Categories
ข่าว ทั้งหมด

วิทยาลัยการอาชีพปราณบุรี เปิดสอนภาษาเกาหลี ปูทางการทำงานต่างประเทศ

วิทยาลัยการอาชีพปราณบุรี เปิดสอนภาษาเกาหลี ปูทางการทำงานต่างประเทศ

วันที่ 3 กุมภาพันธ์ 2568 นางกรรณิการ์ ลิมปนะวงศานนท์ ผู้อำนวยการวิทยาลัยการอาชีพปราณบุรี อ.ปราณบุรี จ.ประจวบฯ เปิดเผยว่าวิทยาลัยฯ ได้เปิดชมรมภาษาเกาหลีให้กับนักเรียน เพื่อสร้างแรงจูงใจให้กับนักเรียน นักศึกษาที่มีความสนใจในการเรียนภาษาเกาหลีมากยิ่งขึ้น โดยได้รับการสนับสนุนจาก นายยศพล เวณุโกเศศ เลขาธิการคณะกรรมการ การอาชีวศึกษา และเป็นการสนองนโยบายของพลเอกดาว์พงษ์ รัตนสุวรรณ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ โดย สำนักงานคณะกรรมการอาชีวศึกษา (สอศ.) ร่วมกับศูนย์การศึกษาเกาหลี (Korean Education Center: KEC) สถานเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐเกาหลีประจำประเทศไทย ในการรับครูอาสาสมัครเกาหลีมาสอนในสถานศึกษาที่สังกัดสำนักงานคณะกรรมการ การอาชีวศึกษา ตั้งแต่ปี 2565 จนถึงปัจจุบัน เพื่อพัฒนาทักษะในสาขาวิชาต่างๆ ให้แก่นักเรียน นักศึกษา รวมถึงแลกเปลี่ยนความรู้และประสบการณ์ระหว่างครูอาสาสมัครเกาหลี กับครูและบุคลากรอาชีวศึกษาของไทย ซึ่งมีครูอาสาสมัครเกาหลีที่ได้รับการคัดเลือกจำนวน 5 คน มาปฏิบัติการสอนในสถานศึกษาในสังกัด สอศ.จำนวน 5 แห่ง ได้แก่ วิทยาลัยพณิชยการบางนา, วิทยาลัยเกษตรและเทคโนโลยีบุรีรัมย์, วิทยาลัยสารพัดช่างนครศรีธรรมราช, วิทยาลัยเทคนิคระยอง และวิทยาลัยการอาชีพปราณบุรี ซึ่งเป็นแห่งแรกของจังหวัดประจวบฯ พร้อมกันนี้ ผู้อำนวยการวิทยาลัยการอาชีพปราณบุรี และรองผู้อำนวยการฯ ได้พาเยี่ยมชมการเรียนการสอนภาษาเกาหลีโดย น.ส.คิม ยองอึน ครูอาสาสมัครจากประเทศเกาหลี ซึ่งบรรยากาศเต็มไปด้วยความสุขสนุกสนาน มีการแต่งกายสไตล์เกาหลี สร้างรอยยิ้มให้กับนักเรียนและสร้างสีสันภายในห้องเรียนอีกด้วย

นางกรรณิการ์ กล่าวว่าโครงการนี้เป็นประโยชน์กับนักเรียน นักศึกษา เป็นอย่างมาก สิ่งแรกคือ นักศึกษาได้เรียนรู้จากครูเจ้าของภาษาโดยตรง และสิ่งสำคัญที่สุด นักศึกษาจะได้เรียนรู้ภาษาและวัฒนธรรมของประเทศเกาหลี หลักสูตรภาษาเกาหลี เน้นการใช้เพื่อการทำงาน ทำให้ผู้เรียนสามารถเข้าสู่ระบบการจ้างงานของเกาหลีอย่างถูกกฎหมาย โดยความร่วมมือกับกระทรวงแรงงานเกาหลี ภายใต้ระบบการอนุญาตจ้างงานแรงงานต่างชาติ (Employment Permit System : EPS) ทำให้มีโอกาสไปทำงานในประเทศเกาหลีมากขึ้น เป็นการเพิ่มโอกาสให้กับนักศึกษาที่สนใจทำงานกับบริษัทเกาหลีในไทย และอีกประเด็นหนึ่ง คือเรื่องการพัฒนาคุณภาพของบุคลากร ได้มีการแลกเปลี่ยนระหว่างประเทศ คือ ครูอาสาสมัครเกาหลีได้มาอยู่ประเทศเราและมีการจัดการเรียนการสอนโดยครูชาวเกาหลี

ด้าน น.ส.คิม ยองอึน ครูอาสาสมัครจากประเทศเกาหลี กล่าวว่า ตอนแรกตนสอนเป็นภาษาอังกฤษ ซึ่งนักเรียนทุกคนต้องมีพื้นฐาน ก็มีความยากเพื่อเรียนรู้เป็นภาษาเกาหลี แต่พอได้สอนไปเรื่อยๆ นักเรียนมีความเข้าใจในภาษาเกาหลีเพิ่มขึ้น รู้สึกดีใจที่ได้ถ่ายทอดภาษาเกาหลีให้กับนักเรียน และได้เจอนักเรียนที่น่ารัก มีรอยยิ้มที่เป็นมิตร มีมารยาทเรียบร้อย รู้สึกประทับใจเป็นอย่างมากที่ได้มาสอนที่นี่ ที่มีธรรมชาติที่แสนสงบและน่าอยู่มากค่ะ.

