สภาวัฒนธรรมหัวหินอบรมครูและนักเรียน ขับและแต่งบทเสภา รักษามรดกของชาติ

วันที่ 8 กรกฎาคม 2566 นางกฤษณา แผ่แสงจันทร์ วัฒนธรรมจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เป็นประธานเปิดโครงการอบรมการขับและแต่งบทเสภา เพื่อสุนทรียภาพและการจัดการประกวดอย่างเป็นมาตรฐาน มี พระครูวิจิตรธรรมวิภัช เจ้าคณะอำเภอหัวหิน เจ้าอาวาสวัดบุษยะบรรพต, พระครูโอภาสกาญจนธรรม เจ้าคณะตำบลหัวหิน เขต 2 เจ้าอาวาสวัดสะพานขี้เหล็ก, นางลิษา อึ้งเห่ง ประธานสภาวัฒนธรรมอำเภอหัวหิน คณะกรรมการสภาวัฒนธรรมอำเภอหัวหิน, อ.ณัฏฐกฤษฎิ์ อกนิษฐ์ธาดา เสภาอาเซียน, นายอมรเทพ อ่วมมีเพียร ผู้จัดการทั่วไปศูนย์การค้ามาร์เก็ตวิลเลจ หัวหิน แขกผู้มีเกียรติ ผู้บริหารสถานศึกษา คณะครูนักเรียนโรงเรียนระดับมัธยมสังกัดอำเภอหัวหิน และโรงเรียนระดับประถมศึกษาสังกัดเทศบาลเมืองหัวหิน จำนวน 56 คน เข้าร่วมโครงการ ที่โรงแรมหัวหินกอล์ฟวิลล่า อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์

นางกฤษณา แผ่แสงจันทร์ กล่าวว่า สภาวัฒนธรรมอำเภอหัวหิน มุ่งเน้นการธำรงรักษาความเป็นเอกลักษณ์ทางภาษาไทยในด้านการขับเสภา เพื่อพัฒนาศักยภาพการขับเสภาให้กับคณะครู นักเรียนในสถานศึกษา ให้มีความรู้ความสามารถ เป็นผู้สืบทอดศิลปวิทยาการ และมรดกทางวัฒนธรรมในการขับเสภาให้คงอยู่คู่ชาติสืบไป ขอให้คุณครู นักเรียนที่ได้รับการอบรมในครั้งนี้ได้นำไปใช้ในการสืบสานรักษาและต่อยอด พร้อมทั้งนำไปเผยแผ่ให้เกิดประโยชน์ต่อส่วนรวมต่อไป การอบรมเชิงปฏิบัติการในครั้งนี้ ถือว่าเป็นความโชคดีของคณะครูและนักเรียนที่ได้รับความรู้จากวิทยากรที่มีชื่อเสียง มีความเชี่ยวชาญ มีความรู้ความสามารถและประสบการณ์ในด้านการขับเสภา เป็นศิลปินหนึ่งเดียวของประเทศไทยที่ได้รับพระมหากรุณาธิคุณจาก พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ให้ปฏิบัติหน้าที่ขับเสภาน้อมเกล้าฯ ถวายในพระราชกรณียกิจการสร้างภาพยนตร์ Animation เรื่องพระมหาชนก และเป็นต้นแบบด้านคีตวรรณกรรมทำนองเสนาะ เสภา

นางลิษา อึ้งเห่ง กล่าวว่า การอบรมเชิงปฏิบัติการขับและแต่งบทเสภา เพื่อสุนทรียภาพและการจัดการประกวดอย่างเป็นมาตรฐาน มีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนาศักยภาพทางภาษาไทยในด้านการขับเสภาให้กับเยาวชนและครูผู้ปฏิบัติการสอนวิชาภาษาไทย ให้มีความรู้ความสามารถ เป็นผู้สืบทอดศิลปะวิทยาการ แสดงความเป็นชาติและรากฐานของวัฒนธรรมไทยที่ควรอนุรักษ์ภาษาไทยให้ดำรงอยู่เป็นมรดกของชาติสืบไป รวมถึงส่งเสริมให้นักเรียนในสถานศึกษามีการดำรงรักษาภาษาไทยในการใช้เรียงร้อยถ้อยคำและออกเสียงที่เป็นเอกลักษณ์ คณะครูได้ฝึกการแต่งกลอนเสภา เพื่อเป็นต้นแบบและนำไปใช้ในการเข้าประกวดขับเสภาต่อไปในอนาคต.

ข่าวแนะนำ