Categories
ข่าว ทั้งหมด

ประจวบฯ เฟ้นหาเยาวชนคนเก่งและดี TO BE NUMBER ONE ตัวแทนจังหวัดสู่ระดับประเทศ

ประจวบฯ เฟ้นหาเยาวชนคนเก่งและดี TO BE NUMBER ONE ตัวแทนจังหวัดสู่ระดับประเทศ

วันที่ 17 สิงหาคม 2567 นายกิตติพงศ์ สุขภาคกุล รองผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบฯ เป็นประธานเปิดการประกวด TO BE NUMBER ONE TEEN DANCERCISE และ TO BE NUMBER ONE IDOL ระดับจังหวัด ประจำปี 2567 ที่ศูนย์การค้ามาร์เก็ตวิลเลจ หัวหิน จ.ประจวบฯ มีนายสำราญ เพ็งสวัสดิ์ รองนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดประจวบฯ นายดำรงค์ มากระจัน พัฒนาการจังหวัดประจวบฯ นายพลกฤต พวงวลัยสิน นายอำเภอหัวหิน นางอุษา พวงวลัยสิน นายกกิ่งกาชาดอำเภอหัวหิน น.ส.บุษบา โชคสุชาติ รองนายกเทศมนตรีเมืองหัวหิน นายเจนวิท ผลิศักดิ์ สาธารณสุขอำเภอหัวหิน นายทวีสิน พัฒนาภิรัส ประธานสภา อบจ.ประจวบฯ นายอมรเทพ อ่วมมีเพียร ผู้จัดการทั่วไปศูนย์การค้ามาร์เก็ตวิลเลจหัวหิน แขกผู้มีเกียรติ ครู อาจารย์ ผู้ปกครอง ผู้เข้าประกวด รวมถึงทีมพี่เลี้ยงและกองเชียร์กว่า 500 คน เข้าร่วมกิจกรรมในครั้งนี้

นายกิตติพงศ์ สุขภาคกุล กล่าวว่า ตามที่จังหวัดประจวบฯ ได้ดำเนินงานโครงการรณรงค์ป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติด TO BE NUMBER ONE ในทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญาสิริวัฒนาพรรณวดี มาอย่างต่อเนื่อง เพื่อเสริมสร้างภูมิคุ้มกันทางจิตใจของเยาวชนให้ห่างไกลจากยาเสพติด และพัฒนาศักยภาพให้เป็นที่ยอมรับและมีคุณค่าต่อสังคม สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดประจวบฯ จึงได้จัดการประกวดเพื่อค้นหาสมาชิกเยาวชนคนเก่งและดี TO BE NUMBER ONE จังหวัดประจวบฯ โดยมีวัตถุประสงค์ เพื่อรณรงค์สร้างกระแส และเปิดโอกาสให้เด็กและเยาวชนได้แสดงความสามารถ และพัฒนาตนเองให้เป็นคนเก่งและดี รวมถึงเพื่อคัดเลือกตัวแทนเยาวชนสมาชิก TO BE NUMBER ONE ระดับจังหวัด โดยแบ่งการประกวดเป็น 2 ประเภทด้วยกัน คือ 1. การประกวด TO BE NUMBER ONE TEEN DANCERCISE จำนวน 16 ทีม แบ่งเป็น 3 รุ่น รุ่น Junior อายุระหว่าง 6 – 9 ปี จำนวน 2 ทีม รุ่น Pre -Teenage อายุระหว่าง 9 – 14 ปี จำนวน 6 ทีม และรุ่น Teenage อายุระหว่าง 14 – 22 ปี จำนวน 8 ทีม 2. การประกวด TO BE NUMBER ONE IDOL อายุระหว่าง 15 – 18 ปี จำนวน 64 คน เป็นชาย 22 คน และหญิง 42 คน โดยมีผู้เชี่ยวชาญทั้งด้านการร้อง การเต้น การพัฒนาบุคลิกภาพ จากเครือข่าย TO BE NUMBER ONE จังหวัดราชบุรี รองนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด และผู้เชี่ยวชาญจากสำนักงานสาธารณสุขจังหวัด ร่วมเป็นคณะกรรมการตัดสินการประกวด ซึ่งผู้ที่ได้รับคัดเลือก จะได้เป็นตัวแทนจังหวัด เพื่อเข้าร่วมการประกวดในระดับภาคกลาง และภาคตะวันออก ในปี 2568 และมุ่งหวังให้ทุกองค์กรมุ่งมั่นร่วมมือกันดำเนินการต่อไป เพื่อช่วยให้เยาวชนของจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ก้าวไปสู่ความ “เป็นหนึ่งไม่พึ่งพายาเสพติด”.

ข่าวแนะนำ
Categories
ข่าว ทั้งหมด

สภาองค์กรของผู้บริโภคประจวบฯ ยื่นข้อเสนอคุ้มครองกลุ่มเปราะบางเข้าถึงการใช้ไฟฟ้าที่เท่าเทียมมีคุณภาพ

สภาองค์กรของผู้บริโภคประจวบฯ ยื่นข้อเสนอคุ้มครองกลุ่มเปราะบางเข้าถึงการใช้ไฟฟ้าที่เท่าเทียมมีคุณภาพ

วันที่ 15 สิงหาคม 2567 นายวรวิทย์ ศรีอนันต์รักษา กรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) เดินทางมารับมอบข้อเสนอแนะนโยบายเกี่ยวกับงานคุ้มครองผู้บริโภคกลุ่มเปราะบางด้านพลังงานไฟฟ้า เพื่อการเข้าถึงบริการสาธารณะที่เท่าเทียมและมีคุณภาพ ที่ห้องโยธิน โรงแรมหาดทอง อ.เมือง จ.ประจวบคีรีขันธ์ เพื่อนำเสนอต่อบอร์ดคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน โดยมี น.ส.ธนพร บางบัวงาม หัวหน้าหน่วยงานประจำจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ สภาองค์กรของผู้บริโภค เป็นตัวแทนยื่นข้อเสนอแนะนโยบายฯ มีนายสุรัติ มัจฉา และจ่าสิบเอก วิสูตร โพธิอะ คณะกรรมการผู้ใช้พลังงานประจำเขต 10 (คพข.10) จ.ประจวบฯ นายนันทปรีชา คำทอง ประธานสภาผู้บริโภคจังหวัดประจวบฯ นายเกตุ พราหมณี นายกสมาคมคุ้มครองสิทธิผู้บริโภค จ.ประจวบฯ ผู้เชี่ยวชาญประจำสภาผู้บริโภค ที่ปรึกษาฯ ทนายความ ตลอดจนสมาชิกสภาองค์กรของผู้บริโภคจังหวัดประจวบฯ ที่มาจากศูนย์คุ้มครองสิทธิผู้บริโภคอำเภอ และองค์กรคุ้มครองสิทธิผู้บริโภคตำบล ทั้ง 8 อำเภอ เข้าร่วม

น.ส.ธนพร บางบัวงาม กล่าวว่าข้อเสนอแนะนโยบายคุ้มครองผู้บริโภคในกลุ่มเปราะบาง ผู้ป่วยที่ใช้บริการไฟฟ้าในการเดินเครื่องมือทางการแพทย์เพื่อการรักษาพยาบาล มีข้อเสนอทั้งหมด 3 ข้อ คือ 1.ปรับปรุงระเบียบมาตรฐานของสัญญาให้บริการไฟฟ้า ปี 2558 คือ เพิ่มช่องทางการแจ้งข้อมูล ให้สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดสามารถแจ้งข้อมูลผู้ป่วยติดเตียงไปยังการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคได้โดยตรง ผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ หรือ API เพื่อลดขั้นตอนและระยะเวลาในการดำเนินการ อีกทั้ง กำหนดขั้นตอนการดำเนินการที่ชัดเจนและรวดเร็ว ตั้งแต่การรับแจ้งข้อมูลผู้ป่วย ไปจนถึงการลงทะเบียนและการให้บริการ โดยมีการกำหนดระยะเวลาในการดำเนินการแต่ละขั้นตอน นอกจากนี้ กำหนดความรับผิดชอบของแต่ละหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอย่างชัดเจน เช่น สำนักงานสาธารณสุขจังหวัด การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคและอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้การดำเนินงานเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ 2. การพัฒนาระบบข้อมูล โดยสร้างฐานข้อมูลผู้ป่วยติดเตียง สร้างฐานข้อมูลผู้ป่วยติดเตียงที่ต้องพึ่งพาอุปกรณ์ทางการแพทย์ที่ใช้ไฟฟ้าในระดับประเทศ โดยเชื่อมโยงข้อมูลระหว่างสำนักงานสาธารณสุขจังหวัด การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค และพัฒนาระบบแจ้งเตือนอัตโนมัติ เมื่อมีการเปลี่ยนแปลงข้อมูลของผู้ป่วย เช่น การย้ายที่อยู่ หรือการเสียชีวิต เพื่อให้ข้อมูลเป็นปัจจุบันอยู่เสมอ และ 3. ประชาสัมพันธ์นโยบายใหม่ให้ผู้ป่วย ครอบครัว และบุคลากรทางการแพทย์ทราบอย่างทั่วถึง อีกทั้งจัดทำคู่มือสำหรับผู้ป่วยและครอบครัว เพื่ออธิบายขั้นตอนการขอรับบริการและสิทธิที่ได้รับ

