Author: admin

เมื่อเวลา 10.00 น. ของวันที่ 8 ธันวาคม 2566 พล.อ.อ.พันธ์ภักดี พัฒนกุล ผู้บัญชาการทหารอากาศ เป็นประธานพิธีวางพวงมาลา ณ อนุสาวรีย์วีรชน 8 ธันวาคม 2484 ภายในกองบิน 5 อ.เมือง จ.ประจวบคีรีขันธ์ รำลึก 82 ปี สดุดีวีรชนสมัยสงครามมหาเอเชียบูรพา หรือสงครามโลกครั้งที่ 2 มีนายกิตติพงศ์ สุขภาคกุล รองผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เป็นผู้แทนผู้ว่าราชการจังหวัด กล่าวรายงานในนามตัวแทนชาวจังหวัดประจวบฯ และมีนายสิงห์ฐาน จันทรา ผู้พิพากษาหัวหน้าคณะชั้นต้นในศาลจังหวัดประจวบฯ นายสราวุธ ลิ้มอรุณรักษ์ นายก อบจ. นายทหารชั้นผู้ใหญ่ รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัด ผู้แทนอัยการจังหวัด รองนายกเหล่ากาชาดจังหวัด หัวหน้าส่วนราชการ ข้าราชการ ผู้แทนหน่วยงาน องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ครอบครัวและทายาทวีรชน เข้าร่วม โดยมี น.อ.พงศ์ชนินทร์ นุชประเสริฐ ผู้บังคับการกองบิน 5 รองผู้บังคับการฯ และเสนาธิการกองบิน 5 ให้การต้อนรับ

พล.อ.อ.พันธ์ภักดี พัฒนกุล ผบ.ทอ. กล่าวสาราณียพจน์ สดุดีวีรชนฯ ว่าในวันที่ 8 ธันวาคมของทุกปี ถือเป็นวันสำคัญยิ่งวันหนึ่งของกองทัพอากาศ เป็นวันที่พวกเราทุกคนได้ร่วมรำลึกถึงเหตุการณ์ที่เหล่าวีรชน ได้แสดงออกถึงความกล้าหาญ ความร่วมมือร่วมใจ ความเสียสละ และความไม่ย่อท้อ ซึ่งทุกท่านต่างพร้อมใจกันสละเลือดเนื้อและลมหายใจ เพื่อปกป้องเอกราชและอธิปไตย บนผืนแผ่นดินไทยอันเป็นที่รักยิ่ง วีรกรรมในครั้งนั้น แสดงให้เห็นเป็นที่ประจักษ์และยอมรับกันทั่วไปว่าเป็นวีรกรรมที่มีพระคุณต่อประเทศชาติ สมควรได้รับการเชิดชูเกียรติ ชื่นชม และยกย่อง เพื่อถ่ายทอดไปสู่คนรุ่นหลัง และปลูกฝังให้เกิดความภาคภูมิใจ ทั้งนี้ วีรกรรมของทหารหาญที่มีนามจารึกอยู่ ณ อนุสาวรีย์แห่งนี้ จะยังคงอยู่ในความทรงจำของคนไทยทั้งชาติ ตราบนานเท่านาน ในวันนี้ เพื่อนร่วมชาติและทายาทของท่านผู้กล้าหาญ ได้ร่วมใจกันจัดงานเชิดชูเกียรติและบำเพ็ญบุญเพื่ออุทิศส่วนกุศลแด่วีรชนผู้ล่วงลับโดยสมบูรณ์ทุกประการแล้ว ขอบุญกุศลส่วนนี้ ประกอบกับคุณงามความดีของท่าน ได้โปรดรวมกันเป็นพลวปัจจัย ส่งเสริมให้ดวงวิญญาณของวีรชนที่สละชีพเพื่อประเทศชาติ ได้ประสบสุขในทิพยสถานตลอดกาล เพื่อเป็นการรำลึกถึงเกียรติคุณ และไว้อาลัยแด่วีรชนทั้งหลาย กระผมขอเรียนเชิญผู้มีเกียรติทุกท่าน กรุณาสำรวมจิต ยืนสงบนิ่งเป็นเวลา 1 นาที

