Categories
ข่าว ท่องเที่ยว ทั้งหมด

ภูมิธรรมเปิดงานมหัศจรรย์ วันมวยไทย ดังไกลสู่ชาวโลก ส่งเสริมกีฬามวยไทยและการท่องเที่ยว

ภูมิธรรมเปิดงานมหัศจรรย์ วันมวยไทย ดังไกลสู่ชาวโลก ส่งเสริมกีฬามวยไทยและการท่องเที่ยว

เมื่อเวลา 19.00 น. วันที่ 6 กุมภาพันธ์ 2568 นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นประธานเปิดงานมหัศจรรย์ วันมวยไทย ดังไกลสู่ชาวโลก ประจำปี 2568 ที่อุทยานราชภักดิ์ อ.หัวหิน จ.ประจวบฯ พร้อมด้วยนายสิทธิชัย สวัสดิ์แสน ผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบฯ พลตรีพงษ์ศักดิ์ เอี่ยมพญา ผู้บัญชาการโรงเรียนนายสิบทหารบก หน่วยงานภาครัฐและเอกชนให้การต้อนรับ กิจกรรมประกอบด้วยการวางพานพุ่มดอกไม้สด ถวายราชสักการะพระบรมราชานุสาวรีย์สมเด็จพระบูรพกษัตริย์แห่งสยาม 7 พระองค์ พิธีถวายราชสักการะพระบรมรูปสมเด็จพระสรรเพชญ์ที่ 8 (พระเจ้าเสือ) และถวายราชสักการะพระบรมฉายาลักษณ์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 10 พร้อมกันนี้ประธานในพิธีได้มอบของที่ระลึกให้กับหน่วยงานต่างๆ ที่สนับสนุนการจัดงานด้วย

จากนั้นชมการแสดง“รากเหง้าภูมิปัญญามวยไทย เกรียงไกรสู่ชาวโลก”จำนวน 3 องก์ ประกอบด้วยการแสดงย้อนประวัติศาสตร์รากเหง้าสู่ความยิ่งใหญ่มวยไทย ของบรรพบุรุษไทยโบราณที่ได้คิดค้น ฝึกฝนและพัฒนาการต่อสู้ด้วยมือเปล่าเพื่อใช้ในการป้องกันตัวและปกป้องประเทศชาติจากการทำศึกสงคราม การแปรรูปขบวนทหารเป็นตัวเลขไทย 323 เพื่อน้อมรำลึกถึงสมเด็จพระสรรเพชญ์ที่ 8 (สมเด็จพระเจ้าเสือ) บิดามวยไทย ในโอกาสครบ 323 ปีแห่งวันขึ้นครองราชย์ และการแสดงศิลปะแม่ไม้มวยไทยและรำไหว้ครูอันงดงามยิ่งใหญ่ ประกอบแสง สี เสียง จากกำลังพลของกองทัพบกกว่า 2,000 คน และจุดพลุเฉลิมฉลองประเพณีมวยไทยอย่างยิ่งใหญ่ตระการตา ชมการแสดงแฟชั่นโชว์จากเยาวชนชุดมหัศจรรย์ มวยไทย เกรียงไกรสู่ชาวโลก โดยสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวหัวหิน – ชะอำ ร่วมกับ VARDA BY SINEE นิทรรศการประวัติศาสตร์มวยไทย กิจกรรมมวยไทย 4 ภาค และการจำหน่ายสินค้าอาหารท้องถิ่น โดยงานครั้งนี้ได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยวชาวไทยและชาวต่างประเทศตลอดจนประชาชนจำนวนมาก

ตามที่รัฐบาลได้กำหนดให้วันที่ 6 กุมภาพันธ์ของทุกปี เป็นวันมวยไทย ซึ่งตรงกับวันเสวยราชสมบัติของสมเด็จพระสรรเพชญ์ที่ 8 หรือพระเจ้าเสือ พระองค์ทรงมีพระปรีชาสามารถทางด้านมวยไทย เพื่อเป็นการสืบทอดศิลปะแม่ไม้มวยไทยไปยังคนรุ่นหลัง อีกทั้งยังเป็นมรดกทางวัฒนธรรมอันทรงคุณค่าของชาติไทยตราบมาจนถึงปัจจุบัน กองทัพบกจึงร่วมกับคณะอนุกรรมการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมด้านกีฬา คณะกรรมการพัฒนาซอฟต์พาวเวอร์แห่งชาติ, จังหวัดประจวบฯ, กรมส่งเสริมวัฒนธรรม, การกีฬาแห่งประเทศไทยและการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย รวมทั้งภาคเอกชน และส่วนราชการต่างๆ ในพื้นที่จังหวัดประจวบฯ จัดงานมหัศจรรย์ วันมวยไทย ดังไกลสู่ชาวโลก ประจำปี 2568 ในวันที่ 5 – 6 กุมภาพันธ์ 2568 ณ อุทยานราชภักดิ์ อ.หัวหิน เพื่อเทิดพระเกียรติและน้อมรำลึกถึงสมเด็จพระสรรเพชญ์ที่ 8 (สมเด็จพระเจ้าเสือ) องค์พระบิดามวยไทย ในโอกาสครบ 323 ปีแห่งวันขึ้นครองราชย์ในวันที่ 6 กุมภาพันธ์ 2568 เพื่อส่งเสริมให้มวยไทยเป็นกีฬาประจำชาติไทยและมรดกของชาติไทย เผยแพร่ประวัติศาสตร์ จารึกประเพณีวัฒนธรรมอันงดงามและเป็นสากล เพื่อให้กีฬามวยไทยให้เป็นที่รู้จักทั่วโลก และเพื่อต่อยอดการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมโดยให้มวยไทยเป็นสื่อกลาง ให้อุทยานราชภักดิ์เป็นบ้านของมวยไทยที่คนไทยและนักท่องเที่ยวต้องมาเยือน.

