Categories
ข่าว ทั้งหมด

รพ.ประจวบฯ จ่ายค่าย้ายเสาไฟฟ้าแรงสูงบ้านพักทั้งหมด หลังโผล่กลางถนนทำชาวบ้านเดือดร้อน

รพ.ประจวบฯ จ่ายค่าย้ายเสาไฟฟ้าแรงสูงบ้านพักทั้งหมด หลังโผล่กลางถนนทำชาวบ้านเดือดร้อน

วันที่ 20 มิถุนายน 2566 จากกรณีชาวบ้านผู้ใช้รถใช้ถนนได้รับความเดือดร้อนจากการสัญจรเข้าออก ผ่านบริเวณถนนสุขใจ ซอย 15 เนื่องจากมีเสาหม้อแปลงไฟแรงสูงขนาดใหญ่ของบ้านพักเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลประจวบคีรีขันธ์ ขวางบริเวณกลางถนน ด้านหน้าสำนักงานปฏิรูปที่ดินจังหวัดประจวบฯ (ส.ป.ก.) ทำให้ประชาชนที่ใช้สัญจรผ่านไปมาและเดินทางไปติดต่อราชการที่สำนักงานประกันสังคมจังหวัด ได้รับความลำบาก เนื่องจากเป็นทางสามแยก ซึ่งไม่สามารถเลี้ยวหรือวิ่งสวนกันได้

ผู้สื่อข่าวได้ไปสอบถามผู้บริหารเทศบาลเมืองประจวบคีรีขันธ์ ระบุว่าบริเวณพื้นที่ตั้งเสาไฟฟ้าดังกล่าวเดิมเป็นพื้นที่รกร้าง และเป็นเสาไฟฟ้าภายในของบ้านพักเจ้าหน้าที่ของโรงพยาบาลประจวบฯ ซึ่งขณะนั้นยังไม่มีถนน ต่อมาเมื่อมีความเจริญมากขึ้น มีการสร้างถนนและตัดขยายทาง เป็นเหตุทำให้เสาไฟฟ้าดังกล่าวโผล่ขึ้นอยู่กลางถนนดังที่เห็นในปัจจุบันผู้สื่อข่าวได้ไปสอบถามผู้บริหารเทศบาลเมืองประจวบคีรีขันธ์ ระบุว่าบริเวณพื้นที่ตั้งเสาไฟฟ้าดังกล่าวเดิมเป็นพื้นที่รกร้าง และเป็นเสาไฟฟ้าภายในของบ้านพักเจ้าหน้าที่ของโรงพยาบาลประจวบฯ ซึ่งขณะนั้นยังไม่มีถนน ต่อมาเมื่อมีความเจริญมากขึ้น มีการสร้างถนนและตัดขยายทาง เป็นเหตุทำให้เสาไฟฟ้าดังกล่าวโผล่ขึ้นอยู่กลางถนนดังที่เห็นในปัจจุบัน

นพ.อารักษ์ วงศ์วรชาติ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลประจวบคีรีขันธ์ กล่าวว่าโรงพยาบาลทราบเรื่องความเดือดร้อนของประชาชนผู้ใช้รถใช้ถนนบริเวณจุดนี้แล้ว เดิมทีถนนเส้นนี้แคบ เสาไฟฟ้านี้ไม่ได้อยู่กลางถนน แต่อยู่ข้างถนน ต่อมามีการขยายถนนเพิ่มขึ้น จึงทำให้เสาไฟฟ้ามาอยู่กลางถนน และผมเพิ่งจะทราบเรื่องนี้ จึงได้ให้ฝ่ายบริหารประสานกับการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคแก้ปัญหาจุดนี้ ให้มีการรื้อถอนและย้ายออก ถ้ามีค่าใช้จ่ายทางโรงพยาบาลยินดีรับผิดชอบออกค่าใช้จ่ายทั้งหมด ขอให้สบายใจได้ และผมจะเร่งรัดอีกครั้งหนึ่ง คาดว่าจะเสร็จทันก่อนผมเกษียณอายุราชการ ซึ่งจะช้าหรือเร็ว ต้องไปเร่งกับการไฟฟ้าฯ ว่าจะมีการวางแผนหรือออกแบบการวางสายอย่างไร เนื่องจากเป็นไฟฟ้าแรงสูง.

