Categories
ข่าว ทั้งหมด

อำเภอบางสะพานร่วมแสดงมุทิตา เจ้าอาวาสวัดห้วยทรายขาวเป็นพระอุปัชฌาย์

อำเภอบางสะพานร่วมแสดงมุทิตา เจ้าอาวาสวัดห้วยทรายขาวเป็นพระอุปัชฌาย์

วันที่ 27 มิถุนายน 2566 พระครูเมตตาปุญโญภาส เจ้าคณะอำเภอบางสะพาน เป็นประธานมอบตราตั้งพระอุปัชฌาย์ อาศัยอำนาจตามความในข้อ 9 แห่งกฎหมายเถรสมาคม ฉบับที่ 17 พ.ศ.2536 ว่าด้วยการแต่งตั้ง ถอดถอนพระอุปัชฌาย์ ออกตามความในพระราชบัญญัติคณะสงฆ์ พ.ศ. 2504 แก้ไขเพิ่มเติมพระราชบัญญัติคณะสงฆ์ ฉบับที่ 2 พ.ศ. 2535 จึงแต่งตั้งให้พระมหาสมจริง ฉายาสุวรรณชูโต อายุ 52 ปี พรรษา 31 วิทยฐานะ ป.ธ.ท 7 น.ธ.เอก วัดห้วยทรายขาว ต.กำเนิดนพคุณ อ.บางสะพาน จ.ประจวบคีรีขันธ์ ปัจจุบันมีตำแหน่งทางปกครองคณะสงฆ์ เป็นเจ้าคณะตำบลพงศ์ประศาสน์ ดำรงตำแหน่งพระอุปัชฌาย์ในเขตที่ปกครอง มีหน้าที่เป็นประธานและรับผิดชอบในการบรรพชาอุปสมบท และมีหน้าที่รับผิดชอบตามกฎมหาเถรสมาคม

โดยมีนายเลิศยศ แย้มพราย นายอำเภอบางสะพาน จ.ประจวบคีรีขันธ์ เป็นผู้อ่านตราตั้งพระอุปัชฌาย์ พร้อมด้วยนายบุญเริ่ม เหมือนแท้ อดีตกำนันตำบลกำเนิดนพคุณ นายวิเชียร เกตุงาม กำนันตำบลกำเนิดนพคุณ นางสุรางค์ แซ่ตั้ง นายกเทศมนตรีตำบลกำเนิดนพคุณ และคณะครูโรงเรียนบางสะพานวิทยา นักเรียน ชาวอำเภอบางสะพาน ร่วมแสดงมุทิตาแสดงความยินดีกับตำแหน่งพระอุปัชฌาย์วัดห้วยทรายขาว

ทั้งนี้ขบวนแห่ตราตั้งพระอุปัชฌาย์ เริ่มจากวัดนาผักขวง มีประชาชนร่วมขบวนแห่รถยนต์กว่าร้อยคัน พร้อมขบวนแห่กลองยาว จากหน้าตลาดนัดวันพฤหัสบดี แห่เข้ามาในวัด วนรอบโบสถ์ 3 รอบ มีระนาดเอกจากนักเรียนโรงเรียนบางสะพานวิทยา มาบรรเลงหน้าโบสถ์ มีประชาชนมาร่วมแสดงมุทิตากับตำแหน่งพระอุปัชฌาย์วัดห้วยทรายขาว กว่า 100 คน.

พิสิษฐ์ รื่นเกษม….รายงาน

ข่าวแนะนำ
Categories
ข่าว ทั้งหมด

ตังเกดวงกุด ! เชือกอวนขาดดึงร่างจมดับกลางทะเล

ตังเกดวงกุด ! เชือกอวนขาดดึงร่างจมดับกลางทะเล

เมื่อเวลา 22.00 น.วันที่ 29 มิถุนายน 2566 ร.ต.อ.อาทิตย์ บุตรละคร รองสารวัตรสอบสวน สภ.เมืองประจวบคีรีขันธ์ ได้รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่ศูนย์ควบคุมการแจ้งเรือเข้าออกประจวบคีรีขันธ์ หรือ PIPO ว่ามีลูกเรือประมงจมน้ำเสียชีวิต นำมาขึ้นฝั่งแล้วรอให้เจ้าหน้าที่ตรวจชันสูตร ที่บริเวณสะพานปลาอ่าวน้อย หมู่ 2 ต.อ่าวน้อย อ.เมืองประจวบคีรีขันธ์ หลังรับแจ้งจึงเดินทางพร้อมด้วย ด.ต.จักรพงษ์ อินทนพ ผบ.หมู่ ป.สภ.เมืองประจวบฯ เจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยมูลนิธิสว่างประจวบธรรมสถาน ร่วมตรวจสอบชันสูตรพลิกศพ

