Categories
ข่าว ทั้งหมด

ศาลจังหวัดหัวหิน จัดโครงการไกล่เกลี่ยทั่วไทย ร่วมใจสานสันติ

ศาลจังหวัดหัวหิน จัดโครงการไกล่เกลี่ยทั่วไทย ร่วมใจสานสันติ

วันที่ 13 มิถุนายน 2566 นายวรเมศฐ์ เกียรติฤทธินันท์ ผู้พิพากษา หัวหน้าศาลจังหวัดหัวหิน เป็นประธานเปิดโครงการ ไกล่เกลี่ยทั่วไทย ร่วมใจสานสันติ ประจำปี พ.ศ.2566 ที่อาคารศาลจังหวัดหัวหิน อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ มี น.ส.พรพรรณ เวชไชโย ผู้อำนวยการสำนักงานประจำศาลจังหวัดหัวหิน น.ส ณัฐรดา ถิ่นวงษ์เกอ ผู้อำนวยการธนาคารออมสิน เขตควบคุมและบริหารหนี้ ภาค 4 น.ส.ศิริวรรณ จูตะเสน ผู้อำนวยการธนาคารออมสิน เขตประจวบคีรีขันธ์ แขกผู้มีเกียรติ และประชาชนกว่า 50 คน เข้าร่วม

นายวรเมศฐ์ เกียรติฤทธินันท์ กล่าวว่า สำนักงานศาลยุติธรรม ได้มอบหมายให้สำนักส่งเสริมงานตุลาการ จัดสรรเงินสนับสนุนให้ศาลยุติธรรมทั่วประเทศจัดกิจกรรมโครงการเพื่อส่งเสริม เผยแพร่และพัฒนาระบบการไกล่เกลี่ยข้อพิพาท อันเป็นการระงับข้อพิพาททางเลือก เปิดโอกาสให้คู่ความได้เจรจายุติข้อพิพาทที่เกิดขึ้น ด้วยความสะดวก รวดเร็ว ประหยัดและเป็นธรรม ตลอดจนสร้างความรู้ ความเข้าใจ รณรงค์และเผยแพร่ความรู้เกี่ยวกับกระบวนการไกล่เกลี่ยข้อพิพาทให้เป็นที่รู้จักแพร่หลาย

ศาลจังหวัดหัวหินได้เล็งเห็นถึงความสำคัญ จึงได้นำระบบการไกล่เกลี่ยข้อพิพาทมาใช้ควบคู่ไปกับการพิจารณาคดีของศาล เพื่อให้คู่ความได้มีโอกาสเลือกใช้การไกล่เกลี่ยข้อพิพาทในการยุติคดี หรือข้อพิพาทที่เกิดขึ้น ตลอดจนการรณรงค์เผยแพร่ความรู้เกี่ยวกับกระบวนการไกล่เกลี่ยข้อพิพาทให้เป็นที่รู้จักแพร่หลายแก่ประชาชน โดยศาลจังหวัดหัวหิน กำหนดจัดกิจกรรม ไกล่เกลี่ยทั่วไทย ร่วมใจสานสันติ ประจำปี พ.ศ. 2566 ระหว่างวันที่ 1 มิถุนายน ถึงวันที่ 31 สิงหาคม 2566 เพื่อเปิดโอกาสให้คู่ความได้เจรจายุติข้อพิพาทที่เกิดขึ้น ประชาชนจะได้มีโอกาสเข้ามามีส่วนร่วมในการยุติข้อพิพาท โดยการไกล่เกลี่ยข้อพิพาทควบคู่ไปกับการพิจารณาคดีของศาลอันจะก่อให้เกิดความปรองดองรู้รักสามัคคีต่อไป

น.ส.พรพรรณ เวชไชโย กล่าวว่า โครงการนี้ สำนักงานศาลยุติธรรมได้มอบหมายให้สำนักส่งเสริมงานตุลาการ ร่วมกับศาลยุติธรรมทั่วประเทศ จัดกิจกรรมรณรงค์เผยแพร่ความรู้เกี่ยวกับกระบวนการไกล่เกลี่ยข้อพิพาท ก่อนฟ้องและหลังฟ้อง ตลอดจนขั้นตอนการไกล่เกลี่ยออนไลน์ให้เป็นที่รู้จักแพร่หลายในหมู่ประชาชน และพัฒนาระบบการไกล่เกลี่ยข้อพิพาทของศาล ให้มีประสิทธิภาพเป็นไปในทิศทางเดียวกัน โดยมีวัตถุประสงค์คือ 1.เพื่อเผยแพร่การระงับข้อพิพาททางเลือกด้วยการไกล่เกลี่ยข้อพิพาท ทั้งก่อนฟ้องและหลังฟ้อง การไกล่เกลี่ยออนไลน์ของศาลยุติธรรมให้เป็นที่รู้จักแพร่หลายแก่ประชาชน 2.เพื่อเป็นการลดปริมาณการพิจารณาพิพากษาคดีของศาล.

Categories
ข่าว ทั้งหมด

สภากาชาดไทย อบรมเพิ่มศักยภาพให้กับกิ่งกาชาดอำเภอหัวหิน และปราณบุรี

สภากาชาดไทย อบรมเพิ่มศักยภาพให้กับกิ่งกาชาดอำเภอหัวหิน และปราณบุรี

วันที่ 12 มิถุนายน 2566 นายเตช บุนนาค เลขาธิการสภากาชาดไทย เป็นประธานเปิดอบรมหลักสูตรเชิงลึกเพื่อเพิ่มศักยภาพของกิ่งกาชาดอำเภอหัวหินและปราณบุรี ที่ห้องประชุมอุทยานราชภักดิ์ อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ มีนายเสถียร เจริญเหรียญ ผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบฯ นายพลกฤต พวงวลัยสิน นายอำเภอหัวหิน ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.วีรสิทธิ์ สิทธิไตรย์ ผู้ช่วยเลขาธิการสภากาชาดไทย นางสุกานดา วรเชษฐบัญชา ผู้ช่วยผู้อำนวยการสำนักงานบริหารกิจการเหล่ากาชาด นายเอกชลิต ผลศรีทอง หัวหน้ากลุ่มงานบริหารและประสานกิจการเหล่ากาชาด นายศิรพันธ์ กมลปราโมทย์ ที่ปรึกษานายกเทศมนตรีเมืองหัวหิน นายกกิ่งกาชาด รองนายกกิ่งชาด เหรัญญิก เลขานุการ และผู้ปฏิบัติงานของกิ่งกาชาดอำเภอหัวหินและปราณบุรี จำนวน 90 คน และแขกผู้มีเกียรติ เข้าร่วมในพิธีเปิดการอบรม