ภาพ/ข่าว : เอกภพ วงษ์ประเสริฐ

Categories
ข่าว ทั้งหมด

เทศบาลประจวบฯ จัดเทศกาลอาหารพื้นบ้าน ขนมพื้นถิ่น

เทศบาลประจวบฯ จัดเทศกาลอาหารพื้นบ้าน ขนมพื้นถิ่น

เมื่อวันที่ 20 มิถุนายน 2566 นายกมล แก้วเทศ นายกเทศมนตรีเมืองประจวบคีรีขันธ์ เปิดเผยว่า เทศบาลเมืองประจวบฯ ร่วมกับชมรมส่งเสริมสินค้าไทย ภาคเอกชน ผู้ประกอบการร้านอาหาร โรงแรม จัดงานเทศกาลอาหารพื้นบ้าน ขนมพื้นถิ่น ครั้งที่ 6 ขึ้น ระหว่างวันที่ 19 – 28 มิถุนายน 2566 ที่บริเวณถนนเลียบชายทะเลอ่าวประจวบฯ หน้าเทศบาลเมืองประจวบคีรีขันธ์ โดยมี พ.ต.อ.ไพทูล พรมเขียน ผกก.สภ.เมืองหัวหน้าส่วนราชการ คณะผู้บริหารเทศบาลเมืองประจวบฯและนักท่องเที่ยวจำนวนมากร่วมเปิดงาน เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยว กระตุ้นเศรษฐกิจ และประชาสัมพันธ์เชิญชวนนักท่องเที่ยวให้มาชิมของอร่อยเมืองสามอ่าว มีการจำหน่ายอาหารและสินค้าจากทั้ง 15 ชุมชน การแข่งขันแกงคั่วสับปะรดหอยแมลงภู่ ซึ่งจัดเป็นอาหารพื้นถิ่นเมืองประจวบคีรีขันธ์จากวัตถุดิบที่ใช้ประกอบอาหาร คือสับปะรด และหอยแมลงภู่

นอกจากนี้ยังมีการออกร้านค้าจำหน่ายอาหารพื้นเมืองจากชุมชน เช่น งบทะเลย่าง ห่อหมก จับหลัก สาคูไส้หมู ข้าวเกรียบปากหม้อ ขนมหมี่กรอบ ขนมฝอยทอง ทองหยิบ ทองหยอด ผัดไทย ข้าวผัดสับปะรด ยำสับปะรด ขนมไส่ใส้ ขนมกล้วย หอยทอด เป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมอาหาร ภายในงานยังมีร้านค้าถนนคนเดินอ่าวประจวบฯ คาราวานสินค้าชนิดต่างๆ ประชาชนและนักท่องเที่ยวสามารถร่วมงานได้จนถึงวันที่ 28 มิถุนายนนี้.

Categories
ข่าว ทั้งหมด

เฉลิมชัยเปิดมหกรรมผลไม้และของดีป่าละอูครั้งที่ 10

เฉลิมชัยเปิดมหกรรมผลไม้และของดีป่าละอูครั้งที่ 10

วันที่ 19 มิถุนายน 2566 นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นประธานเปิดงานมหกรรมผลไม้และของดีป่าละอู ครั้งที่ 10 ซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่ 19 – 25 มิถุนายน 2566 ที่ลานอเนกประสงค์ อบต.ห้วยสัตว์ใหญ่ อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ มี นายกิตติพงศ์ สุขภาคกุล รองผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบฯ นายพลกฤต พวงวลัยสิน นายอำเภอหัวหิน นายวัชระ กำพร นายก อบต.ห้วยสัตว์ใหญ่ หัวหน้าส่วนราชการ ข้าราชการกระทรวงเกษตรฯ กิ่งกาชาดหัวหิน หน่วยงานภาครัฐและเอกชน อบต. กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน เกษตรกร และประชาชนนักท่องเที่ยวจำนวนมากร่วมชมการแสดงจากชาวไทยภูเขาเผ่ากะเหรี่ยงและร้านค้าต่างๆ ที่มาร่วมงาน

นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน กล่าวว่าการจัดงานนี้เพื่อนำของดีของตำบล ออกมาเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ ไม่ว่าจะเป็นผลผลิตทางการเกษตร ทุเรียนป่าละอู ผลไม้นานาชนิด อีกทั้งส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์และเชิงสุขภาพหลากหลายรูปแบบ ทั้งการเผยแพร่วัฒนธรรมชาวไทยภูเขาเผ่ากะเหรี่ยง เป็นการส่งเสริมอาชีพ เปิดตลาดให้ประชาชนในพื้นที่มีรายได้จากผลผลิต ผลิตภัณฑ์ของชุมชน และสร้างระบบการเรียนรู้ การมีส่วนร่วมการบริหารจัดการทรัพยากรของชุมชน โดยประชาชนของคนในชุมชนด้วยกันเองให้เป็นที่รู้จักในวงกว้างต่อไป

นายกิตติพงศ์ สุขภาคกุล กล่าวว่า การจัดงานในครั้งนี้เป็นการส่งเสริม สนับสนุนสินค้าผลิตภัณฑ์ชุมชนและสินค้าทางการเกษตร ส่งเสริมอาชีพ สร้างรายได้ให้พี่น้องเกษตรชาวตำบลห้วยสัตว์ใหญ่ ได้บูรณาการร่วมกับกลุ่มผู้ปลูกทุเรียนในพื้นที่สหกรณ์การเกษตรห้วยสัตว์ใหญ่ จำกัด, ททท.สำนักงานประจวบคีรีขันธ์ ผู้นำท้องถิ่น ส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง และพี่น้องประชาชนตำบลห้วยสัตว์ใหญ่ ในการเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ เปิดตลาดของดีตำบลห้วยสัตว์ใหญ่ ให้เป็นที่รู้จักอย่างแพร่หลาย โดยเฉพาะสินค้าทางด้านการเกษตร เช่น ทุเรียนป่าละอู ผลไม้ต่างๆ ในตำบล และผลิตภัณฑ์ผ้าฝ้ายทอมือ อีกทั้งยังส่งเสริมการท่องเที่ยวของชุมชนให้เป็นที่รู้จักอย่างแพร่หลาย อาทิเช่น น้ำตกป่าละอู บ่อมรกต ชมช้างป่า หมู่ภมรผีเสื้อ และนกนานาชนิดเป็นต้น