จากนั้น ได้มีพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) กลไกขับเคลื่อนการคุ้มครองผู้บริโภคในกลุ่มเปราะบาง เรื่องผู้ใช้บริการไฟฟ้าที่มีบุคคลอยู่ในความดูแล หรือผู้ป่วยที่มีความจำเป็นต้องใช้ไฟฟ้าในการเดินเครื่องมือทางการแพทย์เพื่อการรักษาพยาบาล ระหว่างนายวรวิทย์ ศรีอนันต์รักษา กกพ. นางจารุรัตน์ พัฒน์ทอง รองนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดประจวบฯ นายธีรภาพ เจริญสมบัติ ผู้จัดการการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคจังหวัดประจวบฯ นายสราวุธ ลิ้มอรุณรักษ์ นายก อบจ.ประจวบฯ และ น.ส.ธนพร บางบัวงาม หัวหน้าหน่วยฯ ประจำจังหวัดประจวบฯ สภาองค์กรของผู้บริโภค โดยมีนายสุรัติ มัจฉา คพข.ประจำเขต 10 (ประจวบฯ) ร่วมเป็นพยาน

สำหรับบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) ฉบับนี้ จัดทำขึ้นระหว่าง การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคจังหวัดประจวบฯ สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดประจวบฯ อบจ.ประจวบฯ หน่วยงานประจำจังหวัดประจวบฯ สภาองค์กรของผู้บริโภค เพื่อให้การปฏิบัติงานด้านการคุ้มครองผู้บริโภคด้านบริการสาธารณะพลังงาน สิ่งแวดล้อม ประเด็นการงดจ่ายกระแสไฟฟ้าที่กระทบต่อผู้ป่วยที่มีสภาวะพึ่งพิง หรือผู้ป่วยที่ติดเตียงที่ต้องใช้อุปกรณ์ทางการแพทย์ในการดูแลรักษา ตามประกาศคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน เรื่องมาตรฐานของสัญญาให้บริการไฟฟ้า พ.ศ.2558 ลงวันที่ 14 กรกฎาคม 2568 หมวด 2 สิทธิและหน้าที่ของผู้ให้บริการและผู้ใช้ไฟฟ้า ข้อที่ 19 ผู้ให้บริการไม่สามารถงดจ่ายไฟฟ้าได้ในกรณี (2) ผู้ใช้ไฟฟ้าหรือผู้ใช้ไฟฟ้าที่มีบุคคลอยู่ในความดูแล หรือมีผู้ป่วยที่ต้องใช้ไฟฟ้าในการเดินเครื่องมือทางการแพทย์เพื่อการรักษาพยาบาล หากไม่เช่นนั้นจะเป็นอันตรายต่อชีวิต ร่างกายหรือสุขภาพ

ทั้งนี้ วัตถุประสงค์ 1.เพื่อคุ้มครองสิทธิผู้บริโภคกลุ่มเปราะบาง ผู้ป่วยที่มีสภาวะพึ่งพิง หรือผู้ป่วยที่ติดเตียงที่ต้องใช้อุปกรณ์ทางการแพทย์ด้วยไฟฟ้าในการดูแลรักษา 2.ส่งเสริมการเข้าถึงด้านบริการสาธารณะ พลังงาน สิ่งแวดล้อม โดยเฉพาะผู้ป่วยที่มีสภาวะพึ่งพิง หรือผู้ป่วยที่ติดเตียงที่ต้องใช้อุปกรณ์ทางการแพทย์ด้วยไฟฟ้าในการดูแลรักษา 3. สร้างกลไกป้องกันและแก้ไขปัญหา การบริการไฟฟ้า เพื่อให้ผู้ป่วยที่มีสภาวะพึ่งพิง หรือผู้ป่วยที่ติดเตียงที่ต้องใช้อุปกรณ์ทางการแพทย์ด้วยไฟฟ้าในการดูแลรักษา 4. พัฒนาระบบการคุ้มครองผู้บริโภค ให้สามารถเข้าถึงได้ง่าย และมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น 5. สร้างความร่วมมือระหว่างหน่วยงาน เพื่อบูรณาการ การทำงานให้สามารถประสานงาน และดำเนินการได้อย่างเป็นรูปธรรม

บันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) ฉบับนี้ เป็นเครื่องมือสำคัญในการคุ้มครองสิทธิและผลประโยชน์ของผู้บริโภคกลุ่มเปราะบาง ผู้ป่วยที่มีสภาวะพึ่งพิง หรือผู้ป่วยที่ติดเตียงที่ต้องใช้อุปกรณ์ทางการแพทย์ด้วยไฟฟ้าในการดูแลรักษา โดยการบูรณาการความร่วมมือระหว่างหน่วยงานภาครัฐและภาคประชาสังคม เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุดในการแก้ไขปัญหาและพัฒนาระบบการคุ้มครองผู้บริโภคให้ดียิ่งขึ้น

จากนั้น ได้จัดเวทีสาธารณะเพื่อรับฟังความคิดเห็นผู้บริโภคในจังหวัด จากเรื่องร้องเรียนสู่นโยบายสาธารณะ เปิดโอกาสให้ผู้เข้าร่วมได้แสดงความคิดเห็นต่อบทบาทของผู้บริโภคจังหวัดประจวบฯ มีนายทวีศักดิ์ เบญจธิวัฒน์ ผู้แทนญาติซึ่งเป็นผู้ป่วยกลุ่มเปราะบาง (ติดเตียง) ที่ต้องพึ่งพาไฟฟ้าในการใช้เครื่องมือทางการแพทย์เพื่อการรักษาพยาบาล เข้าร่วมเสวนาแลกเปลี่ยนความคิดเห็นด้วย มี น.ส.ชนัญชิดา ตัณฑะผลิน เจ้าหน้าที่ฝ่ายสนับสนุนสมาชิก สภาองค์กรของผู้บริโภค เป็นผู้ดำเนินรายการ.

บุญมา ลิบลับ….รายงาน

Categories
ข่าว ทั้งหมด

นายอำเภอหัวหิน ปล่อยพันธุ์สัตว์น้ำสู่ทะเล ถวายเป็นพระราชกุศลเนื่องในโอกาสครบรอบ 92 พรรษา สมเด็จพระบรมราชชนนีพันปีหลวง

นายอำเภอหัวหิน ปล่อยพันธุ์สัตว์น้ำสู่ทะเล ถวายเป็นพระราชกุศลเนื่องในโอกาสครบรอบ 92 พรรษา สมเด็จพระบรมราชชนนีพันปีหลวง

วันที่ 16 สิงหาคม 2567 นายพลกฤต พวงวลัยสิน นายอำเภอหัวหิน เป็นประธานเปิดกิจกรรมปล่อยพันธุ์สัตว์น้ำสู่ทะเลหัวหิน เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลเนื่องในโอกาสสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ทรงเจริญพระชนมพรรษา 92 พรรษา 12 สิงหาคม 2567 ที่ศาลาลาแปดเหลี่ยม ซอยตะเกียบ 1 ชุมชนตะเกียบ อ.หัวหิน จ.ประจวบฯ มีนายนพพร วุฒิกุล นายกเทศมนตรีเมืองหัวหิน นางอุษา พวงวลัยสิน นายกกิ่งกาชาดอำเภอหัวหิน คณะผู้บริหารเทศบาล ปศุสัตว์อำเภอหัวหิน ประมงอำเภอหัวหิน คณะกรรมการชุมชนตะเกียบ สถานประกอบการโรงแรมใกล้เคียง รวมทั้งนักท่องเที่ยวเข้าร่วมกิจกรรม โดยได้รับการสนับสนุนลูกปูม้า 5 ล้านตัว พร้อมสัตว์น้ำต่างๆ จากธนาคารปูม้าชุมชนตะเกียบ ร่วมกันปล่อยลงสู่ท้องทะเล

