปรีดา สุขใจ ปลัดจังหวัดประจวบฯ นางระวีวรรณ หงส์ขจรโพธิ์ทอง ผู้พิพากษาหัวหน้าศาลจังหวัดประจวบฯ น.ส.กชวรรณ จันทร์เณร อัยการจังหวัด สำนักงานอัยการคุ้มครองสิทธิและช่วยเหลือทางกฎหมายและการบังคับคดีจังหวัด นายวสันต์ เภรีวิค ยุติธรรมจังหวัดประจวบฯ นายบรรพต รัตนจันทร์ ผู้บัญชาการเรือนจำจังหวัด หัวหน้าส่วนราชการ เจ้าหน้าที่หน่วยงานในสังกัดกระทรวงยุติธรรม ผู้แทนสถานีตำรวจ ภ.จ.ประจวบฯ ผู้แทนสถาบันการเงิน ผู้แทน กยศ. ผู้ไกล่เกลี่ยประจำศูนย์ไกล่เกลี่ยข้อพิพาทภาคประชาชน เครือข่ายอาสาสมัครคุ้มครองสิทธิฯ เครือข่ายยุติธรรมชุมชน ภาคีเครือข่ายทุกภาคส่วน คณะอาสาสมัครคุมประพฤติ และประชาชนผู้เป็นลูกหนี้สถาบันการเงินและลูกหนี้ กยศ. เข้าร่วมงานเป็นจำนวนมาก
พร้อมกันนี้ ผู้ช่วยรัฐมนตรีฯ ได้มอบป้ายศูนย์ไกล่เกลี่ยข้อพิพาทภาคประชาชน ประจำสถานีตำรวจภูธรฯ ทั้ง 8 แห่ง ประกอบด้วยศูนย์ไกล่เกลี่ยข้อพิพาทภาคประชาชน สภ.เมืองประจวบฯ, สภ.หัวหิน, สภ.ปราณบุรี, สภ.สามร้อยยอด, สภ.ทับสะแก, สภ.ธงชัย สภ.บางสะพาน และ สภ.บางสะพานน้อย และเดินเยี่ยมชมบูธนิทรรศการของแต่ละหน่วยงานในสังกัดกระทรวงยุติธรรมและหน่วยงานต่างๆ ที่มาร่วมจัดนิทรรศการสร้างการรับรู้ทางกฎหมาย และงานบริการประชาชนของหน่วยงาน อาทิ บูธนิทรรศการสำนักงานยุติธรรมจังหวัด สำนักงานบังคับคดีจังหวัด เรือนจำจังหวัด สำนักงานคุมประพฤติจังหวัด สถานพินิจเด็กและเยาวชนจังหวัด ศาลจังหวัด สำนักอัยการคุ้มครองสิทธิฯ คลังจังหวัด สำนักงาน ปปส.ภาค 7 ตลอดจนหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง พร้อมให้กำลังใจประชาชนที่เป็นลูกหนี้ที่พร้อมเข้าสู่กระบวนการไกล่เกลี่ยหนี้กับสถาบันการเงิน และกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.) ที่มาตั้งโต๊ะรอรับลงทะเบียนไกล่เกลี่ยหนี้ ท่ามกลางบรรยากาศที่อบอุ่นและสร้างความหวังให้กับลูกหนี้ที่เข้าร่วมงานในครั้งนี้
นายยู่สิน จินตภากร กล่าวว่า ตลอดระยะเวลากว่า 4 ปีที่ผ่านมา พี่น้องประชาชนทั่วประเทศได้รับความเดือดร้อนจากสถานการณ์โควิด – 19 บางคนตกงาน บางคนถูกลดเงินเดือน ซ้ำร้ายไปกว่านั้น สินค้าอุปโภคบริโภคมีราคาแพงขึ้น ราคาน้ำมันก็พุ่งสูงตามสภาวะของโลก จนทำให้เกิดหนี้สินเป็นจำนวนมาก บ้างก็ค้างค่างวดส่งสถาบันการเงิน บ้างก็ถูกยึดบ้านที่เป็นที่อยู่อาศัย รัฐบาลปัจจุบันจึงกำหนดกรอบในการแก้ไขปัญหาหนี้สินเป็นนโยบายสำคัญเร่งด่วน โดยกระทรวงยุติธรรมจะไม่นิ่งเฉย จะดำเนินการช่วยคลายหนี้ให้กับทุกคนเท่าที่จะทำได้ ทั้งนี้ กระทรวงยุติธรรมได้นำนโยบายจากนายกรัฐมนตรี ดำเนินการตามมาตรการแก้ไขปัญหาหนี้สิน ภายใต้ปรัชญาที่จะไม่ขัดต่อวินัยทางการเงิน และไม่ทำให้เกิดภาวะภัยทางจริยธรรม ของผู้มีภาระหนี้สิน โดยมีเป้าหมายสำคัญ คือ สร้างความตระหนักรู้ และเลือกใช้การไกล่เกลี่ยระงับข้อพิพาท ซึ่งต้องเกิดจากความสมัครใจ และเกิดความเป็นธรรมของทุกฝ่ายในการยุติข้อพิพาททางแพ่งและข้อพิพาททางอาญา ตามพระราชบัญญัติการไกล่เกลี่ยข้อพิพาท พ.