นายพลกฤต พวงวลัยสิน กล่าวว่า ทุเรียนป่าละอูเป็นทุเรียนพันธุ์หมอนทองพระราชทาน ซึ่งสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี (สมเด็จย่า) ทรงพระราชทานให้แก่ตำรวจตระเวนชายแดนนำไปปลูกที่ ต.ห้วยสัตว์ใหญ่ อ.หัวหิน ครั้งสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนีเสด็จพระราชดำเนินทรงเปิดโรงเรียนอานันท์ ที่บ้านป่าละอู ต.ห้วยสัตว์ใหญ่ เมื่อวันที่ 19 พฤษภาคม 2509 จนกลายเป็นผลไม้ที่นิยมปลูกกันในพื้นที่ เมื่อนำมาปลูกในพื้นที่ป่าละอูที่มีความพิเศษบนพื้นที่สูง สภาพอากาศและความอุดมสมบูรณ์ของดิน อีกทั้งเป็นการปลูกแบบเกษตรอินทรีย์ จึงทำให้ได้ผลผลิตทุเรียนมีคุณภาพ มีรสหวาน เนื้อหนา เหนียว เนียนละเอียด สีเหลืองอ่อน เนื้อแห้งมีความมันมากกว่าความหวาน เม็ดลีบเล็ก กลิ่นไม่รุนแรง ได้รับการยอมรับจากผู้โปรดปรานทุเรียนว่ามีความพิเศษเป็นเอกลักษณ์ จนได้รับเครื่องหมายสินค้า GI (Geographical Indication) จากกรมทรัพย์สินทางปัญญา เมื่อวันที่ 3 กรกฎาคม 2557 แสดงถึงแหล่งเพาะปลูกที่เจาะจงแค่ที่ใดที่หนึ่ง เป็นสินค้าเด่นของชุมชนซึ่งเป็นการเพิ่มมูลค่าให้กับสินค้าการเกษตร โดยผู้มีสิทธิใช้เครื่องหมาย GI ได้แก่ เกษตรกรผู้ผลิตในพื้นที่เป็นเจ้าของร่วมกัน ซึ่งได้ร่วมกันรักษาคุณภาพมาตรฐานชื่อเสียงและอัตลักษณ์เฉพาะถิ่นนี้เอาไว้ ซึ่งภายในงานจะมีเกษตรกรชาวสวนในพื้นที่ นำผลไม้และพืชผลทางการเกษตร อาทิ เงาะ มังคุด และของดีต่างๆในพื้นที่ ต.ห้วยสัตว์ใหญ่ มาจำหน่าย โดยเฉพาะทุเรียนป่าละอู ทั้งพันธุ์หมอนทองและชะนี ซึ่งเกษตรกรผู้ปลูกได้คัดทุเรียนป่าละอู เกรด A จากสวนโดยตรง นำมาจำหน่ายให้นักท่องเที่ยวได้ลองชิมที่ศูนย์แสดงสินค้าโอทอป ต.ห้วยสัตว์ใหญ่ ในราคาเดียวกันทุกร้าน กิโลกรัมละ 250 บาท

นอกจากนี้ยังมีผลิตภัณฑ์กลุ่มแม่บ้าน สินค้าโอทอป สินค้าเกษตรแฟร์ ไม้ผล ไม้ดอก ไม้ประดับ เครื่องมือการเกษตร เฟอร์นิเจอร์ สินค้าโรงงานมาร่วมจำหน่ายตลอดงาน.

Categories
ข่าว ทั้งหมด

เทศบาลอ้อมใหญ่นำกลุ่มสตรีมาดูการทำผ้าบาติก ปราณบุรี

เทศบาลอ้อมใหญ่นำกลุ่มสตรีมาดูการทำผ้าบาติก ปราณบุรี

วันที่ 19 มิถุนายน 2566 น.ส.สมใจรัก คุ้มถนอม นายกเทศมนตรีตำบลอ้อมใหญ่ นำคณะผู้บริหาร สมาชิกสภาเทศบาล เจ้าหน้าที่ สมาชิกกลุ่มพัฒนาสตรีเทศบาลตำบลอ้อมใหญ่ อ.สามพราน จ.นครปฐม จำนวน 160 คน เดินทางมาดูการทำผ้าบาติก ที่ศาลาหมู่บ้าน บ้านนาห้วย ต.ปราณบุรี อ.ปราณบุรี จ.ประจวบฯ มีนายบำรุง ตรีเพชร นายก อบต.ปราณบุรี นายธเนศพล วงษ์สวาท ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ 3 บ้านนาห้วย นางสมพร นุษพรรณ์ ประธานกลุ่มสตรีบ้านนาห้วยทำผ้าบาติก พร้อมทีมงานให้การต้อนรับ โดยนายชาญณรงค์ นุษพรรณ์ เป็นวิทยาการการสอนทำผ้าบาติก ทั้งภาคทฤษฎีและปฏิบัติ