เมื่อเวลา 17.30 น. วันที่ 7 ธันวาคม 2566 พล.อ.อ.ตากเพชร พินพันธุ์ ที่ปรึกษาพิเศษกองทัพอากาศ ผู้แทนผู้บัญชาการทหารอากาศ เป็นประธานร่วมกับว่าที่พันตรี อดิศักดิ์ น้อยสุวรรณ รองผู้ว่าราชการจังหวัด รักษาการผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ในพิธีเปิดงานสดุดีวีรชน 8 ธันวาคม 2484 ประจำปี 2566 โดยมี น.อ.พงศ์ชนินทร์ นุชประเสริฐ ผู้บังคับการกองบิน 5 กล่าวรายงาน และมี พล.อ.ท.เสกสัณน์ ไชยมาตย์ เจ้ากรมยุทธศึกษา กองทัพอากาศ พล.อ.ต.สรวิชญ์ สุรกุล ผู้ช่วยหัวหน้านายทหารฝ่าย เสธ.ประจำผู้บัญชาการทหารอากาศ นายสราวุธ ลิ้มอรุณรักษ์ นายก อบจ.ประจวบฯ หัวหน้าส่วนราชการ ข้าราชการ ผู้แทนหน่วยงาน องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น กลุ่มพลังมวลชน ทายาทวีรชน นักเรียน นักศึกษาและประชาชนเข้าร่วม โดยก่อนพิธีเปิดงาน มีการเดินริ้วขบวนเทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์ และเดินเทิดเกียรติสดุดีวีรชนฯ ตั้งแต่หน้าศาลหลักเมืองประจวบฯ ผ่านถนนสละชีพ ในเขตเทศบาลเมืองประจวบฯ มายังอนุสาวรีย์วีรชนฯ เพื่อประชาสัมพันธ์การจัดงานในครั้งนี้อีกด้วย

พล.อ.อ.ตากเพชร พินพันธุ์ ที่ปรึกษาพิเศษ กองทัพอากาศ กล่าวว่า ตามที่คณะกรรมการจัดงานได้กล่าวถึงความสำคัญและความเป็นมาของวีรกรรมในอดีต ที่เราชาวไทยทุกคนควรจดจำและระลึกถึงความกล้าหาญ ความเสียสละของเหล่าวีรชนผู้กล้า ทั้งข้าราชการ ทหาร ตำรวจ และประชาชนชาวจังหวัดประจวบฯ ที่ได้ร่วมกันขัดขวางอริราชศัตรูอย่างไม่หวั่นเกรง ยอมสละชีพเพื่อปกป้องเอกราชและอธิปไตยของชาติไทยไว้ในเหตุการณ์ 8 ธันวาคม 2484 วีรกรรมครั้งนั้น ทางราชการได้จัดสร้างอนุสาวรีย์วีรชน 8 ธันวาคม 2484 ขึ้น พร้อมทั้งประกอบพิธีบรรจุอัฐิวีรชนที่เสียชีวิตไว้ใต้ฐานอนุสาวรีย์ฯแห่งนี้ และในปี พ.ศ.2553 พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานเหรียญกล้าหาญให้แก่กองบิน 5 ประดับไว้บนธงชัยเฉลิมพลของกองบิน ซึ่งถือเป็นเกียรติประวัติอย่างสูงยิ่งของหน่วย โดยในวันที่ 8 ธันวาคมของทุกปี กองทัพอากาศได้กำหนดให้ประกอบพิธีวางพวงมาลา พิธีบำเพ็ญกุศล และอุทิศกุศลแด่วีรชนที่ล่วงลับไปแล้ว โดยมี พล.อ.อ.พันธ์ภักดี พัฒนกุล ผู้บัญชาการทหารอากาศ จะเดินทางมาเป็นประธานประกอบพิธี