นายเตช บุนนาค กล่าวว่า กิ่งกาชาดอำเภอเป็นเครือข่ายที่มีความสำคัญอย่างยิ่งกับสภากาชาดไทย ที่สามารถเข้าถึงประชาชนได้อย่างทั่วถึงและทันท่วงที เพราะอยู่ในพื้นที่อย่างแท้จริง เพื่อปฏิบัติภารกิจในการยกระดับคุณภาพชีวิตให้เกิดประโยชน์สุขของประชาชนในท้องถิ่น การจัดอบรมเชิงลึกเพื่อเพิ่มศักยภาพของกิ่งกาชาดอำเภอหัวหินและปราณบุรีครั้งนี้ นับว่าเป็นโอกาสอันดีที่ได้พบปะแลกเปลี่ยนประสบการณ์ และร่วมเรียนรู้สร้างความเข้าใจตรงกัน ให้สามารถปฏิบัติงานได้อย่างถูกต้อง เป็นไปตามข้อบังคับ ระเบียบของสภากาชาดไทยได้อย่างมีประสิทธิภาพและได้ผลเต็มที่ เพื่อที่จะสามารถนำความรู้ความเข้าใจไปปรับใช้ในการทำงาน และการแก้ไขปัญหาให้เกิดประโยชน์สูงสุดกับประชาชนในพื้นที่

นายเสถียร เจริญเหรียญ กล่าวว่า กิ่งกาชาดอำเภอ นับว่าเป็นเครือข่ายที่มีความสำคัญมาก เพราะเป็นองค์กรที่ประชาชนสามารถเข้าถึงได้และอยู่ในพื้นที่อย่างแท้จริง การอบรมในครั้งนี้ นอกจากจะได้พบปะแลกเปลี่ยนประสบการณ์ในการปฏิบัติภารกิจและได้ร่วมแสดงความคิดเห็นในการแก้ไขปัญหา เพื่อให้การปฎิบัติงานสอดคล้องกับนโยบายระเบียบ ข้อบังคับของสภากาชาดไทย.

Categories
ข่าว ทั้งหมด

กระสุนปืนปริศนาตกใส่หลังคาบ้าน ห่างเตียงลูกสาวแค่คืบ

กระสุนปืนปริศนาตกใส่หลังคาบ้าน ห่างเตียงลูกสาวแค่คืบ

วันที่ 18 พฤษภาคม 2566 ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งเหตุการณ์เฉียดตาย ที่หมู่ 1 ต.ไร่ใหม่ อ.สามร้อยยอด จ.ประจวบคีรีขันธ์ จึงเดินทางไปบ้านหลังดังกล่าว ซึ่งเป็นบ้านชั้นเดียวปลูกอยู่ในสวนมะม่วง พบกับนายธาดา ปอวังตะโก อายุ 47 ปี เจ้าของบ้าน พร้อมภรรยาและลูกสาว ที่เฉียดตายหวุดหวิด เนื่องจากมีกระสุนปริศนาตกจากหลังคาทะลุลงมาเฉียดหัวลูกสาวไม่ถึงคืบ และเล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น พร้อมนำภาพหัวกระสุนปืนและภาพฝ้าเพดานที่มีร่องรอยกระสุนปืนที่ตกลงมาให้ผู้สื่อข่าวดู

เมื่อไปถึงที่เกิดเหตุ เป็นบ้านเช่าอาคารปูนห้องแถวชั้นเดียว เลขที่ 1291 ภายในซอยวังก์พง 21/18 – 3 หมู่ 2 ต.วังก์พง อ.ปราณบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์ หลังจากตรวจสอบเบื้องต้น จึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบตามลำดับชั้น

นายธาดา เล่าว่าเมื่อเวลาประมาณ 04.00 น. ขณะที่กำลังนอนหลับ จู่ๆ ลูกสาววัย 18 ปี ที่นอนอยู่ห้องติดกัน มาเคาะประตูเรียกด้วยสีหน้าที่ตื่นตระหนก พร้อมบอกว่ามีอะไรไม่รู้ตกมากระแทกกับหลังคาบ้านและทะลุฝ้าเพดานเสียงดังมาก แล้วตกลงมาเกือบถูกหัว ห่างเพียงไม่ถึงคืบ ตนและภรรยาจึงรีบไปดู พบว่าบนที่นอนลูกสาวมีเศษกระเบื้องตกมาเต็มที่นอน และที่ฝ้าเพดานมีรูอยู่ ขณะที่ตนไปบนยกผ้าปูที่นอนขึ้น ก็ได้ยินเสียงโลหะตกลงไปกระทบกระเบื้องปูพื้น ตนจึงไปหยิบดูก็พบว่าเป็นหัวกระสุนปืนทองแดง จับดูยังมีความร้อนอยู่ จึงเอาโทรศัพท์มาถ่ายภาพเก็บไว้

