Categories
ข่าว ทั้งหมด

รองผู้ว่าฯ ให้กำลังใจสาวงามชิงมิสแกรนด์ประจวบฯ พร้อมเงินรางวัล 2 ล้านบาท

รองผู้ว่าฯ ให้กำลังใจสาวงามชิงมิสแกรนด์ประจวบฯ พร้อมเงินรางวัล 2 ล้านบาท

วันที่ 27 พฤศจิกายน 2567 นายสิทธิชัย สวัสดิ์แสน รองผู้ว่าราชการจังหวัด รักษาราชการแทนผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบฯ ให้การต้อนรับนายภาติยะ นิ่มน้อย ผู้ถือลิขสิทธิ์มิสแกรนด์ประจวบคีรีขันธ์ 2023 – 2025 และทีมงานกองประกวดมิสแกรนด์ประจวบคีรีขันธ์ นายทิวัตถ์ แจ่มสว่าง นายกสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวจังหวัดประจวบฯ และสาวงามผู้เข้าประกวดมิสแกรนด์ประจวบฯ รวม 11 คน ที่ศาลากลางจังหวัดประจวบฯ พร้อมกันนี้ รองผู้ว่าราชการจังหวัดได้ให้โอวาทแก่กองประกวดและสาวงามทั้งหมด เพื่อเป็นขวัญและกำลังใจก่อนที่จะขึ้นเวทีประกวดรอบไฟนอลที่ศูนย์การค้าบลูพอร์ต หัวหิน

นายภาติยะ นิ่มน้อย กล่าวว่า การจัดประกวดมิสแกรนด์ประจวบฯ 2025 เป็นการคัดเลือกสาวงามที่มีความเพียบพร้อมทั้งความงาม สุขภาพที่ดี มีสติปัญญา ในการประชาสัมพันธ์และส่งเสริมการท่องเที่ยวของประจวบฯ พร้อมทั้งหาตัวแทนสาวงามเพื่อเป็นตัวแทนจังหวัดประจวบฯ ประกวดต่อบนเวทีมิสแกรนด์ไทยแลนด์ 2025 ต่อไป โดยการประกวดมิสแกรนด์ประจวบฯ 2025 จะมีขึ้นในวันที่ 30 พฤศจิกายน เวลา 18.00 น. ที่ชั้น 1 ศูนย์การค้าบลูพอร์ตหัวหิน โดยมีแขกพิเศษ อิงฟ้า วราหะ นางงาม นักแสดงและศิลปิน และตำแหน่งผู้จัดการกองประกวดมิสแกรนด์ไทยแลนด์, หลิน มาลิน ชระอนันต์ มิสแกรนด์ไทยแลนด์ 2024, บิวตี้ วรัญชนา รองอันดับ 5 มิสแกรนด์ไทยแลนด์ 2022 รองผู้จัดการกองประกวดมิสแกรนด์ไทยแลนด์, มีมี กัลย์สุดา ชนาคีรี ตำแหน่งมิสแกรนด์ประจวบฯ 2022 มิสแกรนด์เมียนมา สำหรับในส่วนรางวัลการประกวดมิสแกรนด์ไทยแลนด์ ประจวบฯ 2025 ในครั้งนี้ รวมมูลค่ากว่า 2 ล้านบาท พร้อมมงกุฎเพชรมูลค่า 200,000 บาท และรางวัลอื่นๆ อีกมากมาย จึงขอเชิญผู้ที่สนใจร่วมเชียร์และเป็นกำลังใจให้สาวงามที่เข้าประกวด หรือติดตามได้ที่เฟซบุ๊ก : มิสแกรนด์ประจวบคีรีขันธ์ – Miss Grand Prachuap Khiri Khan.

Categories
ข่าว ทั้งหมด

กรมอุทยานฯ จับมือ TRUE – WWF นำ AI มาใช้ลดความขัดแย้งคนกับช้างป่า

กรมอุทยานฯ จับมือ TRUE – WWF นำ AI มาใช้ลดความขัดแย้งคนกับช้างป่า

วันที่ 26 พฤศจิกายน 2567 นายวีระ ขุนไชยรักษ์ รองอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช นายมนัสส์ มานะวุฒิเวช ประธานคณะผู้บริหาร บมจ. ทรู คอร์ปอเรชั่น (TRUE) นายสถิตย์ จันทรมณี รักษาการ ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 3 (สบอ.3) สาขาเพชรบุรี และนายอรรถพงษ์ เภาอ่อน หัวหน้าอุทยานแห่งชาติกุยบุรี ร่วมแถลงความร่วมมือในการแก้ปัญหาความขัดแย้งระหว่างคนกับช้างป่า ภายใต้กิจกรรม “True On The Go” ภายใต้แนวคิด “ไปกับทรู…ดูกับตา ตอน ชวนชมช้าง” ณ อุทยานแห่งชาติกุยบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์