กลับมาอีกครั้งกับช่วงเวลาแห่งความสุขที่ทุกคนรอคอย กับงานเปิดไฟต้นคริสต์มาส สัญลักษณ์แห่งการฉลองเทศกาลแห่งความสุขส่งท้ายปลายปี ปีนี้บลูพอร์ตหัวหิน จัดขึ้นวันที่ 13 ธันวาคมนี้ ภายใต้แคมเปญเฉลิมฉลองครบรอบ 8 ปี“TIP life Winter & Music Carnival Celebration 2023 – 2024 presented by Singha”ที่เนรมิตพื้นที่ด้านหน้าลานเดอะแสควร์ให้เป็นพื้นที่แห่งความสุขและการเฉลิมฉลอง พร้อมจุดถ่ายรูปเช็คอินสุดปัง อลังการไปกับภาพความสวยงามของหิมะจำลอง ที่ปล่อยมาสร้างบรรยากาศความหนาวสุดขั้วควบคู่กับต้นคริสต์มาสยักษ์ ขนาด 18 เมตร ใหญ่ที่สุดในเมืองหัวหิน ประดับไฟจากพลังงานไฟฟ้าของรถยนต์ BYD ที่มาปลุกความสว่างไสวสุดตระการตา พร้อมทั้งจอ LED 3D แสง สี เสียงสุดอลังการ ตอกย้ำการเป็น A MUST CHECKIN DESTINATION แห่งการเฉลิมฉลองเทศกาลแห่งความสุขที่ดีที่สุดแห่งแรกในหัวหิน ดื่มด่ำกับบรรยากาศสุดพิเศษด้วยดนตรีสดและกิจกรรมต่างๆ เพื่อเป็นสัญลักษณ์ของการเริ่มต้นเทศกาลความสุขอย่างเป็นทางการ โดยมีแขกรับเชิญสุดพิเศษคนสำคัญระดับโลกที่มาสร้างสีสันให้กับเมืองหัวหินและถือว่าเป็นไฮไลท์สำคัญที่สุดของงาน กับ“แอนโทเนีย โพซิ้ว”รองชนะเลิศอันดับ 1 มิสยูนิเวิร์ส 2023 ที่ได้ตำแหน่งมาอย่างสดๆ ร้อนๆ และเหล่าสาวงามจากเวทีมิสยูนิเวิร์สเพชรบุรี 2023 นำโดยน้องมุก ชนิกานต์ สังวาลพานิช มิสยูนิเวิร์สเพชรบุรี, จูลี่ จูลี่ มาน่อน วาเลอรี่ ลิพเพอร์ท รองอันดับ 1 มิสยูนิเวิร์สเพชรบุรี 2023, ซามี่ ซามี ฟรีเเมน รองอันดับ 4 มิสยูนิเวิร์สเพชรบุรี 2023 พร้อมครอบครัวคนดังอย่าง เปิ้ล นาคร ศิลาชัย และลูกๆ 4 ออ ที่มาเพิ่มสีสันแห่งความสนุกภายในงาน ปิดท้ายด้วยคอนเสิร์ตสุดมันส์ จาก ศิลปินวง Indigo

ช่วงสายวันที่ 7 ธันวาคม 2566 นายวิโรจน์ ชูแก้ว รักษาราชการแทนนายอำเภอบางสะพาน, นายวิเชียร เกตุงาม กำนันตำบลกำเนิดนพคุณ, นายณรงค์ พลายน้อย นายก อบต.กำเนิดนพคุณ, นายชัชวาลย์ อิ่มบัญชร ผู้อำนวยการฝ่ายกิจการภายนอก SVL Group, นายอุดม สดใส กรรมการผูัจัดการ บริษัท ไลน์ ทรานสปอร์ต จำกัด รวมถึงภาครัฐ ชุมชน โรงเรียน ประชาชนในพื้นที่ และพนักงานเอสวีแอล กรุ๊ป เข้าร่วมกิจกรรมโครงการ “สร้างคน สร้างป่า สร้างพื้นที่สีเขียว” ที่วัดเขากะจิ หมู่ 6 ต.กำเนิดนพคุณ อ.บางสะพาน จ.ประจวบคีรีขันธ์