เมื่อไปถึงสะพานปลา พบว่าเรือประมงอวนลาก ขนาด 70.17 ตันกรอส กำลังเข้าจอดเทียบท่าเรือที่สะพานปลา มีศพแรงงานประมงชายไทยนอนเสียชีวิตอยู่บนพื้นเรือ มีผ้าคลุมร่างเอาไว้ ท่ามกลางชาวบ้านและไทยมุงยืนดูจำนวนมาก ทราบชื่อต่อมาคือนายประสิทธิ์ สายทอง อายุ 43 ปี อยู่บ้านเลขที่ 265 หมู่ 8 ต.ซับเปิบ อ.วังโป่ง จ.เพชรบูรณ์ คาดว่าเสียชีวิตมาแล้วไม่ต่ำกว่า 4 ชั่วโมง เนื่องจากตัวเริ่มแข็งทื่อ จากการตรวจสอบตามร่างกายพบรอยสักทั้งแขนและขา หัวไหล่ซ้ายสักคำว่า “พ่อ” ไหล่ขวาสักคำว่า “แม่” แต่ไม่พบบาดแผลใดๆ นุ่งกางเกงวอร์มขายาวสีน้ำตาลแดง สวมเสื้อยืดแขนยาวสีดำ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ถ่ายภาพบันทึกเก็บไว้เป็นหลักฐาน พร้อมให้มูลนิธินำศพส่งให้แพทย์โรงพยาบาลประจวบคีรีขันธ์ตรวจชันสูตรอย่างละเอียดอีกครั้ง ก่อนที่จะประสานติดต่อให้ญาติมารับศพกลับไปประกอบพิธีกรรมทางศาสนาต่อไป

จากการสอบสวนลูกเรือคนอื่น เล่าว่าขณะกำลังทำการประมงเรืออวนลากอยู่กลางทะเล ห่างจากฝั่งประมาณ 7 ไมล์ทะเล ระหว่างนั้นผู้เสียชีวิตได้จับประคองอวนตาข่ายไว้ แต่เชือกสำหรับผูกรั้งตาข่ายอวนเกิดขาด ทำให้เชือกของอวนลากดึงร่างของผู้เสียชีวิตตกลงไปในทะเล เป็นเหตุให้สำลักน้ำเสียชีวิต โดยลูกเรือได้พยายามช่วยกันปั๊มหัวใจและปฐมพยาบาลเบื้องต้นเพื่อยื้อชีวิตแล้ว แต่ไม่สำเร็จ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้เชิญลูกเรือ ไต๋เรือและนายท้ายเรือ รวมไปถึงเจ้าของผู้จัดการเรือ มาสอบปากคำเพิ่มเติมที่โรงพัก เพื่อหาสาเหตุการเสียชีวิตที่แน่ชัดต่อไป.

ภาพ/ข่าว : เอกภพ วงษ์ประเสริฐ

Categories
ข่าว ท่องเที่ยว ทั้งหมด

มาร์เก็ตวิลเลจหัวหิน จัดเทศกาลทุเรียนป่าละอูจากสวนสู่ผู้บริโภคโดยตรง

มาร์เก็ตวิลเลจหัวหิน จัดเทศกาลทุเรียนป่าละอูจากสวนสู่ผู้บริโภคโดยตรง

วันที่ 30 มิถุนายน 2566 นายพลกฤต พวงวลัยสิน นายอำเภอหัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ เป็นประธานเปิดงานเทศกาลทุเรียนป่าละอู ครั้งที่ 8 จัดโดยสำนักงานเกษตรอำเภอหัวหิน ร่วมกับศูนย์การค้ามาร์เก็ตวิลเลจ หัวหิน ระหว่างวันที่ 30 มิถุนายน – 4 กรกฎาคม 2566 ที่บริเวณลานด้านหน้าศูนย์การค้ามาร์เก็ตวิลเลจฯ มีนางอุษา พวงวลัยสิน นายกกิ่งกาชาดหัวหิน นางไพลิน กองพันธ์ รองนายกเทศมนตรีเมืองหัวหิน น.ส.วรกานต์ ถาวร รองผู้อำนวยการ ททท.สำนักงานประจวบฯ แขกผู้มีเกียรติ และนักท่องเที่ยวจำนวนมาก ทั้งชาวไทยและต่างชาติเดินเลือกซื้อเลือกชิมทุเรียนป่าละอูและผลไม้ตามฤดูกาลกันอย่างคึกคัก