สำหรับกิจกรรมปล่อยพันธุ์สัตว์น้ำ เป็นกิจกรรมที่อนุรักษ์สิ่งแวดล้อมของธนาคารปูม้าชุมชนตะเกียบที่จัดต่อเนื่อง โดยมีไต๋จุก นายศักดิ์ชาย ทองเหี่ยง ผู้ดูแลธนาคารปูม้าฯ ที่ปัจจุบันได้รับคัดเลือกให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวยั่งยืน 100 แห่งของโลก (2023 กรีน เดสติเนชั่น ท็อป 100 สตอรี่) จากกรีน เดสติเนชั่น ฟาวเดชั่น ประเทศเนเธอร์แลนด์ นอกจากนี้ ธนาคารปูม้าฯ ยังจัดกิจกรรมที่ทำให้สัตว์ทะเลและใต้ท้องทะเลอุดมสมบูรณ์มากยิ่งขึ้น ช่วยฟื้นฟูแหล่งเพาะพันธุ์สัตว์น้ำที่อยู่ใต้ทะเลอ่าวไทย ช่วยให้ชาวประมงมีรายได้และมีงานทำตลอดทั้งปี ไม่ต้องรอถึงแค่ฤดูจับสัตว์น้ำอย่างเดียว ร้านค้าร้านอาหารขายของได้ ผู้ที่มาร่วมกิจกรรมจะได้เรียนรู้และสัมผัสสัตว์ทะเลตัวเป็นๆ อย่างใกล้ชิด เป็นกิจกรรมที่ส่งผลต่อเนื่องทั้งสัตว์ทะเล ชาวประมง นักท่องเที่ยว ไปจนถึงเศรษฐกิจในเมืองหัวหิน.

สุทธิศรี อนุคฤหานนท์….รายงาน

Categories
ข่าว ท่องเที่ยว ทั้งหมด

บ้านศิลปินหัวหิน จัดเทศกาลศิลปะร่วมสมัยประจวบฯ พบกับผลงานศิลปินระดับแนวหน้ามากมาย

บ้านศิลปินหัวหิน จัดเทศกาลศิลปะร่วมสมัยประจวบฯ พบกับผลงานศิลปินระดับแนวหน้ามากมาย

วันที่ 15 สิงหาคม 2567 นายองครักษ์ ทองนิรมล รองผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบฯ เป็นประธานแถลงข่าวการจัดงานเทศกาลศิลปะร่วมสมัยประจวบคีรีขันธ์ (Prachuap Khiri Khan Art Festival 2024) ที่บ้านศิลปิน อ.หัวหิน จ.ประจวบฯ มีนางกฤษณา แผ่แสงจันทร์ วัฒนธรรมจังหวัดประจวบฯ นายชาญวิทย์ อุณหสุทธิยานนท์ ประธานสภาวัฒนธรรมจังหวัดประจวบฯ นางลิษา อึ้งเห่ง ประธานสภาวัฒนธรรมอำเภอหัวหิน นายอาชวันต์ กงกะนันทน์ ผู้อำนวยการ ททท.สำนักงานประจวบฯ นายชิษณุพงศ์ สุวรรณ รองปลัดเทศบาลเมืองหัวหิน นายกิติพงษ์ สิริเพชรเกษม อุปนายกสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวหัวหิน/ชะอำ อาจารย์ทวี เกษางาม ผู้อำนวยการบ้านศิลปินหัวหิน ร่วมแถลงข่าว พร้อมด้วยนายพลกฤต พวงวลัยสิน นายอำเภอหัวหิน นางวรรณวิมล เกษางาม รองผู้อำนวยการบ้านศิลปินหัวหิน น.ส.วจี กลมเกลี้ยง กรรมการบริหาร บริษัท หัวหินแอสเสท จำกัด นายอมรเทพ อ่วมมีเพียร ผู้จัดการทั่วไป ศูนย์การค้ามาร์เก็ตวิลเลจ หัวหิน และแขกผู้มีเกียรติจำนวนมากพร้อมชมการแสดงวาดภาพประกอบบทเพลงโดยอาจารย์สวาท เกศางาม

อาจารย์ทวี กล่าวว่าการจัดงานเทศกาลศิลปะแห่งเมืองหัวหิน จัดโดยวัฒนธรรมจังหวัดประจวบฯ เป็นการจัดต่อเนื่องและต่อยอดสร้างสรรค์งานศิลปะร่วมสมัย เพิ่มคุณค่าแก่สังคม ชุมชนท้องถิ่น และเพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงศิลปะของอำเภอหัวหิน ให้เป็นที่รู้จักดี โดยได้รับความร่วมมือจากกลุ่มศิลปินมาร่วมจัดกิจกรรมเวิร์คช็อปให้แก่ประชาชนนักท่องเที่ยวที่ชื่นชอบในศิลปะ ระหว่างวันที่ 6 – 8 กันยายนนี้ ตั้งแต่เวลา 10.00 น -17.00 น. ภายในงาน ชมการออกบูธ สาธิตเรียนรู้ร่วมกิจกรรมสร้างสรรค์กับศิลปินรุ่นใหม่ไฟแรงระดับแนวหน้าของประเทศ ชมผลงานศิลปินแห่งชาติ ศิลปินอาวุโส ศิลปินกราฟฟิตี้ ศิลปินอาร์ตทอย ศิลปินแท๊ททู ผลงานภาพถ่ายระดับแนวหน้า ร่วมฟังการเสวนาหลากหลายเรื่องราวในวงการศิลปะไทย ชมการวาดภาพประกอบการแสดงดนตรีสด ชมพิพิธภัณฑ์อุทยานแห่งงานศิลปะเคล้าการบรรเลงดนตรีสดตลอดทั้งงาน การออกร้านของที่ระลึกและของฝาก ร้านอาหารอร่อยมีไว้บริการสำหรับผู้เข้าชมงาน จึงขอเชิญชวนประชาชนนักท่องเที่ยว ทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ ร่วมชมการเทศกาลศิลปะร่วมสมัยประจวบคีรีขันธ์ ได้ตามวันดังกล่าว หรือสอบถามเพิ่มเติมได้ที่โทร 092 – 9256352

นายอาชวันต์ กงกะนันทน์ กล่าวว่า ททท.สำนักงานประจวบฯ ยินดีสนับสนุนการจัดกิจกรรมงานเทศกาลศิลปะร่วมสมัยประจวบคีรีขันธ์ 2024 โดยจะเน้นการสื่อสารสร้างการรับรู้ไปยังกลุ่มเป้าหมายนักท่องเที่ยว กลุ่มคนรักศิลปะ ทั้งนี้ เชื่อมั่นว่าการจัดกิจกรรมดังกล่าว จะสื่อสารภาพลักษณ์การเป็นจุดหมายปลายทางการท่องเที่ยวเชิงศิลปะของเมืองหัวหินได้อย่างเด่นชัด ซึ่งที่ผ่านมาพื้นที่หัวหินมีการจัดกิจกรรมด้านศิลปวัฒนธรรมมาอย่างต่อเนื่องโดยตลอด ตามนโยบายของรัฐบาล กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ และการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย

นางกฤษณา กล่าวว่า สำหรับงานเทศกาลศิลปะร่วมสมัย เราได้รับการสนับสนุนงบประมาณจากผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบฯ กิจกรรมเรามีหลากหลาย นอกจากกิจกรรมต่างๆ ที่มีการแถลงข่าวในวันนี้แล้ว เมื่อวันที่ 27 – 28 มิถุนายน 2567 เราก็ได้จัดกิจกรรมในเรื่องของการฝึกอบรมเด็กเยาวชนและก็ศิลปินในพื้นที่จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ในการที่จะฝึกในเรื่องของการใช้สีในประเภทต่างๆ ตลอดจนให้ความรู้ความเข้าใจในเรื่องของการวาดภาพ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของสีน้ำ สีอะคริลิคตลอดจนอุปกรณ์ต่างๆ เราก็ได้รับการสนับสนุนวิทยากรจากท่านอาจารย์ทวี เกศางาม และมหาวิทยาลัยศิลปากร แล้วก็ศิลปินที่มีความรู้ความสามารถ นอกจากในพื้นที่อำเภอหัวหินแล้วเราก็จะสนับสนุนทุกๆ อำเภอในจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ทั้ง 8 อำเภอ จะได้มีส่วนร่วมในการจัดกิจกรรม มีส่วนร่วมในการที่จะให้เด็กเยาวชนมาร่วมกันประกวดวาดภาพ ร่วมกันจัดกิจกรรม ร่วมกันมาจัดงานเทศกาลศิลปะ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการนำเสนอเรื่องแทคคทู เรื่องของการวาดภาพ เรื่องของปฏิมากรรม เรื่องจิตรกรรม ก็ถือว่าเป็นเรื่องที่น่าสนใจและมีความสำคัญอย่างยิ่ง เราอยากให้เทศกาลศิลปะร่วมสมัยไปสู่ในระดับชาติและระดับนานาชาติต่อไป เราจะได้มีโอกาสในการที่จะเป็นเจ้าภาพในงานเทศกาลศิลปะวัฒนธรรมร่วมสมัยนานาชาติในอนาคตต่อไป.

Categories
ข่าว ท่องเที่ยว ทั้งหมด

ททท. เตรียมสร้างปรากฏการณ์แสง สี กับงาน “VIJITR 5 ภาค @ประจวบคีรีขันธ์” ปักหมุด “เมืองหัวหิน” แต่งแต้มสีสันยามค่ำคืนสุดเหนือจินตนาการทั้ง 15 จุดแสดง

17 – 25 สิงหาคมนี้! ททท. เตรียมสร้างปรากฏการณ์แสง สี กับงาน “VIJITR 5 ภาค @ประจวบคีรีขันธ์” ปักหมุด “เมืองหัวหิน” แต่งแต้มสีสันยามค่ำคืนสุดเหนือจินตนาการทั้ง 15 จุดแสดง

กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา โดย การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เตรียมสร้างปรากฏการณ์ “VIJITR 5 ภาค@ประจวบคีรีขันธ์” ในวันที่ 17 – 25 สิงหาคม 2567 ตั้งแต่เวลา 18.00 – 24.00 น. ณ อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ แต่งแต้มสีสันยามค่ำคืนของเมืองหัวหิน ด้วยเทคนิคแสง เสียง เทคนิคสมัยใหม่ ภายใต้คอนเซปต์ “หัวหิน เสน่ห์วันวาน TIMELESS LIGHT CHARM” ชวนหวนคิดถึงบรรยากาศของวันวานและกลิ่นอายมนต์เสน่ห์อันเหนือจินตนาการของเมืองหัวหินผ่าน 15 จุดการแสดง ที่จะบอกเล่าประวัติศาสตร์วัฒนธรรม วิถีชีวิต ข้ามห้วงเวลาตั้งแต่อดีตจนปัจจุบัน โดยกิจกรรมดังกล่าวถือเป็น 1 ใน 5 พื้นที่อัตลักษณ์ภายใต้โครงการ“VIJITR 5 ภาค” ที่จะช่วยสร้างแรงบันดาลใจนำสู่การเดินทางท่องเที่ยวจริงในพื้นที่

ไปกันต่อกับอีกหนึ่งโลเคชันของโครงการ “VIJITR 5 ภาค” กับงาน “VIJITR 5 ภาค @ประจวบคีรีขันธ์” เสนอแนวคิด “หัวหิน เสน่ห์วันวาน TIMELESS LIGHT CHARM” ในวันที่ 17 – 25 สิงหาคม 2567 ตั้งแต่เวลา 18.00 น. เป็นต้นไป ณ บริเวณสถานีรถไฟหัวหิน 112 ปี (เก่า), สถานีรถไฟหัวหิน (ใหม่), สวนสาธารณะโผน กิ่งเพชร และห้าง Gold Mall (สี่แยกหัวหิน) อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ บอกเล่าความงดงามเหนือกาลเวลาของเมืองหัวหิน ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน ทั้งในมุมของวิถีชีวิต ภูมิปัญญา วัฒนธรรมและประวัติศาสตร์ ผ่าน 15 จุดการแสดงแสง สี เสียงผสมผสานกับ Projection Mapping การประดับ ตกแต่งไฟ การแสดง Lighting สุดทันสมัย ดึงดูดให้เกิดการเดินทางท่องเที่ยวของทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ รวมทั้งสร้างแลนด์มาร์กทางการท่องเที่ยวให้กับจังหวัด  อันจะเป็นโอกาสทางธุรกิจแก่ชุมชน และผู้ประกอบการ สร้างงาน สร้างรายได้หมุนเวียนสู่ฐานราก พร้อมเติมเต็มประสบการณ์การท่องเที่ยวให้แก่นักท่องเที่ยวในอีกมิติหนึ่ง ซึ่งจุดการแสดงทั้ง 15 จุดการแสดง และ 1 จุดไฮไลต์ มีรายละเอียดกิจกรรม ดังนี้ แลนด์มาร์ก ขุมทรัพย์หัวจักรแห่งแสง หัวรถจักรไอน้ำโบราณอายุ 100 ปี ที่ใช้งานสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 จุดไฮไลท์ที่สะท้อนมนต์เสน่ห์ไร้กาลเวลาของหัวหิน หัวจักรราง ณ วันวานที่โลดแล่นมาทุกช่วงอายุของผู้คน

1. สถานีหัวหินเสน่ห์วันวาน จัดแสดงแสง สี อาคารไม้สไตล์วิกตอเรียนภายใต้หลังคาทรงปั้นหยาที่สะท้อนแสงแห่งความฝัน ย้อนเสน่ห์แห่งวันวาน สวยงามด้วยไม้ฉลุ อบอุ่นหัวใจด้วยกลิ่นอายแห่งอดีตที่รุ่งเรือง

2. หัวจักรรางแห่งแสงรันเวย์ จัดประดับตกแต่งไฟ หัวจักรรางที่เคยโลดแล่นในยุคสงครามโลกครั้งที่ 2 ที่ตั้งไว้เป็นที่ระลึก ณ สถานีรถไฟหัวหิน ประดับประดาไฟให้กลับมามีชีวิตอีกครั้ง เพื่อรำลึกประวัติศาสตร์

3. ขุมทรัพย์แห่งธรรมชาติ จัดประดับตกแต่งไฟ สร้างสีสันด้วยเทคนิค “Light Down Tree” กับแสงไฟหลากสีสันให้กับขุมทรัพย์แห่งธรรมชาติต้นไม้ใหญ่ที่แผ่รากและให้ร่มเงาอยู่คู่ชาวหัวหินมาอย่างยาวนานที่ใช้แสงจากต้นไม้ส่องลงยังพื้นให้ผู้คนรู้สึกถึงความยิ่งใหญ่ของธรรมชาติ โปร่งสบายและมีชีวิตชีวา

4. หอแห่งกาลเวลา ณ รางรถไฟเก่า จัดประดับตกแต่งไฟ สร้างสีสัน ให้กับตัวแทนแห่งคมนาคมเมื่อครั้งอดีตกาล ประตูสู่สายใต้ แสงสีนวลแห่งดีไซน์สไตล์วิคตอเรียนที่สื่อถึงตัวแทนแห่งชีวิตของชาวเมืองในยุควันวาน ชานชาลาแห่งความทรงจำที่ยึดโยงผู้คนในทุกยุคสมัย

5. พลับพลาสนามจันทร์ทอแสง จัดประดับตกแต่งไฟ สร้างสีสัน Light up ของศูนย์รวมดวงใจชาวไทยและรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร (รัชกาลที่ 9) แสงเรืองรองดั่งน้ำพระทัย ณ พลับพลาสนามจันทร์ทอแสง แห่งนี้

6. พักแสงวันวาน จัดประดับตกแต่งไฟ สร้างสีสันให้กับเก้าอี้ทอแสงวันวานประกายฝันในสวนสาธารณะโผน กิ่งเพชร ที่สร้างแรงบันดาลใจไม่รู้จบกับสถานที่แห่งตำนานของแชมป์มวยโลกคนแรกของประเทศไทย ด้วยแสงสีสันที่สร้างแรงบันดาลใจราวกับอยู่ในความฝัน