ข่าวแนะนำ
Categories
ข่าว ท่องเที่ยว ทั้งหมด

ผู้ว่าฯ ประจวบฯ เปิดศูนย์ประชาสัมพันธ์เครือข่ายท่องเที่ยว โดยชุมชนปากน้ำปราณ

ผู้ว่าฯ ประจวบฯ เปิดศูนย์ประชาสัมพันธ์เครือข่ายท่องเที่ยว โดยชุมชนปากน้ำปราณ

วันที่ 5 กุมภาพันธ์ 2568 นายสิทธิชัย สวัสดิ์แสน ผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบฯ เป็นประธานเปิดศูนย์ประชาสัมพันธ์เครือข่ายท่องเที่ยวโดยชุมชนปากน้ำปราณ ที่โรงแรมวินแดม หัวหิน ปราณบุรี รีสอร์ตแอนด์วิลล่า ต.ปากน้ำปราณ อ.ปราณบุรี จ.ประจวบฯ มีนายราม สิงหโศภิษฐ์ นายอำเภอปราณบุรี น.ส.จิราวรรณ บุญฤทธิ์ รองผู้อำนวยการ ททท.สำนักงานประจวบฯ นายนำลาภ อิ่มทั่ว นายก อบต.ปากน้ำปราณ นายโรดาน อีวาน ผู้จัดการทั่วไป โรงแรมวินแดม หัวหิน ปราณบุรีฯ หน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน และเครือข่ายท่องเที่ยวชุมชนปากน้ำปราณ ให้การต้อนรับ พร้อมกันนี้ ผู้ว่าราชการจังหวัดได้เดินเยี่ยมชมบูธการแสดงกิจกรรมของชุมชน, นั่งรถซาเล้งท่องเที่ยววิถีชุมชน, ปลูกต้นไม้เพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม, เปิดกิจกรรมวิ่งเพื่อสุขภาพของอำเภอปราณบุรี และร่วมถ่ายรูปที่ตาลสามต้น จุดแลนด์มาร์คสุดฮิตของปราณบุรี

สำหรับ ศูนย์ประชาสัมพันธ์เครือข่ายท่องเที่ยวโดยชุมชนปากน้ำปราณ ตั้งอยู่บนพื้นที่ 100 ตารางเมตร ภายในโรงแรมวินแดม หัวหิน ปราณบุรี รีสอร์ตแอนด์วิลล่า เพื่อใช้เป็นศูนย์ข้อมูลการท่องเที่ยวปากน้ำปราณ ร่วมกับเครือข่ายวิสาหกิจชุมชนพัฒนาปากน้ำปราณ เครือข่ายวิสาหกิจชุมชนท่องเที่ยวปากน้ำปราณ ในการส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์และวัฒนธรรม เป็นการกระจายรายได้สู่ชุมชน อีกทั้งยังเป็นศูนย์ประชาสัมพันธ์ให้บริการเรื่องข้อมูลท่องเที่ยวในพื้นที่, มีบริการซาเล้งทัวร์ (รถพ่วงข้างนั่งชมวิถีชุมชน), ล่องเรือแม่น้ำปราณบุรี แบบไปเช้าเย็นกลับ, จำหน่ายผลิตภัณฑ์ท้องถิ่น รวมถึงประสานงานภาครัฐในการดูแลด้านความปลอดภัยให้กับนักท่องเที่ยวด้วย.

Categories
ข่าว ท่องเที่ยว ทั้งหมด

หัวหินตั้งรูปปั้นคนสู้ฉลาม ประติมากรรมเก่าแก่ของชาวหัวหิน แทนของเก่าที่ชำรุดให้เป็นแลนด์มาร์คแห่งใหม่

หัวหินตั้งรูปปั้นคนสู้ฉลาม ประติมากรรมเก่าแก่ของชาวหัวหิน แทนของเก่าที่ชำรุดให้เป็นแลนด์มาร์คแห่งใหม่

วันที่ 5 กุมภาพันธ์ 2568 นายนพพร วุฒิกุล นายกเทศมนตรีเมืองหัวหิน จ.ประจวบฯ พร้อมด้วยนายบุญเกิด อรรธนิศากร ประธานมูลนิธิสว่างหัวหินธรรมสถาน สมาชิกสภาเทศบาลฯ ผู้อำนวยการสำนักช่าง และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ลงพื้นที่บริเวณรูปปั้นคนสู้ฉลาม ขนาดความสูงประมาณ 1.90 เมตร ที่ถอดแบบมาจากรูปปั้นคนสู้ฉลาม ประติมากรรมเก่าแก่สัญลักษณ์ของหัวหินเกือบ 70 ปี ที่ชำรุดทรุดโทรมไปตามกาลเวลา และนำกลับมาปั้นแล้วตั้งใหม่บนโขดหินริมทะเล บริเวณเดิมที่ศาลเจ้าแม่ทับทิมหัวหิน ทางลงชายหาดหัวหิน เพื่อให้ชาวหัวหินและนักท่องเที่ยวได้ชื่นชม ได้ถ่ายภาพและเป็นจุดเช็คอิน ท่ามกลางนักท่องเที่ยวต่างชาติยืนดูด้วยความสนใจ พร้อมกันนี้เทศบาลเมืองหัวหินมีแนวทางในการปรับปรุงภูมิทัศน์บริเวณดังกล่าวให้นักท่องเที่ยวชาวไทยและชาวต่างชาติได้มาเยี่ยมชมธรรมชาติทะเลอันสวยงาม และได้ทราบเรื่องราวประวัติศาสตร์ของเมืองหัวหินต่อไป

