Categories
ข่าว ทั้งหมด

เอารถพ่อมาขนยาบ้า ทางหลวงประจวบฯ จับยาบ้าล็อตใหญ่กว่า 10 ล้านเม็ด ก่อนลงภาคใต้

เอารถพ่อมาขนยาบ้า ทางหลวงประจวบฯ จับยาบ้าล็อตใหญ่กว่า 10 ล้านเม็ด ก่อนลงภาคใต้

เมื่อเวลาประมาณ 15.00 น. วันที่ 30 กันยายน 2567 พ.ต.ต.พุทธางกูร เรืองธรรม สารวัตรสถานีตำรวจทางหลวงประจวบฯ พร้อมด้วย พ.ต.อ.สมมาตร สังข์ทอง ผกก.สอบสวนภูธรจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ พ.ต.อ.หญิง กมลทิพย์ สุทธิมรรคผล ผกก.พฐ.ประจวบฯ ร.ต.อ.เวิน ไชยอาษา รองสารวัตรตำรวจทางหลวงประจวบฯ นำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ ร่วมกันตรวจยึดและทำบันทึกจับกุมของกลางเป็นยาบ้ากว่า 10 ล้านเม็ด ที่สถานีตำรวจทางหลวงประจวบคีรีขันธ์ 3 กองกำกับการ 2 กองบังคับการตำรวจทางหลวง ซึ่งบรรจุอยู่ในตะกร้าผักผลไม้คลุมด้วยผ้าใบสีดำ จำนวน 65 ตะกร้า บนท้ายรถบรรทุกพ่วงเทรลเลอร์ 22 ล้อ ยี่ห้อฮีโน่ 500 สีขาว ทะเบียนส่วนหัว 71 – 9691 สงขลา ตัวพ่วง 71 – 9692 สงขลา มีผู้ต้องหา 2 ราย คือนายอมร อายุ 51 ปี ชาวจังหวัดสตูล และนายวีระพงษ์ อายุ 39 ปี ชาวจังหวัดตรัง ก่อนจะนำตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลางทั้งหมด ส่ง เจ้าหน้าที่ ปปส.ภาค 7 ดำเนินการต่อไป

สืบเนื่องจาก ร.ต.อ.เวิน ไชยอาษา รองสารวัตรตำรวจทางหลวง ได้รับมอบหมายจากผู้บังคับบัญชา ให้นำเจ้าหน้าที่ตำรวจ 10 นาย ตั้งด่านจุดตรวจจุดสกัด กวดขันวินัยจราจร และตรวจความพร้อมการใช้งานของรถบรรทุกที่วิ่งบนถนนเพชรเกษม ฝั่งขาล่องใต้ หลักกิโลเมตรที่ 378 + 500 ต.ร่อนทอง อ.บางสะพาน จ.ประจวบฯ ระหว่างนั้นได้มีรถบรรทุกพ่วงคันดังกล่าวขับเข้ามาถึงด่าน ปรากฏว่าไม่มีบังโคลนคลุมล้อด้านท้ายรถ จึงได้เรียกตรวจ แต่ผู้ขับขี่มีอาการพิรุธและผู้โดยสารที่นั่งรถมาด้วย คือ นายวีระพงษ์ ได้วิ่งหลบหนี จึงตามจับกุมตัวมาได้ และตรวจสอบของที่บรรทุกมาท้ายรถ ปรากฏว่าเป็นยาบ้าจำนวนมาก ซึ่งบรรจุอยู่ในถุงพลาสติกปิดผนึกอย่างแน่นหนา ใส่ไว้ในตะกร้าผักผลไม้เรียงมาบนท้ายรถบรรทุกจำนวน 65 ตะกร้า รวมประมาณ 10,300,000 เม็ด จึงได้ควบคุมตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลางมาสอบสวนและทำบันทึกจับกุมที่สถานีตำรวจทางหลวง และรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบตามลำดับชั้น

นายอมร อายุ 51 ปี ชาวจังหวัดสตูล ซึ่งเป็นคนขับ ยอมรับสารภาพว่า ตนนำรถบรรทุกพ่วงซึ่งเป็นของพ่อ มารับจ้างขนยาบ้าจากอำเภอไทรน้อย จ.นนทบุรี เพื่อไปส่งที่จังหวัดนครศรีธรรมราช โดยจะมีรถมารอรับ ซึ่งครั้งนี้ทำเป็นครั้งที่ 2 ได้ค่าจ้างครั้งละ 200,000 บาท ก่อนหน้านี้รับจ้างบรรทุกข้าวสาร จากกรุงเทพฯ ลงภาคใต้ แต่ครั้งนี้เปลี่ยนมารับจ้างบรรทุกยาบ้าแทน และใช้ผ้าใบคลุมให้ดูคล้ายกับบรรทุกสิ่งของทั่วไป.