7. เกษตรแห่งแสงเมืองเก่า จัดประดับตกแต่งไฟ สร้างสีสันของเฉดสีแห่งเกษตรกรรมให้ความรู้สึกเหมือนฤดูเก็บเกี่ยวกลับมาอีกครั้ง ณ ดินแดนแห่งความสมบูรณ์ ณ ​จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ แสงที่พลิ้วไหวทำให้รู้สึกราวกับพืชพรรณได้เติบโตและหล่อเลี้ยงชีวิต

8. โถงนภาม่านแสง สุนทรีย์แห่งดาราศาสตร์จุดเรียนรู้ท้องฟ้า ณ อุทยานวิทยาศาสตร์พระจอมเกล้า ณ หว้ากอ จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ที่ถูกก่อตั้งโดยพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหามงกุฎ พระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ 4) โดยทันทีที่ก้าวเข้ามาบริเวณโถงนี้ จะรู้สึกราวกับยืนอยู่กลางฟ้ากว้างสัมผัสเส้นแสงแห่งประกายดาวในราตรีกาล

9. เสียงแสงแห่งกาลเวลา จัดประดับตกแต่งไฟ ด้วยการดีไซน์เทคนิคดนตรีและศิลปะแห่งแสงมาผสมผสานกัน ทำให้เกิดการเคลื่อนไหวที่สอดคล้องกับท่วงทำนองเพลงแจ๊ส คล้ายองค์ประกอบของจังหวัดประจวบคีรีขันธ์​ที่หลากหลายแต่เติมเต็มชีวิตผู้คนได้อย่างอัศจรรย์

10. คลังแสงแห่งความรู้ (หอสมุดรถไฟชุบชีวิต) จัดประดับตกแต่งไฟ ด้วยเทคนิค LED Neo Light ให้กับหอสมุดรถไฟที่ทำมาจากรถไฟอายุกว่า 50 ปี ที่อยู่คู่เมืองหัวหิน การชุบชีวิตรถไฟด้วยแสงไฟหลากหลายสี ระยิบระยับสะท้อนถึงพลังแห่งการเรียนรู้และใช้ชีวิตต่อไป

11. สถานีใต้น้ำ (สถานีรถไฟใหม่) จัดประดับตกแต่งไฟ สถานีรถไฟใหม่ที่นำมาตกแต่งในธีมใต้น้ำเน้นย้ำความอุดมสมบูรณ์ของจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ที่มีชายทะเลสวยงามมากมาย

12. ประกายหมัดสังเวียนแสง จัดประดับตกแต่งไฟ ด้วยองศาของแสงไฟที่กว้างขวาง ชวนให้ความรู้สึกฮึกเหิม รำลึกถึงวีรบุรุษชาวหัวหิน “โผน กิ่งเพชร” แชมป์มวยโลกคนแรกของประเทศไทย ด้วยลำแสงที่โฉบเฉี่ยวดั่งหมัดนักมวยที่เคลื่อนไหวอย่างรวดเร็ว

13.ลานสุขแห่งแสง จัดประดับตกแต่งไฟ ลานกว้างที่ส่องแสงให้หัวใจเปี่ยมสุข ด้วยเทคนิคการจัดแสงที่สะท้อนอารมณ์ของเมืองหัวหินอย่างครบถ้วน ณ ลานโผน กิ่งเพชร ที่ก่อสร้างเพื่อรำลึกถึงวีรบุรุษนักมวย ตั้งแต่วันที่ 27 ตุลาคม 2537

14. เกลียวคลื่นแห่งสีสัน จัดประดับตกแต่งไฟ ให้กับเส้นโค้งและแสงหลากสีฉายออกมาแบบ 3 มิติ เหมือนสายน้ำหล่อเลี้ยงชีวิตชาวเมือง ปลุกความสนุกสนานและความสุข แต้มรอยยิ้มให้หัวใจไปพร้อมๆ กัน ณ หลังสวนสาธารณะโผน กิ่งเพชร

15. ประติมากรรมหัวหินเสน่ห์วันวาน จัดประดับตกแต่ง สร้างแสงสีสัน ณ บริเวณห้าง Gold Mall โดยจำลองวิถีชีวิตแห่งชาวเมืองหัวหินด้วยเทคนิคการเล่นแสงทำให้รู้สึกเพลิดเพลินไปกับอารยธรรมและบรรยากาศเมืองเก่า โดยในวันที่ 17 – 25 สิงหาคม 2567 มีการแสดงไฮไลต์พิเศษ ด้วยสื่อผสมที่ทันสมัยที่มีความพิเศษ ตระการตาถ่ายทอดเรื่องราวหัวหินเสน่ห์วันวานกับ 3 จุดการแสดง ได้แก่ หัวจักรรางแห่งแสงรันเวย์ คลังแสงแห่งความรู้ แลนด์มาร์ก ขุมทรัพย์หัวจักรแห่งแสง

นอกจากนี้ ในวันที่ 17 – 18 และ 23 – 25 สิงหาคม 2567 มีการแสดงรอบพิเศษ ด้วยการผสมผสานระบบเทคนิคพิเศษ Light & Sound ประกอบการแสดงที่ถ่ายทอดมนต์เสน่ห์ของวันวานด้วยการบอกเล่าเรื่องราวผ่านยุคสมัยที่น่าจดจำของหัวหินในอดีตจนถึงปัจุบันกับ 2 จุดการแสดง ได้แก่ แลนด์มาร์ก ขุมทรัพย์หัวจักรแห่งแสง จัดแสดงรอบพิเศษ เวลา 19.00 น. ประกายหมัดสังเวียนแสง จัดแสดงรอบพิเศษ เวลา 20.00 น. ไม่เพียงเท่านั้น ยังเพิ่มความพิเศษให้แก่ผู้เข้าร่วมงานได้ร่วมสนุกแลกของที่ระลึกผ่านช่องทาง LINE Official Account @TripNiceDay เพียงนักท่องเที่ยวที่มาร่วมงานถ่ายรูปและเช็กอินปักหมุดให้ครบ 15 จุดการแสดง  แลกรับของที่ระลึกกระบอกน้ำ จำนวนจำกัดเพียง 500 ชิ้น และกิจกรรม “วิจิตรแชะ&แชร์” ร่วมสนุกได้ ตั้งแต่ 17 – 25 สิงหาคม 2567 เพียงแค่ถ่ายรูปและเช็กอิน 15 จุด ภายในงาน โพสต์ลงใน Facebook Page : Vijitr วิจิตร 5 ภาค ผู้ที่มียอดไลก์และแชร์มากที่สุด จำนวน 5 อันดับแรก ลุ้นรับรางวัลพิเศษในเฉพาะวันที่มีการแสดงรอบพิเศษรับ Gift Voucher ที่พักฟรีมูลค่ากว่า 4,000 บาท

ทั้งนี้ โครงการงาน “VIJITR 5 ภาค” ยังมีกำหนดจัดขึ้นในอีก 2 พื้นที่อัตลักษณ์ ได้แก่ จังหวัดภูเก็ต วันที่ 24 สิงหาคม – 1 กันยายน 2567 และจังหวัดพิษณุโลก วันที่ 7 – 15 กันยายน 2567 เข้าชมฟรี ผู้ที่สนใจเข้าร่วมงานสามารถติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Facebook Page : Vijitr วิจิตร 5 ภาค, Facebook : Thailand Festival และ Facebook : TAT Contact Center เพื่อนร่วมทาง.

This August 17-25, the Tourism Authority of Thailand (TAT) is set to create a spectacle of lights and colors with the event “VIJITR 5 Regions @ Prachuap Khiri Khan.” Pin the “Hua Hin” location and enhance the nighttime atmosphere with vibrant displays across 15 points.

The Ministry of Tourism and Sports, through the Tourism Authority of Thailand (TAT), is ready to present the “VIJITR 5 Regions @ Prachuap Khiri Khan” from August 17-25, 2023, from 6:00 PM to midnight in Hua Hin, Prachuap Khiri Khan Province. The event will illuminate Hua Hin’s night sky using modern lighting and sound techniques under the concept “Hua Hin Timeless Light Charm.” This concept invites visitors to reminisce about the ambiance and the enchanting allure of old Hua Hin through 15 spectacular points that narrate the history, culture, and lifestyle spanning from the past to the present. This activity is one of the five unique areas under the “VIJITR 5 Regions” project aimed at inspiring real travel experiences in the region.

