Categories
ข่าว ทั้งหมด

เกษตรอำเภอสามร้อยยอดจัดประกวดมะม่วงสายพันธุ์ต่างๆ รวมทั้งมะม่วงแก้วสุกปากตะกร้อ

เกษตรอำเภอสามร้อยยอดจัดประกวดมะม่วงสายพันธุ์ต่างๆ รวมทั้งมะม่วงแก้วสุกปากตะกร้อ

วันที่ 16 มีนาคม 2567 นายนพดล เบญจกุล เกษตรอำเภอสามร้อยยอด จัดการประกวดมะม่วงสายพันธุ์ต่างๆ ในงานเทศกาลมะม่วงและของดีสามร้อยยอดครั้งที่ 24 ซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่ 16 – 25 มีนาคม 2567 ภายในหอประชุมที่ว่าการอำเภอสามร้อยยอด อ.สามร้อยยอด จ.ประจวบคีรีขันธ์ หลังจากที่ห่างหายไป 2 ปี เนื่องจากสถานการณ์โควิดที่ผ่านมา และเป็นครั้งแรกที่มีการประกวดมะม่วงแก้วสุกปากตะกร้อ ซึ่งเป็นมะม่วงสายพันธุ์เก่าแก่ และเป็นสายพันธุ์ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว มีเกษตรกรผู้ปลูกมะม่วงในอำเภอสามร้อยยอด นำมะม่วงเข้าร่วมประกวดเป็นจำนวนมาก

มะม่วงแก้วสามร้อยยอด เป็นมะม่วงที่รับประทานผลสุกปากตะกร้อ ซึ่งเป็นลักษณะพิเศษที่แตกต่าง เป็นแห่งเดียวที่เก็บปากตะกร้อในรูปแบบเชิงการค้า และลักษณะที่เฉพาะของมะม่วงแก้วสามร้อยยอด คือเป็นเนื้อสามชั้น ถ้ากัดผ่านชั้นบนที่ติดเปลือก จะมีความกรอบ และมะม่วงแก้วเป็นพันธุ์ที่มีเส้นใยน้อย เมื่อกัดผ่านชั้นที่สอง เนื้อจะละเอียดและเนียน ส่วนชั้นที่สาม ที่ติดกับเมล็ด เนื้อจะมีลักษณะส้มใส มีความหวานอมเปรี้ยว

นายกิตติพัฒน์ เมฆขยาย เกษตรกรที่ส่งมะม่วงเข้าร่วมประกวด เปิดเผยว่าปีนี้ตำบลสามร้อยยอดของเราได้นำมะม่วงแก้วมาร่วมประกวดด้วย ซึ่งตอนนี้ชาวตำบลสามร้อยยอดเตรียมเข้าร่วมโครงการมะม่วงแปลงใหญ่ มะม่วงแก้วพุสามร้อยยอด เพื่อจะนำเข้าสู่ GI ด้วย ตอนนี้มีสมาชิกแล้ว 52 คน ส่วนการประกวดมะม่วงแก้วครั้งแรกนี้ จะเป็นการยกระดับมะม่วงแก้วให้ดีขึ้น ซึ่งคนทางภาคใต้มักจะชื่นชอบมะม่วงแก้วสุกปากตะกร้อ เพราะจะกรอบนอก ข้างในนุ่ม หวานมัน มีสามรสด้วย และยังเป็นการส่งเสริมให้การตลาดกว้างมากขึ้น ส่งออกได้มากขึ้น ขณะนี้มีการพัฒนาโดยนำดินไปตรวจ เพื่อนำมาปรับปรุงเรื่องปุ๋ยให้ใช้น้อยลง แต่ผลผลิตมากขึ้น สำหรับคุณสมบัติของมะม่วงแก้วสามร้อยยอดจะไม่เหมือนที่อื่น คือสีผิวจะสวย น่ารับประทาน จะทานในช่วงที่สุกปากตะกร้อ สีจะไล่ไปจากสีส้ม เหลืองและแดง มีทั้งหมดสามสี แม้ว่าช่วงที่ผ่านมาเราประสบปัญหาภัยแล้ง ทำให้มะม่วงผลเล็กลง แต่ราคาช่วงนี้ดีขึ้น อยู่ที่ประมาณกิโลกรัม 30 – 40 บาท อยากเชิญชวนทุกท่านมาลองทานมะม่วงแก้วพุสามร้อยยอด ว่าจะอร่อยขนาดไหน