นายบุญเกิด อรรธนิศากร กล่าวว่า เดิมทีรูปปูนปั้นคนสู้ฉลามมีมานานหลายสิบปีแล้ว โดยนำมาตั้งที่โขดหิน บริเวณศาลเจ้าแม่ทับทิมและชำรุดทรุดโทรมไปตามกาลเวลา จึงย้ายออก ต่อมามีการนำรูปปั้น “โผน กิ่งเพชร” มาตั้งแทนระยะหนึ่ง ก่อนย้ายรูปปั้นโผน กิ่งเพชร ไปตั้งยังสวนสาธารณะโผนกิ่งเพชรจนถึงปัจจุบัน และก่อนหน้านี้มีการประชุมร่วมกันหลายครั้ง ที่จะนำรูปปั้นคนสู้ฉลามกลับมาตั้งใหม่ แต่ด้วยเทศบาลหัวหินขาดงบประมาณ ผมจึงได้รวบรวมเงินจากคณะกรรมการศาลเจ้า ที่ได้จากการทำบุญของชาวบ้านเวลาจัดงานประจำปี รวมกับเงินส่วนตัวได้ประมาณ 359,000 บาท จ้างนักปั้นจากโคราชที่มีฝีมือ ปั้นขึ้นใหม่จากปูนซีเมนต์ ซึ่งสามารถป้องกันความเค็มของน้ำทะเล จะไม่มีเหล็กอยู่ภายใน เพราะถ้ามีเหล็กอาจจะเกิดการระเบิดหรือปะทุได้ จะเป็นเนื้อเรซิ่นหรือเนื้อพลาสติกผสมอยู่ จนแล้วเสร็จสมบูรณ์ ก่อนนำกลับมาตั้งที่เดิมเพื่อให้เป็นแลนด์มาร์คของนักท่องเที่ยวที่มาเที่ยวทะเลหัวหินได้ถ่ายภาพเก็บเป็นที่ระลึก.

Categories
ข่าว ท่องเที่ยว ทั้งหมด

ประจวบฯ เตรียมจัดงานประเพณีตักบาตรเที่ยงคืนพระอุปคุตริมทะเล แห่งเดียวในไทย

ประจวบฯ เตรียมจัดงานประเพณีตักบาตรเที่ยงคืนพระอุปคุตริมทะเล แห่งเดียวในไทย

วันที่ 4 กุมภาพันธ์ 2568 นายกมล แก้วเทศ นายกเทศมนตรีเมืองประจวบฯ เป็นประธานประชุมเตรียมความพร้อมร่วมกับหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง ในการจัดงานประเพณีตักบาตรเพ็ญพุธแรก (หลวงปู่พระอุปคุตเที่ยงคืน) ประจำปี 2568 ณ ห้องประชุมชั้น 3 สำนักเทศบาลเมืองประจวบฯ

วันเพ็ญพุธ หรือวันเป็งปุ๊ด เป็นประเพณีตักบาตรเที่ยงคืน ซึ่งเป็นประเพณีของชาวล้านนาทางภาคเหนือ ในทุกปีที่มีวันขึ้น 15 ค่ำ ที่ตรงกับวันพุธ โดยไม่เจาะจงว่าต้องอยู่ในเดือนใด พระภิกษุสามเณรทุกรูปจะออกบิณฑบาตในตอนเที่ยงคืน เชื่อกันว่าหลวงปู่พระอุปคุต พระอรหันต์ผู้มีฤทธิ์มากจะออกจากการจำพรรษา เหาะขึ้นมาจากมหาสมุทร (หรือสะดือทะเล) โดยจะแปลงกายเป็นสามเณรน้อยออกมาโปรดสัตว์ ถ้าผู้ใดได้ใส่บาตรกับพระอุปคุตแล้ว บุคคลผู้นั้นจะเหลือกินเหลือใช้ ร่ำรวยเป็นเศรษฐี สุขภาพแข็งแรง รักยืนยาว บังเกิดแต่สิ่งดีที่เป็นสิริมงคลแก่ตนเอง

สำหรับในปีนี้ตรงกับวันที่ 11 กุมภาพันธ์ 2568 ตั้งแต่เวลา 00.01 น. โดยจะมีขบวนพระภิกษุ สามเณร จำนวน 40 รูป ออกรับบิณฑบาตข้าวสารอาหารแห้งจากพุทธศาสนิกชน เข้าแถวเรียงรายเป็น 2 แถว เริ่มจากกลางสะพานสราญวิถี มีขบวนชาวไทยเชื้อสายมอญแบกเสรียง ด้านบนมีรูปหล่อพระอุปคุตโบราณ ระยะทางกว่า 500 เมตร เป็นการจำลองการเดินทางของพระอุปคุตจากสะดือทะเล เพื่อออกมาบิณฑบาตในโลกมนุษย์ และมีความเชื่อว่าถ้าใครได้ใส่บาตรในวันเพ็ญพุธ จะได้รับอานิสงส์แรงกล้า โดยก่อนเริ่มขบวนพระอุปคุต หรือพระบัวเข็ม ผู้ปราบพญามาร มีกิจกรรมสวดมนต์อุปปาตะสันติคาถา เจริญสมาธิ แผ่เมตตา การเทศนาเรื่องพระอุปคุต รำขอพรพระอุปคุตจากนางรำกว่า 100 คน การเชิดพญานาคและพิธีลั่นกลองชัยถวายบูชาองค์หลวงปู่พระอุปคุต ซึ่งการตักบาตรเที่ยงคืนหน้าอ่าวประจวบฯ เป็นสถานที่เพียงแห่งเดียวในประเทศไทย ที่มีวิหารพระอุปคุต หันหน้าสู่ทะเลทางทิศตะวันออก และพุทธศาสนิกชนตักบาตรหน้าทะเล เสมือนรับพระอุปคุตขึ้นจากสะดือทะเล ตามความเชื่อของพุทธศาสนิกชน และทุกครั้งที่จัดงาน แรงศรัทธาจากพุทธศาสนิกชนจากทั่วสารทิศจะนำข้าวสารอาหารแห้งมาร่วมกันตักบาตรพระสงฆ์เพื่อถวายเป็นพุทธบูชาและทำนุบำรุงพระศาสนา.