Join us at another location of the “VIJITR 5 Regions” project with the event “VIJITR 5 Regions @ Prachuap Khiri Khan,” offering the concept “Hua Hin Timeless Light Charm” from August 17-25, 2023. Starting from 6:00 PM at locations including the 112-year-old Hua Hin Railway Station (Old), New Hua Hin Railway Station, Phon Kingphet Public Park, and Gold Mall (Hua Hin Intersection) in Hua Hin, Prachuap Khiri Khan Province. Experience the timeless beauty of Hua Hin from its past to the present, encompassing lifestyle, wisdom, culture, and history through 15 vibrant display points featuring lights, colors, sounds, and modern projection mapping. This dynamic display will attract both Thai and international tourists, creating landmarks and business opportunities for the local community and entrepreneurs, generating jobs and circulating income at the grassroots level, thus enriching the tourist experience in a new dimension. The details of the activities at the 15 display points and one highlight point are as follows:

Landmark Treasure of the Locomotive of Light A 100-year-old steam locomotive used during World War II. This highlight reflects the timeless charm of Hua Hin, a locomotive of the past that has traveled through the eras, touching the lives of people across generations.

1. Hua Hin Station Timeless Charm
Features lighting and color displays on Victorian-style wooden buildings under curved roofs that reflect the dreamlike lights, recalling the charm of yesteryears, beautifully crafted with carved wood, warming the heart with the essence of a prosperous past.

2. The locomotive of light runway
Decorated with lighting, this locomotive, which once roamed during World War II and now stands as a memorial at Hua Hin Railway Station, is brought back to life with lights to commemorate history.

3. The Natural Treasure Decorated with lights using the “Light Down Tree” technique, providing a colorful display for the grand trees that have long shaded and stood with the people of Hua Hin, casting light downwards to the ground, allowing people to feel the grandeur of nature that is airy and vibrant.

4. Tower of Time at the Old Railway Tracks
Decorated with lights, adding color to this historical transportation hub, the gateway to the south, with delicate Victorian-style designs that reflect the lifestyle of the townspeople from bygone days, anchoring memories that connect people across generations.

5. Plub pla Sanam Chandra Moonlit Pavilion
Decorated with lights that enhance the central heart of the Thai people and honor the great kindness of King Bhumibol Adulyadej, Rama IX, with glowing lights that reflect like royal grace at the Plubpla Sanam Chandra Moonlit Pavilion.

6. Yesterday Light’s rest Lights up vintage park benches, inspiring endless inspiration at a place legendary for Thailand’s first world boxing champion, with colorful lights that create a dreamlike inspiration.

7. Old town Agriculture of Light Decorated with lights, painting hues of agriculture that bring back the feeling of harvest season in the fertile lands of Prachuap Khiri Khan, with wavering lights that make one feel as if plants are growing and nourishing life.

8. Celestial Curtain Hall A blissful point of astronomy for learning about the sky at the King Mongkut’s Park of Science in Wa Ko, Prachuap Khiri Khan, established by King Mongkut (Rama IV), where stepping into this area feels like standing in the vast sky, touching the light lines of starry glows at night.

9. Sound and Light of Time Decorated with lights using design techniques that blend music and the art of lighting, creating movements that synchronize with jazz tunes, resembling the diverse yet life-enriching elements of Prachuap Khiri Khan.

10. The knowledge light warehouse (Revived Train Library) Decorated with LED Neo Light techniques for the library made from a train car over 50 years old, revitalizing the train with multicolored, sparkling lights that reflect the power of learning and continuing life.

11. Underwater Station (New Railway Station) Decorated with lights, the new railway station is themed underwater, emphasizing the abundant marine beauty of Prachuap Khiri Khan.

12. The Arena of light punch Decorated with broad beams of light that evoke a spirited feeling, reminiscent of the Hua Hin hero “Phon Kingphet,” Thailand’s first world boxing champion, with swift-moving lights like a boxer’s punch.

13. The Plaza of joyous light Decorated with lights, this wide plaza shines light that fills the heart with joy, with lighting techniques that fully reflect the mood of Hua Hin, constructed to commemorate a heroic boxer since October 27, 1994.

14. Swirls of Colorful Waves Decorated with lights, highlighting curves and colorful lights in 3D, akin to life-nourishing water, sparking fun and happiness, marking smiles alongside the hearts at Phon Kingphet Public Park.

15. Hua Hin’s culpture of Timeless Charm
Decorated and creating colorful lights at the area around the Gold Mall, simulating the lifestyle of Hua Hin townspeople with playful lighting techniques that immerse one in the civilization and atmosphere of the old town.

Special highlight performances will take place from August 17-25, 2023, featuring modern mixed media presentations that tell the story of Hua Hin’s charming past at three display points:

– The Locomotive of light runway
– The Knowledge Light Warehouse
– Landmark Treasure of the Locomotive of Light

In addition, on August 17-18 and 23-25, 2023, there will be special performances integrating advanced Light & Sound techniques that capture the charm of yesteryears through narratives spanning the memorable eras of Hua Hin, showcased at two points:

– Landmark Treasure of the Locomotive of Light  will have a special showing at 7:00 PM.
– The Arena of Light Punch will have a special showing at 8:00 PM.

Moreover, attendees can enjoy extra fun and win souvenirs through the LINE Official Account @TripNiceDay. Visitors who join the event, take photos, and check in at all 15 display points can exchange them for a limited edition water bottle, available to only the first 500 participants. Additionally, from August 17-25, 2023, participants can join the “Vijitr Snap & Share” activity. Just take a photo and check in at all 15 points during the event and post it on the Facebook Page: Vijitr 5 Regions. The top five posts with the most likes and shares will have the chance to win special prizes on days with special shows, including a free accommodation Gift Voucher worth over 4,000 THB.

Furthermore, the “VIJITR 5 Regions” project is also scheduled to take place in two other unique locations: Phuket from August 24 to September 1, 2023, and Phitsanulok from September 7-15, 2023. Entry is free, and those interested in joining can find more details on the Facebook Page: Vijitr 5 Regions, Facebook: Thailand Festival, and Facebook: TAT Contact Center.

Categories
ข่าว ทั้งหมด

เหล่านักแข่งไม่ควรพลาด !“ROV Bluport x TRUE Tournament 2024”ชิงรางวัลกว่า 30,000 บาท

เหล่านักแข่งไม่ควรพลาด !“ROV Bluport x TRUE Tournament 2024”ชิงรางวัลกว่า 30,000 บาท

วันที่ 14 สิงหาคม 2567 ศูนย์การค้าบลูพอร์ตหัวหิน จ.ประจวบฯ ร่วมกับ TRUE 5 G เตรียมสร้างปรากฎการณ์ครั้งสำคัญให้กับผู้เล่น ด้วยการเปิดตัวทัวร์นาเมนต์ระดับประเทศกับการแข่งขันลีกฤดูหนาว เพื่อเฟ้นหาตัวแทนไปแข่งขันต่อระดับประเทศ ภายใต้ชื่อ‘ROV Bluport x TRUE Tournament 2024’ซึ่งกำหนดจัดขึ้นในวันที่ 17 สิงหาคมนี้ ที่ชั้น 3 บลูพอร์ตหัวหิน พร้อมรางวัลมูลค่ารวม 30,000 บาท มีนักแข่งที่สมัครเข้าร่วมแข่งขันจากทั่วประเทศรวมทั้งหมด 32 ทีม เพื่อประชันฝีมือในการคว้าแชมป์รายการนี้

ภายในงานเตรียมพบกับกิจกรรมมากมายที่มาสร้างความสนุกในการแข่งขัน ROV แบบ 1 : 1 การรวมตัวของเหล่าคอสเพลเยอร์ ชวนเหล่าสาวกคอสเพลย์มาร่วมแต่งตัว ชิงรางวัลพร้อมร่วมสนุกกับกิจกรรมมากมาย พร้อมบริการถ่ายรูปสวยๆ เก็บเป็นความประทับใจ สำหรับ 100 ท่านแรกเท่านั้น รับบัตรเข้าสวนน้ำฟรี นอกจากนี้ยังเพลินเพลินไปกับกิจกรรม Cover Dance ที่มาร่วมสร้างสีสันภายในงานอีกด้วย และไฮไลท์พิเศษ พร้อมเปิดตัวนักพากย์เกมมากฝีมือ หนึ่งในนักพากย์เกมชื่อดังแห่งยุค ที่จะมาช่วยสร้างความสนุกภายในงานแบบยกกำลังสอง กับปอดั่น และ Winzy มาวิน มาแวะ และมีส่วนร่วมในการขับเคลื่อนวงการ Esports ไทยให้กลายเป็นที่รู้จัก ในวันที่ 17 สิงหาคมนี้ ที่ชั้น 3 บลูพอร์ตหัวหิน สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ โทร.032 – 905111 เฟซบุ๊ก : Bluport Hua Hin Official หรือ Line : @Bluport.