ด้านนายนพดล เบญจกุล เกษตรอำเภอสามร้อยยอด กล่าวว่าวัตถุประสงค์ของการจัดประกวดครั้งนี้ เพื่อเป็นการเผยแพร่ให้นักท่องเที่ยวและประชาชนทั่วไป ได้รู้จักมะม่วงและของดีสามร้อยยอด และเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยว โดยมีการประกวดมะม่วง 4 สายพันธุ์ มีมะม่วงน้ำดอกไม้รับประทานผลสุก มะม่วงรับประทานผลสุกทั่วไป มะม่วงดิบ และมะม่วงแก้วสุกปากตะกร้อ แต่มะม่วงที่เด่นและมีเป็นจำนวนมากในอำเภอสามร้อยยอด คือมะม่วงน้ำดอกไม้สีทอง ซึ่งมีพื้นที่ปลูกประมาณหมื่นกว่าไร่ เพื่อส่งออก มีทั้งจีน ญี่ปุ่น และมาเลเซีย ในส่วนของการพัฒนาสายพันธุ์มะม่วง ตอนนี้ได้จัดตั้งเป็นแปลงใหญ่อยู่ในตำบลศิลาลอย มีหนึ่งแปลง และมีสมาชิกหกสิบกว่าคน แต่ละรายมีพื้นที่ประมาณ 5 – 20 ไร่ แล้วเอามารวมเป็นแปลงใหญ่ ส่วนเกณฑ์การติดสินในวันนี้ เราจะแบ่งเป็นลักษณะภายนอก เช่นเรื่องของสี โดนแมลงทำลายมั้ย 50 คะแนน และค่าความหวานของมะม่วงสุก ส่วนมะม่วงพันธุ์ดิบทั่วไปจะใช้วิธีชิม ว่าเป็นที่ต้องการของผู้บริโภคมั้ย รสชาติเป็นอย่างไร ส่วนเกษตรกรที่นำผลไม้เข้าร่วมประกวด จะได้พัฒนาคุณภาพของมะม่วงเพื่อทำให้ถูกใจผู้บริโภค เป็นที่ต้องการของตลาด นักท่องเที่ยวที่มาเที่ยวงานจะได้ซื้อมะม่วงหลากหลายสายพันธุ์ ตั้งแต่มะม่วงทั่วไป มะม่วงน้ำดอกไม้สีทอง มะม่วงเขียวเสวย มะม่วงพันธุ์ฟ้าลั่น ส่วนเรื่องราคา น้ำดอกไม้สีทองตอนนี้กิโลกรัมละ 35 – 40 บาท ขอเชิญชวนนักท่องเที่ยวและประชาชนทั่วไปมาเที่ยวงานเทศกาลมะม่วงและของดีสามร้อยยอดครั้งที่ 24 ตั้งแต่วันนี้จนถึงวันที่ 25 มีนาคม โดยคืนวันที่ 19 มีนาคม จะมีการประกวดธิดามะม่วงด้วย.