Categories
ข่าว ท่องเที่ยว ทั้งหมด

นักท่องเที่ยวแห่ชมขบวนมังกร – สิงโต เสริมบารมีรับโชคดีปีใหม่

นักท่องเที่ยวแห่ชมขบวนมังกร – สิงโต เสริมบารมีรับโชคดีปีใหม่

ช่วงเย็นวันที่ 28 มกราคม 2568 นายปรีดา สุขใจ รองผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบฯ เป็นประธานเบิกเนตรมังกรและเปิดงาน“CHINESE NEW YEAR..YEAR OF THE SNAKE 2025”เฉลิมฉลองเทศกาลตรุษจีนปีมะเส็ง มหามงคล อุดมโชคลาภ ปี 2568 ที่ลานเดอะสแควร์ ด้านหน้าศูนย์การค้าบลูพอร์ตหัวหิน มีนายนิติ วงษ์วิชาสวัสดิ์ ผู้อำนวยการ ททท.สำนักงานประจวบฯ นายอติชาติ ชัยศรี รองนายกเทศมนตรีเมืองหัวหิน นางวาสนา ศรีกาญจนา นายกสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวหัวหิน/ชะอำ น.ส.วจี กลมเกลี้ยง กรรมการบริหาร บริษัท หัวหินแอสเสท จำกัด นายโชคชัย วงศ์จักรภัชร์ กรรมการผู้จัดการ บลูพอร์ตหัวหิน และแขกผู้มีเกียรติจำนวนมากในชุดสีแดงสดใสเข้าร่วมในพิธีเปิดอย่างยิ่งใหญ่ ท่ามกลางนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติจำนวนมาก เข้าร่วมชมโชว์ตีกลองจีนมงคล สื่อถึงการขจัดสิ่งชั่วร้าย สร้างสิริมงคล การแสดงโชว์เชิดสิงโตเงิน – สิงโตทองกินผักผลไม้มงคล และไฮไลท์ที่สร้างความตื่นตาตื่นใจให้กับนักท่องเที่ยวได้แก่ การแสดงโชว์มังกรพันเสาพ่นไฟสุดอลังการ และร่วมกันสักการะขอพรเจ้าแม่กวนอิม เพื่อความเป็นสิริมงคลในเทศกาลตรุษจีนนี้

ส่วนที่หน้าสำนักงานเทศบาลเมืองหัวหิน นายพลกฤต พวงวลัยสิน นายอำเภอหัวหิน นายนพพร วุฒิกุล นายกเทศมนตรีเมืองหัวหิน ร่วมปล่อยขบวนแห่องค์เทพเจ้าไฉ่ซิงเอี๊ย เจ้าพ่อสมบูรณ์ – เจ้าแม่ทับทิม และขบวนมังกร – สิงโต เนื่องในเทศกาลตรุษจีนประจำปี 2568 ของเทศบาลเมืองหัวหิน มีนางอุษา พวงวลัยสิน นายกกิ่งกาชาดอำเภอหัวหิน นายอมรเทพ อ่วมมีเพียร ผู้จัดการทั่วไปศูนย์การค้ามาณ์เก็ตวิลเลจ หัวหิน คณะผู้บริหารเทศบาลเมืองหัวหิน แขกผู้มีเกียรติและชาวไทยเชื้อสายจีนในชุดสีแดง ร่วมขบวนแห่กันอย่างคึกคักจากหน้าสำนักงานเทศบาล ผ่านหอนาฬิกาหัวหินเลี้ยวซ้ายสี่แยกจี้อันตึ๊ง เข้าถนนชมสินธุ์ เข้าสู่ถนนสระสรง โดยระหว่างทางขบวนแห่ผ่าน มีประชาชนตั้งโต๊ะรับเทพเจ้า มังกรทอง สิงโตเงิน – สิงโตทอง เพื่อความเป็นสิริมงคล ค้าขายดี ร่ำรวยในเทศกาลตรุษจีน พร้อมกันนี้นายอำเภอหัวหินได้แจกส้มมงคลให้กับประชาชนและนักท่องเที่ยวด้วย จากนั้นเป็นพิธีเปิดงานเทศกาลตรุษจีนอย่างเป็นทางการที่หน้าศูนย์การค้ามาร์เก็ตวิลเลจ หัวหิน โดยไฮไลท์แขกผู้มีเกียรติร่วมกันผัดหมี่ซั่วกระทะยักษ์มหามงคล ซึ่งชาวจีนมีความเชื่อว่า หากกินหมี่ซั่วจะมีอายุยืนยาวเหมือนเส้นบะหมี่ แจกจ่ายให้กับประชาชนนักท่องเที่ยวที่มาร่วมงานได้ลิ้มลองด้วย.