ข่าวแนะนำ
Categories
ข่าว ทั้งหมด

“สราวุธ” แห่ขอบคุณชาวหัวหิน หลังรับเลือกเป็นนายก อบจ.ประจวบฯ อีกสมัย

“สราวุธ” แห่ขอบคุณชาวหัวหิน หลังรับเลือกเป็นนายก อบจ.ประจวบฯ อีกสมัย

เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 3 กุมภาพันธ์ 2568 นายสราวุธ หรือ “เฮียไล้” ลิ้มอรุณรักษ์ ว่าที่ นายก อบจ.ประจวบฯ พร้อมด้วย นายทวีสิน หรือบอย พัฒนาภิรัส ว่าที่ ส.อบจ.เขต 2 อ.หัวหิน ได้ขึ้นรถแห่รอบเมืองหัวหินและบริเวณตลาดสดฉัตร์ไชยในเขตเทศบาลเมืองหัวหิน เพื่อขอบคุณชาวหัวหินทุกคะแนนเสียงที่ไปลงเลือกตั้ง อบจ.ประจวบฯ เมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ทำให้นายสราวุธได้รับชัยชนะมีคะแนนท่วมท้นถึง 118,136 คะแนน ได้รับเลือกเป็นนายก อบจ.ประจวบฯ อีกครั้ง ท่ามกลางบรรยากาศประชาชนให้การต้อนรับอย่างอบอุ่น

นายสราวุธ กล่าวว่าก่อนอื่นต้องขอขอบคุณพ่อแม่พี่น้องชาวประจวบฯ ทุกคนที่ใช้สิทธิของตัวเองเลือกตั้งได้ครบถ้วน ขอบคุณอีกครั้งที่เลือกพวกเราในทีมบริหารชุดเก่ามา ซึ่งหลักๆ จะประกอบด้วยผมเป็นนายกฯ และสมาชิกชุดเก่าเข้ามา ต้องขอขอบคุณพี่น้องจริงๆ ที่เลือกพวกเราให้เข้ามาบริหารต่อ เพื่อจะได้สานงานที่เราทำไว้ให้เกิดประโยชน์กับพ่อแม่พี่น้องมากขึ้นกว่าเดิม รู้สึกพอใจกับผลการเลือกตั้งในครั้งนี้ ประชาชนมาใช้เสียงพอประมาณ แต่เนื่องจากเหตุต่างๆ เช่น ตรงกับวันเสาร์ซึ่งไม่เหมาะกับการเลือกตั้ง และการประชาสัมพันธ์ไม่ทั่วถึง ความไม่สะดวกในวันดังกล่าวด้วย ทำให้จำนวนผู้มาใช้สิทธิ์ลดจำนวนไปมากกว่าครั้งที่แล้ว ทำให้การเลือกตั้งครั้งนี้สมบูรณ์ได้ระดับหนึ่ง

“การเลือกตั้งในครั้งนี้มีสมาชิกบางท่านที่ไม่สามารถเข้ามาได้ แต่มีสมาชิกหลายๆ ท่านที่เป็นท่านใหม่เข้ามา ขอแสดงความยินดี ผมมั่นใจว่าสมาชิกท่านใหม่ที่สามารถฝ่าฟันเข้ามาได้เป็นเพราะประชาชนได้เลือกแล้วและมีไฟในการร่วมกันพัฒนากับพวกเราได้ หลังจาก กกต.ประกาศรับรองผลการเลือกตั้งแล้ว ทุกคนพร้อมที่จะร่วมกันทำงานหลักๆ ที่เราได้ทำไว้เมื่อครั้งที่แล้ว จะเน้นในเรื่องสาธารณสุข เรื่องดูแลจำนวนคนให้มากขึ้น แล้วเรื่องการท่องเที่ยว ซึ่งเป็นการกระตุ้นรายได้ กระตุ้นเศรษฐกิจเพื่อให้มีรายได้มากขึ้น ส่วนเรื่องสาธารณูปโภคในแหล่งทุรกันดาร เรายังไม่ทอดทิ้ง ยังทำอยู่ หลักๆ ทำประมาณ 3 เรื่อง ส่วนเรื่องอื่นก็เป็นภารกิจที่เราต้องดำเนินการอยู่แล้วให้ครบถ้วนตามนโยบายที่ตั้งไว้ครับ” นายสราวุธ กล่าวในตอนท้าย.