ภาพ/ข่าว : ฐิติชญา แสงสว่าง

Categories
ข่าว ทั้งหมด

รพ.ประจวบฯ ให้ความรู้ประชาชนเรื่องโรคไต ในวันไตโลก

รพ.ประจวบฯ ให้ความรู้ประชาชนเรื่องโรคไต ในวันไตโลก

วันที่ 15 มีนาคม 2567 นพ.จุมพล ฟูเจริญ รองผู้อำนวยการภารกิจด้านบริการปฐมภูมิ โรงพยาบาลประจวบฯ เป็นประธานเปิดกิจกรรมวันไตโลก (World Kidney Day) ประจำปี 2567 ภายใต้คำขวัญ “ครอบคลุมทุกสิทธิ์ พิชิตโรคไต ใส่ใจการใช้ยา” ที่ชั้น 2 อาคารผู้ป่วยนอก โรงพยาบาลประจวบคีรีขันธ์ มี นพ.สุขเกษม อมรสุนทร รองผู้อำนวยการภารกิจด้านพัฒนาระบบบริการและสนับสนุนบริการสุขภาพ กล่าวรายงาน ทั้งนี้ กิจกรรมดังกล่าวจัดขึ้นเพื่อให้ประชาชนมีความรู้ ความเข้าใจเรื่องโรคไต รู้จักวิธีการป้องกันการเกิดโรคไตวายเรื้อรัง และเป็นการรณรงค์ให้ประชาชนตระหนักเห็นความสำคัญและมีทัศนคติที่ดีในการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมสุขภาพ โดยทีมสหสาขาวิชาชีพ ประกอบด้วยอายุรแพทย์โรคไต พยาบาลผู้เชี่ยวชาญโรคไต นักโภชนากร เภสัชกร และนักกายภาพบำบัด ร่วมกันเสวนาให้ความรู้ให้กับประชาชนเรื่องแนวทางป้องกันและลดโรคไต รูปแบบการบำบัดทดแทนไต และการทดสอบความเค็มในอาหาร พร้อมทั้งแสดงนิทรรศการให้ความรู้เรื่องการรักษาและการเข้าถึงการบำบัดทดแทนไต, ลดเค็ม ลดโซเดียมในอาหาร, ใช้ยาอย่างไรให้ปลอดภัย, บริหารร่างกายอย่างไรให้แข็งแรง และประเมินสุขภาพจิต เซียมซีใจ โดยมีนักเรียนและประชาชนให้ความสนใจเข้าร่วมกิจกรรมเป็นจำนวนมาก

ด้วยองค์การอนามัยโลกได้กำหนดให้วันพฤหัสบดีที่สองของเดือนมีนาคมของทุกปี เป็นวันไตโลก (World Kidney Day) เพื่อรณรงค์ให้ประชาชนตระหนักถึงความสำคัญของโรคไต ซึ่งเป็นปัญหาสาธารณสุขที่สำคัญทั่วโลก เนื่องจากโรคไตเป็นอาการหรือความผิดปกติที่เกิดขึ้นบริเวณไต ทำให้การทำงานเพื่อขับของเสียออกจากร่างกายและการรักษาความสมดุลของเกลือ รวมถึงน้ำในร่างกายเกิดภาวะขัดข้อง สาเหตุของโรคไตมาจากการควบคุมความดันโลหิตและระดับน้ำตาลในเลือดได้ไม่ดี รวมถึงการใช้ยาไม่ถูกต้อง การรับประทานยาชุด ยาแก้ปวด ยาสมุนไพรบางชนิดต่อเนื่องเป็นระยะเวลานาน ทำให้ไตสูญเสียการทำงาน เมื่อเป็นโรคไตแล้วไม่สามารถรักษาให้หายขาดได้และอาจทำให้ผู้ป่วยต้องได้รับการดูแลไปตลอดชีวิต การป้องกันโรคไตสามารถทำได้โดยลดเค็ม กินอาหารที่มีประโยชน์ ออกกำลังกายสม่ำเสมอ ดื่มน้ำให้เพียงพอ งดบุหรี่และเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ระวังการใช้ยา และเข้ารับการตรวจสุขภาพประจำปี เพื่อให้ร่างกายสมบูรณ์แข็งแรงและมีอนามัยที่ดีอยู่เสมอ.

Categories
ทั้งหมด สังคม

เปิดบูธโปรโมทองค์กร ในโครงการปัจฉิมนิเทศ นักเรียน นักศึกษา

ข่าวสังคม

เอสวีแอลกรุ๊ป นำโดยส่วนการบุคคล พร้อมทีมสื่อสารองค์กร ร่วมเปิดบูธโปรโมทองค์กร ในโครงการปัจฉิมนิเทศ นักเรียน นักศึกษา สำหรับผู้สำเร็จการศึกษาระดับชั้น ปวช. และ ปวส. ประจำปี 2567 โดยร่วมพูดคุยและแนะนำ 3 กลุ่มธุรกิจ ได้แก่ กลุ่มโลจิสติกส์, กลุ่มพรอพเพอร์ตี้ และกลุ่มนิวเวนเจอร์ (การลงทุนในธุรกิจใหม่ๆ) ให้กับคณะอาจารย์ และน้องๆ นักศึกษาวิทยาลัยการอาชีพบางสะพาน ได้รับทราบความเป็นมา พร้อมทั้งแนะนำแนวทางการทำงาน เพื่อเปิดโลกการเรียนรู้และสร้างแรงบันดาลใจ การเตรียมตัวในการฝึกงานและร่วมงานกับเอสวีแอลกรุ๊ปในอนาคต มีคณะอาจารย์และน้องๆ นักศึกษา ร่วมเยี่ยมชมบูธกันอย่างคึกคัก ที่อาคารของวิทยาลัยการอาชีพบางสะพาน จ.ประจวบคีรีขันธ์.