น.ส.สมใจรัก นายกเทศมนตรีอ้อมใหญ่ กล่าวขอบคุณและชื่นชมกลุ่มสตรีบ้านนาห้วย ว่าจัดการอบรมได้สมบูรณ์แบบ และที่สำคัญที่เลือกมาดูงานที่นี่ เพราะกลุ่มสตรีแม่บ้านนาห้วย มีการจัดการที่ดี มีความสามัคคีและผลงานที่กลุ่มได้ร่วมกันทำ มีการนำเสนอออกมาทางสื่อมวลชนเป็นที่ประจักษ์ สวยงามเป็นที่ยอมรับ

ส่วนภาคปฎิบัติ วิทยากรได้แนะนำอุปกรณ์ที่ต้องใช้ ขั้นตอนการทำติดผ้าบนกรอบ การเขียนเทียน การเพ้นท์สี ซึ่งได้รับความสนใจเป็นอย่างดี โดยสมาชิกทุกคนมีส่วนร่วมในการทำกิจกรรม เริ่มจากเขียนดินสอลงในผ้าเป็นรูปต่างๆ เช่น ภาพวิว สัตว์น้ำ ดอกไม้ การ์ตูน เป็นต้น ตามความคิดของแต่ละคน ก่อนทุกคนได้ลงมือเพ้นท์สี ผลงานออกมาเป็นที่ประทับใจ หลังจากนี้ผลงานทุกชิ้น กลุ่มสตรีบ้านนาห้วยจะนำผ้าที่เพ้นท์ทั้งหมดเข้าขบวนการทำขั้นสุดท้าย คือการนำผ้าเคลือบโซเดียมซิลิเกต เพื่อให้ผ้าที่สมาชิกเพ้นท์ไว้ สีติดคงทน เงางาม และจะจัดส่งกลับไปให้ต่อไป.

สมบัติ ลิมปจีระวงษ์….รายงาน

Categories
ข่าว ทั้งหมด

รพ.ประจวบฯ ระดมติดกล้องกว่า 300 ตัว ทั่วโรงพยาบาล แก้ปัญหาลักทรัพย์ในโรงพยาบาล

รพ.ประจวบฯ ระดมติดกล้องกว่า 300 ตัว ทั่วโรงพยาบาล แก้ปัญหาลักทรัพย์ในโรงพยาบาล

วันที่ 17 มิถุนายน 2566 หลังจากกรณีที่ก่อนหน้านี้ภายในโรงพยาบาลประจวบคีรีขันธ์ เกิดเหตุมิจฉาชีพเข้ามาลักขโมยทรัพย์สินของผู้ป่วยและญาติที่มาเฝ้าไข้ภายในโรงพยาบาลบ่อยครั้ง ทำให้เกิดความเสียหายต่อเจ้าของทรัพย์สิน โดยมิจฉาชีพจะอาศัยเวลาเจ้าของทรัพย์เผลอ นอนหลับ หรือเข้าทำภารกิจส่วนตัวในห้องน้ำ ทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจและเจ้าหน้าที่ รปภ.ของโรงพยาบาล ต้องทำงานหนักในการติดตามหาตัวผู้ก่อเหตุ และติดตามทรัพย์สินมาคืนให้กับเจ้าของ ล่าสุดโรงพยาบาลประจวบคีรีขันธ์ได้ระดมติดกล้องวงจรปิดทั่วทั้งโรงพยาบาล ทั้งภายนอกและภายใน รวมกว่า 300 ตัว

นพ.อารักษ์ วงศ์วรชาติ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลประจวบคีรีขันธ์ เปิดเผยว่าได้สั่งการให้สำรวจกล้องวงจรปิดทั้งหมดที่ติดตั้งไปแล้ว ว่ายังอยู่ในสภาพที่พร้อมใช้งานได้หรือไม่ และให้ปรับปรุงแก้ไข พร้อมติดตั้งเพิ่มทั่วทั้งโรงพยาบาล จุดไหนที่ไม่กระทบสิทธิ์ของผู้ป่วย ก็จะดำเนินการติดให้ทุกจุด ที่ผ่านมาเกิดเหตุการณ์มีสิ่งของสูญหาย แต่สามารถติดตามกลับคืนมาได้ทั้งหมด ขอให้มั่นใจได้ ในเรื่องของมิจฉาชีพจะอาศัยกล้องวงจรปิดเพียงอย่างเดียวไม่ได้ เราต้องช่วยกันเฝ้าดูอีกทางหนึ่งด้วย และอย่าทิ้งสิ่งของมีค่าเอาไว้ โดยที่ไม่มีคนอยู่ อันนี้สำคัญมาก และถ้าเกิดปัญหาขึ้นมา อย่างไรก็ตามให้รีบแจ้งกับโรงพยาบาลทันที แล้วจะรีบแก้ปัญหาให้โดยเร็วที่สุด