นายพลกฤต พวงวลัยสิน นายอำเภอหัวหิน กล่าวว่าทุเรียนป่าละอูเป็นทุเรียนพันธุ์หมอนทองพระราชทาน ซึ่งสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี (สมเด็จย่า) ทรงพระราชทานให้แก่ตำรวจตระเวนชายแดนนำไปปลูกที่ ต.ห้วยสัตว์ใหญ่ อ.หัวหิน ครั้ง สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนีเสด็จพระราชดำเนินทรงเปิดโรงเรียนอานันท์ ที่บ้านป่าละอู ต.ห้วยสัตว์ใหญ่ เมื่อวันที่ 19 พฤษภาคม 2509 จนกลายเป็นผลไม้ที่นิยมปลูกกันในพื้นที่ เมื่อนำมาปลูกในพื้นที่ป่าละอูที่มีความพิเศษบนพื้นที่สูง สภาพอากาศและความอุดมสมบูรณ์ของดิน อีกทั้งเป็นการปลูกแบบเกษตรอินทรีย์ จึงทำให้ได้ผลผลิตทุเรียนมีคุณภาพ มีรสหวาน เนื้อหนา เหนียว เนียนละเอียด สีเหลืองอ่อน เนื้อแห้งมีความมันมากกว่าความหวาน เม็ดลีบเล็ก กลิ่นไม่รุนแรง ได้รับการยอมรับจากผู้โปรดปรานทุเรียนว่ามีความพิเศษเป็นเอกลักษณ์ จนได้รับเครื่องหมายสินค้า GI (Geographical Indication) จากกรมทรัพย์สินทางปัญญา เมื่อวันที่ 3 กรกฎาคม 2557

ภายในงานมีเกษตรกรชาวสวนกว่า 10 สวน ได้แก่ วิสาหกิจชุมชนผู้ปลูกทุเรียนป่าละอู, วิสาหกิจชุมชนรักษ์ทุเรียนป่าละอู (สวนศรีป่าละอู), วิสาหกิจชุมชนรักษ์ทุเรียนป่าละอู (สวนวาสนา), หนึ่ง ป่าละอู, สวนอลิศ ป่าละอู, ศร หมอนทอง, สวนลุงเบิ้ม, สวนป้าเทืองลุงพรม, สวนลุงลอย, บ้านไร่ฉวีวัน สมาชิกสหกรณ์การเกษตรห้วยสัตว์ใหญ่ จำกัด นำผลผลิตทุเรียนป่าละอูที่ผ่านการคัดสรรแล้ว มาออกบูธจำหน่ายสู่ผู้บริโภคโดยตรงได้เลือกซื้อภายในงาน ราคากิโลกรัมละ 250 – 270 บาท นอกจากนี้ยังมีทุเรียนพันธุ์อื่นๆ อาทิ หมอนทอง ชะนี พวงมณี ผลิตภัณฑ์แปรรูปจากทุเรียน ไอศกรีมทุเรียน ทุเรียนอัดเม็ด และผลไม้ตามฤดูกาลพื้นเมืองอื่นๆ อาทิ เงาะ มังคุด กล้วย ให้เลือกซื้ออีกมากมาย จึงขอเชิญผู้ที่สนใจเที่ยวชมงานเทศกาลทุเรียนป่าละอู ได้ จนถึงวันที่ 4 กรกฎาคมนี้.

Categories
ข่าว ทั้งหมด

แม่เต่าเพรียง ขึ้นวางไข่ 171 ฟองต่อเนื่อง รังที่ 10 ในหุบเกาะทะลุ

แม่เต่าเพรียง ขึ้นวางไข่ 171 ฟองต่อเนื่อง รังที่ 10 ในหุบเกาะทะลุ

วันที่ 30 มิถุนายน 2566 นายเอกฤทธิ์ ดวงมาลา หัวหน้าอุทยานแห่งชาติอ่าวสยาม (เตรียมการ) จ.ประจวบคีรีขันธ์ เปิดเผยว่า เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติอ่าวสยาม (เตรียมการ) ร่วมกับเจ้าหน้าที่มูลนิธิฟื้นฟูทรัพยากรทะเลสยาม ขณะเดินลาดตระเวนการขึ้นวางไข่ของเต่ากระ บนพื้นที่เกาะทะลุ อ.บางสะพานน้อย จ.ประจวบฯ และการเฝ้าติดตามการฟักไข่ของเต่ากระอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดวันที่ 29 มิถุนายนที่ผ่านมา เวลา 23.00 น. เจ้าหน้าที่พบแม่เต่ากระ ชื่อแม่เพรียง ขึ้นวางไข่บริเวณอ่าวในหุบของเกาะทะลุ จำนวน 1 รัง เป็นรังที่ 10 ของปี 2566 อยู่ในเขตพื้นที่รับผิดชอบของอุทยานแห่งชาติอ่าวสยาม เจ้าหน้าที่จึงได้ทำการเก็บข้อมูลแม่เพรียงเพิ่มเติม วัดขนาดลำตัว ความกว้าง 71 เซนติเมตร ยาว 78 เซนติเมตร ขนาดของหลุมไข่ที่พบ กว้าง 20 เซนติเมตร ลึก 37 เซนติเมตร จำนวนไข่ที่พบทั้งหมด 171 ฟอง ห่างจากน้ำทะเล 14 เมตร ต่อมาเจ้าหน้าที่จึงทำการเคลื่อนย้ายรังไปยังบ่ออนุบาลของมูลนิธิฟื้นฟูทรัพยากรทะเลสยาม เพื่อป้องกันภัยคุกคามทางธรรมชาติ เนื่องจากหลุมไข่เต่าตั้งอยู่บริเวณที่น้ำทะเลท่วมถึง โดยมีมูลนิธิฟื้นฟูทรัพยากรทะเลสยามเป็นผู้ดูแล และให้เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติเฝ้าระวังและเก็บข้อมูลตลอด 24 ชั่วโมง