จากสถิติล่าสุดพบว่าประเทศไทยมีประชากรช้างป่าประมาณ 4,013 – 4,422 ตัว กระจายอยู่ใน 16 กลุ่มป่า ครอบคลุมอุทยานแห่งชาติ 48 แห่ง เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า 36 แห่ง และเขตห้ามล่าสัตว์ป่า 9 แห่ง โดยในช่วงปี 2564 – 2566 มีเหตุการณ์ช้างป่าออกนอกพื้นที่อนุรักษ์กว่า 37,135 ครั้ง สร้างความเสียหายต่อทรัพย์สินและพืชผลของราษฎรรวม 3,877 ครั้ง และมีผู้เสียชีวิตจากเหตุช้างป่าทำร้าย ซึ่งเป็นผลกระทบที่ต้องได้รับการแก้อย่างเร่งด่วน ด้วยเหตุนี้ กรมอุทยานฯ จึงร่วมกับทรู และ WWF ประเทศไทย พัฒนา “ระบบเตือนภัยอัจฉริยะ” ติดตั้งที่อุทยานแห่งชาติกุยบุรี ซึ่งมีประชากรช้างป่าอาศัยอยู่ไม่น้อยกว่า 237 ตัว ระบบดังกล่าวใช้กล้องดักถ่ายภาพอัตโนมัติ ร่วมกับเทคโนโลยี AI แจ้งเตือนการเคลื่อนไหวของช้างป่าแบบทันที ผ่านคอมพิวเตอร์และสมาร์ทโฟน

นอกจากนี้ยังมีการจัดตั้งชุดปฏิบัติการเฝ้าระวังและผลักดันช้างป่า 5 ชุด ครอบคลุมพื้นที่ทั้งโซนเหนือ กลาง และใต้ของอุทยานฯ เพื่อป้องกันและให้ความปลอดภัยทั้งแก่สัตว์ป่าและราษฎรในพื้นที่ สะท้อนความมุ่งมั่นในการใช้เทคโนโลยีเพื่อการอยู่ร่วมกันอย่างยั่งยืน ระหว่างคนและช้างป่า กิจกรรมครั้งนี้มีไฮไลท์สำคัญ คือการนำเสนอวิดีโอสาธิตระบบเตือนภัยอัจฉริยะ พร้อมพาเยี่ยมชมศูนย์ปฏิบัติการเฝ้าระวังช้างป่า และปิดท้ายด้วยกิจกรรม Night Trip เพื่อศึกษาการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ผู้ดูแลช้างป่าในช่วงกลางคืนอีกด้วย.

Categories
กีฬา ข่าว ทั้งหมด

หัวหินจัดแข่งกีฬาจตุรมิตร ครั้งที่ 12 กระชับความสามัคคี 4 สถาบัน

หัวหินจัดแข่งกีฬาจตุรมิตร ครั้งที่ 12 กระชับความสามัคคี 4 สถาบัน

วันที่ 26 พฤศจิกายน 2567 นายอมร พัฒน์ทอง เลขานุการสมาคมกีฬาหัวหิน เป็นประธานแถลงข่าวการจัดแข่งขันมหกรรมกีฬาจตุรมิตรหัวหิน ครั้งที่ 12 ประจำปี 2567 ที่หอประชุมอาคารราชพฤกษ์ โรงเรียนวังไกลกังวล ในพระบรมราชูปถัมภ์ อ.หัวหิน จ.ประจวบฯ พร้อมด้วยนางราตรี ศรีไพรวรรณ ผู้อำนวยการโรงเรียนวังไกลกังวล, นายศิระ มีประมูล ตัวแทนผู้อำนวยการโรงเรียนหัวหิน, นายอธิติ ชูตระกูลวงศ์ ตัวแทนผู้อำนวยการโรงเรียนหัวหินวิทยาคม, นายวิโรจน์ ด้วงละม้าย ผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายกิจการนักเรียน โรงเรียนหัวหินวิทยาลัย และนายนพพร วุฒิกุล นายกเทศมนตรีเมืองหัวหิน ร่วมแถลงข่าวพร้อมด้วย คณะผู้บริหารเทศบาลเมืองหัวหิน คณะครูนักเรียน ผู้บริหารสถานศึกษา นายกสมาคมศิษย์เก่าจาก 4 สถาบัน เข้าร่วมรับฟัง