ด้านนายคมกริบ น้อยแสง หัวหน้า รปภ.โรงพยาบาลประจวบคีรีขันธ์ กล่าวว่า หากเกิดกรณีทรัพย์สินสูญหาย ให้รีบมาแจ้งที่ รปภ.หรือที่ตน จากนั้นจะได้แนะนำให้ไปเขียนคำร้องขอดูกล้องที่บริเวณชั้น 4 แล้วตนก็จะเปิดกล้องวงจรปิดให้ดู แต่มีกติกาห้ามถ่ายภาพนำออกไปเผยแพร่ด้านนอก แต่จะแนะนำให้ไปแจ้งความที่สถานีตำรวจ และให้เจ้าหน้าที่ตำรวจมาขอภาพกล้องวงจรปิดจากโรงพยาบาลเอง เพื่อนำไปติดตามหาตัวผู้ก่อเหตุ โดยกล้องวงจรปิดได้ติดตั้งทั่วทั้งโรงพยาบาล ในส่วนที่ตนควบคุมดูแล ทั้งอาคารผู้ป่วยนอก อาคารผู้ป่วยใน อาคารโภชนาการ อาคารอำนวยการ อาคารอุบัติเหตุ รวมกว่า 200 ตัว นอกจากนี้ยังมีในส่วนของอาคารอื่นๆ ที่แต่ละตึกอาคารมีระบบ Server ควบคุมกล้องวงจรปิดของแต่ละตึก นอกเหนือจากที่ตนรับผิดชอบอีกกว่า 100 ตัว ซึ่งถ้ารวมทั้งหมดทั้งโรงพยาบาลมีกล้องวงจรปิดมากกว่า 300 ตัว.

ภาพ/ข่าว : เอกภพ วงษ์ประเสริฐ

Categories
ข่าว ทั้งหมด

ทัพฟ้าสร้างนักอนุรักษ์รุ่นเยาว์ อนุรักษ์พันธุกรรมพืช-พันธุ์หอยตลับ ครบรอบ 30 ปี เทิดพระเกียรติสมเด็จพระเทพฯ

ทัพฟ้าสร้างนักอนุรักษ์รุ่นเยาว์ อนุรักษ์พันธุกรรมพืช-พันธุ์หอยตลับ ครบรอบ 30 ปี เทิดพระเกียรติสมเด็จพระเทพฯ

วันที่ 17 มิถุนายน 2566 พลอากาศโท สมพร แต้พานิช เจ้ากรมกิจการพลเรือนทหารอากาศ เป็นประธานเปิดโครงการอนุรักษ์พันธุกรรมพืช อันเนื่องมาจากพระราชดำริ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เนื่องในโอกาสครบรอบ 30 ปี (อพ.สธ.) ที่ห้องกัลปังหา อาคารฟ้าชมคลื่น 2 กองบิน 5 อ.เมืองประจวบคีรีขันธ์ โดยมีนาวาอากาศเอก ณัฐวุฒิ จันทรจิต เสนาธิการกองบิน 5 เป็นผู้แทนผู้บังคับการกองบิน 5 เข้าร่วมในพิธีเปิด

ภายในโครงการมีการจัดแสดงนิทรรศการและวีดีทัศน์เฉลิมพระเกียรติ นำเสนอหัวข้อเรื่องโครงการอนุรักษ์พันธุกรรมพืช อันเนื่องมาจากพระราชดำริ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ในพื้นที่กองทัพอากาศ ณ บริเวณพระมหาธาตุนภเมทนีดล นภพลภูมิสิริ ดอยอินทนนท์ จ.เชียงใหม่ เพื่อเก็บรักษาเมล็ดพันธุ์พืช และเรื่องโครงการอนุรักษ์พันธุ์หอยตลับในพื้นที่อ่าวมะนาว กองบิน 5 จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เพื่อคุ้มครองสัตว์ทะเลใกล้สูญพันธุ์ รวมไปถึงกิจกรรมตอบคำถามชิงรางวัล เพื่อเป็นการสร้างความตระหนักรู้ และปลุกจิตสำนึกให้เห็นความสำคัญในการอนุรักษ์พันธุกรรมพืช อันเนื่องมาจากพระราชดำริ และอนุรักษ์พันธุ์หอยตลับ ให้กับคณะครูและเยาวชนนักเรียนจากโรงเรียนชัยเกษมวิทยา อ.บางสะพาน จำนวน 130 คน ที่เข้าร่วมกิจกรรม

ทั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อเทิดพระเกียรติสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ที่ทรงสืบสานพระราชปณิธานในงานอนุรักษ์ทรัพยากรของประเทศ เพื่อให้เยาวชนและประชาชนได้เข้ามาเรียนรู้การอนุรักษ์ พัฒนา และตระหนักถึงคุณค่าและความสำคัญของการอนุรักษ์ทรัพยากรของชาติให้คงอยู่สืบไป รวมทั้งใช้ประโยชน์ทรัพยากรอย่างยั่งยืน เพื่อสร้างการรับรู้และเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ผลการดำเนินงานของกองทัพอากาศที่ร่วมสนองพระราชดำริ

พลอากาศโท สมพร แต้พานิช เจ้ากรมกิจการพลเรือนทหารอากาศ กล่าวว่า โครงการอนุรักษ์พันธุกรรมพืชนี้ จัดตั้งขึ้นเมื่อปี พ.ศ.2536 ปัจจุบันครบรอบ 30 ปี โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างความเข้าใจ และทำให้ตระหนักถึงความสำคัญของทรัพยากรต่างๆ ที่มีอยู่ในประเทศไทย กองทัพอากาศเป็นหน่วยงานหนึ่งที่ร่วมสนองพระราชดำริ และสนับสนุนโครงการดังกล่าวมาอย่างต่อเนื่อง วันนี้จึงถือเป็นโอกาสอันดีที่จะได้ถ่ายทอดเรื่องราวที่น่าสนใจและเป็นประโยชน์ให้นักเรียนได้รับทราบ ผ่านรูปแบบการจัดนิทรรศการ และการจัดทำวิดีทัศน์เฉลิมพระเกียรติ ซึ่งจะทำให้ผู้เข้าร่วมกิจกรรมได้รู้สึกสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณต่อพระองค์ที่ทรงสืบสานพระราชปณิธานในงานอนุรักษ์ทรัพยากรของประเทศ และประชาชนเกิดความตระหนักรู้ เห็นความสำคัญ รวมทั้งเกิดจิตสำนึก ร่วมมือร่วมใจกันอนุรักษ์พืชพรรณและสัตว์ทะเลใกล้สูญพันธุ์ของไทยให้คงอยู่เป็นทรัพยากรอันทรงคุณค่าสืบไป.

