ม.ศิลปากร เปิดตัวหลักสูตรใหม่ “บริหารธุรกิจบัณฑิต สาขาการจัดการธุรกิจกีฬา นันทนาการ และเวลเนส” ตอบโจทย์อุตสาหกรรมสุขภาพ

วันที่ 14 พฤศจิกายน 2568 ผศ.ดร.ณัฎฐนา ลีฬหรัตนรักษ์ รองคณบดีฝ่ายจัดการศึกษา คณะวิทยาการจัดการ มหาวิทยาลัยศิลปากร เป็นประธานเปิดงาน “เปิดโลกธุรกิจกีฬาและเวลเนส (Inspire & Innovate : SRW Journey)” ที่โรงแรมฮอลิเดย์ อินน์ วานานาวา หัวหิน จ.ประจวบฯ มี ผศ.ดร.ธนกฤต สังข์เฉย หัวหน้าสาขาการจัดการท่องเที่ยว คณะวิทยาการจัดการ มหาวิทยาลัยศิลปากร / ประธานกรรมการร่างหลักสูตร พร้อมด้วยคณาจารย์ให้การต้อนรับ มีครูแนะแนวและนักเรียนในเขตภูมิภาคตะวันตกจากนครปฐม เพชรบุรี และประจวบฯ กว่า 50 คน เข้าร่วมรับฟัง ภายในงานมีการเสวนาหัวข้อ “จากแรงบันดาลใจ สู่มืออาชีพในธุรกิจกีฬา นันทนาการและเวลเนส” จาก วิว เยาวภา บุรพลชัย The Legend Arena, น.ส.พีรญา สกุลคง Club Manager Arena Hua Hin, น.ส.วัชรินทร์ คงทน HR Director, Chiva-Som International Health Resort ปิดท้ายด้วยกิจกรรม Workshop “นักจัดอีเวนต์กีฬารุ่นเยาว์” ศึกษาประสบการณ์จริงที่สวนน้ำวานานาวา วอเตอร์จังเกิ้ล เพื่อสร้างแรงบันดาลใจให้กับนักเรียนและครูแนะแนวที่เข้าร่วมงานในครั้งนี้

ผศ.ดร.ณัฎฐนา ลีฬหรัตนรักษ์ กล่าวว่า หลักสูตรใหม่ บริหารธุรกิจบัณฑิต (บธ.บ.) สาขาวิชาการจัดการธุรกิจกีฬา นันทนาการและเวลเนส เป็นหลักสูตรนวัตกรรมด้านธุรกิจบริการแห่งอนาคต มุ่งพัฒนาบัณฑิตให้มีความรู้ ทั้งด้านการบริหารจัดการ การกีฬา นันทนาการและเวลเนส สอดคล้องกับทิศทางการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมของประเทศ ในยุคเมกะเทรนด์สุขภาพ หลักสูตรบริหารธุรกิจบัณฑิต สาขาการจัดการธุรกิจกีฬา นันทนาการและเวลเนส มีจุดเด่นในการบูรณาการ 4 มิติของความรู้ ได้แก่ 1. การบริหารธุรกิจยุคใหม่ 2. การจัดการกีฬาและนันทนาการ 3. การบริการในธุรกิจเวลเนส โดยเน้นการเรียนรู้แบบ “Learning by Doing” และสร้างบัณฑิตที่มีความคิดสร้างสรรค์ เป็นผู้ประกอบการได้จริง รองรับความต้องการของอุตสาหกรรมสุขภาพ การกีฬาและการท่องเที่ยวเชิงเวลเนสที่เติบโตอย่างรวดเร็ว