นายอุดม สดใส เปิดเผยว่ากลุ่มธุรกิจเอสวีแอล มีนโยบายบริหารและพัฒนาเศรษฐกิจ สังคมและสิ่งแวดล้อม โดยเฉพาะการให้ความสำคัญต่อการกำกับดูแลด้านสิ่งแวดล้อมที่ดี มีการสนับสนุนงานด้านสิ่งแวดล้อมต่างๆ ที่ดำเนินงานร่วมกับชุมชนบางสะพานมาอย่างต่อเนื่อง และในวันนี้โครงการด้านการดูแลสิ่งแวดล้อมได้เกิดขึ้นอีกครั้ง กับกิจกรรม “สร้างคน สร้างป่า สร้างพื้นที่สีเขียว” เพราะเอสวีแอลกรุ๊ปตระหนักดีถึงปัญหาสภาวะโลกร้อน และได้วางแนวทางการแก้ไขปัญหาไว้หลากหลายแนวทาง โดยเฉพาะวิถีง่ายๆ เช่น รณรงค์ในการรักษาและสร้างพื้นที่สีเขียว, การแยกขยะเพื่อเป็นต้นทางในการไม่ทำลายสิ่งแวดล้อม โดยมีนายประสงค์ สมทรง ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 6 ต.กำเนิดนพคุณ พร้อมด้วยผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน ประชาชนและนักเรียนโรงเรียนบ้านดอนทองและโรงเรียนบางสะพานวิทยา ร่วมกิจกรรมครั้งนี้กว่า 100 คน

วันที่ 7 ธันวาคม 2566 นายมนต์ชัย หนูสาย นายอำเภอสามร้อยยอด เป็นประธานในพิธีถวายพระพร เนื่องในวันคล้ายวันประสูติ สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภานเรนทิราเทพยวดี กรมหลวงราชสาริณีสิริพัชร มหาวัชรราชธิดา ที่วัดสามร้อยยอด ต.ไร่เก่า อ.สามร้อยยอด จ.ประจวบคีรีขันธ์ มีนายกำพล เต็งประเสริฐ นายกเทศมนตรีตำบลไร่เก่า หัวหน้าส่วนราชการ ข้าราชการ ทหาร ตำรวจ พนักงานราชการ อาสาสมัครรักษาดินแดนอำเภอสามร้อยยอด กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน คณะครู นักเรียนโรงเรียนบ้านสามร้อยยอด (บุญรักษ์อุทิศ) และประชาชนทั่วไปร่วมในพิธี

