ครั้งแรกของไทย สำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม ร่วมกับกองทัพไทย จัดงานแสดงศักยภาพอาวุธยุทโธปกรณ์ฝีมือคนไทย มาตรฐานสากล สร้างความเชื่อมั่นพร้อมป้องกันประเทศ

วันที่ 9 กันยายน 2568 พลเอก ณัฐ อินทรเจริญ อดีตปลัดกระทรวงกลาโหม เป็นประธานเปิดการทดสอบการใช้อาวุธทางยุทธวิธี MOD Challenge 2025 ชิงถ้วยรางวัลเกียรติยศจากรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม ปลัดกระทรวงกลาโหม และผู้บัญชาการทหารสูงสุด ที่สนามยิงปืนหัวหิน Shooting Range จ.ประจวบฯ โดยมีพลโท ปวริศ ปั้นทอง ผู้บัญชาการศูนย์อำนวยการสร้างอาวุธ ศูนย์การอุตสาหกรรมป้องกันประเทศและพลังงานทหาร ผู้บริหารหน่วยงานด้านความมั่นคง กระทรวงกลาโหม เหล่าทัพและผู้เกี่ยวข้องกว่า 600 คน เข้าร่วม ถือเป็นครั้งแรกของการรวมตัวเหล่าทัพไทยทั้ง 6 หน่วยงานหลัก ประกอบด้วย กองทัพบก กองทัพเรือ กองทัพอากาศ สำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม กองบัญชาการกองทัพไทย และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพื่อส่งเสริมเทคโนโลยีการป้องกันประเทศ สร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชนในด้านความพร้อมการป้องกันประเทศ รวมทั้งแสดงศักยภาพของอาวุธยุทโธปกรณ์ที่ศูนย์อำนวยการสร้างอาวุธฯ พัฒนาขึ้นซึ่งมีคุณภาพเทียบเท่ามาตรฐานสากล และเหมาะสมกับสภาพแวดล้อมและความต้องการของประเทศไทย ช่วยลดการพึ่งพาการนำเข้าผลิตภัณฑ์อาวุธและเทคโนโลยีจากต่างประเทศ รวมทั้งเป็นการเปิดโอกาสการพัฒนาและขยายตลาดส่งออกไปยังประเทศเพื่อนบ้าน

พลเอก ณัฐ อินทรเจริญ กล่าวว่า ปัจจุบันภาครัฐและเอกชนของไทยสามารถผลิตอาวุธได้หลายรายการ ซึ่งการจัดกิจกรรมในวันนี้เป็นการนำปืนไทย แบรนด์คชสีห์ ที่พัฒนาโดยศูนย์อำนวยการสร้างอาวุธฯ ได้แก่ ปืนเล็กยาวขนาด 5.56 มม. และปืนพกขนาด 9 มม.มาทำการทดสอบแข่งขันโดยชุดรบพิเศษของแต่ละหน่วย ถือเป็นครั้งแรกของประเทศไทยโดยจำลองสถานการณ์ที่เป็นยุทธวิธีจริงๆ ใช้กติกาสากล เพื่อให้เกิดความมั่นใจว่า สมรรถนะของอาวุธที่เราผลิต มีขีดความสามารถที่จะทำการรบได้จริงๆ หลังจากที่ก่อนหน้านี้ได้ผ่านการรับรองมาตรฐานยุทโธปกรณ์ของกระทรวงกลาโหมแล้ว สำหรับกิจกรรมในวันนี้นอกจากเป็นการทดสอบอาวุธปืนฝีมือคนไทยแล้ว ยังเป็นการพัฒนาศักยภาพของบุคลากรกำลังพลด้วย เพื่อให้มีความพร้อมปกป้องผืนแผ่นดินไทย

พลเอก ณัฐ กล่าวอีกว่า อาวุธปืนแบรนด์คชสีห์ เป็นการออกแบบเองทั้งหมด โดยนำเอาแบบอย่างที่ดีของปืนเล็กยาวทั่วโลกมาประยุกต์ ทำการผลิตในโรงงานที่ทันสมัย มีมาตรฐานระดับสากล ISO 9001 และได้ขึ้นทะเบียนนวัตกรรมไทยเรียบร้อยแล้ว ทั้งนี้ ปัจจุบันมีการนำปืนไทยแบรนด์คชสีห์ ไปทดลองใช้ ทั้งในส่วนของกองบัญชาการกองทัพไทย กองทัพบก กองทัพเรือ กองทัพอากาศ เช่นเดียวกับหน่วยงานอย่างกรมป่าไม้ กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช ที่มีความต้องการอาวุธที่ทันสมัย สะดวกในการใช้งานในพื้นที่ป่ารกทึบ ก็มีความสนใจสั่งซื้อ ซึ่งในอนาคต หากสามารถพัฒนาอุตสาหกรรมป้องกันประเทศ ทั้งของภาครัฐและเอกชน นำไปสู่การจำหน่ายต่อยอดสู่การส่งออก มั่นใจว่าจะช่วยสร้างจีดีพีของประเทศให้สูงขึ้น

ด้านพลโท ปวริศ ปั้นทอง กล่าวว่า การจัดงาน “MOD CHALLENGE 2025” เป็นการแสดงศักยภาพผลิตภัณฑ์อาวุธและเทคโนโลยีการป้องกันประเทศที่ผลิตโดยฝีมือคนไทย เสริมสร้างภาพลักษณ์อุตสาหกรรมป้องกันประเทศ ภายในงานมีการเปิดตัวอาวุธปืนภายใต้แบรนด์ “คชสีห์” ได้แก่ ปืนเล็กยาว รุ่น MOD 2020 (เอ็มโอดี 2020) และรุ่น NIN9 (นินเก้า) และปืนพก ขนาด 9 มม. รุ่นใหม่ล่าสุด SAN 9 (แซนเก้า) ซึ่งผลิตภัณฑ์อาวุธที่ผลิตโดยศูนย์อำนวยการสร้างอาวุธฯ ใช้นวัตกรรมและเทคโนโลยีการผลิตที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ระบบควบคุมคุณภาพที่ได้มาตรฐานสากล การออกแบบที่เหมาะสมกับสรีระและการใช้งานของคนไทย กระบวนการผลิตใช้เทคโนโลยี Internet of Thing สำหรับการจัดการผลิต ระบบรักษาความปลอดภัยขั้นสูง รวมทั้งพัฒนาวัสดุใหม่ที่มีคุณภาพสูง สำหรับกิจกรรมภายในงาน “MOD CHALLENGE 2025”มีการสาธิตการใช้อาวุธและเทคโนโลยีทันสมัย การแข่งขันทดสอบการยิงปืนระหว่างเหล่าทัพ การแสดงศักยภาพของอุปกรณ์และยานพาหนะ การนำเสนอนวัตกรรมใหม่ด้านการป้องกันประเทศ การแลกเปลี่ยนประสบการณ์และเทคนิคระหว่างหน่วยงาน เพื่อสร้างเครือข่ายความร่วมมือด้านการป้องกันประเทศ และพัฒนาความเข้าใจในภารกิจร่วมกัน สะท้อนให้เห็นถึงความพร้อมและความร่วมมือของเหล่าทัพไทยในยุคที่ภัยคุมคามมีความหลากหลายและซับซ้อนมากขึ้น.