นายอมร พัฒน์ทอง กล่าวว่า สมาคมกีฬาหัวหิน จัดมหกรรมกีฬาจตุรมิตรหัวหิน ครั้งที่ 12 โดยได้รับความร่วมมือจาก 4 สถาบันการศึกษาระดับชั้นมัธยมศึกษา ในเขตเทศบาลเมืองหัวหิน ได้แก่ โรงเรียนวังไกลกังวล โรงเรียนหัวหินวิทยาคม โรงเรียนหัวหินวิทยาลัย และโรงเรียนหัวหิน จัดขึ้นเป็นครั้งแรกเมื่อปี 2553 ต่อเนื่องมาจนปีนี้เป็นครั้งที่ 12 มีโรงเรียนวังไกลกังวลฯ เป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขัน เพื่อพัฒนาเยาวชนด้านการกีฬาได้มีเวทีและโอกาสในการแสดงออกซึ่งความสามารถในเชิงสร้างสรรค์ ส่งเสริมให้เยาวชนและประชาชนได้ออกกำลังกายเพื่อสุขภาพ สร้างความรัก ความสามัคคี ความผูกพันกับสถาบันการศึกษาต่างๆ ในกลุ่มจตุรมิตรเพื่อจะสานประโยชน์ร่วมกันต่อไป

โดยแบ่งการแข่งขันกีฬา ดังนี้ ฟุตบอลศิษย์เก่า ฟุตบอลศิษย์ปัจจุบัน วอลเลย์บอลนักเรียนชายและหญิง บาสเกตบอล3×3 ชาย/หญิง ม.ต้น และ ม.ปลาย การแข่งขันกีฬา E-Spot (ROV) ทีมผสมชายหญิง การแข่งขันกีฬาพื้นเมืองของสภานักเรียน และการแสดงดนตรีจากนักเรียนทั้ง 4 โรงเรียน จัดขึ้นในระหว่างวันที่ 7 – 13 ธันวาคม ณ สนามบาสเกตบอลโรงเรียนวังไกลกังวล สนามวอลเล่ย์บอลโรงเรียนหัวหินวิทยาลัย และสนามกีฬาฟุตบอลเทศบาลเมืองหัวหิน (ชุมชนบ้านเขาตะเกียบ) โดยจะมีพิธีเปิดในวันที่ 11 ธันวาคมนี้ ที่โรงเรียนวังไกลกังวล.

Categories
ข่าว ทั้งหมด

คุมประพฤติประจวบฯ จัดสานสัมพันธ์น้องพี่แก้ปัญหายาเสพติด ลดจำนวนผู้ป่วยจิตเวช

คุมประพฤติประจวบฯ จัดสานสัมพันธ์น้องพี่แก้ปัญหายาเสพติด ลดจำนวนผู้ป่วยจิตเวช

วันที่ 26 พฤศจิกายน 2567 นายสิทธิชัย สวัสดิ์แสน รองผู้ว่าราชการจังหวัด รักษาราชการแทนผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบฯ เป็นประธานเปิดโครงการสานสัมพันธ์น้อง – พี่ เสริมพลังต้านยาเสพติด รุ่นที่ 1 ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2568 ที่ห้องประชุมใหญ่สมานมิตรศูนย์ฝึกอบรมมวลชน (ศูนย์ฝึกสมานมิตร) อ.เมืองประจวบคีรีขันธ์ ซึ่งสำนักงานคุมประพฤติจังหวัดประจวบคีรีขันธ์จัดขึ้น มีนายวสันต์ เภรีวิค ผู้อำนวยการสำนักงานคุมประพฤติจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ กล่าวรายงานวัตถุประสงค์ของโครงการ โดยมีนายปรีดา สุขใจ ปลัดจังหวัด นางเรณู พิมพ์สอ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ น.ส.นลิน มาคเชนทร์ ประชาสัมพันธ์จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ นายนันทเวชช์ กรรณสุทธิ์ ผู้แทนผู้อำนวยการสถานพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชนจังหวัดประจวบฯ นายชาตรี คล้ายสำอางค์ หัวหน้าศูนย์ฝึกอบรมมวลชนศูนย์ฝึกสมานมิตร บุคลากรเจ้าหน้าที่สำนักงานคุมประพฤติจังหวัด พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่อาสาสมัครคุมประพฤติอำเภอเมืองประจวบคีรีขันธ์เข้าร่วมกิจกรรม

ทั้งนี้ กรมคุมประพฤติในฐานะหน่วยงานที่รับผิดชอบเกี่ยวกับการคุมความประพฤติและการพัฒนาพฤตินิสัย แก้ไข ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมผู้เสพยาเสพติดในกระบวนการคุมประพฤติ ได้มีนโยบายให้ความสำคัญกับการยกระดับระบบการแก้ไขฟื้นฟูผู้กระทำผิด มุ่งเน้นการแก้ไขปัญหาและให้โอกาสแก่ผู้กระทำผิดเกี่ยวกับยาเสพติดที่ศาลให้โอกาสรอการลงโทษ ได้มีโอกาสกลับตัวเป็นคนดี กลับมาสร้างคุณประโยชน์ให้กับสังคม ตามแนวคิดการเปลี่ยนภาระให้เป็นพลัง โดยกำหนดเงื่อนไขการคุมความประพฤติและผู้กระทำผิดที่ศาลมีคำสั่งให้บำบัดยาเสพติด มีความเข้มแข็งทางใจในการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรม เสริมสร้างแรงจูงใจให้เลิกสารเสพติดได้อย่างต่อเนื่อง และสามารถเข้าถึงแหล่งสนับสนุนทางสังคมได้.