Categories
ข่าว ทั้งหมด

อุทยานกุยบุรี จับหนุ่มพกยาบ้า ถือปืนยาวเข้าไปล่าสัตว์ในอุทยาน

อุทยานกุยบุรี จับหนุ่มพกยาบ้า ถือปืนยาวเข้าไปล่าสัตว์ในอุทยาน

จากข้อสั่งการของ พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) นายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช และนายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร ผู้อำนวยการสำนักอุทยานแห่งชาติ ให้อุทยานแห่งชาติทุกแห่งเข้มข้นในการลาดตระเวนคุ้มครองพื้นที่ป่าและสัตว์ป่า เพื่อหยุดยั้งการล่าสัตว์ป่า ต่อมาวันที่ 14 สิงหาคม 2567 นายอรรถพงษ์ เภาอ่อน หัวหน้าอุทยานแห่งชาติกุยบุรี จ.ประจวบฯ ขณะนำกำลังหน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติกุยบุรี ที่ กร.3 ด่านสิงขร ออกลาดตระเวนบริเวณแนวขอบป่า เพื่อสกัดกั้นบุคคลเข้าไปล่าสัตว์ในเขตอุทยาน เนื่องจากเข้าสู่ฤดูฝน มักจะมีสัตว์ป่าออกมากินน้ำตามลำห้วยจำนวนมาก บริเวณพื้นที่หมู่ 5 บ้านเนินแก้ว ต.อ่าวน้อย อ.เมืองประจวบฯ ในเขตอุทยานแห่งชาติกุยบุรี พบชาย 1 คน กำลังเดินสะพายอาวุธปืนยาว มุ่งหน้าเข้าป่าลึก จึงแสดงตนเข้าตรวจค้น ทราบชื่อว่านายพร (นามสมมุติ) อายุ 42 ปี พร้อมอาวุธปืนลูกซองยาว 1 กระบอก กระสุนคารังเพลิง 1 นัด กระสุนปืนลูกซองขนาดเบอร์ 12 จำนวน 15 นัด และยาบ้า 2 เม็ด อยู่ในกระเป๋ากางเกง ก่อนรับสารภาพว่าจะเข้าไปล่าสัตว์ในอุทยาน แต่ถูกเจ้าหน้าที่จับกุมเสียก่อน จึงนำตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลางส่งพนักงานสอบสวน สภ.อ่าวน้อย ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป.

Categories
ข่าว ทั้งหมด

กระตุกหนวดเสือ จับโล้นห่มเหลืองถือซองผ้าป่าเข้าเรี่ยไรตำรวจแต่ไม่รอด

กระตุกหนวดเสือ จับโล้นห่มเหลืองถือซองผ้าป่าเข้าเรี่ยไรตำรวจแต่ไม่รอด

เมื่อวันที่ 16.00 น.วันที่ 13 สิงหาคม 2567 พ.ต.อ.กัมปนาท ณ วิชัย ผกก.สภ.หัวหิน จ.ประจวบฯ พ.ต.ท.วรพรต ผลานิวงค์ รอง ผกก.1 บก.ทท.3 พ.ต.ท.อาณัฐชัย ก้อนทอง สวญ.ส.ทท.2 กก.1 บก.ทท.3 (ตำรวจท่องเที่ยวหัวหิน) พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจ ร่วมกันจับกุมตัว นายวิชัย ไพรสิงห์ อายุ 29 ปี ชาว จ.นครสวรรค์ ในข้อหาแต่งกายหรือใช้เครื่องหมายที่แสดงว่าเป็นภิกษุ สามเณร นักพรตหรือนักบวชในศาสนาใดโดยมิชอบ เพื่อให้บุคคลอื่นเชื่อว่าตนเป็นบุคคลเช่นว่านั้น และฉ้อโกง พร้อมของกลาง จีวร อังสะ สบง รัดประคดเอว ซองผ้าป่าและหนังสือรับรองของสำนักสงฆ์แห่งหนึ่งใน อ.สามร้อยยอด จ.ประจวบฯ

โดยก่อนหน้านั้น นายวิชัยปลอมตัวเป็นพระสงฆ์ เดินถือซองผ้าป่าและหนังสือรับรองของสำนักสงฆ์ดังกล่าว เข้าไปขอเรี่ยไรในสถานีตำรวจท่องเที่ยวหัวหิน อ้างว่าเพื่อนำไปสมทบทุนสร้างห้องน้ำและชำระค่าไฟฟ้า ตำรวจจึงได้รวบรวมเป็นเงิน 430 บาท ใส่ซองมอบให้ไป ภายหลังได้ตรวจสอบไปทางสำนักสงฆ์ดังกล่าว จึงทราบว่าสำนักสงฆ์ไม่ได้มีการจัดงานทอดผ้าป่าสามัคคีแต่อย่างใด จังหวะนั้นได้ยินวิทยุ สภ.หัวหิน แจ้งให้ตรวจสอบพระสงฆ์เดินเรี่ยไรอยู่บริเวณโรงเรียนสมถวิล หัวหิน จึงไปตรวจสอบ พบว่าเป็นบุคคลเดียวกันที่เข้ามาเรี่ยไรในสถานีตำรวจท่องเที่ยวหัวหิน จึงนำตัวมาสอบสวน จนทราบชื่อภายหลังว่านายวิชัย และให้การรับสารภาพว่าตนไม่ได้เป็นพระสงฆ์แต่อย่างใด เพียงแต่เอาจีวร อังสะ สบง มาห่มใส่ให้เหมือนพระเพื่อง่ายต่อการเรี่ยไร ที่ผ่านมาได้เงินมาจำนวนมากก่อนถูกจับกุม ตำรวจจึงนำตัวผู้ต้องหาส่งพนักงานสอบสวน สภ.หัวหิน ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป.

Categories
ข่าว ทั้งหมด

สุวัจน์เปิดเดินแบบผ้าไทย ชูพลังซอฟพาวเวอร์ ในเทศกาลวันแม่แห่งชาติ

สุวัจน์เปิดเดินแบบผ้าไทย ชูพลังซอฟพาวเวอร์ ในเทศกาลวันแม่แห่งชาติ

เมื่อวันที่ 13 สิงหาคม 2567 ที่ศูนย์การค้าบลูพอร์ต หัวหิน จ.ประจวบฯ นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ อดีตรองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานเปิดงาน “Elegance of Thai Woman #2 New Generation Designer” เนื่องในวันผ้าไทยแห่งชาติ น้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของสมเด็จ พระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ที่ทรงอนุรักษ์ ส่งเสริม สืบสานผ้าไทยให้เป็นที่ประจักษ์มายาวนาน และเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา 92 พรรษา 12 สิงหาคม 2567 มี นายคมกริช เจริญพัฒนสมบัติ รองผู้ว่าราชการ จ.ประจวบฯ นายพลกฤต พวงวลัยสิน นายอำเภอหัวหิน นางอุษา พวงวลัยสิน นายกกิ่งกาชาด อ.หัวหิน นางกฤษณา แผ่แสงจันทร์ สภาวัฒนธรรมจังหวัดประจวบฯ นายอาชวันต์ กงกะนันทน์ ผอ.ททท.สำนักงานประจวบฯ นางวาสนา ศรีกาญจนา นายกสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวหัวหิน/ชะอำ นางเบญจมาส อ่วมสอาด ผอ.ฝ่ายกิจการนักศึกษาและองค์กรสัมพันธ์ มหาวิทยาลัยนานาชาติแสตมฟอร์ด นางสาววจี กลมเกลี้ยง กรรมการบริหาร บริษัท หัวหิน แอสเสท จำกัด นายโชคชัย วงศ์จักรภัชร์ กรรมการผู้จัดการ บลูพอร์ต หัวหิน และแขกผู้มีเกียรติจำนวนมากร่วมงาน