เอกภพ วงษ์ประเสริฐ….รายงาน

ข่าวแนะนำ
Categories
ข่าว ทั้งหมด

วัดห้วยมงคลสืบทอดประเพณีทำบุญสลากภัต อุทิศให้ผู้ล่วงลับ

วัดห้วยมงคลสืบทอดประเพณีทำบุญสลากภัต อุทิศให้ผู้ล่วงลับ

วันที่ 29 กันยายน 2567 พระพิศาลสิทธิคุณ หรือท่านเจ้าคุณไพโรจน์ ปภัสสโร เจ้าอาวาสวัดห้วยมงคล เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ในพิธีทำบุญประเพณีสลากภัต ที่ศาลาเอนกประสงค์วัดห้วยมงคล ต.ทับใต้ อ.หัวหิน จ.ประจวบฯ ซึ่งวัดห้วยมงคลจัดต่อเนื่องมาเป็นประจำทุกปี เพื่อสืบสานอนุรักษ์ประเพณีเก่าแก่โบราณและเป็นการอุทิศบุญส่วนกุศลให้บรรพบุรุษ ญาติพี่น้องที่ล่วงลับไปแล้ว มีพุทธศาสนิกชนจำนวนมากร่วมเป็นเจ้าภาพทั้งสิ้น 36 หาบ ถวายสลากภัตแด่พระสงฆ์รวม 9 วัด จำนวน 22 รูป จากพื้นที่ใกล้เคียง

สำหรับประเพณี “สลากภัต” หรือทางภาคเหนือเรียกว่า “ตานก๋วยฉลาก” ทางภาคอีสานเรียก “บุญข้าวสาก” เป็นการถวายทานโดยไม่เจาะจงผู้รับ ซึ่งจะมีขึ้นในเดือนกันยายน – ตุลาคม โดยญาติโยมจะนำของมาถวาย จัดมาเป็นรูปแบบหาบใส่ชะลอม ประกอบด้วยอาหารคาวหวาน ผลไม้ ของใช้ชีวิตประจำวันและปัจจัยใส่ซองเสียบยอดไม้ไผ่ปักไว้ในหาบ จากนั้นจะนำเบอร์ไปติดที่หาบ เพื่อให้พระสงฆ์ได้จับเบอร์ด้วยหลักอุปโลกกรรม คือของที่ถวายในหาบนั้นแตกต่างกัน มีทั้งของมากและของน้อย แล้วแต่เจ้าภาพที่จัดกันมา หากพระสงฆ์รูปหนึ่งรูปใดจับได้เบอร์ใดตรงกับหาบนั้น เจ้าภาพก็จะแบกหาบๆ นั้นไปถวาย ซึ่งการทำบุญสลากภัตในพระพุทธศาสนา เป็นประเพณีสืบทอดมาแต่โบราณกาลจนถึงปัจจุบัน.

Categories
ข่าว ทั้งหมด

เปิดแล้ว “อวิญานา หัวหิน” โรงแรมแห่งใหม่ริมชายหาด

เปิดแล้ว “อวิญานา หัวหิน” โรงแรมแห่งใหม่ริมชายหาด

“อวิญานา หัวหิน” (Aviyana Hua Hin) โรงแรมติดทะเลแห่งใหม่บนชายหาดชะอำ ที่มีพื้นที่กว้างขวางถึง 14,400 ตารางเมตร ได้รับการออกแบบอย่างทันสมัยพร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกครบครันเหมาะสำหรับคนทุกเจเนอเรชัน โรงแรมแห่งนี้เปรียบเสมือนสวรรค์แห่งการพักผ่อนที่ผสมผสานการออกแบบในสไตล์โมเดิร์นและความสวยงามของชายหาดอย่างลงตัว ทั้งสระว่ายน้ำวิวทะเลแบบพาโนรามา ที่มองเห็นทิวทัศน์ความงดงามของทะเลฝั่งอ่าวไทย

โรงแรมแห่งนี้มีพื้นที่รองรับที่ตอบโจทย์สำหรับการจัดงานในโอกาสพิเศษ อย่างห้องบอลรูม AVOWS ซึ่งเป็นห้องจัดเลี้ยงขนาดใหญ่ ที่สามารถรองรับแขกได้มากถึง 300 คน เหมาะสำหรับการจัดกิจกรรมสำคัญ เช่น พิธีหมั้น งานแต่งงานทั้งแบบไทย อินเดีย หรือแบบตะวันตก รวมถึงการประชุมสัมมนาต่างๆ นอกจากนี้ยังมีพื้นที่ให้บริการสำหรับการจัดงานกลางแจ้ง Siamara ที่มอบบรรยากาศสุดพิเศษสำหรับการจัดงานเลี้ยงแบบส่วนตัวบนดาดฟ้า รวมถึงพื้นที่สนามหญ้าขนาด 1,400 ตารางเมตร ที่เหมาะสำหรับกิจกรรมที่ต้องการบรรยากาศธรรมชาติอีกด้วย

ในส่วนของอาหารและเครื่องดื่ม ทางโรงแรมพร้อมรังสรรค์เมนูมากมายในสไตล์โมเดิร์นและทันสมัยให้ผู้เข้าพักได้ลิ้มลอง ตอบโจทย์ทุกความต้องการของผู้เข้าพักด้วย 3 ห้องอาหารและบาร์ ที่จะเปิดให้บริการทั้งบุฟเฟต์อาหารเช้า มื้อกลางวันและมื้อเย็น ไม่ว่าจะเป็นอาหารนานาชาติ อาหารเอเชีย อาหารไทย อาหารท้องถิ่น สามารถติดต่อสอบถามโรงแรมอวิญานา หัวหิน ได้ที่โทรศัพท์ 032 – 512311 หรืออีเมล Booking@aviyanahuahin.com Facebook Fanpag/Instagram : aviyanahuahin.