ผศ.ดร.ณัฎฐนา กล่าวอีกว่า คณะวิทยาการจัดการของเรา มุ่งเน้นในเรื่องของการจัดการ บ่มเพาะความรู้ให้กับนักศึกษาในเรื่องของเชิงธุรกิจ แต่ว่าธุรกิจในส่วนของที่คณะวิทยาการจัดการดำเนินการมา ยังขาดประเด็นในส่วนที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจ นันทนาการ กีฬาและเวลเนส ปัจจุบันในส่วนที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจ ทั้งในส่วนของประเทศไทยและการกีฬาตอนนี้ คือ มีแต่คนสนใจรักสุขภาพเรื่องเวลเนสเป็นประเด็นที่มาแรงเช่นกัน ทำให้คณะวิทยาการจัดการเล็งเห็นว่าเราควรที่จะเป็นองค์กรหนึ่งในการพัฒนาบุคลากรให้กับประเทศไทย ให้นักศึกษามีความรู้ในเรื่องของเชิงธุรกิจ ทั้งด้านการกีฬา นันทนาการและเวลเนส นักศึกษาที่จบหลักสูตรนี้ไปแล้ว เขาจะไปต่อยอดในอาชีพได้ สามารถที่จะเป็นนักธุรกิจ หรือจัดกิจกรรมนักธุรกิจที่มุ่งเน้นในเรื่องของการจัดการด้านธุรกิจเกี่ยวกับกีฬาได้ หรือการจัดอีเว้นท์ที่เกี่ยวข้องกับการจัดการแข่งขันกีฬาได้เช่นกัน รวมไปถึงเรื่องของธุรกิจในการรักษาสุขภาพ ดูแลสุขภาพ ธุรกิจทางด้านเวลเนสต่างๆ

ผศ.ดร.ธนกฤต สังข์เฉย กล่าวว่า หลักสูตรนี้เกิดขึ้นจากความร่วมมือของมหาวิทยาลัยกับภาคธุรกิจจริง โดยเฉพาะอารีน่า หัวหิน ซึ่งเป็นพันธมิตรสำคัญในอุตสาหกรรมกีฬาและเวลเนสของประเทศ เพื่อผลิตบัณฑิตที่พร้อมทำงานจริงในโลกธุรกิจยุคใหม่ ที่เน้นคุณภาพชีวิตและการสร้างคุณค่าทางสังคมอย่างยั่งยืน หลักสูตรนี้เป็นหลักสูตรทางด้านบริหารธุรกิจ เพราะฉะนั้นวิชาแกนกลางของเรา ยังคงความเป็นบริหารธุรกิจอยู่ ครอบคลุมสาขาวิชาหรือวิชาทางด้านธุรกิจทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นทางด้านการเงินและการตลาด เรื่องของการจัดการทรัพยากรมนุษย์ รวมถึงเรื่องของทางด้าน AI ด้วย ซึ่งถือได้ว่าเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ในยุคปัจจุบัน

“นอกจากนี้เรายังมีวิชาเลือกซึ่งเป็นวิชาเฉพาะทางให้นักเรียน นักศึกษาที่เขาสนใจทางด้านธุรกิจกีฬาเขาก็จะได้เลือกเรียน และก็จะมีทางด้านธุรกิจนันทนาการ ซึ่งปัจจุบันเรื่องของไลฟ์สไตล์ของการใช้ชีวิตของคนในยุคปัจจุบันมันมีความหลากหลายมากยิ่งขึ้น คนส่วนใหญ่ก็แสวงหาเรื่องของการพักผ่อน เรื่องของการประกอบกิจกรรมนันทนาการ เพราะฉะนั้นนักศึกษาที่สนใจทางด้านการออกแบบกิจกรรมนันทนาการ ในแหล่งท่องเที่ยวเองก็ดี การจัดงานคอนเสิร์ต หรือเรื่องของการออกแบบกิจกรรมสำหรับกลุ่มคนต่างๆ ผู้สูงอายุ วัยรุ่น อันนี้ก็จะเป็นอีกกลุ่มหนึ่ง อีกกลุ่มคือนักศึกษาที่สนใจทางด้านธุรกิจเวลเนส เขาก็จะเลือกเรียนทางด้านธุรกิจเวลเนส แต่ว่าก่อนที่เขาจะเลือกเรียน เราจะมีวิชาเฉพาะขึ้นมาก่อน ก็คือบูรณาการทั้ง 3 ศาสตร์ ทั้ง 3 สาขา จะเรียนรวมกันก่อนเพื่อให้เห็นภาพรวมของความเป็นสุขภาพองค์รวม ก็จะมีวิชาทางด้านการจัดการกีฬา หลักการจัดการธุรกิจกีฬา หลักการจัดการธุรกิจทางด้านนันทนาการและเรื่องของสุขภาพองค์รวม เราจะมีคล้ายๆ วิชากึ่งๆ วิทยาศาสตร์นิดๆ แต่ไม่ได้เป็นวิทยาศาสตร์แบบ 100% เพียวๆ แต่ว่าให้เห็นถึงเรื่องขององค์ความรู้ที่เป็นรากทางด้านวิทยาศาสตร์สุขภาพ” ผศ.ดร.ธนกฤต กล่าวในตอนท้าย.