โอกาสนี้นายมนต์ชัย ถวายแจกันดอกไม้เบื้องหน้าพระรูปสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภานเรนทิราเทพยวดี กรมหลวงราชสาริณีสิริพัชร มหาวัชรราชธิดา จากนั้นกล่าวถวายพระพร ความว่า “ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา นเรนทิราเทพยวดี กรมหลวงราชสาริณีสิริพัชร มหาวัชรราชธิดา ได้ทรงอุทิศพระองค์ปฏิบัติพระกรณียกิจนานัปการ ด้วยพระวิริยะ อุตสาหะ เพื่อบำบัดทุกข์ บำรุงสุขแก่พสกนิกรชาวไทย โดยเฉพาะอย่างยิ่งการให้ความช่วยเหลือฟื้นฟูคุณภาพชีวิตผู้ตกทุกข์ได้ยาก ผู้ด้อยโอกาสทางสังคม รวมถึงผู้ต้องขัง โดยได้น้อมนำพระบรมราโชบายของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ไปเป็นแนวทางในการดำเนินงานโครงการราชทัณฑ์ปันสุข ด้วยการประสานความร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้ผู้ต้องขังได้รับบริการทางการแพทย์และสาธารณสุขเท่าเทียมกับประชาชนทั่วไปตามหลักมนุษยธรรม อีกทั้งทรงรับเป็นประธานกรรมการมูลนิธิอาสาเพื่อนพึ่ง (ภาฯ) ยามยาก สภากาชาดไทย เพื่อให้ความช่วยเหลือ บรรเทาทุกข์ผู้ได้รับผลกระทบจากอุทกภัย ภัยพิบัติที่รุนแรง ให้สามารถกลับมาดำรงชีวิตอย่างปกติสุข สนับสนุนให้ผู้ทุกข์ยากน้อยกว่าช่วยเหลือผู้ทุกข์ยากมากกว่า ผู้ที่แข็งแรงช่วยผู้อ่อนแอ ภายใต้แนวคิด “แบ่งปัน พอเพียง ยั่งยืน” รวมไปถึงการน้อมนำพระบรมราโชบายที่จะให้อนุรักษ์ป่าและช้าง และการอยู่ร่วมกันระหว่างคนกับช้างอย่างมีความสุข ผ่านโครงการพัชรสุธาคชานุรักษ์ และโครงการพัฒนาชุมชนในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าและอุทยานแห่งชาติ จังหวัดกาญจนบุรี ในพระบรมราชูปถัมภ์ โครงการพัฒนาชุมชนตำบลไล่โว่ อำเภอสังขละบุรี จังหวัดกาญจนบุรี สนองพระบรมราโชบายของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่ทรงมีพระราชปณิธานสืบสาน รักษา ต่อยอด พระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เพื่อช่วยเหลือราษฎรที่อาศัยอยู่ในเขตชายแดนที่ความเจริญยังเข้าไปไม่ถึง ให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีอย่างยั่งยืน รวมทั้งเสริมสร้างความเข้มแข็งของชุมชนเพื่อความมั่นคงของประเทศ”

วันที่ 7 ธันวาคม 2566 ร.ต.อ.ศุภลักษณ์ หวานวาจา รองสารวัตรสอบสวน สภ.เมืองประจวบคีรีขันธ์ รับแจ้งจากศูนย์วิทยุ 191 ว่าเกิดเหตุทะเลาะวิวาท มีผู้ได้รับบาดเจ็บถูกมีดฟันคอ มีบาดแผลฉกรรจ์ ในหมู่บ้านชาวประมงอ่าวน้อย พื้นที่เขตรับผิดชอบของ สภ.เมืองประจวบคีรีขันธ์ หลังได้รับแจ้งจึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ จากนั้นพร้อมด้วย ร.ต.อ.สอาด กล่ำคนตรง รองสารวัตรปราบปราม ด.ต.จักรพงษ์ อินทนพ ผบ.หมู่ ป.สภ.เมือง ด.ต.วีรยุทธ ตั่นสกุล ผบ.หมู่ป.สภ.เมืองประจวบฯ ร่วมตรวจสอบที่เกิดเหตุ

เมื่อไปถึงจุดที่เกิดเหตุเป็นบริเวณพื้นที่ท่าเทียบเรือสะพานปลาที่ 1 ภายในหมู่บ้านชาวประมงอ่าวน้อย หมู่ 2 ต.อ่าวน้อย อ.เมืองประจวบคีรีขันธ์ พบว่าลูกเรือประมงของโชคลาภเจริญผล 9 ได้ทะเลาะวิวาทกับหนุ่มตังเกนอกพื้นที่ ที่มาหางานทำแต่ถูกเจ้าของเรือปฏิเสธ จึงเกิดอาการไม่พอใจ คุ้มคลั่งอาละวาดท้าดวลต่อสู้กับลูกเรือตังเก จนได้รับบาดเจ็บทั้งสองฝ่าย ทราบชื่อผู้บาดเจ็บ คือนายวีรยุทธ์ รัตนพงษ์ อายุ 34 ปี สวมเสื้อยืดอาสารักษาดินแดน (อส.) คอกลม ลายพรางสีเขียวขี้ม้า ถูกอาวุธมีดฟันมีบาดแผลฉกรรจ์ที่บริเวณลำคอ นิ้วโป้งมือขวา และแขนซ้ายมีเลือดไหลออกจำนวนมาก และนายวรวรรธน์ ทิพย์พยอม อายุ 50 ปี ไม่สวมใส่เสื้อ เป็นลูกเรือประมงโชคลาภเจริญผล 9 มีบาดแผลแตกที่บริเวณเหนือคิ้วซ้าย ยาวประมาณ 5 เซนติเมตร เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ประสานให้เจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยมูลนิธิสว่างประจวบฯ เข้าปฐมพยาบาลเบื้องต้น ก่อนนำตัวส่งรักษาบาดแผลที่โรงพยาบาลประจวบฯ