Categories
ข่าว ทั้งหมด

นายอำเภอหัวหิน เปิดงานปิดทองพระพุทธเจ้าและรูปหล่ออดีตเจ้าอาวาสวัดห้วยสามพันนาม

นายอำเภอหัวหิน เปิดงานปิดทองพระพุทธเจ้าและรูปหล่ออดีตเจ้าอาวาสวัดห้วยสามพันนาม

วันที่ 28 กันยายน 2567 นายพลกฤต พวงวลัยสิน นายอำเภอหัวหิน พร้อมด้วยนางอุษา พวงวลัยสิน นายกกิ่งกาชาดอำเภอหัวหิน เป็นประธานเปิดงานประจำปี ปิดทองพระพุทธเจ้า 28 พระองค์, หลวงพ่อสัมฤทธิ์ และรูปหล่ออดีตเจ้าอาวาสวัดห้วยสามพันนาม ประจำปี 2567 ที่วัดห้วยสามพันนาม ต.หินเหล็กไฟ อ.หัวหิน จ.ประจวบฯ มีพระศรีปริยัติเมธี รองเจ้าคณะจังหวัดประจวบฯ วัดคลองวาฬ พระอารามหลวง, พระครูวิจิตรธรรมวิภัช เจ้าคณะอำเภอหัวหิน เจ้าอาวาสวัดบุษยะบรรพต, พระใบฎีกาสรัญ โฆสิโต เจ้าอาวาสวัดห้วยสามพันนาม คณะสงฆ์จากวัดต่างๆ และพุทธศาสนิกชนจำนวนมากร่วมในพิธี โดยกำหนดจัดงานตั้งแต่วันที่ 28 กันยายน – 6 ตุลาคม 2567 รวม 9 วัน 9 คืน ภายในงานมีร้านค้า ร้านอาหาร สวนสนุก การประกวดวัวสวยงาม ลิเกพม่า รำวงย้อนยุค และมหรสพทุกค่ำคืน จึงขอเชิญชวนประชาชนทุกท่านร่วมงานบุญได้ตามวันดังกล่าว

วัดห้วยสามพันนาม สังกัดมหานิกาย เดิมเป็นที่พักสงฆ์ ชื่อ “วังสามพันนาม” เพื่อเป็นสถานที่จำพรรษาปฏิบัติธรรมของพระภิกษุ สามเณร และใช้เป็นสถานที่บำเพ็ญกุศลของพุทธศาสนิกชน ต่อมานายชุบ สังข์ทอง ได้ยื่นเรื่องขออนุญาตสร้างวัดและได้รับอนุญาตสร้างวัด เมื่อวันที่ 26 กุมภาพันธ์ 2553 หลังจากนั้นได้ยื่นเรื่องขอตั้งวัดและได้รับอนุญาตตั้งวัดชื่อ “วัดห้วยสามพันนาม” เมื่อวันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2554 ตามชื่อหมู่บ้าน ที่เป็นที่ตั้งวัด มีเนื้อที่ดินจำนวน 2 แปลง รวมเนื้อที่ 50 ไร่ 2 งาน โดยนายชุบเป็นผู้บริจาคที่ดิน เจ้าอาวาสรูปแรก คือ พระอธิการสำราญ สุขวฑฺฒโก ดำรงตำแหน่งเมื่อวันที่ 16 มิถุนายน 2554 และมรณภาพเมื่อวันที่ 15 กรกฎาคม 2558 ปัจจุบันมีหลวงพ่อบอย หรือพระใบฎีกาสรัญ โฆสิโต เป็นเจ้าอาวาส.

Categories
ข่าว ทั้งหมด

ศพชายเร่ร่อนวัยกลางคน นอนคว่ำหน้าเสียชีวิตในชายน้ำริมถนน

ศพชายเร่ร่อนวัยกลางคน นอนคว่ำหน้าเสียชีวิตในชายน้ำริมถนน

วันที่ 27 กันยายน 2567 ร.ต.ท.นนทนันทิ์ สิงหนาท พนักงานสอบสวน สภ.สามกระทาย รับแจ้งว่ามีผู้เสียชีวิตอยู่ริมถนนเพชรเกษมฝั่งล่องใต้ ปากทางเข้าสถานีรถไฟสามกระทาย ต.สามกระทาย อ.กุยบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์ จึงไปตรวจสอบพร้อมด้วยกู้ภัยมูลนิธิหลวงพ่อในกุฏิวัดกุยบุรี และกู้ภัยตำรวจทางหลวงจุดกุยบุรี

เมื่อไปถึงที่เกิดเหตุ เป็นศาลาที่พักริมทางของกรมทางหลวง ด้านข้างมีแอ่งน้ำ พบศพชายไม่ทราบชื่อวัยกลางคน นอนคว่ำหน้าอยู่ในน้ำ สวมเสื้อยืดแขนสั้นสีดำ นุ่งกางเกงขายาวลายพราง ตรวจสอบพบว่าเสียชีวิตมาแล้วไม่ต่ำกว่า 5 ชั่วโมง เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตรวจสอบพื้นที่โดยรอบ พบมีรอยลื่นอยู่ที่ริมตลิ่ง คาดว่าน่าจะเป็นรอยของผู้เสียชีวิตและไม่มีร่องรอยการต่อสู้ใดๆ จึงได้ให้เจ้าหน้าที่กู้ภัยนำร่างส่งโรงพยาบาลกุยบุรี เพื่อให้แพทย์ตรวจชันสูตรหาสาเหตุการตายอีกครั้งหนึ่ง

จากการสอบถามชาวบ้าน ทราบว่าผู้เสียชีวิตเป็นชายเร่ร่อนที่มาอาศัยพักอยู่ที่ศาลาแห่งนี้มานานแล้ว เห็นเดินไปเดินมาอยู่บริเวณนี้โดยไม่ได้ก่อความเดือดร้อนให้กับผู้ใด จนเช้าวันนี้มีชาวบ้านผ่านมาเห็นว่านอนคว่ำหน้าอยู่ในน้ำข้างศาลา จึงแจ้งให้เจ้าหน้าที่มาตรวจสอบดังกล่าว และในตัวผู้เสียชีวิตไม่มีเอกสารใดๆ ติดตัว หากผู้ใดสงสัยว่าจะเป็นญาติ สามารถติดต่อสอบถามได้ที่ สภ.สามกระทาย โทร. 032 – 688191 หรือที่สำนักงานมูลนิธิหลวงพ่อในกุฏิวัดกุยบุรี โทร. 032 – 682789 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง.