สำหรับ “เต่ากระ” มีชื่อทางวิทยาศาสตร์ Eretmochelys imbricata (Linnaeus,1766) เป็นสัตว์ทะเลหายาก ใกล้สูญพันธุ์ สถานภาพเป็นสัตว์ป่าคุ้มครอง ตาม พ.ร.บ.สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ.2562 จัดอยู่ใน Appendix 1 ของอนุสัญญาไซเตส (CITES) ด้วย.

Categories
ข่าว ท่องเที่ยว ทั้งหมด

อุทยานแห่งชาติหาดวนกร สำรวจปะการังฟอกขาวและเก็บกู้ซากเครื่องมือประมง

อุทยานแห่งชาติหาดวนกร สำรวจปะการังฟอกขาวและเก็บกู้ซากเครื่องมือประมง

วันที่ 29 มิถุนายน 2566 น.ส.เนตรนภา งามเนตร หัวหน้าอุทยานแห่งชาติหาดวนกร ต.ห้วยยาง อ.ทับสะแก จ.ประจวบคีรีขันธ์ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการพิทักษ์หาดวนกร ออกปฏิบัติงานดำน้ำลึก (Scuba Diving) เก็บกู้ซากเครื่องมือประมง อวน และขยะอื่นๆ ที่ลอยมาติดตามแนวปะการัง บริเวณเกาะจาน – เกาะท้ายทรีย์ อุทยานแห่งชาติหาดวนกร เพื่อรักษาแนวปะการังให้มีสภาพสมบูรณ์และสวยงาม เหมาะแก่การเป็นที่อยู่อาศัยและหากินของเหล่าสัตว์น้ำ ตลอดจนเพื่อป้องกันสัตว์ทะเลเข้าไปติดและเกี่ยวพันจนทำให้บาดเจ็บหรือตาย ทั้งยังคำนึงถึงความปลอดภัยของนักท่องเที่ยวที่อาจเกิดอุบัติเหตุจากเศษซากเครื่องมือประมงอีกด้วย โดยในครั้งนี้สามารถเก็บกู้ซากเครื่องมือประมง อวน ขยะต่างๆ ขึ้นมาได้ทั้งสิ้นเกือบ 5 กิโลกรัม ซึ่งพบเพียงเล็กน้อยในพื้นที่

ขณะเดียวกันเจ้าหน้าที่ได้ทำการดำน้ำสำรวจเพื่อติดตามสถานการณ์การฟอกขาวของปะการังชนิดต่างๆ บริเวณแนวขอบปะการัง (reef slope) เป็นระยะทาง 400 เมตร ความลึกสูงสุดที่ 10 เมตร ปรากฏว่ามีปะการังบางส่วนฟอกขาว และมีบางส่วนที่เริ่มตายจากการฟอกขาว แต่โดยรวมแล้วแนวปะการังไม่ได้รับความเสียหายจากอุณหภูมิที่สูงขึ้นในช่วงหน้าร้อนในเดือนเมษายน – มิถุนายน ที่ผ่านมา รวมทั้งมีสถานการณ์ที่ดีขึ้นเนื่องจากเข้าช่วงมรสุม ปัจจุบันแนวปะการังอยู่ในสภาพสมบูรณ์ดี ปะการังชนิดเด่นที่พบตามแนวสำรวจ ได้แก่ ปะการังโขด ปะการังเขากวาง ปะการังดอกไม้ทะเล ปะการังลายดอกไม้ อีกทั้งยังพบกลุ่มปลาชนิดต่างๆ เป็นจำนวนมาก เช่น ปลากล้วย ปลากะรังท้องกำปั่น ปลาผีเสื้อนกกระจิบ ปลากระดี่ ปลานกแก้ว ปลาผีเสื้อเหลืองชุมพร ปลาสลิดหิน เป็นต้น สรุปได้ว่า แนวปะการังบริเวณเกาะจาน – เกาะท้ายทรีย์ ไม่ได้รับภัยคุกคามจากเครื่องมือทำประมง และไม่ได้รับความเสียหายจากสถานการณ์การฟอกขาวในรอบเดือนที่ผ่านมา.