บุญมา ลิบลับ…..รายงาน

Categories
ข่าว ทั้งหมด

รพ.ประจวบฯ จัดกิจกรรมสื่อมวลชนสัมพันธ์ครั้งที่ 14 พร้อมตรวจสุขภาพให้สื่อทุกแขนง

รพ.ประจวบฯ จัดกิจกรรมสื่อมวลชนสัมพันธ์ครั้งที่ 14 พร้อมตรวจสุขภาพให้สื่อทุกแขนง

วันที่ 25 พฤศจิกายน 2567 นพ.อภิวัฒน์ บัณฑิตย์ชาติ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลประจวบคีรีขันธ์ พร้อมด้วยรองผู้อำนวยการโรงพยาบาล คณะผู้บริหารและบุคลากรทางการแพทย์ของโรงพยาบาลให้การต้อนรับสื่อมวลชนทั้ง 8 อำเภอ จำนวนกว่า 30 คน ในงานสื่อมวลชนสัมพันธ์ครั้งที่ 14 ที่ห้องประชุมตะนาวศรี ชั้น 5 อาคารผู้ป่วยนอก โรงพยาบาลประจวบคีรีขันธ์ อ.เมืองประจวบฯ เพื่อสานสัมพันธ์อันดีและสร้างเครือข่ายเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ข้อมูลข่าวสารด้านสาธารณสุขและด้านสุขภาพที่เป็นประโยชน์สู่ประชาชน โดยมีการพูดคุยแลกเปลี่ยนความคิดเห็นร่วมกับสื่อมวลชนในพื้นที่ พร้อมการนำเสนอความคืบหน้าการพัฒนาโรงพยาบาลในด้านต่างๆ เพื่อสร้างความพึงพอใจให้แก่ประชาชนที่มารับบริการ และกิจกรรมการตรวจสุขภาพประจำปีให้แก่สื่อมวลชน

นพ.อภิวัฒน์ บัณฑิตย์ชาติ กล่าวว่า รพ.ประจวบฯ ได้ทำงานร่วมกับสื่อมวลชนในพื้นที่ด้วยดีมาตลอด ต้องขอขอบคุณสื่อมวลชนทุกท่านที่ช่วยเผยแพร่ข้อมูลข่าวสารของโรงพยาบาลประจวบฯ ไปสู่พี่น้องประชาชนผู้มารับบริการ ทั้งนี้ จังหวัดประจวบฯ มีโรงพยาบาลขนาดใหญ่ 3 โรง ได้แก่ รพ.หัวหิน, รพ.ประจวบฯ และ รพ.บางสะพาน ปัจจุบัน รพ.ประจวบฯ ได้มีการพัฒนาและเปิดให้บริการประชาชนเพิ่มขึ้นในหลายด้านและมุ่งมั่นในการให้บริการสร้างความพึงพอใจให้แก่ประชาชน เช่น มีเครื่องสวนหัวใจ, เครื่องตรวจ MRI เพื่อให้มีการตรวจและรักษามีประสิทธิภาพมากขึ้น ซึ่งสื่อมวลชนถือว่ามีส่วนสำคัญในการเป็นสื่อกลางช่วยสะท้อนข้อเสนอแนะคำติชมจากประชาชนในเรื่องต่างๆ เพื่อโรงพยาบาลประจวบฯ จะได้นำไปพัฒนาปรับปรุงการดำเนินงานให้ดียิ่งขึ้นต่อไป.

Categories
ข่าว ทั้งหมด

จับต่อเนื่อง รวบ 2 มอดไม้พร้อมเลื่อยยนต์ – ยาบ้า ล้างบางขบวนการทำลายป่ากุยบุรี

จับต่อเนื่อง รวบ 2 มอดไม้พร้อมเลื่อยยนต์ – ยาบ้า ล้างบางขบวนการทำลายป่ากุยบุรี

วันที่ 24 พฤศจิกายน 2567 เจ้าหน้าที่ชุดเฉพาะกิจป้องกันและปราบปรามชุดที่ 2 อุทยานแห่งชาติกุยบุรี จับกุมผู้ต้องหา 2 ราย พร้อมของกลาง เลื่อยโซ่ยนต์ 1 เครื่อง ไม้ของกลาง 10 ท่อน และยาบ้า 44 เม็ด ได้ที่บริเวณร่องห้วยหุบตาแล หมู่ 5 บ้านยางชุม ต.หาดขาม อ.กุยบุรี จ.ประจวบฯ ทั้งนี้เป็นไปตามนโยบายของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) และกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช ที่สั่งการให้เข้มงวดการลาดตระเวนป้องกันการกรทำผิดกฎหมายป่าไม้และลักลอบล่าสัตว์ป่า