พันธุ์พงษ์ โพธิ์จินดา….รายงาน

Categories
ข่าว ทั้งหมด

อดีตประธานสภา อบจ.ประจวบฯ พร้อมชาวบ้านแจ้งดำเนินคดีเจ้าหน้าที่ ทช. ปักหมุดแนวเขตป่าชายเลนทิพย์

อดีตประธานสภา อบจ.ประจวบฯ พร้อมชาวบ้านแจ้งดำเนินคดีเจ้าหน้าที่ ทช. ปักหมุดแนวเขตป่าชายเลนทิพย์

วันที่ 26 กันยายน 2567 นายปรีดา สุขใจ ปลัดจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เป็นประธานประชุมในการสนธิกำลังปฏิบัติการเพิ่มและฟื้นฟูพื้นที่ป่าชายเลนประจำปีงบประมาณ 2567 ที่ห้องประชุมที่ทำการอุทยานแห่งขาติเขาสามร้อยยอด อ.กุยบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์ มีนายชัชนรินทร์ ชัชวงศ์วาลย์ ผู้อำนวยการส่วนอนุรักษ์ทรัพยากรป่าชายเลน สำนักงานทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งที่ 3 จ.เพชรบุรี หน่วยงานเจ้าภาพเข้าร่วม พร้อมตัวแทนจากอุทยานแห่งชาติเขาสามร้อยยอด เจ้าหน้าที่ตำรวจ ปทส. เจ้าหน้าที่ กอ.รมน.จังหวัดประจวบฯ เจ้าหน้าที่ ที่ดินจังหวัด เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.กุยบุรี

หลังจากประชุมใช้เวลานานกว่า 1 ชั่วโมง มีมติแจ้งให้เจ้าหน้าที่ ทช.ไปตรวจสอบ ตรวจยึดพื้นที่ด้วยการปักหลักแนวเขตกันพื้นที่ จำนวน 1 แปลง เนื้อที่ 53 ไร่ ในพื้นที่ป่าชายเลน ใกล้ทางเข้าหาดสามพระยา หมู่ 2 ต.เขาแดง อ.กุยบุรี จ.ประจวบฯ หลังจากมีหลักฐานการบุกรุกป่าชายเลน ตามมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 15 ธันวาคม 2530 และวันที่ 22 สิงหาคม 2543

จากนั้น ปลัดจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ นำเจ้าหน้าที่จากหลายหน่วยกว่า 50 นาย เดินทางถึงพื้นที่เป้าหมายในการตรวจยึด ซึ่งห่างจากที่ทำการอุทยานแห่งชาติเขาสามร้อยยอดประมาณ 5 กิโลเมตร พบว่ามีกลุ่มชาวบ้านกว่า 200 คน นำโดยนายมานพ ตั้งบูรพาจิตร์ หรือ สจ.ตี๋ อดีตประธานสภา อบจ.ประจวบคีรีขันธ์ อดีต ส.อบจ.กุยบุรีหลายสมัย นายวิฑูรย์ รัศมี อดีตนายก อบต.กุยเหนือ อ.กุยบุรี กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน รอสอบถามข้อเท็จจริงจากเจ้าหน้าที่ ทช. ว่าใช้อำนาจใดในการตรวจยึด หรือดำเนินการตามกฎหมายใด ในการตรวจยึดพื้นที่ป่าชายเลนที่ประชาชนเข้าทำกิน เป็นการรังแกประชาชนหรือไม่ เนื่องจากการปักแนวเขต อาจกีดขวางบนทางสาธารณะในการเดินทางเข้าพื้นที่ทำกิน และเหตุใดจึงมีการเร่งรีบทำเรื่องนี้ก่อนสิ้นปีงบประมาณ 2567 ในวันที่ 30 กันยายนนี้ ทำไมไม่ดำเนินการให้รอบคอบตามแนวทางที่เคยมีคำสั่งศาล หรือมีคำวินิจฉัยจากผู้ตรวจการแผ่นดิน

นอกจากนั้นแกนนำชาวบ้านระบุว่า ที่ผ่านมายังมี 2 หน่วยงาน มีข้อโต้แย้ง ไม่ให้มีการออกเอกสารสิทธิในที่ดินที่หมู่ 2 ต.เขาแดง จำนวน 23 แปลง หลังจากยื่นเอกสารนานกว่า 4 ปี มีการหลักฐานการครอบถูกต้องครบถ้วน มีการลงนามโดยกำนัน ผู้ใหญ่บ้านในท้องที่ ชาวบ้านมีการนำเอกสารการครอบครองที่ดินไปจ่ายภาษีที่ดินฯ ที่ อบต.เขาแดง

ด้านแกนนำชาวบ้านยืนยันว่า หลังจากนี้จะมีการดำเนินการตามกฎหมายกับผู้เกี่ยวข้องโดยเฉพาะเจ้าหน้าที่ ทช. และเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติเขาสามร้อยยอด ที่ยังไม่มีข้อยุติในข้อกฎหมายที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งความเห็นจากหลายองค์กรที่เข้าตรวจสอบจากการร้องเรียนของประชาชน และบางกรณีเจ้าหน้าที่อาจเข้าข่ายละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ หรือปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ

แกนนำชาวบ้าน กล่าวว่า ในอนาคตหากเจ้าหน้าที่ ที่เกี่ยวข้องยังมีการกระทำที่กระทบสิทธิของประชาชนก็จะมีปัญหาอย่างต่อเนื่องจากการประกาศแนวเขตอุทยานแห่งชาติเขาสามร้อยยอด 2 ครั้งในปี 2509 และปี 2525 มีผลกระทบกับที่อยู่อาศัยและที่ดินของประชาชน 3 อำเภอ 17 ตำบล สำหรับการร้องเรียนกรณีนี้ แกนนำชาวบ้านไม่ได้แจ้งให้นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม หรือนักการเมืองในพื้นที่รายใดมาให้การช่วยเหลือในเชิงนโยบาย เนื่องจากชาวบ้านส่วนใหญ่ต้องการต่อสู้โดยใช้ข้อกฎหมาย คำสั่งศาลและข้อเท็จจริงในการครอบครองทำกิน เพื่อยุติปัญหาที่ยืดเยื้อยาวนานมากกว่า 50 ปี แต่ถ้าหากนายเฉลิมชัย ซึ่งเป็นรัฐมนตรีชาวประจวบคีรีขันธ์ จะให้ติดตามตรวจสอบการทำงานในกระทรวง เพื่อช่วยเหลือและให้ความเป็นธรรมกับประชาชนที่มีข้อพิพาทยาวนานกับอุทยานฯ หรือกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง ก็ถือว่าเป็นภาระหน้าที่ หากทำสำเร็จคะแนนนิยมของพรรคประชาธิปัตย์อาจเพิ่มขึ้น หลังจาก สส.ของพรรคเขต 1 สอบตกในการเลือกตั้งเมื่อปี 2566

ด้านนายปรีดา สุขใจ ปลัดจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ กล่าวว่า จากการประชุมหลายหน่วย ได้ซักถาม ทช. กรณีแนวเขตป่าชายเลนใช้กฎหมายใด ยอมรับว่ามีการใช้มติ ครม. รวมทั้งบทบาทหน้าที่ของ พช.ตามพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ทช.ปี 2558 สำหรับการกระทำที่กระทบสิทธิประชาชน ก็ยอมรับว่าการใช้มาตรการทั้งมติ ครม. และกฎหมายที่เกี่ยวข้อง เวลาผ่านไปไม่นาน ดังนั้นหากประชาชนเข้าทำประโยชน์ก่อน ก็จะมีข้อเท็จจริงตรวจสอบได้ หรือหาก ทช.มีผลสรุปพิสูจน์ว่าเป็นการป่าชายเลนตามกฎหมาย ผู้ใดเข้าครอบครองก่อนผู้นั้นย่อมมีสิทธิ ส่วนตัวยอมรับว่าในจังหวัดประจวบฯ ยังไม่มีกรณีศึกษาในเรื่องนี้ และการดำเนินการใดๆ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องการสร้างรับรู้ให้ประชาชนที่อาศัยทำกินมาก่อนมีความเข้าใจ เนื่องจากจังหวัดประจวบฯ มีป่าชายเลนทุกอำเภอ สำหรับปัญหาความขัดแย้งยังไม่น่ากังวล แต่ขอให้ต่างฝ่ายแสดงเหตุผล หลักการของกฎหมายในการพูดคุยเพื่อให้มีข้อยุติ.

พันธุ์พงษ์ โพธิ์จินดา….รายงาน

Categories
ข่าว ท่องเที่ยว ทั้งหมด

พัฒนาการประจวบฯ เปิดตลาดสร้างสุขเพิ่มรายได้ชุมชน ยลหมู่บ้านนวัตวิถี

พัฒนาการประจวบฯ เปิดตลาดสร้างสุขเพิ่มรายได้ชุมชน ยลหมู่บ้านนวัตวิถี

วันที่ 27 กันยายน 2567 นายคมกริช เจริญพัฒนสมบัติ รองผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบฯ เป็นประธานเปิดงาน“ยลเสน่ห์วิถีถิ่น สร้างศิลป์ชุมชน ตลาดพัฒนาสร้างสุข”ที่ศูนย์การค้าบลูพอร์ตหัวหิน จ.ประจวบฯ พร้อมด้วยนายอาชวันต์ กงกะนันทน์ ผู้อำนวยการ การท่องเที่ยวแห่งประทศไทย (ททท.) สำนักงานประจวบฯ นายดำรงค์ มากระจัน พัฒนาการจังหวัดประจวบฯ นางกฤษณา แผ่แสงจันทร์ วัฒนธรรมจังหวัด นางวาสนา ศรีกาญจนา นายกสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวหัวหิน/ชะอำ นายโชคชัย วงศ์จักรภัชร์ กรรมการผู้จัดการ บลูพอร์ตหัวหิน แขกผู้มีเกียรติจำนวนมากร่วมงาน มีการเสวนาเรื่อง“บูรณาการ งานฝีมือชุมชน สู่งานศิลป์ เพื่อเพิ่มมูลค่าสินค้าชุมชน”จากคุณสายฝน คอลลินส์ ศิลปินผู้สร้างงานศิลป์ ผ่านงานสาน Hua Hin Art ติดล้อ พร้อมชมการแสดงชุด“ดินผาแดง สีแห่งความมงคล”และการแสดงแฟชั่นโชว์ชุดผ้ามัดย้อมของจังหวัดประจวบฯ