Categories
ข่าว ทั้งหมด

ประจวบฯ เปิดงานชุมนุมลูกเสือจิตอาสาพระราชทาน เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ

ประจวบฯ เปิดงานชุมนุมลูกเสือจิตอาสาพระราชทาน เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ

เวลา 18.00 น วันที่ 29 มิถุนายน 2566 ว่าที่พันตรีอดิศักดิ์ น้อยสุวรรณ รองผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เป็นประธานเปิดงานชุมนุมลูกเสือจิตอาสาพระราชทาน เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ประมุขคณะลูกเสือแห่งชาติ ครั้งที่ 2 มีนางกันยมาส ชูจีน ผู้บังคับการค่ายชุมนุม กองลูกเสือจิตอาสา ผู้บังคับบัญชาลูกเสือ เข้าร่วมในพิธีเปิดงานชุมนุมที่อุทยานวิทยาศาสตร์พระจอมเกล้า ณ หว้ากอ จังหวัดประจวบคีรีขันธ์

สำหรับงานชุมนุมลูกเสือจิตอาสาพระราชทาน เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ประมุขคณะลูกเสือแห่งชาติ ครั้งที่ 2 กำหนดจัดขึ้นตามที่สำนักงานลูกเสือแห่งชาติกำหนดไว้ ระหว่างวันที่ 29 มิถุนายน – 2 กรกฎาคม 2566 พร้อมกันทั่วประเทศ ภายใต้คำขวัญ “ลูกเสือจิตอาสาพระราชทาน มุ่งประสานทำความดีด้วยหัวใจ” โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ประมุขคณะลูกเสือแห่งชาติ และให้ลูกเสือจิตอาสาพระราชทานทำกิจกรรมร่วมกัน แลกเปลี่ยนความรู้และนำความรู้ที่ได้รับไปขับเคลื่อนโครงการดังกล่าวในสถานศึกษาให้เกิดประโยชน์ต่อไป.

Categories
ข่าว ทั้งหมด

สภาวัฒนธรรมหัวหิน มอบทุนการศึกษากว่า 3 แสนบาทให้กับนักเรียน

สภาวัฒนธรรมหัวหิน มอบทุนการศึกษากว่า 3 แสนบาทให้กับนักเรียน

วันที่ 29 มิถุนายน 2566 นายนพพร วุฒิกุล นายกเทศมนตรีเมืองหัวหิน เป็นประธานมอบทุนการศึกษาให้กับนักเรียน จำนวน 311 คน มีนายวชิระ หัสดีพงษ์ อัยการจังหวัดหัวหิน พระครูโอภาสกาญจนธรรม เจ้าคณะตำบลหัวหิน เขต 2 เจ้าอาวาสวัดสะพานขี้เหล็ก นางกฤษณา แผ่แสงจันทร์ วัฒนธรรมจังหวัดประจวบฯ นางลิษา อึ้งเห่ง ประธานสภาวัฒนธรรมอำเภอหัวหิน คณะผู้บริหารเทศบาลเมืองหัวหิน คณะครูนักเรียน และแขกผู้มีเกียรติร่วมในพิธีที่ศูนย์การค้ามาร์เก็ตวิลเลจ หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์

นางลิษา อึ้งเห่ง กล่าวว่า การมอบทุนการศึกษาในครั้งนี้ ดำเนินการโดยสภาวัฒนธรรมอำเภอหัวหิน ร่วมกับพระครูโอภาสกาญจนธรรม เจ้าคณะตำบลหัวหิน เขต 2 เจ้าอาวาสวัดสะพานขี้เหล็ก ศูนย์การค้ามาร์เก็ตวิลเลจ หัวหิน และผู้มีจิตศรัทธาร่วมบริจาคมอบทุนการศึกษาให้กับสถานศึกษาทุกสังกัดในเขตอำเภอหัวหิน จำนวน 43 สถาบัน รวม 311 ทุนๆ ละ 1,000 บาท เป็นเงินทั้งสิ้น 311,000 บาท ให้กับนักเรียน นักศึกษาที่มีความประพฤติดี มีคุณธรรมจริยธรรม มีมารยาทงาม มีความกตัญญูรู้คุณ มีความซื่อสัตย์สุจริต ยึดมั่นในความรักชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์และทำคุณประโยชน์ให้กับสังคมแต่ขาดแคลนทุนทรัพย์ เป็นการสร้างขวัญกำลังใจให้กับเยาวชนที่จะเป็นกำลังสำคัญของประเทศชาติในอนาคต ให้กระทำความดี รู้รักสามัคคีและปลูกจิตสำนึกให้สืบสาน รักษา ต่อยอด อนุรักษ์และรักษาศิลปะวัฒนธรรม จารีตประเพณี ภูมิปัญญาท้องถิ่น และวัฒนธรรมท้องถิ่นอันดีให้อยู่คู่ประเทศไทยสืบไป.