พิสิษฐ์ รื่นเกษม….รายงาน

Categories
ข่าว ทั้งหมด

ทางหลวงสรุปผลการสำรวจออกแบบขยายถนน บ้านหนองหิน – ด่านสิงขร เป็น 4 เลน

ทางหลวงสรุปผลการสำรวจออกแบบขยายถนน บ้านหนองหิน – ด่านสิงขร เป็น 4 เลน

วันที่ 14 มีนาคม 2567 นายกิตติพงศ์ สุขภาคกุล รองผู้ว่าราชการจังหวัด รักษาการผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เป็นประธานเปิดการประชุมสรุปผลโครงการจ้างวิศวกรที่ปรึกษาสำรวจและออกแบบทางหลวง 4 ช่องจราจร บนทางหลวงหมายเลข 4373 สายบ้านหนองหิน-ด่านสิงขร ครั้งนี้เป็นการสัมมนาครั้งที่ 3 จัดโดยสำนักสำรวจและออกแบบ กรมทางหลวง มีนายเศรษฐ์ จันทอาด รองผู้อำนวยการแขวงทางหลวงประจวบฯ (หัวหิน) กล่าวรายงาน และมีนายสมชาย ปี่แก้ว นายก อบต.คลองวาฬ ผู้แทนจากกรมทางหลวง คณะบริษัทที่ปรึกษา ผู้แทนหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน และส่วนราชการในพื้นที่ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ผู้นำท้องที่ ตลอดจนประชาชนในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบ เข้าร่วมที่โรงแรมแอททีบูทีค ต.คลองวาฬ อ.เมือง จ.ประจวบฯ

นายเศรษฐ์ จันทอาด รองผู้อำนวยการแขวงทางหลวงประจวบฯ กล่าวว่า ด่านสิงขรเป็นหนึ่งในเส้นทางที่เชื่อมไปยังเมืองมะริด สาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมา และยังเป็นตลาดการค้าชายแดนระหว่างประเทศ ซึ่งในการเดินทางจะใช้ทางหลวงหมายเลข 4 เชื่อมกับทางหลวงหมายเลข 4373 เป็นเส้นทางหลัก ทำให้ปริมาณการจราจรเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทำให้ผู้ใช้เส้นทางไม่ได้รับความสะดวกในการเดินทาง ดังนั้น กรมทางหลวงจึงได้ว่าจ้างกลุ่มบริษัทที่ปรึกษา ประกอบด้วยบริษัท ออโรส จำกัด บริษัท สแปน จำกัด มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี และบริษัท เวิลด์เอ็นจิเนียริ่งคอนซัลแตนท์ จำกัด ให้ดำเนินงานด้านวิศวกรรมสำรวจและออกแบบโครงการจ้างวิศวกรที่ปรึกษาสำรวจและออกแบบทางหลวง 4 ช่องจราจร บนทางหลวงหมายเลข 4373 สายบ้านหนองหิน – ด่านสิงขร

สำหรับการสรุปผลการศึกษาโครงการในวันนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อให้ประชาชน หน่วยงาน และองค์กรระดับต่าง ๆ รับทราบผลการศึกษาด้านวิศวกรรม ด้านสิ่งแวดล้อม มาตรการป้องกัน และแก้ไขผลกระทบสิ่งแวดล้อมของโครงการ ให้กลุ่มเป้าหมายได้รับทราบ ตลอดจนรับฟังความคิดเห็นและข้อเสนอแนะที่มีผลต่อผลกระทบสิ่งแวดล้อมที่อาจเกิดขึ้นจากการพัฒนาโครงการ เพื่อให้กรมทางหลวงและคณะผู้ศึกษาได้นำไปพิจารณาประกอบการศึกษาโครงการให้มีความเหมาะสมต่อไป