ศ.2562 ประกอบด้วย การไกล่เกลี่ยหนี้สินก่อนฟ้อง ตามพระราชบัญญัติการไกล่เกลี่ยข้อพิพาทฯ และหลังศาลพิพากษา ตามระเบียบของกรมบังคับคดีว่าด้วยการไกล่เกลี่ยข้อพิพาท พ.ศ.2558 เพื่อให้ประชาชนที่เป็นหนี้ ลูกหนี้สินเชื่อส่วนบุคคล เช่าซื้อ ลิสซิ่ง ที่ผิดนัดชำระหนี้เข้าเกณฑ์ฟ้อง หรือไม่มีกำลังผ่อนชำระตามสัญญา เข้าถึงกระบวนการยุติธรรมด้วยการไกล่เกลี่ยข้อพิพาท
“นอกจากนี้ยังมีการให้ความรู้เพื่อสร้างวินัยทางการเงินให้แก่ประชาชน เป็นเกราะป้องกันปัญหาหนี้สินภาคครัวเรือนต่อไป โดยผู้เข้าร่วมงานจะได้รับประโยชน์ในกรณีก่อนฟ้อง คือ การผ่อนผันการชำระหนี้ ลดเบี้ยปรับ ลดดอกเบี้ย ลดค่างวดรายเดือน งดฟ้องดำเนินคดี และรับเงื่อนไขปลดผู้ค้ำประกัน สำหรับในส่วนของชั้นบังคับคดี หรือหลังคำพิพากษา ประโยชน์ที่จะได้รับ คือการขยายเวลาผ่อนชำระหนี้ ลดเบี้ยปรับ ลดจำนวนเงินผ่อนชำระหนี้ งดยึดทรัพย์ งดขายทอดตลาด ลูกหนี้จะไม่ถูกบังคับคดี และยังมีสิทธิประโยชน์อื่นๆ อีกมากมาย”
ด้าน น.ส.ดวงดาว เกียรติพิศาลสกุล รองอธิบดีกรมคุ้มครองสิทธิฯ กล่าวว่า สำหรับการจัดงานมหกรรมแก้หนี้ สร้างวิถีแห่งความเป็นธรรมในครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อให้ลูกหนี้กองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา หนี้เช่าซื้อรถยนต์ หนี้สินข้าราชการ หนี้บัตรเครดิต และสินเชื่อส่วนบุคคลที่ผิดนัดชำระหนี้เข้าเกณฑ์จะถูกฟ้องดำเนินคดี หรือไม่มีกำลังผ่อนชำระตามสัญญา ได้เข้าสู่กระบวนการไกล่เกลี่ยและรู้สิทธิตามกฎหมาย เข้าถึงความยุติธรรม รวมถึงสร้างการตระหนักรู้เกี่ยวกับการวางแผน และสร้างวินัยทางการเงินให้ประชาชน เป็นเกราะป้องกันปัญหาหนี้สินภาคครัวเรือน โดยลูกหนี้จะได้รับโปรโมชั่นนอกจากจะไม่ถูกฟ้องคดี ไม่ถูกยึดทรัพย์ ไม่ถูกขายทอดตลาดแล้ว ยังจะได้รับสิทธิพิเศษส่วนลดจบหนี้ ส่วนลดดอกเบี้ย ลดค่างวดและขยายระยะเวลาการผ่อนชำระ และสิทธิประโยชน์อีกมากมาย ให้คำปรึกษาทางกฎหมายหรือการเงินของหน่วยงาน และการให้บริการไกล่เกลี่ยข้อพิพาท ทั้งก่อนฟ้องและหลังศาลมีคำพิพากษา
“โดยมีภาคีเครือข่ายที่เข้าร่วมการไกล่เกลี่ยข้อพิพาท จำนวน 7 สถาบันการเงิน แยกเป็นก่อนฟ้อง 122 ราย หลังมีคำพิพากษา 83 ราย ทุนทรัพย์กว่า 76,388,704.44 บาท พร้อมมอบป้ายศูนย์ไกล่เกลี่ยภาคประชาชนสถานีตำรวจ เป็นการบูรณาการร่วมระหว่างกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพื่อขับเคลื่อนกระบวนการยุติธรรมทางเลือกให้แก่ประชาชนในทุกพื้นที่ เพื่อเป็นการอำนวยความยุติธรรมให้กับประชาชนอย่างทั่วถึง สะดวก รวดเร็ว และประหยัดค่าใช้จ่าย พร้อมเดินหน้าจัดงานมหกรรมแก้หนี้ สร้างวิถีแห่งความเป็นธรรมทั่วประเทศ เปิดโอกาสให้ลูกหนี้และเจ้าหนี้ได้เข้าสู่กระบวนการไกล่เกลี่ยและเข้าถึงกระบวนการยุติธรรม”.
บุญมา ลิบลับ….รายงาน