ช่วงเย็นวันที่ 5 ธันวาคม 2566 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่บริเวณหมู่บ้านชาวประมงพื้นบ้านคลองวาฬ หมู่ 1 ต.คลองวาฬ อ.เมือง จ.ประจวบคีรีขันธ์ พ่อค้าแม่ค้าและชาวบ้านคลองวาฬได้พร้อมใจร่วมกันเปิดโรงทาน แจกจ่ายเลี้ยงอาหารและขนมต่างๆ ที่หน้าบ้านของตนให้กับชาวบ้านผู้ยากไร้และกลุ่มแรงงาน ทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ ที่ประกอบอาชีพรับจ้างและเป็นลูกเรือชาวประมง เพื่อทำความดีถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ในหลวงรัชกาลที่ 9 เนื่องในโอกาสวันชาติและวันพ่อแห่งชาติ

ช่วงค่ำวันที่ 5 ธันวาคม 2566 น.ส.แรมรุ้ง วรวัธ อธิบดีกรมกิจการผู้สูงอายุ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) เป็นประธานในพิธีน้อมเกล้าฯ ถวายความภักดีสัตตะพระบารมีบูรพมหากษัตริย์ไทยตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน เพื่อแสดงความจงรักภักดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์และน้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร เนื่องในโอกาสวันคล้ายวันพระบรมราชสมภพ 5 ธันวาคม โดยมีนายองครักษ์ ทองนิรมล รองผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบฯ นายพลกฤต พวงวลัยสิน นายอำเภอหัวหิน นางอุษา พวงวลัยสิน นายกกิ่งกาชาดอำเภอหัวหิน นายนพพร วุฒิกุล นายกเทศมนตรีเมืองหัวหิน นางลิษา อึ้งเห่ง ประธานสภาวัฒนธรรมอำเภอหัวหิน นางทิพวรรณ สุทัศน์ ประธานศูนย์การเรียนรู้ภูมิปัญญาท้องถิ่นนาฏศิลป์ไทย เทศบาลเมืองหัวหิน ผู้แทนผู้บัญชาการศูนย์การทหารราบค่ายธนะรัชต์ ผู้บัญชาการศูนย์การกำลังสำรอง ผู้บัญชาการโรงเรียนนายสิบทหารบก หน่วยงานต่างๆ และประชาชนสวมเสื้อเหลืองนับพันคนร่วมในพิธีที่อุทยานราชภักดิ์ อ.หัวหิน จ.ประจวบฯ

วันที่ 5 ธันวาคม 2566 ว่าที่พันตรีอดิศักดิ์ น้อยสุวรรณ รองผู้ว่าราชการจังหวัด รักษาราชการแทนผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ พร้อมด้วยนายวิทยา เขียวรอด นายอำเภอเมืองประจวบคีรีขันธ์ นำเจ้าหน้าที่ปลัดอำเภอ เจ้าหน้าที่ศูนย์ดำรงธรรม เจ้าหน้าที่ขนส่งจังหวัดและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้าเยี่ยมเยียนให้กำลังใจผู้ได้รับบาดเจ็บและญาติที่นอนพักรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลประจวบคีรีขันธ์ หลังประสบอุบัติเหตุรถทัวร์ของบริษัทศรีสยามเดินรถ จำกัด เสียหลักตกถนนชนกับต้นไม้ขณะเดินทางจากสถานีขนส่งสายใต้ มุ่งหน้าอำเภอนาทวี จังหวัดสงขลา ทำให้มีผู้เสียชีวิต 14 ราย บาดเจ็บ 35 ราย เมื่อช่วงเวลาประมาณ 01.00 น. เมื่อคืนที่ผ่านมา