Categories
กีฬา ข่าว ท่องเที่ยว ทั้งหมด

เตรียมจัดงานรากเหง้าภูมิปัญญามวยไทย เกรียงไกรสู่ชาวโลก ที่อุทยานราชภักดิ์ 5 – 6 กุมภาพันธ์นี้

เตรียมจัดงานรากเหง้าภูมิปัญญามวยไทย เกรียงไกรสู่ชาวโลก ที่อุทยานราชภักดิ์ 5 – 6 กุมภาพันธ์นี้

วันที่ 21 มกราคม 2568 ดร.พิมล ศรีวิกรม์ ประธานอนุกรรมการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมด้านกีฬา เป็นประธานแถลงข่าวงานมหัศจรรย์ วันมวยไทย ดังไกลสู่ชาวโลก ประจำปี 2568“Amazing MuayThai World Festival 2025”ในวันที่ 5 – 6 กุมภาพันธ์ 2568 ที่อุทยานราชภักดิ์ อ.หัวหิน จ.ประจวบฯ พร้อมด้วย น.ส.วราพรรณ ชัยชนะศิริ รองอธิบดีกรมส่งเสริมวัฒนธรรม, ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.ชัยฤทธิ์ ศิลาเดช อธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฏหมู่บ้านจอมบึง, นายณัฐพล อันตรเสน ผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการกีฬามวย การกีฬาแห่งประเทศไทย, นายปรีดา สุขใจ รองผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบฯ, นางพัชรินทร์ สิทธิพรรณโยธา ผู้อำนวยการกองส่งเสริมกิจกรรม ฝ่ายกิจกรรมการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย, พล.ต.พิพัฒน์ จงวัฒนาไพศาล ผู้อำนวยการสำนักกิจการพลเรือน กรมกิจการพลเรือนทหารบก และผู้ให้การสนับสนุนร่วมการแถลงข่าวที่ศูนย์พัฒนากีฬากองทัพบกมวยไทยลุมพินี กรุงเทพฯ

ทั้งนี้ กองทัพบกประสานความร่วมมือกับคณะอนุกรรมการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมด้านกีฬา คณะกรรมการพัฒนาซอฟต์พาวเวอร์แห่งชาติ, จังหวัดประจวบคีรีขันธ์, กรมส่งเสริมวัฒนธรรม, การกีฬาแห่งประเทศไทย และการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย, มหาวิทยาลัยราชภัฏหมู่บ้านจอมบึง รวมทั้งภาคเอกชนและส่วนราชการต่างๆ ในพื้นที่จังหวัดประจวบฯ กำหนดจัดงานมหัศจรรย์ วันมวยไทย ดังไกลสู่ชาวโลก ประจำปี 2568 “Amazing MuayThai World Festival 2025” ในวันที่ 5 – 6 กุมภาพันธ์ 2568 ที่อุทยานราชภักดิ์ อ.หัวหิน จ.ประจวบฯ เพื่อเทิดพระเกียรติและน้อมรำลึกถึงสมเด็จพระสรรเพชญ์ที่ 8 (สมเด็จพระเจ้าเสือ) องค์พระบิดามวยไทย ในโอกาสครบ 323 ปีแห่งวันขึ้นครองราชย์ (ในวันที่ 6 กุมภาพันธ์ 2568) เพื่อส่งเสริมให้มวยไทยเป็นกีฬาประจำชาติไทยและมรดกของชาติไทย

รวมทั้งเป็นการแสดงให้เห็นถึงรากเหง้าของศิลปะทางปัญญาของบรรพบุรุษไทย ในการต่อสู้ในระยะประชิด ซึ่งเป็นวิชาการป้องกันตัวของนักรบไทย อีกทั้งเป็นการสนับสนุนนโยบายที่สำคัญของรัฐบาลในการขับเคลื่อนโมเดลเศรษฐกิจใหม่ ที่เน้นการพัฒนาเศรษฐกิจด้วย“ปัญญา”และ“สร้างสรรค์”เพื่อสร้างเศรษฐกิจไทยให้ประสบความสำเร็จ และผลักดันซอฟพาวเวอร์ไทย ด้วยการนำทุนทางวัฒนธรรมมาต่อยอด สร้างสรรค์สินค้าและบริการ เพื่อเพิ่มมูลค่าทางเศรษฐกิจและเสริมสร้างเศรษฐกิจฐานรากให้มีความเข้มแข็ง

โดยมีกิจกรรมที่สำคัญที่เน้นไปถึงการย้อนอดีตในแง่ประวัติศาสตร์ จารีต ประเพณีและวัฒนธรรม ที่ใช้นักแสดงกว่า 2,000 คน ประกอบด้วย 1. พิธีย้อนประวัติศาสตร์รากเหง้าสู่ความยิ่งใหญ่มวยไทย ของบรรพบุรุษไทยโบราณที่ได้คิดค้น ฝึกฝนและพัฒนาการต่อสู้ด้วยมือเปล่าเพื่อใช้ในการป้องกันตัว และปกป้องประเทศชาติจากการทำศึกสงคราม 2. การแปรรูปขบวนทหารเป็นตัวเลขไทย 323 ปี เพื่อน้อมรำลึกถึงบิดามวยไทย 3. การแสดงผลสัมฤทธิ์ของกีฬามวยไทยไปสู่ความเป็นสากล และการแสดงศิลปะแม่ไม้มวยไทยและรำไหว้ครู อันงดงามยิ่งใหญ่ของคนที่มาร่วมในพิธีทั้งคนไทยและต่างชาติ ประกอบแสง สี เสียง และการจุดพลุเฉลิมฉลองประเพณีมวยไทยอย่างยิ่งใหญ่ตระการตา

สำหรับในปีนี้จะมีกิจกรรมอื่นๆ ที่น่าสนใจอีกมากมาย อาทิ พิธีบวงสรวงสมเด็จพระบูรพกษัตริย์ 7 พระองค์ และสมเด็จพระสรรเพชญ์ที่ 8 (สมเด็จพระเจ้าเสือ), การถวายพระราชสดุดีพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว, การจัดนิทรรศการประวัติศาสตร์มวยไทย, การแข่งขันชกมวยไทย, กิจกรรมส่งเสริมในอุตสาหกรรมมวยไทย, การจำหน่ายสินค้าและอาหารพื้นเมืองของจังหวัดประจวบฯ กว่า 60 ร้านจากร้านดังทั่วจังหวัด และการจำหน่ายผลิตภัณฑ์ OTOP ของดีเมืองประจวบฯ ซึ่งคาดว่าจะมีผู้ร่วมงานกว่า 10,000 คน จากสมาชิกทั่วทุกมุมโลกที่จะมาเข้าร่วมในการจัดงานครั้งนี้.