ด้านน้องผึ้ง เล่านาทีเฉียดตายให้ฟัง ว่าขณะที่กำลังนอนหลับอยู่ ได้ยินเสียงดังจากบนหลังคาบ้าน ตกใจมาก พอจะลืมตา ก็ลืมไม่ขึ้นแล้ว เพราะที่หน้ามีเศษวัสดุมาติดเต็มหน้าจนลืมตาไม่ขึ้น จึงพยายามคลำเอามือถือที่วางอยู่ข้างตัวมาเปิดไฟฉาย เห็นเศษปูน เศษกระเบื้องเต็มที่นอน เงยหน้าไปดูบนเพดานก็พบว่ามีรู ตกใจมากจึงรีบวิ่งออกไปบอกพ่อที่นอนอยู่ห้องข้างๆ พอรู้ว่าเป็นกระสุนปืน รู้สึกกลัวมาก เพราะตกใกล้ๆ ข้างๆ หัวเลย อีกนิดเดียวก็จะโดนหนูแล้ว

สำหรับเหตุการณ์ลักษณะนี้ไม่น่าจะมีแล้ว กฎหมายก็ห้ามยิงปืนขึ้นฟ้าอยู่แล้ว โดยเฉพาะช่วงปีใหม่ สงกรานต์ แต่ตอนนี้เป็นช่วงธรรมดา ถึงมีงานอะไรก็แล้ว ก็ไม่ควรยิงปืนขึ้นฟ้า คนยิงอาจจะคิดแค่สนุก คึกคะนอง แต่ผลที่ตามมาอาจเกิดความสูญเสียกับผู้อื่นได้.

ภาพ/ข่าว : ฐิติชญา แสงสว่าง

Categories
กีฬา ทั้งหมด

หัวหินจัดวิ่งมาราธอน ชิงถ้วยพระราชทานกรมสมเด็จพระเทพฯ

หัวหินจัดวิ่งมาราธอน ชิงถ้วยพระราชทานกรมสมเด็จพระเทพฯ

วันที่ 7 เมษายน 2566 นายคมกริช เจริญพัฒนสมบัติ รองผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เป็นประธานแถลงข่าวการแข่งขันวิ่งหัวหินมาราธอน 2023 (ครั้งที่ 3) มีนายนพพร วุฒิกุล นายกเทศมนตรีเมืองหัวหิน นายกฤป โรจนเสถียร ประธานชมรมพิทักษ์หัวหินในพระราชูปถัมภ์สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้ากรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี นายพลกฤต พวงวลัยสิน นายอำเภอหัวหิน นางวาสนา ศรีกาญจนา นายกสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวหัวหิน – ชะอำ นายฉัตรชัย อภิบาลพูนผล ประธานมูลนิธิด้วยกันเพื่อคนพิการและสังคม พร้อมแขกผู้มีเกียรติและสื่อมวลชนเข้าร่วมรับฟัง

เมื่อไปถึงที่เกิดเหตุ เป็นบ้านเช่าอาคารปูนห้องแถวชั้นเดียว เลขที่ 1291 ภายในซอยวังก์พง 21/18 – 3 หมู่ 2 ต.วังก์พง อ.ปราณบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์ หลังจากตรวจสอบเบื้องต้น จึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบตามลำดับชั้น

นายกฤป กล่าวถึงวัตถุประสงค์การจัดแข่งขันในครั้งนี้ ว่าเพื่อเป็นการหาทุนสนับสนุนกิจกรรมของชมรมฯ ในการพิทักษ์สิ่งแวดล้อมในเขตเทศบาลเมืองหัวหิน ร่วมกันสร้างจิตสำนึกในการดูแลรักษาสิ่งแวดล้อมชายหาด โครงการพัฒนาระบบนิเวศป่าชายเลนผืนสุดท้ายของเมืองหัวหิน เนื้อที่รวม 18 ไร่ บริเวณวัดเขาไกรลาศ เพื่อพัฒนาให้เป็นสถานที่สำหรับศึกษาระบบนิเวศอันสมบูรณ์ สนับสนุนการอนุรักษ์ป่าชายเลน รวมทั้งทำให้เป็นพื้นที่ในรูปแบบของศูนย์การท่องเที่ยวเชิงนิเวศในนามโครงการไกรลาศนิเวศ และสนับสนุนการท่องเที่ยวเมืองหัวหินในเชิงสุขภาพ โดยคาดว่าจะมีนักวิ่งทั้งชาวไทยและต่างประเทศกว่า 3,500 คน เข้าร่วมกิจกรรม นอกจากนี้ยังเปิดโอกาสให้นักวิ่งผู้พิการจากมูลนิธิด้วยกันเพื่อคนพิการและสังคม รวมกับไกด์รันเนอร์ ประมาณ 30 – 50 คน ได้สัมผัสประสบการณ์วิ่งบนชายหาดที่หัวหินด้วย ซึ่งจะส่งผลดีต่อเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวของเมืองหัวหิน

โดยแบ่งการแข่งขันออกเป็น 4 ระยะทาง ได้แก่มาราธอน ระยะทาง 42.195 กิโลเมตร ชิงถ้วยพระราชทาน, ฮาล์ฟมาราธอน ระยะทาง 21 กิโลเมตร, มินิมาราธอน ระยะทาง 10.5 กิโลเมตร และฟันรัน ระยะทาง 5 กิโลเมตร จัดขึ้นในวันที่ 11 มิถุนายน 2566 จุดสตาร์ทบริเวณวัดเขาไกรลาศ อ.หัวหิน จ.ประจวบฯ ผู้ที่สนใจสามารถดูรายละเอียดได้ที่ https://www.runlah.com/events/huahin2023.

