รองผู้ว่าฯ ประจวบฯ ตรวจโครงการพัฒนาสินค้าสัตว์น้ำและเกษตร ท่าเทียบเรือประมงหัวหิน
วันที่ 17 ตุลาคม 2567 นายคมกริช เจริญพัฒนสมบัติ รองผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบฯ พร้อมด้วยนายสุทักษ์ จิระรัตนวงศ์ รองผู้อำนวยการองค์การสะพานปลา ลงพื้นที่ตรวจโครงการพัฒนาสินค้าสัตว์น้ำและเกษตร บริเวณท่าเทียบเรือประมงหัวหิน มีนางพิศสุภาพ แก้วถาวร ปลัดอำเภอหัวหิน นายภาณพ บัวจีน ตัวแทนผู้อำนวยการสำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคประจวบฯ นายประเสริฐ แตกช่อ นายกสมาคมประมงจังหวัดประจวบฯ สำนักงานโยธาธิการและผังเมืองจังหวัดประจวบฯ เทศบาลเมืองหัวหิน และหน่วยงานต่างๆ ร่วมลงพื้นที่
นายคมกริช เจริญพัฒนสมบัติ กล่าวว่า องค์การสะพานปลามีโครงการที่จะพัฒนาท่าเทียบเรือประมงพื้นบ้าน แต่กระบวนการที่พัฒนาจะต้องได้รับอนุญาตสิ่งก่อสร้างล่วงล้ำลำน้ำที่อยู่ในการรับผิดชอบของกรมเจ้าท่า ซึ่งจะต้องปรึกษาทางจังหวัด ใน 3 เรื่องคือเรื่องสิ่งแวดล้อม เรื่องแผนพัฒนาจังหวัด และเรื่องผังเมือง ทั้งนี้ องค์การสะพานปลาถือเป็นรัฐวิสาหกิจ ทางเรายินดีที่จะร่วมมือและพัฒนาจังหวัดประจวบฯ และช่วยเหลือชาวประมง วันนี้มาดูแล้วได้ข้อสรุปว่าส่วนหนึ่งตามแบบเดิมที่ยื่นคำขอไว้ อาจจะเข้าเกณฑ์ที่จะต้องทำการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม (EIA) จึงให้องค์การสะพานปลาไปปรับรูปแบบใหม่ เพื่อให้อยู่ในข้อกฎหมาย ซึ่งหลังจากปรับรูปแบบใหม่แล้วหน่วยงานที่เกี่ยวข้องคือ โยธาจังหวัดฯ, ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดฯ (ทสจ.) และสำนักงานจังหวัดจะดูแต่ละเอกสารอีกครั้งว่าผ่านไหม หลังจากผ่านแล้วจะมาดูในส่วนที่ได้ปรับแบบใหม่ แต่ถ้าปรับแบบใหม่แล้วผ่าน ก็จะนำเข้าประชุมคณะทำงานของจังหวัด แล้วจังหวัดจะตอบคำถามใน 3 ประเด็นที่กล่าวไปข้างต้น ทางจังหวัดกับองค์การสะพานปลายินดีที่จะทำงานร่วมกันในส่วนที่เป็นอุปสรรคต่างๆ เพราะถือเป็นประโยชน์สาธารณะที่เกิดกับประชาชนในพื้นที่อำเภอหัวหิน เพียงแต่ว่าต้องรอบคอบ ทำให้ถูกต้องตามขั้นตอนของกฎหมาย
ด้านนายสุทักษ์ จิระรัตนวงศ์ กล่าวว่าท่าเทียบเรือของประมงพาณิชย์ที่หัวหินนี้ จะใช้ในภารกิจของประมงขนาดใหญ่ ตอนนี้ธุรกิจประมงไม่ค่อยดี ตามนโยบายของบอร์ด เห็นว่าการส่งเสริมอาชีพประมงเป็นภารกิจหลักซึ่งมักจะมีปัญหาในเรื่องของการจอดเรือ เรื่องระเบียบการเดินเรือที่ไม่เหมาะสม ในฐานะรัฐวิสาหกิจที่ดูแลเรื่องนี้ อยากจะเข้ามาพัฒนาทำให้ตรงนี้มีมาตรฐาน จะได้ส่งเสริมอาชีพประมง วันนี้ต้องขอบคุณทุกๆ ท่าน องค์การสะพานปลาได้รับความคิดเห็นว่ามีประเด็นไหนที่ยังมีข้อขัดข้อง ข้อกังวลอยู่ ทางภาคราชการก็อยากทำให้ถูกต้อง ไม่อยากให้มีประเด็นปัญหา เพราะฉะนั้นองค์การฯ จะรับเรื่องไว้ จากนี้ไปจะมีประชุมปรึกษากัน รับข้อคิดเห็นข้อเสนอแนะในการปรับตรงนี้ว่าทำอย่างไรให้เหมาะสม แล้วมานำเสนอในที่ประชุมต่อไป.