หลังจากนั้น รองผู้ว่าราชการจังหวัดได้ประสานให้โรงพยาบาลประจวบคีรีขันธ์และโรงพยาบาลทับสะแก ซึ่งเป็นโรงพยาบาลที่รับดูแลผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตจากอุบัติเหตุ ให้ทั้งสองแห่งเปิดจุดบริการอำนวยความสะดวกแก่ญาติผู้ประสบอุบัติเหตุ โดยสามารถติดต่อประสานขอข้อมูลได้ที่จุดบริการ ชั้น 1 อาคารตึกอุบัติเหตุโรงพยาบาลประจวบคีรีขันธ์ และจุดบริการที่โรงพยาบาลทับสะแก นอกจากนี้ยังได้จัดเตรียมสถานที่สำหรับพักค้างคืนไว้ให้กับญาติที่มาติดต่อ พร้อมทั้งประสานให้บริษัทกลางคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ และบริษัทประกัน ดำเนินการจ่ายค่ารักษาพยาบาลและสิทธิต่างๆ ที่พึงจะได้รับของผู้ที่ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต

ทั้งนี้ศูนย์อำนวยการช่วยเหลือผู้ประสบภัย เปิดเผยว่าจำนวนผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตทั้งหมด เมื่อเวลา 10.45 น. ของวันที่ 5 ธันวาคม 2566 ว่าในรถดังกล่าวมีผู้โดยสารรวมทั้งคนขับ จำนวน 49 ราย เสียชีวิต 14 ราย อยู่ที่โรงพยาบาลทับสะแก ขณะนี้อยู่ระหว่างรอการพิสูจน์อัตลักษณ์และรายชื่อ และมีผู้บาดเจ็บรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลประจวบคีรีขันธ์ 14 ราย อยู่ระหว่างเคลื่อนย้ายจากโรงพยาบาลทับสะแก มาโรงพยาบาลประจวบฯ 2 ราย รักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลทับสะแก 5 ราย ส่วนผู้โดยสารที่ได้รับบาดเจ็บและแพทย์อนุญาตให้กลับบ้านได้จำนวน 14 ราย

วันที่ 5 ธันวาคม 2566 ว่าที่พันตรี อดิศักดิ์ น้อยสุวรรณ รองผู้ว่าราชการจังหวัด รักษาการผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เป็นประธานพิธีทำบุญตักบาตรพระสงฆ์และสามเณร จำนวน 89 รูป ถวายพระราชกุศล เนื่องในวันคล้ายวันพระบรมราชสมภพ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร วันชาติ และวันพ่อแห่งชาติ 5 ธันวาคม 2566 มีนายบุญรัตน์ จูอี้ ผู้พิพากษาหัวหน้าศาลจังหวัดประจวบฯ นายประยุทธ แก้วภักดี ผู้พิพากษาหัวหน้าศาลเยาวชนและครอบครัวจังหวัดฯ นายกิตติพงศ์ สุขภาคกุล, นายคมกริช เจริญพัฒนสมบัติ, นายองครักษ์ ทองนิรมล รองผู้ว่าราชการจังหวัด, พล.ต.อาวุธ พุทธอำนวย ผู้บัญชาการศูนย์การทหารราบ, พล.ต.ต.จำลอง งามเนตร ผบก.ตร.ภ.จ.ประจวบฯ น.อ.พงศ์ชนินทร์ นุชประเสริฐ ผู้บังคับการกองบิน 5 หัวหน้าส่วนราชการ ข้าราชการ หน่วยงานทุกภาคส่วน องค์กรเอกชน และประชาชนเข้าร่วมที่บริเวณหน้าศาลหลักเมืองประจวบคีรีขันธ์