Categories
ข่าว ทั้งหมด

หนุ่มจับได้แฟนมีกิ๊ก คว้า ปืนยิงดับทั้งคู่คาบ้านเช่า

หนุ่มจับได้แฟนมีกิ๊ก คว้า ปืนยิงดับทั้งคู่คาบ้านเช่า

เมื่อเวลาประมาณ 07.30 น.วันที่ 22 เมษายน 2566 ร.ต.อ.กรชวัล จันทร์ศิริ รองสารวัตรสอบสวน สภ.ปราณบุรี รับแจ้งจากชาวบ้านว่าพบศพอยู่ในบ้านเช่า หมู่บ้านวังก์พง จึงรายงานให้ พ.ต.อ. อภิธาน ปานอุทัย ผกก.สภ.ปราณบุรี ผู้บังคับบัญชาทราบ จากนั้นจึงเดินทางพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน สภ.ปราณบุรี และเจ้าหน้าที่สายตรวจเดินทางรุดตรวจสอบที่เกิดเหตุ

เมื่อไปถึงที่เกิดเหตุ เป็นบ้านเช่าอาคารปูนห้องแถวชั้นเดียว เลขที่ 1291 ภายในซอยวังก์พง 21/18 – 3 หมู่ 2 ต.วังก์พง อ.ปราณบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์ หลังจากตรวจสอบเบื้องต้น จึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบตามลำดับชั้น

ต่อมา พล.ต.ต.วันชัย ธารณธรรม ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ มอบหมายให้ พ.ต.อ.ดำรงศักดิ์ ทองงามตระกูล พ.ต.อ.พนิช อ่วมสอาด รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ พร้อมด้วย พ.ต.อ.อภิธาน ปานอุทัย ผกก.สภ.ปราณบุรี นำเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนภูธรจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เจ้าหน้าที่ตรวจพิสูจน์หลักฐาน (พฐ.) และหน่วยกู้ภัยมูลนิธิสว่างแผ่ไพศาลธรรมสถานปราณบุรี ลงพื้นที่ร่วมตรวจสอบชันสูตรในที่เกิดเหตุ มีผู้เสียชีวิตเป็นหญิง 1 ราย ทราบชื่อ น.ส.นิภาพร ตาลดี อายุ 35 ปี นอนจมกองเลือดในลักษณะคว่ำหน้า สวมกางเกงขาสั้น และเสื้อแขนสั้นสีดำลายจุดแดง ข้างกายศพพบปลอกกระสุนปืนขนาด 11 มม. ตกอยู่ 1 ปลอก มีบาดแผลที่บริเวณศีรษะ จำนวน 1 แผล

ถัดออกมาบริเวณนอกกำแพงรั้วหลังบ้าน ติดริมคลองสาธารณะ พบศพชายนอนเสียชีวิตอีก 1 ราย ในลักษณะนอนตะแคงข้างคว่ำหน้า สวมเสื้อยืดแขนสั้นสีดำ นุ่งกางเกงกีฬาขาสั้นสีฟ้า ผมเกรียน มีบาดแผลที่เหนือคิ้วขวา 1 แผล และพบปลอกกระสุนปืนขนาด 11 มม. ตกอยู่ข้างกายอีก 1 ปลอก ทราบชื่อต่อมา นายภูวิช จันทรักษา อายุ 49 ปี นอกจากนี้ยังพบปลอกกระสุนปืนตกอยู่บริเวณหน้าบ้านเช่า 1 ปลอก นอกกำแพงรั้วข้างบ้านเช่าอีก 1 ปลอก เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ บันทึกไว้เป็นหลักฐาน ก่อนให้หน่วยกู้ภัยนำศพส่งให้แพทย์โรงพยาบาลปราณบุรี ตรวจชันสูตรพลิกศพอย่างละเอียดอีกครั้ง

ส่วนสาเหตุเบื้องต้น เจ้าหน้าที่ตำรวจสันนิษฐานว่าชนวนก่อเหตุ มาจากเรื่องชู้สาว คาดว่าผู้ก่อเหตุ ได้จับผิดแฟนสาวของตัวเองมานานแล้ว ว่าแอบมีกิ๊กหรือไม่ หลังจากได้ข่าวระแคะระคายว่าแฟนของตนแอบคบซ้อน เนื่องจากฝ่ายชายได้เช่าบ้านหลังดังกล่าวให้ผู้เสียชีวิต ซึ่งเป็นแฟนสาวอยู่พักอาศัย ต่อมาในวันเกิดเหตุเวลาประมาณเที่ยงคืน มีชาวบ้านในหมู่บ้านได้ยินเสียงปืนดังขึ้นจำนวน 4 นัด ต่อมาตอนเช้าชาวบ้านได้ยินเสียงสุนัขเห่าไม่หยุดจึงได้ออกมาดู ก็พบว่ามีศพผู้เสียชีวิต นอนจมกองเลือด จึงได้โทรแจ้งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจมาตรวจสอบ

เบื้องต้นจากสภาพและหลักฐานในที่เกิดเหตุ เจ้าหน้าที่สันนิษฐานว่าผู้ก่อเหตุน่าจะมาเคาะประตูเรียกแฟนตัวเองที่บริเวณหน้าบ้าน แต่แฟนไม่ยอมเปิดประตู จึงยิงปืนขู่ 1 นัด จากนั้นใช้ท่อนเหล็กทุบทำลายลูกบิดประตูแล้วพังเข้าไป ผู้เสียชีวิตทั้งสองราย จึงพากันวิ่งหนีออกไปทางหลังบ้านเช่า ส่วนผู้เสียชีวิตชายได้ปีนกำแพงหลบหนีไป แต่ถูกผู้ก่อเหตุตามไปจ่อยิงจนเสียชีวิต บริเวณจุดที่พบศพของทั้งสองราย

ล่าสุดเจ้าหน้าที่ตำรวจทราบตัวผู้ก่อเหตุแล้ว และได้ติดต่อขอเข้ามอบตัวผ่านคนที่รู้จัก โดยขอเวลาอีกสองวัน จึงจะเข้ามอบตัว ทราบชื่อว่านายพิพัฒน์พงษ์ วงศ์สวัสดิ์ อายุ 36 ปี หรืออ๊อฟ อดีตลูกจ้างของเทศบาล และ อบต.แห่งหนึ่ง ในพื้นที่อำเภอปราณบุรี และอำเภอสามร้อยยอด.