ทั้งนี้ กำหนดรูปแบบเขตทางของโครงการ แบ่งเป็น 2 ช่วง ได้แก่ ช่วงที่ 1 กม. 0+378 ถึง กม. 12+ 700 ดำเนินการก่อสร้างขยายถนนจาก 2 ช่องจราจร เป็น 4 ช่องจราจร (ขยายเขตทางขนาด 50 เมตร) ช่วงที่ 2 ช่วง กม. 12+ 700 ถึง กม.13+378 ซึ่งปัจจุบันเป็นถนนขนาด 4 ช่องจราจร จึงไม่ได้ดำเนินการขยายคันทางเดิม เป็นการดำเนินการปรับปรุงผิวทางและระบบสาธารณูปโภค และใช้เขตทางเดิม ขนาด 30 เมตร สำหรับการกำหนดขนาดของเขตทางนั้น ได้พิจารณาตามลักษณะภูมิประเทศ หลักเกณฑ์ตามมาตรฐานทางวิศวกรรม และจากการหารือร่วมกับหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้มีความสอดคล้องและสามารถรองรับการใช้งานในอนาคต

ส่วนการพิจารณาคัดเลือกรูปแบบเกาะกลางถนนที่มีความเหมาะสมของโครงการ แบ่งตามลักษณะทางกายภาพของพื้นที่ 2 พื้นที่นั้น สรุปดังนี้ 1. พื้นที่ในเขตชุมชน ออกแบบเป็นเกาะกลางแบบยก (Raised Median) 2. พื้นที่นอกเขตชุมชน ออกแบบเกาะกลางแบบกำแพงคอนกรีต (Barrier Median) นอกจากนี้ได้มีการออกแบบระบบระบายน้ำ ระบบสาธารณูปโภคและองค์ประกอบอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง เพื่ออำนวยความสะดวกและรวดเร็ว พร้อมทั้งคำนึงถึงความปลอดภัย ลดผลกระทบที่จะเกิดกับชุมชนโดยรอบ และตระหนักถึงผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมตลอดแนวโครงการ.

บุญมา ลิบลับ….รายงาน

Categories
ข่าว ทั้งหมด

ยุติธรรมประจวบฯ ติวเข้มเชื่อมชาวบ้านเข้าถึงการให้บริการกระบวนการยุติธรรม

ยุติธรรมประจวบฯ ติวเข้มเชื่อมชาวบ้านเข้าถึงการให้บริการกระบวนการยุติธรรม

วันที่ 14 มีนาคม 2567 นายคมกริช เจริญพัฒนสมบัติ รองผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เป็นประธานเปิดโครงการฝึกอบรมเพื่อพัฒนาศักยภาพคณะกรรมการศูนย์ยุติธรรมชุมชน และโครงการนิเทศ ติดตาม และประเมินผลการปฏิบัติงานของศูนย์ยุติธรรมชุมชนในพื้นที่จังหวัดประจวบฯ ประจำปี 2567 มีนายวสันต์ เภรีวิค ยุติธรรมจังหวัดประจวบฯ และผู้อำนวยการสำนักงานคุมประพฤติจังหวัด กล่าวรายงาน มีคณะกรรมการศูนย์ยุติธรรมชุมชน ใน 29 ศูนย์ฯ จาก อ.หัวหิน อ.ปราณบุรี อ.สามร้อยยอด และ อ.กุยบุรี เจ้าหน้าที่สำนักงานยุติธรรมจังหวัด เข้าร่วมที่ห้องเกาะหลัก ชั้น 5 ศาลากลางจังหวัดประจวบคีรีขันธ์

นายวสันต์ เภรีวิค ยุติธรรมจังหวัด กล่าวว่าจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ มีศูนย์ยุติธรรมชุมชน 60 แห่ง เป็นกลไกหลักในระดับพื้นที่ตำบล ในการส่งเสริมและสนับสนุนให้ประชาชนในชุมชนเข้าถึงการให้บริการด้านกระบวนการยุติธรรมอย่างเท่าเทียมและทั่วถึง รวมทั้งกระทรวงยุติธรรมได้กำหนดเป้าหมายในการพัฒนาศักยภาพคณะกรรมการศูนย์ยุติธรรมชุมชน ให้มีองค์ความรู้ที่จำเป็นและเพียงพอต่อการให้ความช่วยเหลือประชาชน ควบคู่ไปกับการสนับสนุนการพัฒนาคุณภาพในการบริหารจัดการศูนย์ยุติธรรมชุมชน