มีการจัดนิทรรศการผ้าไทยที่หาชมยากจากการรังสรรค์ของชุมชนและช่างฝีมือในพื้นถิ่นต่างๆ ทั่วประเทศ การเสวนาให้ความรู้เรื่องผ้าไทย การแสดงดนตรี “Music for Mom” ถ่ายทอดความรักจากลูกสู่แม่ กิจกรรมเวิร์คช้อปผ้าไทย พร้อมชมแฟชั่นโชว์ผ้าไทยอัตลักษณ์พื้นถิ่น 4 ภาคจากนางแบบกิตติมศักดิ์ นิ้งค์ พรศิริกุล พั่วทา รองอันดับ 1 นางสาวไทย 2567, ร.ต.อ.หญิง อาทิติยา เบ็ญจะปัก รองอันดับ 2 นางสาวไทย 2567, เจนนิเฟอร์ โจนส์ รองอันดับ 4 Miss Universe Thailand 2023, ฟ็อก ปรเมษฐ์ มั่นยืน รองอันดับ 3 Mister Global Thailand 2024 และ ปิง เรวัติ ชุมรอด มิสเตอร์โมเดลอินเตอร์เนชั่นเนล เอเชีย และนางแบบ รวม 20 ท่าน ด้วยความสวยงามตระการตา

นายสุวัจน์ กล่าวว่า งานนี้ถือเป็นอีกหนึ่งงานใหญ่ที่จะช่วยส่งเสริมการท่องเที่ยวและกระตุ้นเศรษฐกิจในพื้นที่หัวหิน เผยแพร่และประชาสัมพันธ์ในเรื่องอัตลักษณ์ท้องถิ่นของไทย ผ่านความงามอันเป็นเอกลักษณ์ของผ้าไทยกับกิจกรรมการเดินแบบแฟชั่นโชว์ผ้าไทย ซึ่งถือเป็นกิจกรรมที่จะสร้างซอฟต์พาวเวอร์ให้ต่างชาติได้รู้จักเมืองไทยในมุมต่างๆ อีกทั้งยังเป็นการช่วยผลักดันเมืองหัวหิน ให้เป็นเมืองแห่งศิลปวัฒนธรรมอย่างต่อเนื่อง ความน่าสนใจของกิจกรรมในปีนี้ ก็คือการผลักดันความสามารถของคนรุ่นใหม่ๆ กับการนำกลุ่มไทยดีไซเนอร์รุ่นใหม่เข้ามาร่วมออกแบบและจัดแสดงแฟชั่นโชว์ โดยใช้ผ้าไทยพื้นถิ่นจากทั่วประเทศ เน้นการนำเสนออัตลักษณ์ผ้าไทย จากทั้ง 4 ภาค ถือเป็นการตอกย้ำให้คนรุ่นใหม่เข้าถึงแฟชั่นผ้าไทย ว่าจริงๆแล้วผ้าไทยสามารถนำมาออกแบบโดยเน้นการออกแบบดีไซน์ที่ทันสมัยมากยิ่งขึ้นเพื่อเพิ่มมูลค่าและคุณภาพ ให้สามารถสวมใส่ได้ในทุกโอกาส ทุกเทศกาล ยกระดับผ้าไทยได้เป็นที่รู้จักและยอมรับในระดับสากล พร้อมทั้งยังเป็นการช่วยสร้างอาชีพ กระจายรายได้ให้กับชุมชนท้องถิ่นอีกด้วย และที่สำคัญยังเป็นการสร้างเสน่ห์ให้กับเมืองหัวหิน ให้นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติได้มาสัมผัสซอฟต์พาวเวอร์ของไทย จะช่วยเรื่องเศรษฐกิจ ช่วยประชาสัมพันธ์การท่องเที่ยว และส่งเสริมภาพลักษณ์ของเมืองหัวหิน ดึงความงดงามอันเป็นเอกลักษณ์ของผ้าไทยให้ประจักษ์สู่สายตาคนทั่วโลก.

Categories
ข่าว ทั้งหมด

ผู้ว่าฯ ประจวบฯ ทำพิธีไหว้ครูองค์จตุโชคศาลหลักเมือง เพื่อความเป็นสิริมงคล

ผู้ว่าฯ ประจวบฯ ทำพิธีไหว้ครูองค์จตุโชคศาลหลักเมือง เพื่อความเป็นสิริมงคล

วันที่ 13 สิงหาคม 2567 นายสมคิด จันทมฤก ผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบฯ พร้อมด้วย ผศ.ดร.ศศิธร จันทมฤก นายกเหล่ากาชาดจังหวัดประจวบฯ เป็นประธานในพิธีถวายสักการะบูชาองค์จตุโชคหลักเมืองประจวบฯ เนื่องในวันคล้ายวันประดิษฐานยอดชัยองค์หลักเมืองประจวบคีรีขันธ์ ประจำปี 2567 มี หัวหน้าส่วนราชการ ข้าราชการ คณะกรรมการมูลนิธิศาลหลักเมืองประจวบฯ และผู้มีจิตศรัทธาเป็นจำนวนมาก ร่วมในพิธีทำบุญตักบาตรพระสงฆ์ 73 รูป จากนั้นร่วมพิธีบวงสรวงศาลเพียงตา บวงสรวงเทพยาดาฟ้าดิน และบวงสรวงไหว้ครูองค์จตุโชค เจริญพุทธมนต์ ถวายภัตตาหารเพลพระภิกษุสงฆ์เพื่อความเป็นสิริมงคล พร้อมกันนี้ ผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบฯ เป็นประธานมอบทุนมูลนิธิศาลหลักเมืองประจวบฯ ให้แก่โรงพยาบาลประจวบคีรีขันธ์ 100,000 บาท และมอบทุนการศึกษา อำเภอละ 2 ทุน รวม 16 ทุน เป็นเงิน 80,000 บาท

พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้สมเด็จพระบรมโอรสาธิราช สยามมกุฎราชกุมาร (ในขณะนั้น) เสด็จแทนพระองค์ทรงประกอบพิธีเปิดศาลหลักเมืองประจวบฯ เมื่อวันที่ 20 สิงหาคม 2537 ตรงกับวันขึ้น 14 ค่ำเดือน 9 ปีกุน ซึ่งองค์หลักเมืองนี้ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ทรงพระสุหร่าย ทรงเจิมแล้วอัญเชิญกลับมาประดิษฐานบนยอดองค์หลักเมืองเมื่อวันที่ 8 ธันวาคม 2561 ทั้งนี้องค์หลักเมืองประจวบฯ ถือกำเนิดเมื่อเดือน 9 ขึ้น 9 ค่ำ ในนามว่า “องค์จตุโชค” โดยทุกปีจะมีการทำบุญและประกอบพิธีไหว้ครูที่ศาลหลักเมือง ใช้ระยะเวลาก่อสร้าง 1 ปี 4 เดือน โดยร้อยตรีอำนวย ไทยานนท์ ผู้ว่าราชการ จ.ประจวบฯ ในสมัยนั้น (พ.ศ.2532 – 2537) ได้ริเริ่มและดำเนินการก่อสร้างศาลหลักเมืองประจวบฯ จนแล้วเสร็จ ใช้งบประมาณทั้งสิ้น 16 ล้านบาท โดยได้รับความร่วมมือร่วมใจอย่างสูงจากชาวจังหวัดประจวบฯ รวมทั้งข้าราชการพลเรือน ทหาร ตำรวจ ซึ่งตามโบราณประเพณีถือกันว่าองค์หลักเมืองเป็นสัญลักษณ์ของการก่อกำเนิดสังคม ชุมชน บ้านเมือง และถือเอาเป็นศูนย์รวมทางจิตใจ เป็นสิ่งยึดเหนี่ยวจิตใจ เชื่อกันว่าองค์หลักเมือง มีเทพประจำคอยปกปักรักษาปัดเป่าเหตุร้าย และภัยพิบัติต่างๆ ให้หมดสิ้นไป.