Categories
ข่าว ท่องเที่ยว ทั้งหมด

ชาวบ้านนำหนามพุงดอ มาปรุงอาหาร ลองแล้วจะติดใจ

ชาวบ้านนำหนามพุงดอ มาปรุงอาหาร ลองแล้วจะติดใจ

วันที่ 29 มิถุนายน 2566 นายมนตรี บูรณนัช ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 9 บ้านเขาราง ได้ร่วมกันจัดกิจกรรม “ปั่น ปลูก ชิม ครั้งที่ 1” เพื่อเป็นทดสอบเส้นทางการท่องเที่ยวชุมชนบ้านเขาราง โดยมีสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดประจวบคีรีขันธ์, การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานประจวบคีรีขันธ์ ผู้ประกอบการภาคเอกชน และชาวบ้านชุมชนบ้านเขาราง ตลอดจนเด็กๆ นำจักรยานร่วมกันปั่นเพื่อการท่องเที่ยวในชุมชน 40 คัน ที่ศูนย์เรียนรู้ป่าครอบครัว บ้านเขาราง ต.สามกระทาย อ.กุยบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์

กิจกรรมเริ่มต้นจากการปั่นจักรยานไปตามเส้นทางในหมู่บ้าน ด้วยบรรยากาศที่เป็นธรรมชาติ มีทุ่งนาสีเขียว อากาศสดชื่น ระยะทางไปกลับ 10 กิโลเมตร จากนั้นปั่นกลับไปที่ศูนย์เรียนรู้ป่าครอบครัว เพื่อร่วมกันปลูกต้นไม้ในพื้นที่ เป็นการเพิ่มพื้นที่สีเขียวอีกด้วย

ไฮไลท์ของกิจกรรมในวันนี้ ชาวบ้านได้ทำอาหารพื้นบ้านปรุงกันสดๆ โดยใช้หนามพุงดอเป็นวัตถุดิบหลัก ซึ่งชาวบ้านช่วยกันเลือกเก็บเฉพาะยอดอ่อนหนามพุงดอ ที่ขึ้นตามหัวไร่ปลายนา ปลอดสารพิษ 100 เปอร์เซ็นต์ มีหลากหลายเมนู อาทิ หนามพุงดอต้มกะทิ แกงส้มหนามพุงดอกุ้งสด หนามพุงดอไข่ทอด หัวปลีทอดหนามพุงดอ ยอดอ่อนจมน้ำพริกกะปิ ตบท้ายด้วยขนมครกหน้าหนามพุงดอ เป็นต้น ส่วนภาชนะที่ใส่อาหาร ใช้ใบตองมาทำเป็นกระทง ทำให้ทุกคนได้รับประทานกันอย่างมีความสุข

สำหรับหนามพุงดอ เป็นไม้พุ่ม ตั้งตรงหรือแตกกิ่งจำนวนมาก มีหนามแหลมคมตามซอกใบ หนามมีพิษมาก หากถูกหนามตำ ต้องรีบบ่งออก ไม่เช่นนั้นจะถูกดูดลึกลงไปเรื่อยๆ ทำให้อักเสบมาก ลำต้นมีความสูงประมาณ 3 – 8 เมตร กิ่งอ่อนจะเป็นสีเทา หรือสีน้ำตาล และมีขนเป็นรูปดาว มีหนามเรียวบาง ยาวประมาณ 1 – 3 มิลลิเมตร ใบมีลักษณะเป็นรูปไข่ ตรงปลายใบแหลมจะเป็นติ่ง เส้นใบจะเป็นสีน้ำตาลหรือสีเหลือง ใบกว้างประมาณ 3 – 4.5 เซนติเมตร ยาวประมาณ 6 – 9 เซนติเมตร ส่วนก้านใบมีความยาวประมาณ 0.5 – 1.3 เซนติเมตร ดอกจะออกเป็นช่อตรงง่ามใบ ก้านดอกย่อยมีขนนุ่ม กลีบรองกลีบดอก จะมีขนเป็นรูปดาวกระจายทั่วไปทางด้านนอก ส่วนด้านในจะมีขนหนาแน่น กลีบดอกจะเป็นรูปสามเหลี่ยมแกมรูปไข่กลับ เป็นสีเขียว หรือสีขาว และด้านนอกจะเป็นขนสีน้ำตาลเกลี้ยง เกสรตัวผู้จะมีอยู่ประมาณ 36 – 46 อัน ส่วนก้านชูรังไข่จะโค้งเล็กน้อย มีขนเป็นสีเทาหนาแน่น และยอดเกสรตัวเมีย จะเป็นตุ่ม ผลลักษณะฉ่ำน้ำ ผลอ่อนสีเขียว เมื่อแก่ถึงสุก สีขาวขุ่นเกือบใส เป็นพวงเรียงลงมา หนึ่งช่อจะมี 7 – 8 ผล