นายวสันต์ กล่าวต่อว่า การฝึกอบรมเพื่อพัฒนาศักยภาพคณะกรรมการศูนย์ยุติธรรมชุมชน จะทำให้คณะกรรมการศูนย์ยุติธรรมชุมชน มีความรู้ ความเข้าใจนโยบายของกระทรวงยุติธรรม และแนวทางการดำเนินงานของศูนย์ยุติธรรมชุมชน นำไปสู่การปฏิบัติได้อย่างมีประสิทธิภาพและประสิทธิผล โดยมีการดำเนินโครงการนิเทศ และติดตามศูนย์ยุติธรรมชุมชน ควบคู่กับการดำเนินโครงการฝึกอบรมเพื่อพัฒนาศักยภาพคณะกรรมการศูนย์ยุติธรรมชุมชน เพื่อเป็นช่องทางในการสะท้อนและรับฟังสภาพปัญหาของศูนย์ยุติธรรมชุมชน และเกิดความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างศูนย์ยุติธรรมชุมชนและสำนักงานยุติธรรมจังหวัด อีกทางหนึ่งด้วย การจัดโครงการฝึกอบรมฯ ครั้งนี้ เป็นรุ่นที่ 1 จำนวน 29 ศูนย์ มาจาก 4 อำเภอ คือ หัวหิน ปราณบุรี สามร้อยยอด และกุยบุรี

ด้านนายคมกริช เจริญพัฒนสมบัติ รองผู้ว่าราชการจังหวัด กล่าวว่า จากคำกล่าวรายงาน จะเห็นได้ว่าคณะกรรมการศูนย์ยุติธรรมชุมชน เป็นกลไกหลักในระดับพื้นที่ตำบล ในการส่งเสริมและสนับสนุนให้ประชาชนในชุมชนเข้าถึงการให้บริการด้านกระบวนการยุติธรรมอย่างเท่าเทียมและทั่วถึง การส่งเสริมให้ประชาชนในพื้นที่ใช้กระบวนการยุติธรรมทางเลือก ในการแก้ไขปัญหาข้อพิพาทที่เกิดขึ้น รวมถึงการให้การสงเคราะห์ช่วยเหลือผู้พ้นโทษที่กลับเข้ามาอาศัยในชุมชนอย่างเหมาะสม เพื่อป้องกันการกระทำผิดซ้ำ จึงมีการจัดกิจกรรมนี้ขึ้น เพื่อพัฒนาศักยภาพคณะกรรมการศูนย์ยุติธรรมชุมชนให้มีความพร้อมในการปฏิบัติงานมีความรู้ ความเข้าใจ และทักษะที่จำเป็นต่อการขับเคลื่อนภารกิจ 5 ด้าน ของศูนย์ยุติธรรมชุมชน พัฒนาระบบการบริหารจัดการศูนย์ยุติธรรมชุมชนในพื้นที่จังหวัดประจวบฯ ให้เป็นไปตามมาตรฐานที่กระทรวงยุติธรรมกำหนด รวมทั้งคณะกรรมการศูนย์ยุติธรรมชุมชนแต่ละแห่ง จะได้มีโอกาสแลกเปลี่ยนองค์ความรู้และแนวทางในการแก้ไขปัญหาอุปสรรค ในการขับเคลื่อนศูนย์ยุติธรรมชุมชนระหว่างกัน ทั้งนี้รู้สึกได้ถึงความตั้งใจของคณะผู้ดำเนินงานที่จะนำเสนอเนื้อหาที่สำคัญ ให้กับผู้เข้าร่วมโครงการ และหวังเป็นอย่างยิ่งว่าทุกท่านจะได้รับความรู้เพื่อนำกลับไปใช้ในการปฏิบัติงาน.