ภาพ/ข่าว : เอกภพ วงษ์ประเสริฐ

Categories
ข่าว ทั้งหมด

กรมอุทยานฯ เดินหน้าโครงการส่งเสริมการมีส่วนร่วมพื้นที่กลุ่มป่าแก่งกระจาน

กรมอุทยานฯ เดินหน้าโครงการส่งเสริมการมีส่วนร่วมพื้นที่กลุ่มป่าแก่งกระจาน

วันที่ 17 มิถุนายน 2566 นายประธาน สังวรณ์ ผู้อำนวยการส่วนอุทยานแห่งชาติ สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 3 (สบอ.3) สาขาเพชรบุรี เป็นประธานเปิดงานเวทีปิดโครงการส่งเสริมการมีส่วนร่วมในการจัดการพื้นที่คุ้มครองกลุ่มป่าแก่งกระจาน “ความสำเร็จ บทเรียน และก้าวต่อไป” ซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่ 16 – 18 มิถุนายน 2566 ณ อาคารมรดกโลก อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน อ.แก่งกระจาน จ.เพชรบุรี มีผู้เข้าร่วมประชุมประกอบไปด้วยผู้แทนชุมชน 17 ชุมชน ที่มีพื้นที่อยู่ในและติดกับพื้นที่กลุ่มป่าแก่งกระจาน องค์กรเอกชน ได้แก่ คณะผู้แทนจากกองทุนสิ่งแวดล้อมโลก, ผู้แทนหน่วยงานภาครัฐ ได้แก่ หัวหน้าอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน/ อุทยานฯ กุยบุรี/ อุทยานฯ เฉลิมพระเกียรติไทยประจัน และหัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าแม่น้ำภาชี ตลอดจนผู้แทน อบต.ป่าเด็ง โดยมีคณะวิทยากรจากมูลนิธิสืบนาคะเสถียร, เครือข่ายเสียงคนเสียงช้าง, สถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน (พอช.) และสมาคมสัตว์วิทยาลอนดอน (ZSL) รวมทั้งสิ้นจำนวน 80 คน เข้ารับการอบรม

นายประธาน กล่าวว่า การอบรมครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อนำเสนอผลการดำเนินโครงการส่งเสริมการมีส่วนร่วมในการจัดการพื้นที่คุ้มครองกลุ่มป่าแก่งกระจาน เพื่อถอดบทเรียนองค์ความรู้ การดำเนินงานโครงการส่งเสริมการมีส่วนร่วมในการจัดการพื้นที่คุ้มครองกลุ่มป่าแก่งกระจาน และเพื่อสร้างแนวทางการบริหารจัดการพื้นที่มรดกโลกทางธรรมชาติ กลุ่มป่าแก่งกระจาน บนพื้นฐานการมีส่วนร่วมจากทุกภาคส่วน ซึ่งเป็นโอกาสอันดีที่จะได้มีการจัดกระบวนการร่วมกัน ระหว่างหน่วยงานภาครัฐ เอกชน และชุมชน อันจะนำไปสู่ความสำเร็จ บทเรียนและก้าวต่อไป จะได้มีความรู้ ความเข้าใจ และสามารถนำข้อมูลไปบูรณาการการทำงานต่อไปได้.

Categories
ข่าว ท่องเที่ยว ทั้งหมด

เทศกาลดนตรีสุดคลาสสิค “Hua Hin Old Days Festival Vo.3” ตอบรับดีเกินคาด

เทศกาลดนตรีสุดคลาสสิค “Hua Hin Old Days Festival Vo.3” ตอบรับดีเกินคาด

วันที่ 16 มิถุนายน 2566 ศูนย์การค้าบลูพอร์ตหัวหิน ร่วมกับบริษัท ทิพยประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) และภาคเอกชน พาทุกท่านกลับมาพบกับกิจกรรมเทศกาลดนตรีสุดยิ่งใหญ่ในเมืองหัวหิน “Hua Hin Old Days Festival” ครั้งที่ 3 โดยครั้งนี้ได้พาทุกท่านไปพบกับความชิลล์ในสไตล์คันทรี และความสนุกในโซนต่างๆ ที่ขนขบวนมาให้ทุกท่านได้มาสนุกกันแบบสุดๆ ทั้งนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทย ต่างชาติ คนหัวหินและจังหวัดใกล้เคียง โดยงานเทศกาลดนตรี “Hua Hin Old Days Festival“ ที่จัดขึ้นในทุกๆ ครั้ง ประสบความสำเร็จได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติมาร่วมงานเป็นอย่างมาก ปลุกความเป็นเมืองดนตรีของหัวหินให้กลับมีชีวิตชีวาขึ้นมาอีกครั้ง พร้อมไฮไลท์สุดพิเศษในการคัดสรรค์แนวเพลงที่หาฟังได้ยาก จนถึงแนวเพลงที่ฮิตติดกระแส มารวมกันอยู่ที่ลานเดอะสแควร์ หน้าห้างบลูพอร์ตหัวหิน