นายดำรงค์ มากระจัน กล่าวว่า พัฒนาชุมชนจังหวัดประจวบฯ จัดกิจกรรมโครงการตลาดพัฒนาสร้างสุข ภายใต้ชื่อ“ยลเสน่ห์วิถีถิ่น สร้างศิลป์ชุมชน”ระหว่างวันที่ 27 – 29 กันยายนนี้ ที่ศูนย์การค้าบลูพอร์ตหัวหิน เพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจในระยะสั้น กระตุ้นให้เกิดความต้องการจับจ่ายซื้อสินค้าภายในชุมชน ทำให้เกิดการหมุนเวียนเม็ดเงินในระบบเศรษฐกิจฐานราก สนับสนุนช่องทางการตลาดให้กับผู้ผลิต ผู้ประกอบการชุมชน OTOP, ผู้ผลิตสินค้าชุมชน, ชุมชนท่องเที่ยวนวัตวิถี, กลุ่มสัมมาชีพชุมชน, กลุ่มอาชีพสตรีและอื่นๆ ให้มีรายได้เพิ่มขึ้น และเพื่อให้ประชาชนสามารถซื้อสินค้าชุมชนได้ในราคาที่เป็นธรรม สามารถลดค่าครองชีพของประชาชน

ภายในงาน นอกจากมีการเปิดบูธขายสินค้าจากชุมชน กว่า 50 บูธ แล้ว ยังมีการบูรณาการส่วนต่างๆ ที่จะเพิ่มรายได้ให้ชุมชนอย่างยั่งยืน อาทิ งานฝีมือชุมชนสู่งานศิลป์ โดยเชิญกลุ่มศิลปินมาแนะนำไอเดียเพื่อเพิ่มมูลค่าให้กับสินค้าชุมชน รวมถึงบูรณาการด้านอาหารอร่อย ปลอดภัย โดยนำเชฟมาปรุงอาหารเมนูเด็ด“แกงคั่วยอดมะพร้าวหอยแมลงภู่”ใช้วัตถุดิบจากท้องถิ่น ยอดมะพร้าว น้ำกะทิสด จากอำเภอทับสะแก และหอยแมลงภู่สด ๆ จากอำเภอสามร้อยยอด มาให้ทุกท่านได้ลองชิม ชมตัวอย่างโคกหนองนา สู่การสร้างชีวิตที่ยั่งยืน รักษา ต่อยอดเศรษฐกิจพอเพียง แนวคิดซึ่งมุ่งให้ทุกคนสามารถพึ่งพาตัวเองได้ รวมถึงการพัฒนาให้ดียิ่งขึ้นจนเกิดความยั่งยืน นอกจากนี้ จะพาทุกท่านไปท่องเที่ยววิถีถิ่นใกล้ชิดธรรมชาติ หมู่บ้านนวัตวิถี และชุมชนน่าเที่ยวมากมายในจังหวัดประจวบฯ ที่สำคัญมีรางวัลพิเศษเป็นตั๋วท่องเที่ยวฟรี 1 วัน จำนวน 10 ท่าน แจกภายในงาน จึงขอเชิญชวนประชาชนร่วมชมงานดังกล่าวได้โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย.

Categories
ข่าว ทั้งหมด

ตชด.ประจวบฯ เกษียณ ปลดเป้ วางปืน คืนผู้บังคับบัญชา

ตชด.ประจวบฯ เกษียณ ปลดเป้ วางปืน คืนผู้บังคับบัญชา

วันที่ 26 กันยายน 2567 พ.ต.อ.อัคราวัส สีห์ธนบุญอุบล ผกก.ตชด.14 มอบหมายให้ พ.ต.ท.ฉลาม พงษ์เพชร รอง ผกก.กก.ตชด.14 รักษาราชการแทน ผกก.กก.ตชด.14 เป็นประธานในพิธีปลดเป้ วางปืน ข้าราชการตำรวจตระเวนชายแดนสังกัดกองกำกับการที่ 14 ที่เกษียณอายุราชการในปี พ.ศ.2567 จำนวน 12 นาย ที่กองกำกับการตำรวจตระเวนชายแดนที่ 14 ค่ายพระมงกุฎเกล้าฯ ต.ห้วยทราย อ.เมือง จ.ประจวบคีรีขันธ์ มี ผบ.ร้อย ตชด.ที่ 141 – 147 เข้าร่วมพิธี

พิธีอำลาชีวิตข้าราชการของตำรวจตระเวนชายแดนครั้งนี้ มีการประกอบพิธีลอดซุ้มปืน โดยให้ข้าราชการตำรวจที่เกษียณอายุราชการ นั่งรถยนต์หุ้มเกราะวี 150 วิ่งวนรอบ กก.ตชด.14 จากนั้นตำรวจที่เกษียณอายุราชการพร้อมคู่สมรส เดินลอดซุ้มปืนตามลำดับ ที่บริเวณหอประชุมสราญรมย์ จากนั้นทำพิธีปลดเป้ วางปืน มอบคืนให้แก่ผู้บังคับบัญชาประธานในพิธี พร้อมรับมอบใบประกาศเกียรติคุณและของที่ระลึกจากประธาน และรับฟังการกล่าวแสดงกตเวทิตาจิตแด่ข้าราชการตำรวจที่เกษียณอายุราชการ จากนั้นจึงได้ประกอบพิธีอำลาหน่วย ณ บริเวณลานพระบรมราชานุสาวรีย์ รัชกาลที่ 6 เพื่อให้ข้าราชการตำรวจที่เกษียณอายุพร้อมคู่สมรส เดินผ่านกองเกียรติยศ พร้อมรับช่อดอกไม้จากผู้บังคับบัญชา และเพื่อนข้าราชการตำรวจที่ยังทำงานอยู่