Categories
กีฬา ข่าว ทั้งหมด

สมาคมนักเรียนเก่าโรงเรียนวังฯ จัดวิ่งหารายได้ให้นักเรียนที่เรียนดีแต่ยากจน

สมาคมนักเรียนเก่าโรงเรียนวังฯ จัดวิ่งหารายได้ให้นักเรียนที่เรียนดีแต่ยากจน

วันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2568 นายศิรพันธ์ กมลปราโมทย์ ที่ปรึกษานายกเทศมนตรีเมืองหัวหิน น.ส.วรกานต์ ถาวร รองผู้อำนวยการ ททท.สำนักงานประจวบฯ พล.ต.สุชิน บุญญานันต์ อุปนายกสมาคมนักเรียนเก่าโรงเรียนวังไกลกังวล นายสมชาย กระแจะเจิม ที่ปรึกษาสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวหัวหิน/ชะอำ พ.ต.ท.กิตติ์นเรศ อารักษ์รุ่งพงศ์ สวป.สภ.หัวหิน ร่วมแถลงข่าวการจัดวิ่งสานใจไกลกังวล ครั้งที่ 1 “วิ่ง ไป มัน” ในวันเสาร์ที่ 15 กุมภาพันธ์ 2568 เวลา 16.00 น. – 22.00 น. ที่สวนหลวงราชินี 19 ไร่ อ.หัวหิน มี พล.ต.ต.ดำรงศักดิ์ ทองงามตระกูล นายกสมาคมกีฬาหัวหิน น.ส.บุษบา โชคสุชาติ รองนายกเทศมนตรีเมืองหัวหิน แขกผู้มีเกียรติและสื่อมวลชนร่วมรับฟัง

พล.ต.สุชิน บุญญานันต์ กล่าวว่า สมาคมนักเรียนเก่าโรงเรียนวังไกลกังวล จัดกิจกรรมวิ่งสานใจไกลกังวล ครั้งที่ 1 “วิ่ง ไป มัน” โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมให้ประชาชนรักการออกกำลังกายด้วยการวิ่งเพื่อสุขภาพ สร้างสัมพันธภาพอันดีระหว่างศิษย์เก่า ศิษย์ปัจจุบันของโรงเรียนวังไกลกังวลฯ คุณครู ผู้ปกครอง รวมถึงประชาชนในพื้นที่ได้มีส่วนร่วม โดยเงินรายได้ทั้งหมดหลังหักค่าใช้จ่าย จะนำเข้าสมาคมนักเรียนเก่าโรงเรียนวังไกลกังวล เพื่อนำไปเป็นทุนการศึกษาให้กับนักเรียนโรงเรียนวังไกลกังวลที่มีความประพฤติดี แต่มีฐานะยากจนในวันแม่และวันพ่อแห่งชาติ ช่วงเดือนสิงหาคมและเดือนธันวาคมของทุกปี นอกจากนี้ยังเป็นการสนับสนุนการท่องเที่ยวไทยและสร้างรายได้ให้กับประชาชนในพื้นที่อีกด้วย ซึ่งคาดว่าจะมีผู้เข้าร่วมงานในครั้งนี้ประมาณ 1,000 คน

โดยจัดวิ่งระยะเดียว 3 กิโลเมตร ไม่เน้นผลการแข่งขัน แต่เป็นการวิ่งเพื่อสุขภาพ จุดปล่อยตัวที่สวนหลวงราชินี ผ่านถนนเลียบวัง เลี้ยวขวาเข้าถนนเพชรเกษม ตรงไปแล้วเลี้ยวขวาเข้าซอยหัวหิน 19 ข้างวัดไกลกังวล กลับมายังจุดปล่อยตัว ค่าสมัครคนละ 499 บาท จะได้รับเสื้อวิ่ง 1 ตัว พร้อมคูปอง 5 ใบ ประเภทวีไอพี ค่าลงทะเบียน 1,500 บาท จะได้รับเสื้อ 1 ตัว หมวก 1 ใบ พร้อมคูปอง 5 ใบ โดยคูปองสามารถนำไปแลกอาหาร น้ำดื่ม จากร้านอาหารพื้นบ้านกว่า 20 ร้าน และใช้จับรางวัล เล่นเกมต่างๆ ทั้งปาเป้า ปาโป่ง ยิงปืน โยนห่วง ในบริเวณจัดงาน และร่วมสนุกกับรำวงย้อนยุคจากวง “มังคุดเพชร” ตลอดงาน เปิดให้ลงทะเบียนแล้วที่ https://forms.gle/iX44wcTmkjz2yyX56 หรือที่เพจเฟซบุ๊ก วิ่งสานใจไกลกังวล ได้ตั้งแต่บัดนี้.