งานเทศกาลดนตรี “Hua Hin Old Days Festival“ ครั้งที่ 3 มาพร้อมกับธีม “SUMMER IN BLUES” จังหวะดนตรีสุดชิลล์ จนไปถึงจังหวะสปีด สุดคึกคักรับซัมเมอร์นี้ ให้บลูพอร์ตหัวหินเป็นอีกหนึ่งทางเลือกของคนรักในดนตรีและเสียงเพลง และเป็น Music Entertainment Hub เพื่อให้คนหัวหิน และนักท่องเที่ยวได้มาผ่อนคลายและฟังดนตรี เสพผลงานศิลปะร่วมกัน โดยไฮไลท์ของงานนี้จะเป็นแนวดนตรี “Flock, Country และ Bluegrass“ ที่หาฟังได้ยาก ซึ่งแนวดนตรี Bluegrass นี้ มีรากเหง้ามาจากดนตรีแนว Country แต่จะเน้นไปที่เครื่องดนตรีอคูสติก เช่น กีตาร์ และแบนโจ แต่จะเล่นกันในจังหวะที่เร็วแบบสุดๆ สร้างจังหวะให้คนดูคึกคัก สนุกสนาน

งานครั้งนี้บลูพอร์ตหัวหิน ยังคงเอกลักษณ์ของงานเอาไว้อย่างเหนียวแน่น โดยมีพื้นที่จัดงานหลากหลายโซน อาทิ การจัดแสดงงานศิลปะ ในโซน ART VILLAGE กับงานศิลปะสุดเก๋จากหมู่บ้านศิลปินหัวหิน และร่วมกิจกรรม workshop กับเดอะ แกลเลอรี หัวหิน, CRAFT ZONE ร้านขายสินค้าแฮนด์เมด, ร้านเครื่องดนตรีเก่าสะสม, ร้านหุ่นเหล็ก, ร้านวาดภาพเหมือน, AIRBRUSH PAINT และสินค้าอื่นๆ ที่มาจัดจำหน่ายมากมายภายในงาน รวมทั้ง NEVER GETS OLD ZONE กับโซนร้านอาหารท้องถิ่น ที่รอบนี้ยกขบวนกันมาทั้งอาหารอีสานสุดแซ่บ อาหารเหนือ อาหารยุโรปต่างๆ มากมาย และร้านเครื่องดื่มสุดพิเศษที่มีมาเพิ่มแบบจัดเต็มทั้ง 3 วัน และอีกหนึ่งไฮไลท์สุดพิเศษ กับการนำเอา PHOTO BOOTH มาให้ทุกท่านได้ร่วมสนุก ถ่ายภาพเป็นที่ระลึก พร้อมรับกลับบ้านกันแบบจุใจไปเลยทีเดียว เฉพาะที่งานนี้เท่านั้น บลูพอร์ตหัวหินจึงขอเชิญชวนทุกท่านมาพบกันกับเทศกาลดนตรีในครั้งนี้ พบกับศิลปินท้องถิ่นมากมาย ไม่ว่าจะเป็น Mr.Noo Solo, Ped Bluesman, Sea The Gun’s Bro, Jum Soulman, Long Rider, Thorn Banjo Bluegrass Band, Blue Moutain ที่จะมาร่วมบรรเลงดนตรีให้ทุกๆท่านได้สนุกกันในงานนี้ ระหว่างวันที่ 16 – 18 มิถุนายนนี้ พร้อมร่วมรับโปรโมชั่นสุดพิเศษที่จัดเตรียมไว้ภายในบลูพอร์ต หัวหิน มาฟังดนตรีแถมยังได้สิทธิพิเศษมากมายในการช้อปปิ้งครั้งต่อไปอีกด้วย.

Categories
ข่าว ทั้งหมด

ประจวบฯ จัดเข้าวัดวันธรรมสวนะ หิ้วตะกร้า อิ่มศรัทธา

ประจวบฯ จัดเข้าวัดวันธรรมสวนะ หิ้วตะกร้า อิ่มศรัทธา

วันที่ 17 มิถุนายรน 2566 นายองครักษ์ ทองนิรมล รองผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เป็นประธานในโครงการเข้าวัดปฏิบัติธรรมวันธรรมสวนะ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 ที่วัดนิคมราษฎร์รังสรรค์ ต.อ่าวน้อย อ.เมืองประจวบคีรีขันธ์ โดยมี สำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ หัวหน้าส่วนราชการ ข้าราชการ เจ้าหน้าที่และพุทธศาสนิกชนเข้าร่วมกิจกรรมภายใต้แนวคิด “ครอบครัวหิ้วตะกร้า ศรัทธาอิ่มบุญ อุดหนุนชุมชน” โดยจังหวัดประจวบคีรีขันธ์จัดขึ้นเพื่อส่งเสริมให้พุทธศาสนิกชนได้เข้าวัด ทำบุญ น้อมนำหลักธรรมทางพระพุทธศาสนามาประยุกต์ใช้ในชีวิต และฟื้นฟูประเพณีเข้าวัดปฏิบัติธรรมวันธรรมสวนะให้กลับคืนสู่สังคมไทย นำพาไปสู่ความสงบสุขแก่ตนเอง สังคม และประเทศชาติ

ทั้งนี้ ผู้เข้าร่วมกิจกรรมสามารถพาครอบครัวและบุตรหลานร่วมตักบาตร ทำบุญ ถวายภัตตาหาร เข้าร่วมปฏิบัติธรรมเนื่องในวันธรรมสวนะ กิจกรรมส่งเสริมการเรียนรู้และพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวทางวัฒนธรรม พร้อมทั้งอุดหนุนสินค้าชุมชนในละแวกวัดได้อีกด้วย.