บุญมา ลิบลับ….รายงาน

Categories
ข่าว ทั้งหมด

นายก อบต.ห้วยยาง สั่งระดมรถน้ำช่วยชาวบ้าน บรรเทาภัยแล้ง

นายก อบต.ห้วยยาง สั่งระดมรถน้ำช่วยชาวบ้าน บรรเทาภัยแล้ง

วันที่ 14 มีนาคม 2567 นายธวัชชัย แดงฉ่ำ นายก อบต.ห้วยยาง อ.ทับสะแก จ.ประจวบคีรีขันธ์ พร้อมด้วยนายพิจิตรศักดิ์ สุวรรณโมลี รองนายก อบต.ห้วยยาง จ.อ.นิคม พิมพ์วงค์ษา ปลัด อบต.ห้วยยาง พ.อ.อ.ฉัตรชัย สวียานนท์ หัวหน้างานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย พร้อมเจ้าหน้าที่ ช่วยกันลงพื้นที่บริการน้ำอุปโภค บริโภค ให้ประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนจากแหล่งน้ำต่างๆ ในพื้นที่แห้งขอด มีชาวบ้านเดือดร้อนกว่า 1,000 ครอบครัว

ทั้งนี้สาเหตุจากอ่างเก็บน้ำห้วยมะปราง ตั้งอยู่ระหว่างหมู่ 4 และหมู่ 13 ต.ห้วยยาง เป็นแหล่งน้ำธรรมชาติขนาดใหญ่ มีประชาชนใช้อุปโภคบริโภค 5 หมู่บ้าน คือ หมู่ 2, 4, 6, 7 และ 13 แหล่งน้ำแห้งขอด ทำให้ไม่มีน้ำใช้ในการเกษตรและอุปโภค รวมถึงอ่างเก็บน้ำแพรกขวา โครงการแก้มลิงแพรกขวาอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ก็แห้งจนเห็นสะดืออ่าง

นายธวัชชัย แดงฉ่ำ นายก อบต.ห้วยยาง กล่าวว่าที่ผ่านมาตำบลห้วยยางไม่มีฝนใหญ่มานาน ซึ่งภูเขากับทะเล ห่างกันประมาณ 7 กิโลเมตรเท่านั้น ต.ห้วยยาง จึงขาดแหล่งน้ำขนาดใหญ่ ส่งผลกระทบหลายหมู่บ้าน โดย อบต.ห้วยยาง ได้จ้างรถเอกชน รวมถึงรถน้ำของ อบต.ห้วยยาง กว่า 10 คัน วิ่งนำน้ำไปบรรจุใส่ในหอถังประปาหมู่บ้าน วันละประมาณ 300,000 ลิตร เพื่อแจกจ่ายให้กับชาวบ้าน ไม่ให้ชาวบ้านขาดแคลนน้ำ อุปโภค บริโภค ซึ่ง อบต.จะเป็นผู้ออกค่าไฟฟ้าในการจ่ายน้ำให้ชาวบ้านและไม่ให้เก็บค่าน้ำชาวบ้าน ให้ชาวบ้านใช้น้ำฟรี เพื่อบรรเทาชาวบ้านจนกว่าจะพ้นวิกฤติภัยแล้ง โดยมีการดำเนินการมากว่า 1 อาทิตย์แล้ว.

ณัฐธภพ พันสาย….รายงาน

Categories
กีฬา ข่าว ทั้งหมด

สามร้อยยอดจัดวิ่งกันดุ๊ มีคนร่วมเกือบ 2,000 คน ก่อนมอบธงให้อำเภอหัวหิน

สามร้อยยอดจัดวิ่งกันดุ๊ มีคนร่วมเกือบ 2,000 คน ก่อนมอบธงให้อำเภอหัวหิน

ช่วงเย็นวันที่ 13 มีนาคม 2567 นายกิตติพงศ์ สุขภาคกุล รองผู้ว่าราชการจังหวัด รักษาราชการแทนผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ นายองครักษ์ ทองนิรมล, นายสินาทร โอ่เอี่ยม รองผู้ว่าราชการจังหวัด นายปรีดา สุขใจ ปลัดจังหวัดประจวบฯ ร่วมเป็นประธานเปิดและปล่อยตัวนักวิ่ง ในกิจกรรม “วิ่งกันดุ๊ (RUN KHAN DO)” มีนายสราวุธ ลิ้มอรุณรักษ์ นายก อบจ.ประจวบคีรีขันธ์ หัวหน้าส่วนราชการจังหวัด ทหาร ตำรวจ และนายทนงค์ศักดิ์ ศุภทรัพย์ ดาราชื่อดังมาร่วมกิจกรรมด้วย และมีนายวราวุธ จิรประภานนท์ นายอำเภอสามร้อยยอด นายราม สิงหโศภิษฐ์ นายอำเภอทับสะแก นางณิชชา คงนิล ปลัดอาวุโสอำเภอสามร้อยยอด นายธิติ เนตรสว่าง นายก อบต.สามร้อยยอด นายเสนอ จันทน์เทศ นายก อบต.ศิลาลอย นายสิทธิศักด์ น้อยผลเพชร กำนันตำบลสามร้อยยอด พร้อมหัวหน้าส่วนราชการ ผู้บริหารท้องถิ่น สมาชิกสภาท้องถิ่น กำนัน ผู้ใหญ่บ้านอำเภอสามร้อยยอด อำเภอปราณบุรี นักวิ่งจากอำเภอสามร้อยยอดและจากอำเภอต่างๆ รวมถึงนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทย และชาวต่างชาติ ร่วมกิจกรรมจำนวน 1,723 คน