สมบัติ ลิมปจีระวงษ์….รายงาน

Categories
ข่าว ท่องเที่ยว ทั้งหมด

หัวหิน เปิดศูนย์การเรียนรู้เกษตรทฤษฎีใหม่ในวิถีคนเมือง น้อมรำลึกในหลวง ร.9

หัวหิน เปิดศูนย์การเรียนรู้เกษตรทฤษฎีใหม่ในวิถีคนเมือง น้อมรำลึกในหลวง ร.9

วันที่ 9 พฤษภาคม 2566 นายกิตติพงศ์ สุขภาคกุล รองผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบฯ เป็นประธานพิธีเปิดศูนย์การเรียนรู้เกษตรทฤษฎีใหม่วิถีคนเมือง Beloved King Learning Center ที่อาคารสัมมนา “สานต่อที่พ่อทำ” ต.ทับใต้ อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ จัดตั้งขึ้นเพื่อน้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณและสืบสานพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร รัชกาลที่ 9 เพื่อเป็นศูนย์เรียนรู้ เผยแพร่ความรู้ด้านการเกษตรทฤษฎีใหม่แก่นักเรียนและผู้ที่สนใจโดยการลงมือปฏิบัติจริง มีนายอาชวันต์ กงกะนันทน์ ผู้อำนวยการ ททท.สำนักงานประจวบฯ นายเชาวรัตน์ เกิดทอง นายก อบต.ทับใต้ กลุ่มคนรักสถาบัน ดารานักแสดง อาทิ โอ อนุชิต สพันธุ์พงษ์, แหม่ม จินตหรา สุขพัฒน์, บุ๋ม รัญญา ศิยานนท์, ตุ๊ก ดวงตา ตุงคะมณี, ท็อป ดารณีนุช โพธิปิติ และแขกผู้มีเกียรติร่วมพิธีเปิด

พร้อมกันนี้ รองผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบฯ ได้เยี่ยมชมพื้นที่ในส่วนต่างๆ ของเกษตรทฤษฎีใหม่จัดสรรในพื้นที่ 1 ไร่ โดยรูปแบบการสาธิตจะสอดคล้องกับวิถีชีวิตและสภาพพื้นที่ความเป็นอยู่ของคนเมือง สามารถเรียนรู้และนำไปปรับใช้ด้วยตนเองที่บ้านได้ ซึ่งจะยึดหลักการทำเกษตรพอเพียง มุ่งเน้นให้มีผักที่ปลอดภัยจากสารพิษรับประทานได้ทุกวันโดยไม่ต้องซื้อ เป็นการช่วยลดค่าใช้จ่าย ถ้าปลูกได้เกินกว่าที่ต้องการรับประทานในครัวเรือน ก็สามารถนำไปแจกจ่ายหรือขายให้กับเพื่อนบ้านเป็นการสร้างรายได้อีกทางหนึ่ง ร่วมรดน้ำต้นยางนา ต้นไม้ที่ในหลวงทรงห่วงใยทั้งหมด 9 ต้น และเดินชมนิทรรศการในหลวง ร.9 และโครงการพัฒนาชนบทตามพระราชดำริแห่งแรกถนนห้วยมงคล – หัวหิน และรถยนต์พระนั่งของรัชกาลที่ 9 ที่ทรงใช้ไปปฏิบัติพระราชกรณียกิจและทรงเยี่ยมประชาชนในพื้นที่ พร้อมกันนี้พระพิศาลสิทธิคุณ หรือท่านเจ้าคุณไพโรจน์ ปภัสสโร เจ้าอาวาสวัดห้วยมงคล ได้ประพรมน้ำมนต์เพื่อความเป็นสิริมงคลแก่ผู้ที่มาร่วมงาน

น.ส.เบญจนิษฐ์ พุ่มสุโขรักษ์ ประธานโครงการ กล่าวว่า ศูนย์การเรียนรู้เกษตรทฤษฎีใหม่ในวิถีคนเมือง จัดทำขึ้นเพื่อน้อมนำหลักคำสอนของพระองค์ท่านในเรื่องเกษตรทฤษฎีใหม่ อันเป็นประโยชน์อย่างมหาศาลต่อการดำเนินชีวิตของปวงชนชาวไทย ซึ่งเป็นที่น่าเสียดายอย่างยิ่งที่ยังมีจำนวนผู้คนมากมายที่ยังไม่เข้าใจลึกซึ้งถึงคำว่าเกษตรทฤษฎีใหม่ หลายคนยังมีความคิดถึงความจำเป็นในการดำเนินชีวิตในเมือง ไม่สามารถละทิ้งชีวิตที่เป็นอยู่เพื่อน้อมนำหลักคำสอนของพระองค์ท่านมาดำเนินชีวิตได้ ทั้งที่ในความเป็นจริงแล้ว สามารถนำมาปรับใช้กับชีวิตได้ในทุกด้าน ทุกสถานที่ เพื่อให้อยู่ดีกินดี ทั้งที่มีกินมีใช้เองในครัวเรือน จนสามารถนำไปดำเนินอาชีพเลี้ยงตนเองและครอบครัวได้ อีกทั้งสถานที่แห่งนี้ยังเป็นสถานที่ ที่ให้ปวงชนชาวไทยได้เข้ามารำลึกถึงความจงรักภักดีที่มีต่อพระมหากษัติรย์ผู้เป็นที่รักยิ่ง.