Categories
ข่าว ทั้งหมด

เปิดแล้วตลาดอิ่มใจ@บลูพอร์ต พบสินค้าออร์แกนิคจากเกษตรกรโดยตรงสู่ผู้บริโภค

เปิดแล้วตลาดอิ่มใจ@บลูพอร์ต พบสินค้าออร์แกนิคจากเกษตรกรโดยตรงสู่ผู้บริโภค

วันที่ 16 มิถุนายน 2566 นายพลกฤต พวงวลัยสิน นายอำเภอหัวหิน เป็นประธานเปิดตลาดอิ่มใจออร์แกนิค @ บลูพอร์ตหัวหิน ที่ลานกิจกรรม ชั้น G ศูนย์การค้าบลูพอร์ตหัวหิน จ.ประจวบคีรีชันธ์ มีนายชาติชาย ศรีษะนอก เกษตรจังหวัดประจวบฯ นางสุภิณยา บัวทอง เกษตรอำเภอหัวหิน นายพิทยา คณะมะ ปศุสัตว์อำเภอหัวหิน นางวีรพร ศรีพุฒิตาล พัฒนาการอำเภอหัวหิน นายโชคชัย วงศ์จักรภัชร์ กรรมการผู้จัดการ บลูพอร์ตหัวหิน และแขกผู้มีเกียรติให้การต้อนรับ พร้อมเยี่ยมชมสินค้าออร์แกนิคและผักผลไม้ปลอดสารพิษต่างๆ ที่นำมาจำหน่ายภายในงาน

นายพลกฤต กล่าวว่า หัวหินเป็นเมืองท่องเที่ยวสำคัญระดับประเทศ และมีชื่อเสียงในหมู่นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติผู้หลงใหลในธรรมชาติ ทะเล และภูเขา พื้นที่หัวหินอุดมสมบูรณ์จนเป็นแหล่งผลิตสินค้าเกษตรที่มีคุณภาพ มีอัตลักษณ์โดดเด่น เช่น สับปะรดทานผลสด ทุเรียนป่าละอู อำเภอหัวหินจึงร่วมกับสำนักงานเกษตรอำเภอหัวหิน ศูนย์การค้าบลูพอร์ตหัวหิน และกลุ่มตลาดอิ่มใจออร์แกนิค @ บลูพอร์ตหัวหิน จัดกิจกรรมตลาดเกษตรสร้างสุข (Farmer Market) ภายใต้โครงการอำเภอบำบัดทุกข์บำรุงสุข แบบบูรณาการอย่างยั่งยืน โดยได้รับการสนับสนุนพื้นที่จากศูนย์การค้าบลูพอร์ตหัวหิน ให้จัดตลาดทุกเดือนๆ ละ 3 วัน เพื่อเพิ่มช่องทางการตลาดแหล่งกระจายสินค้าเกษตร สร้างรายได้แก่เกษตรกรในพื้นที่อำเภอหัวหินและใกล้เคียง สามารถยกระดับคุณภาพชีวิตของเกษตรกร ลดปัญหาผลผลิตทางการเกษตรตกต่ำ รวมทั้งสร้างพื้นที่ตลาดสินค้าเกษตรอินทรีย์แห่งใหม่สู่มือผู้บริโภคโดยตรงในราคายุติธรรมที่ปลอดภัย ดีต่อสุขภาพและรักษาสิ่งแวดล้อม ตลอดจนประชาสัมพันธ์สินค้าเกษตรคุณภาพในพื้นที่ให้เป็นที่รู้จักแก่นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติ

ภายในตลาดอิ่มใจ มีบูธจำหน่ายผักผลไม้ออร์แกนิคตามฤดูกาลจำนวน 15 บูธ ได้รับรองมาตรฐาน Organic Thailand และ GAP สินค้าเกษตรขึ้นชื่อ เช่น สับปะรด Siam Gold, กาแฟออร์แกนิคแห่งแรกของประจวบฯ, โกโก้และผลิตภัณฑ์แปรรูปจากโกโก้ สินค้าเกษตรประมงและอาหารแปรรูปประมง สินค้า OTOP จากวิสาหกิจชุมชนต่างๆ เปิดจำหน่ายตั้งแต่วันที่ 16 – 18 มิถุนายน 2566 เวลา 11.00 – 20.00 น. ณ ลานกิจกรรม ชั้น G ศูนย์การค้าบลูพอร์ตหัวหิน สามารถติดตามข่าวสารได้ที่ช่องทางเพจ ตลาดอิ่มใจหัวหิน.