โดยนายอรรถพงษ์ เภาอ่อน หัวหน้าอุทยานแห่งชาติกุยบุรี ได้จัดตั้งยุทธการ “ล้าง บาง บ่วง” เพื่อสกัดกั้นการกระทำผิดบริเวณแนวเขตอุทยานฯ จนสืบทราบว่าผู้ต้องหาทั้งสองคนกำลังตัดไม้บริเวณดังกล่าว ติดเขตอุทยานแห่งชาติกุยบุรี จึงได้วางแผนปิดล้อมและจับกุม ทราบชื่อภายหลังว่า นายศรวุฒิ (สงวนนามสกุล) และนายณัฐพงษ์ (สงวนนามสกุล) โดยผู้ต้องหาทั้งสองรับสารภาพว่าเป็นเจ้าของเลื่อยโซ่ยนต์และยาบ้าที่พบในที่เกิดเหตุ จึงตั้งข้อหามีเลื่อยโซ่ยนต์โดยไม่ได้รับอนุญาต, บุกรุกป่าสงวนแห่งชาติ ตาม พ.ร.บ.ป่าสงวนแห่งชาติ พ.ศ. 2507, ทำลายป่าและครอบครองป่าโดยไม่ได้รับอนุญาต, มียาเสพติดไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต นำตัวทั้งคู่พร้อมของกลาง ส่งพนักงานสอบสวน สภ.ยางชุม ดำเนินคดีตามกฎหมาย การจับกุมครั้งนี้แสดงให้เห็นถึงความสำเร็จของยุทธการ “ล้าง บาง บ่วง” ในการป้องกันและปราบปรามการกระทำผิดในเขตอุทยานแห่งชาติกุยบุรี ซึ่งจะดำเนินการอย่างต่อเนื่องเพื่อปกป้องทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมต่อไป.

Categories
ข่าว ทั้งหมด

รถตู้ป้ายแดงกลับจากส่งผู้ป่วยไปรักษาตัวนครปฐม ชนท้ายรถเทรลเลอร์ ดับคาที่ 3 เจ็บ 1

รถตู้ป้ายแดงกลับจากส่งผู้ป่วยไปรักษาตัวนครปฐม ชนท้ายรถเทรลเลอร์ ดับคาที่ 3 เจ็บ 1

เมื่อเวลา 02.10 น. วันที่ 24 พฤศจิกายน 2567 พ.ต.ท.จักราวุธ กลางคาร สารวัตรสอบสวน สภ.ห้วยยาง อ.ทับสะแก จ.ประจวบคีรีขันธ์ รับแจ้งอุบัติเหตุรถตู้ชนท้ายรถบรรทุก มีผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตหลายราย บนถนนเพชรเกษมฝั่งขาล่องใต้ ระหว่างหลัก กม.ที่ 330 – 331 หมู่ 12 บ้านคลองหินจวง ต.ห้วยยาง จึงพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่มูลนิธิสว่างรุ่งเรืองธรรมสถานอำเภอทับสะแก หน่วยกู้ชีพและกู้ภัย อบต.ห้วยยาง รุดไปตรวจสอบและช่วยเหลือผู้ประสบอุบัติเหตุ

เมื่อไปถึงที่เกิดเหตุ พบรถตู้โตโยต้า ป้ายแดง ทะเบียน ก – 0650 ชุมพร ชนท้ายรถบรรทุกเทรลเลอร์ ทะเบียนตัวแม่ 71 – 9704 ตัวพ่วง 82 – 1796 บรรทุกน้ำของบริษัท ทวินัน อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด โดยภายในรถตู้ พบผู้เสียชีวิต 3 ราย ทราบชื่อดังนี้ 1. นายมนัต ซูเยาว์ อายุ 52 ปี อยู่บ้านเลขที่ 108/37 หมู่ 6 ต.นาทุ่ง อเมือง จ.ชุมพร เป็นสมาชิกสภาเทศบาลตำบลชุมโค อ.ปะทิว จ.ชุมพร คนขับ 2. จ.ส.ต.กิตติพันธ์ ขวัญสมคิด อายุ 39 ปี อยู่บ้านเลขที่ 58 หมู่ 1 ต.ตากแดด อ.เมือง จ.ชุมพร เป็น ตชด.41 ช่วยราชการชุดปราบปรามยาเสพติดภูธร จ.ชุมพร 3. นายเกรียงไกร รุ่งช่วง อายุ 52 ปี พนักงานสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดชุมพร อยู่บ้านเลขที่ 127 หมู่ 11 ต.ทุ่งคา อ.เมือง จ.ชุมพร และยังมี ด.ต.สุรศักดิ์ ขันธ์ศิลป์ อายุ 47 ปี อยู่บ้านเลขที่ 87/5 หมู่ 8 ต.นาทุ่ง อ.เมือง จ.ชุมพร เป็นเจ้าหน้าที่ชุดปราบปรามยาเสพติด กองบังคับการสืบสวนจังหวัดชุมพร ได้รับบาดเจ็บ เจ้าหน้าที่มูลนิธิได้เร่งช่วยเหลือผู้บาดเจ็บและนำตัวผู้เสียชีวิต ส่ง รพ.ทับสะแก