พ.ต.ท.ฉลาม พงษ์เพชร รอง ผกก.รักษาราชการแทน ผกก.กก.ตชด.14 เปิดเผยว่า ภารกิจของตำรวจตระเวนชายแดน เป็นภากิจเกี่ยวกับการรักษาความมั่นคงของประเทศ ในอดีตจะมีภัยคุกคามจากคอมมิวนิสต์ ตำรวจตระเวนชายแดนจึงก่อตั้งขึ้นมา โดยคัดเลือกจากตำรวจทั่วประเทศ มารับภารกิจปราบคอมมิวนิสต์ แต่เนื่องจากภารกิจที่ไปปฏิบัติหน้าที่ตามพื้นที่ต่างๆ จะมีการลาดตระเวน มีการพบปะกับภัยคุกคาม เช่น คอมมิวนิสต์ต่างๆ และไปในที่ถิ่นทุรกันดารที่มีความแร้นแค้น และมีประชาชนอาศัยอยู่ ฉะนั้นตำรวจตระเวนชายแดนจึงมีคุณลักษณะ 3 ประการ คือ 1.รบได้อย่างทหาร 2.จับกุมได้อย่างตำรวจ และ 3.พัฒนาได้อย่างข้าราชการพลเรือน เพื่อเสริมความมั่นคงในการป้องกันประเทศ จึงเป็นที่มาของการแจกอาวุธปืนและเป้สัมภาระ เพราะจะต้องเดินลาดตระเวนไปในพื้นที่ต่างๆ ในการค้นหาภัยคุกคามและการปราบปรามผู้ก่อการร้าย และพัฒนาช่วยเหลือประชาชนควบคู่ไปด้วย และถ้าเกิดมีเหตุอาชญากรรมตามแนวชายแดน ก็สามารถจับกุมได้เหมือนตำรวจ ซึ่งถือเป็นประเพณี ถ้าเป็นตำรวจที่จบมาใหม่จะได้รับการแจกอาวุธปืน แจกเป้สัมภาระ ซึ่งเป็นอาวุธประจำกายในการปฏิบัติหน้าที่ ซึ่งเป็นสิ่งของคู่กายกับตำรวจตระเวนชายแดนมาตั้งแต่เริ่มต้น และเมื่อถึงวันเกษียณอายุราชการ จึงต้องปลดภาระโดยการคืนปืน คืนเป้ วางมือจากภารกิจที่ได้รับมอบหมาย ซึ่งตำรวจตระเวนชายแดนทุกนายมีเกียรติ และมีความเสียสละอย่างสูงในการปฏิบัติหน้าที่ ตลอดระยะเวลาหลายสิบปีที่ผ่านมา ตำรวจตระเวนชายแดนได้ปฏิบัติหน้าที่ดูแลความมั่นคงของประเทศชาติตามแนวชายแดนมาโดยตลอด.

เอกภพ วงษ์ประเสริฐ….รายงาน

Categories
ข่าว ทั้งหมด

บึงนครสร้างฝายต้นแบบ ตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง แก้ปัญหาภัยแล้ง

บึงนครสร้างฝายต้นแบบ ตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง แก้ปัญหาภัยแล้ง

วันที่ 26 กันยายน 2567 นายนิพนธ์ สุวรรณนาวา รองประธานคณะกรรมการธรรมาภิบาลจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ พร้อมด้วยคณะกรรมการ เจ้าหน้าที่ เดินทางเข้าสอดส่องโครงการพัฒนาพื้นที่ตามแนวพระราชดำริ หลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2567 ซึ่งเป็นโครงการจัดซื้อวัสดุซ่อมสร้างฝ่ายขะลอน้ำเฉลิมพระเกียรติ บ้านแพรกตะคร้อ หมู่ 11 ต.บึงนคร อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ เพื่อพัฒนาและแก้ไขปัญหาแหล่งน้ำเพื่อการอุปโภคบริโภค สร้างงาน สร้างอาชีพ เพิ่มรายได้ ลดรายจ่ายตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง อีกทั้งการขยายผลเกษตรเพื่ออาหารกลางวันอันเนื่องมาจากพระราชดำริสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารึ งบประมาณ 100,000 บาท หน่วยดำเนินการ คือ ที่ทำการปกครองอำเภอหัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ ผู้รับผิดชอบโครงการ นายพลกฤต พวงวลัยสิน นายอำเภอหัวหิน

นายประยูร ขันแก้ว นายก อบต.บึงนคร กล่าวว่า พื้นที่แพรกตะคร้อ ต.บึงนคร เป็นหมู่บ้านที่ใช้น้ำจากแหล่งต้นน้ำของน้ำตกแพรกตะคร้อ สำหรับดำรงชีวิตและประกอบการเกษตร จึงมีความประสงค์ที่จะสร้างฝายชะลอน้ำ เพื่อชะลอการไหลของน้ำจากน้ำตกแพรกตะคร้อ ลดการชะล้างและการพังทลายของหน้าดิน ช่วยในการดักตะกอนดิน ตะกอนทรายและเศษวัสดุกับลำน้ำก่อนไหลลงสู่ลำคลอง ซึ่งเป็นพื้นพื้นที่รับน้ำในพื้นที่ รวมถึงอนุรักษ์ฟื้นฟูสภาพพื้นที่ของป่าต้นน้ำให้เกิดขึ้น จึงซ่อมแซมฝ่ายชะลอน้ำเดิม ให้มีประสิทธิภาพในการใช้งานได้ดีอยู่เสมอ สำหรับวิธีการทำนั้น ได้จัดซื้อวัสดุ คือหินขนาดใหญ่ และใช้รถแม็คโครปรับพื้นที่ นำหินใหญ่วางเรียง โดยมีชาวบ้านในพื้นที่จิตอาสา ช่วยกันนำหินก้อนขนาดเล็กใส่เรียงลงไปให้แน่นเป็นฝายกั้นน้ำ ระดับความสูงประมาณ 1.50 เมตร หลังจากดำเนินการก่อสร้าง มีน้ำป่าไหลหลากลงมา แต่ฝายอยู่ได้ไม่พังทลายไปกับน้ำ สามารถเก็บกักน้ำได้ดี