Categories
ข่าว ทั้งหมด

เซ็นทาราฯ หัวหินกระตุ้นสำนึกรักสิ่งแวดล้อม ชวนป้อนขยะปลาโกบี้

เซ็นทาราฯ หัวหินกระตุ้นสำนึกรักสิ่งแวดล้อม ชวนป้อนขยะปลาโกบี้

วันที่ 8 มิถุนายน 2566 โรงแรมและรีสอร์ทในเครือเซ็นทารา ร่วมฉลองวันสิ่งแวดล้อมโลกและวันทะเลโลก 8 มิถุนายนของทุกปี สานต่อโครงการด้านสิ่งแวดล้อม Plastic Only, Please’ (P-O-P) ที่ประสบความสำเร็จเป็นอย่างดี ภายในเครือเซ็นทาราทุกแห่ง จะจัดให้มีถังขยะรูปทรงสัตว์ทะเลน่ารักๆ ไว้ภายในพื้นที่ของโรงแรม เพื่อกระตุ้นให้แขกผู้เข้าพักและพนักงานสามารถนำเอาขยะพลาสติกต่างๆ ไปป้อนให้กับถังขยะได้ด้วยตัวเอง

“วันสิ่งแวดล้อมโลก” ตรงกับวันที่ 5 มิถุนายน ที่ผ่านมาของทุกปี เป็นวันที่ได้รับการประกาศจากองค์การสหประชาชาติ สืบเนื่องมาจากโลกของเราเกิดวิกฤตการณ์ด้านสิ่งแวดล้อมอย่างรุนแรง เพื่อให้เกิดความร่วมมือและรู้ทันเหตุการณ์ จึงได้มีการจัดประชุมใหญ่ระดับโลกขึ้นที่กรุงสตอกโฮลม์ ประเทศสวีเดน ในช่วงวันที่ 5 – 16 มิถุนายน พ.ศ.2515

น.ส.เดือนเพ็ญ เพ็งเกษม ผู้อำนวยการฝ่ายรับรองคุณภาพ โรงแรมเซ็นทารา แกรนด์บีช รีสอร์ทและวิลลา หัวหิน กล่าวว่า โรงแรมเซ็นทาราฯ ให้ความสำคัญเกี่ยวกับเรื่องของการดำเนินธุรกิจ ควบคู่ไปกับการจัดการด้านสิ่งแวดล้อม ปีนี้ได้จัดจุดรองรับขยะพลาสติกเป็นตัว “ปลาโกบี้” หรือเราเรียกว่าอีกอย่างว่า “ป๊อป” (P-O -P ) หรือ Plastics Only, Please’ ซึ่งปลาตัวนี้จะช่วยในการส่งเสริมและรณรงค์ในการลดปริมาณขยะพลาสติกของนักท่องเที่ยว โดยจัดไว้ที่บริเวณชายหาดด้านหน้าโรงแรม ปลาตัวนี้จะมีพวกขวดพลาสติก ขยะพลาสติกต่างๆ จากนักท่องเที่ยว ขยะพลาสติกทั้งหมดจะนำไปขาย หลังจากที่ขายและมีรายได้ ก็จะนำไปซื้อถังขยะ เพื่อที่จะมาติดตั้งในบริเวณชายหาดของโรงแรม ซึ่งทางโรงแรมได้ประสานงานกับเทศบาลเมืองหัวหินในการบริจาคนี้

น.ส.เดือนเพ็ญ กล่าวอีกว่า ลักษณะของวัสดุที่ใช้ทำตัวปลา ที่ผ่านมาเราใช้พลาสติกและท่อ PVC แต่ปีนี้เราต้องการรณรงค์เพื่อลดขยะพลาสติก จึงหันมาใช้วัสดุที่เป็นไม้ไผ่ สามารถย่อยสลายได้ตามธรรมชาติ การจัดทำโครงสร้าง เป็นผลงานของแผนกช่างของโรงแรม และแผนกกองสวนของโรงแรม จัดทำเป็นตัวรูปปลาขึ้นและใช้ตาข่าย ซึ่งเดิมใช้เป็นตาข่ายพลาสติก พบว่ามีปัญหาในเรื่องการผุพัง การย่อยสลาย และชำรุดง่าย ปีนี้จึงเปลี่ยนมาใช้เป็นโครงตาข่ายแบบเหล็ก ซึ่งหลังจากที่ใช้ในกิจกรรมปีนี้แล้ว โครงสร้างนี้ยังสามารถนำกลับไปใช้ในกิจกรรมอื่นๆ ของโรงแรมอีกด้วย

“จากสถิติของปีที่ผ่านมา สามารถเก็บขยะได้มากกว่า 4,000 กิโลกรัม เราทำกิจกรรมยาวนานถึง 3 เดือน โดยได้รับความร่วมมือจากนักท่องเที่ยวและคนในพื้นที่ ที่นำขวดพลาสติกมาให้ปลาของเรา ในส่วนของในโรงแรมมีกิจกรรมคัดแยกและลดขยะอยู่แล้ว ซึ่งทำมาอย่างต่อเนื่อง เพราะโรงแรมเราเน้นการดำเนินธุรกิจอย่างเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม โครงการนี้เป็นโครงการที่ดี โรงแรมให้การสนับสนุนอย่างเต็มที่ คิดว่าจะมีโครงการดีๆ แบบนี้อย่างต่อเนื่องเป็นประจำทุกปี และยินดีให้ความร่วมมือกับกิจกรรมต่างๆ ของหน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชน” น.ส.เดือนเพ็ญ กล่าว.

Categories
ข่าว ท่องเที่ยว ทั้งหมด

ททท.ประจวบฯ ชวนโหวต “พระมหาธาตุเจดีย์ภักดีประกาศ” ติดแหล่งท่องเที่ยว Unseen New Chapters

ททท.ประจวบฯ ชวนโหวต “พระมหาธาตุเจดีย์ภักดีประกาศ” ติดแหล่งท่องเที่ยว Unseen New Chapters