จากการสอบถามนายแผน พันธุ์รุณ อายุ 52 ปี อยู่บ้านเลขที่ 83 หมู่ 5 ต.ท่าข้าม อ.ท่าแซะ จ.ชุมพร เล่าว่าตนขับรถบรรทุกน้ำดื่มมาจากพระนครศรีอุธยา กำลังมุ่งหน้าไปภูเก็ต ในช่องทางเดินรถซ้าย เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุ รถกำลังขึ้นเนิน มีรถยนต์ตู้คันดังกล่าวพุ่งมาชนท้ายรถอย่างแรง เป็นเหตุให้รถทั้งสองคันได้รับความเสียหาย และมีผู้เสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บดังกล่าว

ส่วน ด.ต.สุรศักดิ์ ที่ได้รับบาดเจ็บ กล่าวว่า ตนและคณะเดินทางกลับจากส่งผู้ป่วยจิตเวชไปรักษาตัวที่จังหวัดนครปฐม กำลังมุ่งหน้ากลับจังหวัดชุมพร เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุ นายมนัตฯ ซึ่งเป็นคนขับรถคันดังกล่าว มีอาการวูบหลับใน จึงชนท้ายรถบรรทุกอย่างแรง

ขณะที่ นายธวัชชัย แดงฉ่ำ นายก อบต.ห้วยยาง กล่าวว่าขอเรียกร้องให้กรมทางหลวงเร่งติดตั้งไฟถนนเพชรเกษม ทั้งฝั่งขาเข้ากรุงเทพฯ และขาล่องใต้ ตั้งแต่หน้าสหกรณ์โคนมเนินดินแดง ถึงจุดกลับรถน้ำตกสายสอง เนื่องจากเส้นทางดังกล่าวมีอุบัติเหตุเกิดขึ้นต่อเนื่องและเป็นเส้นทางหลักในการเดินทางไปยัง 14 จังหวัดภาคใต้ ซึ่งหลายฝ่ายได้เรียกร้องให้ดำเนินการตั้งแต่รถทัวร์เสียหลักชนต้นไม้ใหญ่ ใกล้ทางเข้าหาดวนกร เมื่อเดือนธันวาคม 2566 ล่าสุด นายอำเภอทับสะแกได้นำจิตอาสาไปตัดต้นไม้ข้างทาง เป็นระยะทางหลายร้อยเมตร เพื่อให้ผู้ใช้รถใช้ถนนมีทัศนวิสัยที่ดีในการขับขี่ยามค่ำคืน พร้อมติดป้ายเตือนในระวังในการใช้ความเร็ว แต่ยังไม่มีการดำเนินการติดตั้งไฟถนนบริเวณดังกล่าว.

ณัฐธภพ พันสาย…..รายงาน

Categories
ข่าว ทั้งหมด

หัวหินจัดเทศกาลดิวาลี ครั้งแรกส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม

หัวหินจัดเทศกาลดิวาลี ครั้งแรกส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม

วันที่ 24 พฤศจิกายน 2567 นายพีรกร บุญญโชติจินดา ประธานชมรมธรรมด้วยใจ เปิดเผยว่า ชมรมธรรมด้วยใจ ร่วมกับ สมาคมไทย – เนปาลี ททท.สำนักงานประจวบฯ เทศบาลเมืองหัวหิน สภาวัฒนธรรมอำเภอหัวหิน สมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวหัวหิน – ชะอำ และชมรมหัวหินวูเมนส์คลับ กำหนดจัดกิจกรรมเทศกาล‘Deepavali Festival Hua Hin 2024’ในวันศุกร์ที่ 6 ธันวาคม ตั้งแต่เวลา 16.00 น.เป็นต้นไป ที่ชั้น 1 ศูนย์การค้ามาร์เก็ตวิลเลจ หัวหิน จ.ประจวบฯ ซึ่งเทศกาลดังกล่าวที่คนไทยเรียกว่า “ดิวาลี” หรือ “ดีปาวลี” เป็นเทศกาลแห่งแสงที่คนฮินดูถือปฏิบัติสืบเนื่องกันมานาน ใช้แสงสว่างเป็นสัญลักษณ์สำคัญร่วมบูชาพระแม่ลักษมี เทพีแห่งโชคตามความเชื่อ และสะท้อนความหมายของการเริ่มต้นชีวิตใหม่ เป็นประเพณีแห่งศรัทธาชาวพุทธฮินดูในพื้นที่ต่างๆ สืบต่อมายาวนาน นับเป็นเทศกาลที่มีความสำคัญทางศาสนาและวัฒนธรรมที่แสดงถึงความหมายแห่งแสงสว่าง การชนะความมืดมน ในมหานครทั่วทุกมุมโลกได้มีการจัดงานเทศกาลดิวาลีอย่างยิ่งใหญ่ รวมถึงกรุงเทพฯ ด้วย

สำหรับอำเภอหัวหิน ปีนี้จัดขึ้นเป็นปีแรก เป็นการสร้างโอกาสกระชับความสัมพันธ์อันดีงามของคนที่มีความเชื่อและศรัทธาในองค์พระแม่ลักษมี ทั้งคนไทย เนปาล อินเดีย โดยมีสมาคมไทย – เนปาลี หลายสาขาทั่วประเทศมาร่วมทำพิธีอารตี (Aarti) บูชาองค์เทพด้วยไฟร่วมกัน เพื่อเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมในพื้นที่หัวหิน ในการมีส่วนร่วมกิจกรรมอันดีงามของหน่วยงานต่างๆ ทั้งภาครัฐ และเอกชน ตลอดจนกระตุ้นเศรษฐกิจในพื้นที่ให้ดียิ่งขึ้น กิจกรรมในงานประกอบด้วยพิธีบูชาไฟเพื่อบูชาพระแม่ลักษมี เทพีแห่งความมั่งคั่ง โชคลาภและความเจริญรุ่งเรือง โดยพราหมณ์ฮินดูจากประเทศเนปาลเป็นผู้นำพิธี การประกวดธิดาพระแม่ลักษมี รวมรางวัลมูลค่า 2 ล้านบาท การแสดงบนเวทีจากนักเรียนในพื้นที่ การแสดงจากชาวเนปาลที่ได้รางวัลชนะเลิศการประกวดที่ประเทศเนปาล เป็นต้น จึงขอเชิญชวนประชาชนนักท่องเที่ยวที่มีจิตศรัทธามาร่วมทำบุญโดยไม่เสียค่าใช้จ่ายแต่อย่างใด.

Categories
ข่าว ทั้งหมด

อุทยานกุยบุรี รวบหนุ่มพกปืน – ยาบ้า ริมเขตป่า เซ่นยุทธการ “ล้าง บาง บ่วง”

อุทยานกุยบุรี รวบหนุ่มพกปืน – ยาบ้า ริมเขตป่า เซ่นยุทธการ “ล้าง บาง บ่วง”

วันที่ 23 พฤศจิกายน 2567 นายอรรถพงษ์ เภาอ่อน หัวหน้าอุทยานแห่งชาติกุยบุรี เปิดเผยว่า ตามนโยบายของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช ที่สั่งการให้ทุกหน่วยงานเข้มงวดการลาดตระเวนในพื้นที่ เพื่อป้องกันการลักลอบล่าสัตว์ป่า อุทยานแห่งชาติกุยบุรีจึงได้จัดยุทธการ “ล้าง บาง บ่วง” ขึ้นระหว่างวันที่ 23 – 27 พฤศจิกายนนี้ สามารถจับกุมผู้ต้องสงสัยได้ในวันแรกของการปฏิบัติการ ขณะเจ้าหน้าที่ชุดเฉพาะกิจป้องกันและปราบปรามชุดที่ 2 ร่วมกันลาดตระเวนและดักซุ่มบริเวณขอบป่า ในท้องที่หมู่ 11 บ้านเขาตกน้ำ ต.หาดขาม อ.กุยบุรี จ.ประจวบฯ เวลาประมาณ 19.00 น. พบชายต้องสงสัยขี่รถจักรยานยนต์พร้อมสะพายอาวุธปืนยาว บริเวณไร่ขนุนติดเขตอุทยานฯ จึงวางแผนเข้าจับกุม ทราบชื่อภายหลังว่านายสมชาย (สงวนนามสกุล) อายุ 40 ปี พร้อมของกลางประกอบด้วย อาวุธปืนยาวขนาด .22 จำนวน 1 กระบอก กระสุนคารังเพลิง 1 นัด กระสุนปืนขนาดเดียวกันอีก 29 นัด และยาบ้า 2 เม็ด เบื้องต้นผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่าเป็นของตนเอง จึงควบคุมตัวพร้อมของกลางส่ง สภ.ยางชุม เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