หลังจากได้พบผู้บริหารท้องถิ่นและปลัดอำเภอหัวหินแล้ว คณะกรรมการธรรมาภิบาลจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ได้กล่าวชื่นชม การจัดทำโครงการดังกล่าว ที่ใช้งบประมาณเพียงแค่ 1 แสนบาท จัดซื้อวัสดุและชาวบ้านในพื้นที่ร่วมมือร่วมใจกัน ไม่ได้จ้างงาน แต่มาช่วยกันดำเนินการ ทำให้ฝายสามารถเก็บน้ำได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งเป็นตัวอย่างการกักเก็บน้ำที่ดี และแนะนำให้ อบต.บึงนคร จัดทำโครงการเพิ่มอีกหลายๆ จุด หรืออาจจะยกระดับฝายที่มีอยู่แล้วให้สูงขึ้น เพื่อให้ระดับเก็บกักน้ำเพิ่มมากขึ้น สามารถแก้ไขปัญหาภัยแล้งได้ในอนาคต.

พิสิษฐ์ รื่นเกษม….รายงาน

Categories
ข่าว ทั้งหมด

ชาวบ้านร้องให้สอบวินัยผู้ใหญ่บ้าน ทำตัวเป็นนายหน้าค้าที่ดินให้นายทุนรุกตัดไม้ป่าสงวน

ชาวบ้านร้องให้สอบวินัยผู้ใหญ่บ้าน ทำตัวเป็นนายหน้าค้าที่ดินให้นายทุนรุกตัดไม้ป่าสงวน

วันที่ 25 กันยายน 2567 กลุ่มตัวแทนชาวบ้านหนองไม้แก่นหลายราย รวมตัวพร้อมชูป้ายให้ถอดถอนผู้ใหญ่บ้านในพื้นที่รายหนึ่ง ที่บริเวณด้านหน้าอำเภอเมืองประจวบคีรีขันธ์ โดยมีข้อความให้ตรวจสอบวินัยผู้ใหญ่บ้านคนดังกล่าว อ้างว่าไม่สนใจความเดือดร้อนของชาวบ้าน ชอบหาผลประโยชน์เพื่อตนเองรับใช้นายทุน ขณะที่ตัวแทนกลุ่มชาวบ้านทั้งหมดพากันเดินเข้าไปเพื่อเข้าพบปลัดอำเภอ เจ้าหน้าที่จึงนำกลุ่มชาวบ้านไปที่ห้องประชุม เพื่อรอให้ข้อมูลเพิ่มเติมกับนายสุวิทย์ อินกงลาด ปลัดอาวุโสอำเภอเมืองจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ โดยก่อนจะมีการพูดคุย ปลัดอำเภอขอให้กลุ่มตัวแทนชาวบ้านทั้งหมดได้ทำความเข้าใจ เพื่อให้ผู้ร้องให้ข้อมูลเพิ่มเติมที่เป็นประโยชน์ต่อการสอบสวน เนื่องจากต้องให้ความเป็นธรรมทั้งสองฝ่าย ก่อนที่จะมีคำสั่งตั้งคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริงต่อผู้ใหญ่บ้านผู้ถูกร้อง

ด้านนายกิตติ นามบุญลือ ตัวแทนกลุ่มชาวบ้านให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวว่า สืบเนื่องจากตัวแทนชาวบ้านร้องเรียนขอให้ตรวจสอบวินัย ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 7 บ้านหนองไม้แก่น ต.เกาะหลัก ที่ศูนย์ดำรงธรรมศาลากลางจังหวัด ต่อมามีหนังสือจากอำเภอเมืองประจวบฯ ลงวันที่ 19 กันยายน 2567 ขอให้ผู้ร้องเข้าให้ถ้อยคำเพิ่มเติมที่อำเภอเมืองประจวบฯ ในวันที่ 24 กันยายน กลุ่มตัวแทนชาวบ้านทั้งหมดจึงเดินทางมาให้ข้อมูลเพิ่มเติม พร้อมยื่นเอกสารเพิ่มให้ตรวจสอบโครงการต่างๆ ของรัฐในหมู่ 7 ที่มีการหมกเม็ด ไม่ถูกต้องตามขั้นตอนหลายเรื่อง ให้ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริง หากพบว่ามีการทุจริตให้ดำเนินการในทางปกครองต่อไป

ทั้งนี้ ระหว่างรอให้ถ้อยคำในห้องประชุมกับปลัดอำเภอเมือง นายสนั่น เซ็งเฮง ผู้ร้องรายหนึ่ง ขอให้ตั้งกรรมการสอบสวนทางวินัยกับผู้ใหญ่บ้าน หมู่ 7 เนื่องจากชอบทำตัวเป็นนายหน้าติดต่อซื้อที่ดินของชาวบ้านให้นายทุน ใช้อิทธิพลข่มขู่ชาวบ้านที่ไม่ต้องการขายที่ดินให้ ทั้งยังเข้าไปตัดไม้ทำลายป่าในพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติกุยบุรี รวมถึงให้ตรวจสอบโครงการต่างๆ ของรัฐในหมู่ 7 อีกด้วย.

พิสิษฐ์ รื่นเกษม….รายงาน