วันที่ 16 พฤษภาคม 2566 นายอาชวันต์ กงกะนันทน์ ผู้อำนวยการ ททท.สำนักงานประจวบคีรีขันธ์ กล่าวเชิญชวนพี่น้องประชาชนชาวประจวบฯ ได้มีส่วนร่วมช่วยกันลงคะแนนโหวตให้พระมหาธาตุเจดีย์ภักดีประกาศ หรือพระมหาเจดีย์เก้ายอด พระปรางค์จัตุรมุข สูงสามชั้น สวยอลังการยิ่งใหญ่บนยอดเขาธงชัย วัดทางสาย อ.บางสะพาน จ.ประจวบฯ ให้ได้รับการคัดเลือกให้เป็นแหล่งท่องเที่ยว Unseen New Chapters ติดอันดับแหล่งท่องเที่ยวใน 25 แห่งของประเทศไทย จากแหล่งท่องเที่ยว 77 แหล่งทั่วประเทศ (หนึ่งจังหวัดต่อหนึ่งแหล่งท่องเที่ยว) โดยนายเสถียร เจริญเหรียญ ผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบฯ เป็นประธานการพิจารณาร่วมกับสำนักงานการท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดฯ สภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวจังหวัดฯ สมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวหัวหิน/ชะอำ สมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวจังหวัดประจวบฯ สมาคมส่งเสริมการท่องเที่ยวโดยชุมชนจังหวัด และ ททท.สำนักงานประจวบฯ ซึ่งได้เห็นชอบร่วมกันในการเสนอพระมหาธาตุเจดีย์ภักดีประกาศ เป็นแหล่งท่องเที่ยว Unseen New Chapters ของจังหวัดประจวบฯ

ทั้งนี้แหล่งท่องเที่ยว Unseen New Chapters จะมาจากการลงคะแนนโหวตของคนไทย จำนวน 20 แหล่งท่องเที่ยว และอีก 5 แหล่งท่องเที่ยวที่ได้รับการคัดเลือกจากคณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ สำหรับกติกาการลงคะแนนโหวต จำกัดสิทธิ 1 คน สามารถโหวตได้ 5 สิทธิต่อสัปดาห์ โดยแต่ละสิทธิต้องใช้โหวตให้กับแหล่งท่องเที่ยว 1 แห่ง ในแต่ละภูมิภาค (5 สิทธิ สำหรับการโหวตแหล่งท่องเที่ยว 5 แห่งใน 5 ภูมิภาค) โดยระยะเวลาสะสมผลโหวตต่อสัปดาห์ จะสิ้นสุดในทุกวันอาทิตย์ เวลา 24.00 น. และเริ่มนับคะแนนใหม่ ทุกวันจันทร์ เวลา 10.00 น. ซึ่งผู้ที่เข้าร่วมกิจกรรม มีสิทธิลุ้นรับของรางวัล รวมมูลค่ากว่า 1,000,000 บาท อาทิ บัตรโดยสารเครื่องบินไป – กลับ เส้นทางภายในประเทศ บัตรกำนัลสำหรับใช้บริการโรงแรมที่พัก ร้านอาหารมิชลินไกด์ บัตรเติมน้ำมัน เป็นต้น ซึ่งจะมีการจับรางวัลและประกาศผลผู้โชคดีทุกสัปดาห์ ผ่านหน้าเว็บไซต์โครงการ รอบที่ 1 เริ่มโหวตวันที่ 22 พฤษภาคม 2566 ติดตามรายละเอียดและร่วมโหวตผ่านช่องทาง www.tourismthailand.org/unseennewchapters.

Categories
ข่าว ทั้งหมด

1 ปีมีครั้งเดียว นายอำเภอหัวหิน ชวนชิมทุเรียนป่าละอู งานมหกรรมผลไม้และของดีป่าละอู ครั้งที่ 10

1 ปีมีครั้งเดียว นายอำเภอหัวหิน ชวนชิมทุเรียนป่าละอู งานมหกรรมผลไม้และของดีป่าละอู ครั้งที่ 10

วันที่ 6 มิถุนายน 2566 นายพลกฤต พวงวลัยสิน นายอำเภอหัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ เปิดเผยว่าทุเรียนป่าละอู เป็นทุเรียนพันธุ์หมอนทองพระราชทาน ซึ่งสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี (สมเด็จย่า) ทรงพระราชทานให้แก่ตำรวจตระเวนชายแดนนำไปปลูกที่ ต.ห้วยสัตว์ใหญ่ อ.หัวหิน ครั้งสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนีเสด็จพระราชดำเนินทรงเปิดโรงเรียนอานันท์ ที่บ้านป่าละอู ต.ห้วยสัตว์ใหญ่ เมื่อวันที่ 19 พฤษภาคม 2509 จนกลายเป็นผลไม้ที่นิยมปลูกกันในพื้นที่ เมื่อนำมาปลูกในพื้นที่ป่าละอู ที่มีความพิเศษบนพื้นที่สูง สภาพอากาศและความอุดมสมบูรณ์ของดิน อีกทั้งเป็นการปลูกแบบเกษตรอินทรีย์ จึงทำให้ได้ผลผลิตทุเรียนมีคุณภาพ มีรสหวาน เนื้อหนา เหนียว เนียนละเอียด สีเหลืองอ่อน เนื้อแห้งมีความมันมากกว่าความหวาน เม็ดลีบเล็ก กลิ่นไม่รุนแรง ได้รับการยอมรับจากผู้โปรดปรานทุเรียนว่ามีความพิเศษเป็นเอกลักษณ์ จนได้รับเครื่องหมายสินค้า GI (Geographical Indication) จากกรมทรัพย์สินทางปัญญา เมื่อวันที่ 3 กรกฎาคม 2557 แสดงถึงแหล่งเพาะปลูกที่เจาะจงแค่ที่ใดที่หนึ่ง เป็นสินค้าเด่นของชุมชน ซึ่งเป็นการเพิ่มมูลค่าให้กับสินค้าการเกษตร โดยผู้มีสิทธิใช้เครื่องหมาย GI ได้แก่ เกษตรกรผู้ผลิตในพื้นที่เป็นเจ้าของร่วมกัน ซึ่งได้ร่วมกันรักษาคุณภาพมาตรฐาน ชื่อเสียงและอัตลักษณ์เฉพาะถิ่นนี้เอาไว้