สรรพคุณทางสมุนไพร รากมีรสเปรี้ยวจืดเย็นเล็กน้อย ดับพิษทั้งปวง แก้พิษฝีตานซาง กระทุ้งพิษไข้ แก้ร้อนใน ฝนกับสุราหรือน้ำปูนใส ทาแก้องค์กำเนิดบวม รักษาคางทูม แก้ผดผื่นคัน แก้การอักเสบของฝี ทำให้นอนหลับ

นักท่องเที่ยวที่สนใจจะมาท่องเที่ยวที่ศูนย์เรียนรู้ป่าครอบครัวบ้านเขาราง หากต้องการปั่นจักรยาน จะมีบริการให้นักท่องเที่ยวเช่าปั่นในราคาที่ไม่แพง และชุมชนยังมีอาหารเมนูท้องถิ่น ซึ่งหาทานได้ที่นี่เพียงแห่งเดียว คือ แกงส้มหนามพุงดอต้มกะทิหนามพุงดอ ไข่ทอดหนามพุงดอ ใบสดทานกับน้ำพริก หรือทำอาหารหวานก็อร่อยไม่แพ้กัน สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ ผู้ใหญ่บ้านเขาราง โทร. 081 – 9814529.

สมบัติ ลิมปจีระวงษ์….รายงาน

Categories
ข่าว ทั้งหมด

ประจวบฯ มอบประกาศนียบัตรให้เกษตรกรดีเด่นระดับจังหวัด และระดับประเทศ

ประจวบฯ มอบประกาศนียบัตรให้เกษตรกรดีเด่นระดับจังหวัด และระดับประเทศ

วันที่ 28 มิถุนายน 2566 นายกิตติพงศ์ สุขภาคกุล รองผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เป็นประธานแทนผู้ว่าราชการจังหวัด มอบประกาศนียบัตรยกย่องเชิดชูเกียรติให้กับเกษตรกร บุคคลทางการเกษตร สถาบันเกษตรกร วิสาหกิจชุมชน ศูนย์เรียนรู้และแปลงใหญ่ดีเด่นระดับจังหวัด ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2566 จำนวน 12 ประเภท ซึ่งสำนักงานเกษตรจังหวัดประจวบคีรีขันธ์จัดขึ้น ในโอกาสประชุมร่วมหัวหน้าส่วนราชการประจำเดือนมิถุนายน มีนายชาติชาย ศรีษะนอก เกษตรจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ กล่าวรายงานถึงวัตถุประสงค์ความเป็นมา มีนายคมกริช เจริญพัฒนสมบัติ นายองครักษ์ ทองนิรมล รองผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ร่วมเป็นเกียรติในพิธี มีหัวหน้าส่วนราชการ หน่วยงานต่างๆ ร่วมเป็นสักขีพยาน

เกษตรกรดีเด่นที่ได้รับรางวัลและได้รับประกาศนียบัตร จำนวน 12 ประเภท ประจำปี พ.ศ.2566 ในระดับจังหวัด ได้แก่ เกษตรกรดีเด่นสาขาอาชีพทำสวน เกษตรกรดีเด่นสาขาอาชีพทำไร่ เกษตรกรดีเด่นสาขาอาชีพไร่นาสวนผสม กลุ่มแม่บ้านเกษตรกรดีเด่น กลุ่มยุวเกษตรกรดีเด่น ที่ปรึกษากลุ่มยุวเกษตรกรดีเด่น สมาชิกกลุ่มยุวเกษตรกรดีเด่น วิสาหกิจชุมชนดีเด่น ศูนย์เรียนรู้การเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตสินค้าเกษตร (ศพก.) ศูนย์จัดการศัตรูพืชชุมชน และศูนย์จัดการดินปุ๋ยชุมชน และแปลงใหญ่ดีเด่น นอกจากนี้ในปี พ.ศ.2566 นี้ จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ยังมีเกษตรกรดีเด่นระดับประเทศ สาขาอาชีพทำไร่ ที่ได้เข้ารับพระราชทานโล่รางวัลในงานพระราชพิธีพืชมงคลจรดพระนั่งคัลแรกนาขวัญ ประจำปี 2566 เมื่อวันที่ 17 พฤษภาคม 2566 ณ มณฑลพิธีท้องสนามหลวง อีกด้วย คือนายชาญชัย ธนะกมลประดิษฐ์ เกษตรกรผู้ปลูกสับปะรด อ.สามร้อยยอด จ.ประจวบคีรีขันธ์