นายอรรถพงษ์ กล่าวว่า การจับกุมครั้งนี้เป็นการดำเนินการเชิงรุก เพื่อป้องกันการสูญเสียชีวิตของสัตว์ป่า ก่อนที่จะเกิดเหตุการณ์ลักลอบล่าสัตว์ เนื่องจากอุทยานแห่งชาติกุยบุรีมีอาณาเขตติดต่อกับชุมชนทางด้านทิศตะวันออกและทิศใต้ ทำให้มีเส้นทางเข้าออกพื้นที่ป่าหลายช่องทาง ซึ่งเอื้อต่อการลักลอบล่าสัตว์ป่า ประกอบกับพื้นที่มีความอุดมสมบูรณ์และมีประชากรสัตว์ป่าอาศัยอยู่อย่างหนาแน่น จึงพบการลักลอบวางกับดักสัตว์ป่าจำนวนมากตามแนวขอบป่า ซึ่งทางอุทยานฯ จะกวดขันการป้องกันและปราบปรามผู้กระทำผิดอย่างเข้มข้นต่อไป.

Categories
ข่าว ทั้งหมด

อุทยานกุยบุรี ซ้อมแผนเผชิญเหตุช้างป่าทำร้าย พร้อมดูแลความปลอดภัยนักท่องเที่ยวช่วงเทศกาล

อุทยานกุยบุรี ซ้อมแผนเผชิญเหตุช้างป่าทำร้าย พร้อมดูแลความปลอดภัยนักท่องเที่ยวช่วงเทศกาล

วันที่ 23 พฤศจิกายน 2567 นายอรรถพงษ์ เภาอ่อน หัวหน้าอุทยานแห่งชาติกุยบุรี จ.ประจวบฯ กล่าวว่าตามนโยบายของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ที่สั่งการให้กรมอุทยานแห่งชาติฯ เตรียมพร้อมแหล่งท่องเที่ยวและเส้นทางศึกษาธรรมชาติทั่วประเทศ เพื่อรองรับนักท่องเที่ยวในช่วงปลายฝนถึงฤดูหนาวนี้ ซึ่งเหมาะแก่การเดินป่าและกิจกรรมอาบป่า (Forest Bathing) เพื่อให้นักท่องเที่ยวได้สัมผัสธรรมชาติอย่างใกล้ชิดและปลอดภัย อุทยานแห่งชาติกุยบุรี จึงจัดอบรมและซ้อมแผนเผชิญเหตุ กรณีช้างป่าทำร้ายรถนำเที่ยวให้กับคนขับรถและมัคคุเทศก์ท้องถิ่น เพื่อเตรียมความพร้อมรับมือเหตุฉุกเฉินในช่วงฤดูท่องเที่ยว โดยมีนายนพพร อัคคมณี ผู้ช่วยหัวหน้าอุทยานแห่งชาติกุยบุรี เจ้าหน้าที่ศูนย์ปฏิบัติการค้นหาและกู้ภัย อุทยานแห่งชาติกุยบุรี และโครงการอนุรักษ์สัตว์ป่า กลุ่มป่าแก่งกระจาน WWF ประเทศไทย ร่วมจัดโครงการอบรมและซ้อมแผนเผชิญเหตุให้กับชมรมท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์สัตว์ป่ากุยบุรี

การฝึกอบรมครั้งนี้เนื้อหาครอบคลุมทั้งการปฐมพยาบาลเบื้องต้น การแจ้งเหตุฉุกเฉิน และขั้นตอนช่วยเหลือผู้ประสบเหตุ โดยมีการจำลองสถานการณ์จริงให้ผู้เข้าอบรมได้ฝึกปฏิบัติ ทั้งการสื่อสารกับเจ้าหน้าที่ การเคลื่อนย้ายผู้บาดเจ็บ และการตัดสินใจในภาวะฉุกเฉิน นอกจากนี้ ยังมีการให้ความรู้เกี่ยวกับพฤติกรรมของช้างป่าและวิธีรับมือที่ถูกต้องเพื่อสร้างความมั่นใจให้แก่นักท่องเที่ยวที่มาชมสัตว์ป่าในพื้นที่ ถือเป็นส่วนหนึ่งของการพัฒนาการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์อย่างยั่งยืน สะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของอุทยานแห่งชาติกุยบุรี ในการยกระดับมาตรฐานความปลอดภัยเพื่อให้นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติได้สัมผัสประสบการณ์การท่องเที่ยวที่ปลอดภัยในช่วงเทศกาลท่องเที่ยวที่กำลังจะมาถึงนี้.