Categories
ข่าว ท่องเที่ยว ทั้งหมด

บ้านศิลปินหัวหิน เปิดนิทรรศการภาพเขียนธรรมชาติจากศิลปินชาวฮังการี

บ้านศิลปินหัวหิน เปิดนิทรรศการภาพเขียนธรรมชาติจากศิลปินชาวฮังการี

วันที่ 18 มกราคม 2568 นายทวี เกษางาม ผู้อำนวยการบ้านศิลปินหัวหิน นางวรรณวิมล เกษางาม รองผู้อำนวยการบ้านศิลปินหัวหิน น.ส.จิราวรรณ บุญฤทธิ์ รองผู้อำนวยการ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานประจวบฯ และกลุ่มศิลปินทั้งชาวไทยและต่างชาติ ร่วมกันเปิดนิทรรศการภาพเขียน Art Exhibition by Franyo Aatoth จากศิลปินชาวฮังการี “ฟรานโญ อโทธ” วัย 70 ปี ที่นำมาจัดแสดงที่บ้านศิลปินหัวหิน จ.ประจวบฯ เป็นผลงานภาพวาดที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากธรรมชาติ นำมามาแสดงออกเป็นภาพเขียนอันวิจิตร บวกกับอารมณ์ขันแบบประชดประชันของตัวศิลปิน ทำให้เกิดการผสมผสานที่พิเศษมาก เขาสามารถใช้วัสดุต่างๆ วาดภาพ เช่น ภาพวาดสีน้ำมัน สีน้ำแบบคลาสสิก หรือวัสดุรีไซเคิล บรรจุภัณฑ์ และกระป๋องน้ำมัน แผ่นทอง ธนบัตรฉีกเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย การแสดงออกทางศิลปะแบบคลาสสิก เช่น สีน้ำ ผ้าใบ และยังมีการทดลองสร้างงานศิลปะวาดภาพด้วยวัสดุและเทคนิคใหม่ๆ ด้วย อาทิ มูลช้างเคลือบทอง ภาพวาด สีน้ำมันบนขยะรีไซเคิล และกระดาษที่ทำมาจากมูลช้าง

อาจารย์ทวี กล่าวว่าการจัดแสดงภาพวาดของศิลปินชาวฮังการีในครั้งนี้ เป็นผลงานชุดที่อาศัยแรงบันดาลใจจากสภาพแวดล้อมธรรมชาติป่าละอู หัวหิน ไม่ว่าจะเป็นต้นไม้ ใบไม้ ใบหญ้า แม้กระทั่งมูลช้าง เขาก็เอามาผสมผสานเป็นงานศิลปะได้อย่างลงตัว อยากเชิญชวนนักท่องเที่ยวและผู้ที่สนใจได้มาชมผลงานของอารมณ์ของศิลปินชาวต่างชาติ ว่าเขามองดูธรรมชาติของไทยผ่านงานศิลปะว่าเป็นอย่างไรบ้าง โดยจะจัดแสดงนิทรรศการภาพเขียนจนถึงสิ้นเดือนมกราคมนี้ หลังจากนี้ตนและ Mr.Franyo พร้อมกลุ่มเพื่อนศิลปินจะไปร่วมงานแสดงภาพที่ปารีสและโปแลนด์ เป็นการแลกเปลี่ยนกัน เป็นชุดภาพวาดเมืองหัวหิน ในกลางเดือนเมษายนนี้.

Categories
ข่าว ท่องเที่ยว ทั้งหมด

รัฐมนตรีเปิดโครงการรักษ์หาดไทยเฉลิมพระเกียรติและสร้างการมีส่วนร่วมปัญหาขยะทะเล

รัฐมนตรีเปิดโครงการรักษ์หาดไทยเฉลิมพระเกียรติและสร้างการมีส่วนร่วมปัญหาขยะทะเล

วันที่ 17 มกราคม 2568 นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เป็นประธานเปิดโครงการ “รักษ์หาดไทยเฉลิมพระเกียรติ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีสมมงคลพระชนมายุเท่าพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช” ที่บริเวณชายหาดปากน้ำปราณ อ.ปราณบุรี จ.ประจวบฯ มีนายจตุพร บุรุษพัฒน์ ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม นายปิ่นสักก์ สุรัสวดี อธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง ผู้บริหารและหัวหน้าหน่วยงานในสังกัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม นายกิตติพงศ์ สุขภาคกุล รองผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบฯ หัวหน้าส่วนราชการ ผู้นำท้องที่ ผู้นำท้องถิ่น และประชาชนประมาณสองพันคนร่วมในพิธี โดยรัฐมนตรีฯ ประกอบพิธีถวายราชสักการะเบื้องหน้าพระบรมสาทิสลักษณ์ พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช และพระบรมฉายาลักษณ์ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พร้อมกล่าวถวายราชสดุดีเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว จากนั้นกล่าวเปิดโครงการ พร้อมมอบอุปกรณ์จัดเก็บขยะชายหาดให้แก่ผู้แทนเครือข่ายจำนวน 5 ชุมชน ก่อนที่ผู้เข้าร่วมกิจกรรมจะช่วยกันเก็บขยะ ใช้ตาข่ายร่อนกรองเศษขยะบนหาดทราย พร้อมปรับปรุงภูมิทัศน์บริเวณชายหาดปากน้ำปราณให้สะอาด สวยงาม ป้องกันผลกระทบจากปัญหาขยะทะเลและส่งเสริมการท่องเที่ยว ขณะที่หน่วยงานต่างๆ ในสังกัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้ร่วมจัดแสดงนิทรรศการให้ความรู้เกี่ยวกับการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม สร้างการมีส่วนร่วมและความตระหนักในการจัดการปัญหาขยะทะเล

นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน กล่าวว่า พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ทรงมีพระราชปณิธานในการสืบสานและต่อยอด ตามรอย พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร โดยเฉพาะในด้านการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ซึ่งกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้สนองพระราชปณิธาน จัดโครงการ “รักษ์หาดไทยเฉลิมพระเกียรติ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีสมมงคลพระชนมายุเท่าพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช” ที่ชายหาดปากน้ำปราณ เพื่อสร้างความตระหนักรู้เกี่ยวกับการลดปริมาณขยะตกค้างในสิ่งแวดล้อม ทั้งนี้ ปัจจุบันประเทศไทยประสบปัญหาขยะทะเลติดอันดับ 10 ของโลก โดยร้อยละ 80 มีแหล่งที่มาจากบนบก ขยะที่พบมีความหลากหลาย ส่วนใหญ่เป็นขยะซึ่งย่อยสลายได้ยาก ก่อให้เกิดผลกระทบต่อทรัพยากรและระบบนิเวศที่สำคัญ ได้แก่ ปะการัง หญ้าทะเล ป่าชายเลน และสัตว์ทะเลหายากใกล้สูญพันธุ์ ที่ผ่านมามีหลายหน่วยงานเข้ามามีส่วนร่วมในการบริหารจัดการขยะทะเล อีกทั้งสถานการณ์ที่ประเทศไทยปล่อยขยะลงสู่ท้องทะเลมากกว่า 1 ล้านตันต่อปี การจัดการขยะทะเล ถือเป็นหนึ่งในเป้าหมายตามแผนปฏิบัติราชการระยะ 5 ปี (พ.ศ.2566 – 2570) พร้อมนี้ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม มีเป้าหมายลดปริมาณขยะตกค้างในระบบนิเวศทางทะเลอย่างมีส่วนร่วม เพื่อเป็นแนวทางในการจัดการขยะทะเลอย่างเป็นระบบ ซึ่งได้รับความร่วมมือจากหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน ชุมชนชายฝั่ง เครือข่ายอาสาสมัครพิทักษ์ทะเล องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น นักเรียน และประชาชนในพื้นที่ปากน้ำปราณเข้ามามีส่วนร่วม จากนั้นจะมีการขยายผลการจัดกิจกรรมลักษณะเช่นนี้ไปตามภูมิภาคต่างๆ 5 ภูมิภาค

ด้านนายปิ่นสักก์ สุรัสวดี อธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง (อทช.) กล่าวว่า พื้นที่ชายฝั่งทะเล ทั้งอ่าวไทยและอันดามัน มีทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งที่มีความสำคัญต่อระบบนิเวศ เป็นแหล่งที่อยู่อาศัยของสัตว์น้ำนานาชนิด รวมถึงสัตว์ทะเลหายาก เช่น เต่าทะเล วาฬ พะยูน โลมา นอกจากนี้ ยังเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มีความสำคัญ ได้แก่ แนวปะการัง ชายหาด ที่ผ่านมา ปัญหาการทิ้งขยะลงทะเลส่งผลกระทบต่อระบบนิเวศ เป็นปัญหาที่มีความสำคัญระดับประเทศและระดับโลก กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งจึงได้สำรวจชนิดและปริมาณขยะบริเวณแนวชายฝั่ง โดยเฉพาะชายหาดที่เป็นแหล่งท่องเที่ยวสำคัญเพื่อจัดทำฐานข้อมูล ใช้ในการบริหารจัดการขยะทะเลที่เกิดขึ้นในพื้นที่ต่างๆ.

Categories
ข่าว ท่องเที่ยว ทั้งหมด

ประจวบฯ จัดงานรำลึกถึงพระคุณบูรพาจารย์ ในวันครูแห่งชาติ

ประจวบฯ จัดงานรำลึกถึงพระคุณบูรพาจารย์ ในวันครูแห่งชาติ

วันที่ 16 มกราคม 2568 พระธรรมวชิรสิทธาจารย์ เจ้าคณะภาค 15 เจ้าอาวาสวัดคลองวาฬ พระอารามหลวง ประธานฝ่ายสงฆ์ นายกิตติพงศ์ สุขภาคกุล รองผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบฯ เป็นประธานฝ่ายฆราวาสในพิธีทำบุญตักบาตรข้าวสารอาหารแห้ง พิธีทำบุญเพื่อความเป็นสิริมงคล เนื่องในโอกาสวันครู ครั้งที่ 69 ที่หอประชุมพระเทพสิทธิวิมลเมตตา โรงเรียนประจวบวิทยาลัย อำเภอเมืองประจวบฯ และมีนายสิทธิชัย สวัสดิ์แสน ผู้ว่าราชการ
จังหวัดประจวบฯ เป็นประธานในพิธีบูชาบูรพาจารย์และระลึกถึงพระคุณบูรพาจารย์ และพิธีมอบเกียรติบัตรและโล่รางวัลแก่ครูผู้ได้รับรางวัลเชิดชูเกียรติประเภทต่างๆ โดยมี น.ส.ชุติกาญจน์ จันทร์สุริยา รองศึกษาธิการจังหวัดรักษาการศึกษาธิการจังหวัดประจวบฯ นายธีระชัย รัตนรังษี รองผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาประจวบฯ คณะครู บุคลากรทางการศึกษาจากสถานศึกษาต่างๆ ตลอดจนหน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชน กว่า 700 คน เข้าร่วมพิธี