สำหรับทุเรียนป่าละอู จะเริ่มออกผลผลิตสู่ท้องตลาด ตั้งแต่เดือนมิถุนายนจนถึงเดือนสิงหาคม โดยขณะนี้เริ่มมีทุเรียนป่าละอูบางส่วนออกจำหน่ายแล้ว พร้อมกันนี้ อำเภอหัวหิน ร่วมกับ อบต.ห้วยสัตว์ใหญ่ เตรียมจัดงานมหกรรมผลไม้และของดีป่าละอู ครั้งที่ 10 ระหว่างวันที่ 19 – 25 มิถุนายนนี้ ที่บริเวณสนาม ข้าง อบต.ห้วยสัตว์ใหญ่ เพื่อเพิ่มช่องทางการจำหน่ายทุเรียนให้กับผู้บริโภคโดยตรง ตลอดจนเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงเกษตรในพื้นที่ ซึ่งจะสร้างรายได้ให้กับชุมชนตามมา ภายในงานจะมีเกษตรกรชาวสวนในพื้นที่นำผลไม้และพืชผลทางการเกษตร อาทิ เงาะ มังคุด และของดีต่างๆ ในพื้นที่ตำบลห้วยสัตว์ใหญ่ มาจำหน่าย โดยเฉพาะทุเรียนป่าละอู ทั้งพันธุ์หมอนทองและชะนี ซึ่งเกษตรกรผู้ปลูกได้คัดทุเรียนป่าละอูเกรด A จากสวนโดยตรง นำมาจำหน่ายให้นักท่องเที่ยวได้ลองชิมที่ศูนย์แสดงสินค้าโอทอป ต.ห้วยสัตว์ใหญ่ ในราคาเดียวกันทุกร้าน กิโลกรัมละ 250 บาท นอกจากนี้ยังมีผลิตภัณฑ์กลุ่มแม่บ้าน สินค้าโอทอป สินค้าเกษตรแฟร์ ไม้ผล ไม้ดอก ไม้ประดับ เครื่องมือการเกษตร เฟอร์นิเจอร์ สินค้าโรงงานมาร่วมจำหน่ายตลอดงาน โดยมี รมต.ว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์เป็นประธานเปิดงานในวันที่ 19 มิถุนายน 2566 นอกจากนักท่องเที่ยวจะได้ชิมทุเรียนป่าละอูแสนอร่อยแล้ว ยังได้ชมวิถีชีวิตหมู่บ้านชาวไทยภูเขา และน้ำตกป่าละอูเลื่องชื่อ ที่มีความสวยงามสามารถเข้าเที่ยวชมได้ทั้งปี.

Categories
ข่าว ทั้งหมด

อากาศร้อนจัด ปลาในอ่างเก็บน้ำ น็อกน้ำตายเป็นเบือ

อากาศร้อนจัด ปลาในอ่างเก็บน้ำ น็อกน้ำตายเป็นเบือ

วันที่ 5 มิถุนายน 2566 ผู้สื่อข่าวรับแจ้งว่ามีสัตว์น้ำประเภทปลาตายลอยแพจำนวนมากในอ่างเก็บน้ำห้วยน้ำโจน หมู่ 6 บ้านหุบไผ่ ต.ห้วยทราย อ.เมืองประจวบคีรีขันธ์ เป็นอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ความจุ 1.4 แสนลูกบาศก์เมตร อยู่ในจุดแคบสุดในประเทศไทย ใกล้กับเทือกเขาตะนาวศรีชายแดนไทย – เมียนมา พบว่ามีปลาหลากหลายสายพันธุ์ลอยน้ำตายโดยไม่ทราบสาเหตุ

จากการสอบถามนางอำไพ บุตรดี อายุ 68 ปี ประธานกลุ่มแม่บ้านหุบไผ่ กล่าวว่า พบปลาลอยน้ำตายต่อเนื่องมาประมาณ 1 สัปดาห์ มีทั้งปลาบู่ ปลานิล ปลาตะเพียน แต่ละวันมีไม่ต่ำกว่า 400 – 500 กิโลกรัม ชาวบ้านในพื้นที่ต้องช่วยกันเก็บซากปลาที่เริ่มเน่ารอบอ่างเก็บน้ำใส่ถุงปุ๋ยเพื่อนำไปฝัง บางรายนำไปทำปุ๋ยในสวนมะพร้าว ไม่เช่นนั้นซากปลาจะส่งกลิ่นเหม็นไปทั่วบริเวณ ช่วงแรกที่ปลาตาย ชาวบ้านคิดว่ามีการวางยาหรือเป็นโรค แต่จากการนำซากปลาไปตรวจสอบเบื้องต้น ไม่พบว่ามีสารเคมีปนเปื้อน ขณะที่การตรวจสอบตัวอย่างน้ำ ไม่มีปัญหาน้ำเน่าเสีย

ปัจจุบันชาวบ้านมากกว่า 100 หลังคาเรือน ใช้น้ำในอ่างผลิตน้ำประปาเพื่อการอุปโภคและน้ำ เพื่อการเกษตรในการเลี้ยงโคนม จึงต้องเร่งเก็บซากปลาเพื่อให้การผลิตน้ำประปาไม่มีผลกระทบจากกลิ่นเหม็นและชาวบ้านสามารถใช้น้ำตามปกติ ส่วนตัวยอมรับว่าในรอบ 30 ปี ตั้งแต่มีการสร้างอ่างเก็บน้ำ ไม่เคยพบปลาตายในลักษณะนี้มาก่อน บางปีเจอภัยแล้งนานหลายเดือน น้ำในอ่างลดลงมาก แต่ไม่พบว่ามีปลาลอยน้ำตาย สำหรับปีนี้คาดว่าปลาตายทั้งอ่าง มีสาเหตุจากสภาพอากาศร้อนจัดนานผิดปกติ เนื่องจากฝนทิ้งช่วงนานหลายเดือน และหลังจากนี้ชาวบ้านต้องช่วยกันหาพันธุ์ปลาไปปล่อยในอ่างเพื่อทดแทนปลาที่ตายจากสภาพอากาศที่ร้อนจัด.