นายกิตติพงศ์ สุขภาคกุล รองผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ กล่าวว่ามีความยินดีและเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้มอบประกาศนียบัตรเชิดชูเกียรติให้กับเกษตรกร บุคคลทางการเกษตร สถาบันเกษตรกร วิสาหกิจชุมชน ศูนย์เรียนรู้และแปลงใหญ่ ที่ชนะการประกวด ประจำปี 2566 ตามที่สำนักงานเกษตรจังหวัดประจวบฯ ได้ดำเนินการประกวดคัดเลือก จำนวน 12 ประเภท แสดงให้เห็นถึงความสามารถและศักยภาพของเกษตรกรและกลุ่มต่างๆ รวมถึงความมุ่งมั่นในการพัฒนาทั้งในระดับตนเองและในระดับกลุ่ม มีการปรับตัวรับมือต่อการเปลี่ยนแปลงของเศรษฐกิจและการฟื้นตัวจากวิกฤติต่างๆ ได้อย่างรวดเร็ว อีกทั้งยังเป็นส่วนหนึ่งที่แสดงให้เห็นว่าภาคการเกษตรของจังหวัดมีความเข้มแข็ง มั่นคง และขยายผลต่อไปได้ จึงขอชื่นชมผู้ที่ชนะการประกวดทุกท่าน โดยเฉพาะจังหวัดประจวบคีรีขันธ์มีเกษตรกรดีเด่น สาขาอาชีพทำไร่ระดับประเทศติดต่อกันถึง 2 ปีซ้อน ในปี พ.ศ.2565 และปี พ.ศ.2566 ซึ่งเป็นการแสดงให้เห็นถึงศักยภาพของภาคการเกษตร และเป็นความภาคภูมิใจของจังหวัดประจวบคีรีขันธ์อีกด้วย.

ภาพ/ข่าว : เอกภพ วงษ์ประเสริฐ

Categories
ข่าว ทั้งหมด

เรือนจำประจวบฯ เปิดสถานพยาบาลภายใน ตรวจรักษาโรคทางกายและทางจิตเวชผู้ต้องขัง

เรือนจำประจวบฯ เปิดสถานพยาบาลภายใน ตรวจรักษาโรคทางกายและทางจิตเวชผู้ต้องขัง

วันที่ 28 มิถุนายน 2566 นายอายุตม์ สินธพพันธุ์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ พร้อมด้วย นพ.อารักษ์ วงศ์วรชาติ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลประจวบคีรีขันธ์ ร่วมกันเป็นประธานเปิดอาคารสถานพยาบาล ที่บริเวณแดน 4 ภายในเรือนจำจังหวัดประจวบคีรีขันธ์มีนายมิตรารุณห์ พรหมอินทร์ ผู้บัญชาการเรือนจำจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ กล่าวรายงานถึงวัตถุประสงค์ของการเปิดอาคารสถานพยาบาล มีผู้บัญชาการเรือนจำประธานเขต 7 พร้อมด้วยผู้แทนสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดประจวบฯ เจ้าหน้าที่แพทย์ พยาบาล หัวหน้าส่วนราชการ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมพิธี

นายมิตรารุณห์ พรหมอินทร์ ผู้บัญชาการเรือนจำจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ กล่าวว่า การจัดสร้างอาคารสถานพยาบาลภายในเรือนจำนี้ ได้รับการจัดสรรงบประมาณจากกรมราชทัณฑ์ เพื่อใช้สำหรับดูแลรักษาผู้ป่วยที่เป็นผู้ต้องขังภายในเรือนจำ ที่มีอาการเจ็บป่วย ทั้งด้านร่างกายและด้านจิตเวช โดยโครงสร้างอาคารออกแบบจากโยธาธิการและสิ่งแวดล้อม เริ่มก่อสร้างเมื่อวันที่ 7 มิถุนายน พ.ศ.2565

ทั้งนี้ สถานพยาบาลเรือนจำจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ มีพื้นที่ใช้สอยรวม 128 ตารางเมตร แบ่งออกเป็น 2 ชั้น ชั้นล่างเป็นห้องตรวจรักษา คลินิกคลายเครียด มุมราชทัณฑ์ปันสุข ห้องเวชระเบียนและห้องจ่ายยา ห้องทำงานเจ้าหน้าที่ ห้องเก็บยาและเวชภัณฑ์ ส่วนชั้นที่ 2 เป็นห้องนอนผู้ต้องขัง แบ่งออกเป็น 3 ห้อง ได้แก่ผู้ต้องขังช่วยงาน ห้องผู้ต้องขังป่วย และห้องผู้ต้องขังจิตเวช ซึ่งหลังจากก่อสร้างแล้วเสร็จ เรือนจำจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ได้ใช้ประโยชน์จากสถานพยาบาล คือบริการตรวจรักษาโดยหน่วยแพทย์เคลื่อนที่จากโรงพยาบาลประจวบคีรีขันธ์ ซึ่งเป็นโรงพยาบาลแม่ข่าย และทีมพยาบาลวิชาชีพภายใน มีบริการพบแพทย์ทางไกล ให้บริการตรวจประเมินสุขภาพจิต รวมถึงจ่ายยาให้แก่ผู้ต้องขังที่มีภาวะเจ็บป่วยด้วย.

ภาพ/ข่าว : เอกภพ วงษ์ประเสริฐ