ส่วนที่อาคารอเนกประสงค์ (โดม) โรงเรียนหัวหิน พระครูอดุลธรรมพิทักษ์ เจ้าอาวาสวัดคีรีวงศาราม ประธานฝ่ายสงฆ์ นายพลกฤต พวงวลัยสิน นายอำเภอหัวหิน เป็นประธานในพิธีงานวันครู มีนายสมควร รัชตวิมล รองผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาประจวบฯ เขต 2 นายประเทือง มัททวีวงศ์ ประธานชมรมครูอำเภอหัวหิน คณะครูและบุคลากรทางการศึกษา จำนวน 800 คน เข้าร่วมพิธีทำบุญตักบาตรข้าวสารอาหารแห้งแด่พระสงฆ์จำนวน 9 รูป พิธีระลึกถึงพระคุณบูรพาจารย์ พิธีมอบเกียรติบัตรและโล่รางวัลแก่ครูผู้ได้รับรางวัลเชิดชูเกียรติประเภทต่างๆ

ทั้งนี้คณะรัฐมนตรีมีมติกำหนดให้ วันที่ 16 มกราคม ของทุกปี ซึ่งตรงกับวันที่พระราชบัญญัติครูได้รับการประกาศในราชกิจจานุเบกษา เมื่อปี 2488 เป็น “วันครูแห่งชาติ” เพื่อเป็นการรำลึกถึงพระคุณของบูรพาจารย์ การแสดงความเคารพและสำนึกในพระคุณของครู รวมถึงส่งเสริมสามัคคีธรรมระหว่างครู และความเข้าใจอันดีระหว่างครูกับประชาชน และส่งเสริมยกย่องเชิดชูเกียรติผู้ประกอบวิชาชีพทางการศึกษาที่ประกอบคุณงามความดี ทำคุณประโยชน์ต่อวงการศึกษาเป็นที่ประจักษ์แก่สาธารณชน และเป็นแบบอย่างให้เยาวชนรุ่นหลังได้ยึดถือปฏิบัติตาม.

Categories
ข่าว ท่องเที่ยว ทั้งหมด

กฟผ. ขอความร่วมมือ งดเผาไร่อ้อยและวัชพืชใกล้แนวสายส่งไฟฟ้าแรงสูง

 กฟผ. ขอความร่วมมือ งดเผาไร่อ้อยและวัชพืชใกล้แนวสายส่งไฟฟ้าแรงสูง

นายเสน่ห์ ตรีขันธ์ รองผู้ว่าการปฏิบัติการระบบส่ง การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) เปิดเผยว่า ในช่วงฤดูกาลเก็บเกี่ยวผลผลิตทางการเกษตร เกษตรกรบางกลุ่มยังคงนิยมใช้วิธีเผาผลผลิตก่อนการเก็บเกี่ยว หรือหลังเก็บเกี่ยว เพื่อลดเวลาและต้นทุนด้านแรงงาน ซึ่งก่อเกิดปัญหามลพิษด้านอากาศ ทำให้เกิดฝุ่นละอองขนาดเล็ก หรือ PM 2.5 ที่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพ ทำให้ทัศนวิสัยในการเดินทางและการคมนาคมไม่ชัดเจน กฟผ. จึงขอความร่วมมืองดการจุดไฟเผาไร่อ้อย วัชพืชและตอซังข้าว โดยเฉพาะในพื้นที่ใกล้แนวสายส่งไฟฟ้าแรงสูง เพื่อความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน รวมถึงระบบไฟฟ้าของประเทศ เพราะควันและเขม่าจากการเผาอาจทำให้เกิดกระแสไฟฟ้าลัดวงจรสู่พื้นดิน เป็นอันตรายต่อเกษตรกรและประชาชนที่อยู่บริเวณดังกล่าว รวมทั้งอาจทำให้เกิดปัญหาไฟฟ้าตกหรือไฟฟ้าดับเป็นวงกว้าง และจะส่งผลกระทบต่อผู้ใช้ไฟฟ้าในภาพรวม และระบบเศรษฐกิจของประเทศ

สายส่งไฟฟ้าแรงสูงที่ กฟผ. ดูแลและรับผิดชอบ เป็นหนึ่งในองค์ประกอบสำคัญของระบบไฟฟ้าของประเทศ เปรียบเสมือนเส้นเลือดใหญ่แห่งพลังงานที่เชื่อมโยงกระแสไฟฟ้าจากระบบผลิตไปยังระบบจำหน่าย ซึ่งรับผิดชอบโดยการไฟฟ้านครหลวง (MEA) และการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (PEA) โดยมีการปรับแรงดันไฟฟ้าให้เหมาะสม ก่อนส่งถึงผู้ใช้ไฟฟ้าทุกภาคส่วนและทุกครัวเรือนต่อไป ดังนั้นสายส่งไฟฟ้าแรงสูงต้องอยู่ในสภาพพร้อมใช้งานตลอดเวลา ซึ่ง กฟผ. มีการดูแลบำรุงรักษาสายส่งไฟฟ้าแรงสูงเป็นประจำเพื่อให้ระบบไฟฟ้ามีความมั่นคง

“กฟผ. ขอความร่วมมือพี่น้องเกษตรกรและประชาชนที่อยู่อาศัยบริเวณใกล้แนวสายส่งไฟฟ้าแรงสูง งดเผาไร่อ้อยและวัชพืชทุกชนิด และขอให้ร่วมกันดูแลสายส่งไฟฟ้าแรงสูง ซึ่งเป็นสมบัติของชาติ หากพบเหตุผิดปกติหรือไม่ปลอดภัยเกี่ยวกับสายส่งไฟฟ้าแรงสูงของ กฟผ. โปรดแจ้งศูนย์บริการข้อมูล กฟผ. โทร. 1416” นายเสน่ห์ ตรีขันธ์ กล่าวย้ำในตอนท้าย.

ณัฐธภพ พันสาย…..รายงาน