สำหรับบรรยากาศกิจกรรม “วิ่งกันดุ๊” ครั้งที่ 3 นี้มีสีสันมากมาย โดยกลุ่มองค์กรและหน่วยงาน ต่างนำทีมกองเชียร์แต่งชุดแฟนซีมาเปิดเพลงเต้นและเชียร์นักวิ่งกันอย่างสนุกสนาน นักวิ่งบางคนยังร่วมสนุกมาเต้นกับทีมเชียร์อีกด้วย ใช้เส้นทางวิ่งถนนเลียบชายหาดทะเลสามร้อยยอด หลังเสร็จสิ้นกิจกรรม นายกิตติพงศ์ สุขภาคกุล รองผู้ว่าราชการจังหวัด รักษาราชการแทน ผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ได้ทำพิธีมอบธงให้กับนายพลกฤต พวงวลัยสิน นายอำเภอหัวหิน เพื่อไปจัดกิจกรรม ที่อำเภอหัวหิน ในวันพุธที่ 20 มีนาคม 2567 ต่อไป

กิจกรรม “วิ่งกันดุ๊” เป็นการวิ่งหรือเดินออกกำลังกาย ไม่จำกัดอายุ เพศ อาชีพ เน้นให้มีความหลากหลายของผู้ร่วมกิจกรรม ไม่เน้นชัยชนะ ไม่มีการแข่งขัน เป็นการส่งเสริมสุขภาพด้วยการออกกำลังกาย โดยการเดินและวิ่งให้ร่างกายมีการเคลื่อนไหว เพื่อให้สุขภาพร่างกายแข็งแรง เริ่มที่อำเภอปราณบุรี แล้วเปลี่ยนไปจัดทุกอำเภอ รวม 8 อำเภอ.


ฐิติชญา แสงสว่าง….รายงาน

Categories
ข่าว ทั้งหมด

กลับมาอีกครั้ง มหกรรมประกวดพระบูชาพระเครื่องและเครื่องรางของขลัง ที่ห้างบลูพอร์ตหัวหิน

กลับมาอีกครั้ง มหกรรมประกวดพระบูชาพระเครื่องและเครื่องรางของขลัง ที่ห้างบลูพอร์ตหัวหิน

ศูนย์การค้าบลูพอร์ตหัวหิน จ.ประจวบฯ ร่วมกับชมรมพระเครื่องอำเภอกุยบุรี จัดนิทรรศการประกวดอนุรักษ์พระบูชาพระเครื่อง เหรียญพระคณาจารย์และเครื่องรางของขลังขึ้น ในวันที่ 23 – 24 มีนาคม 2567 ที่ชั้น 3 บลูพอร์ตหัวหิน โดยมีนายสัญญา วิจิตรจินดา (ญา หัวหิน) ประธานกรรมการบริหารสมาคมผู้นิยมพระเครื่องฯ จังหวัดประจวบฯ เป็นประธานดำเนินงาน ร.ต.ต.ธิติ เนตรสว่าง นายก อบต.สามร้อยยอด, นี สะพานใหม่, เพ็ญ ท่ายาง และโชค อุตรดิตถ์ เป็นที่ปรึกษากิตติมศักดิ์ งานนี้ถือเป็นงานมหกรรมการประกวดพระงานใหญ่รับต้นปี 2567 โดยเฉพาะวันที่ 24 มีนาคมมีการประกวดพระเครื่องกว่า 36 รายการ เริ่มเปิดให้ส่งพระตั้งแต่เวลา 9.00 น. เป็นต้นไป

นายสัญญา วิจิตรจินดา กล่าวว่า การจัดนิทรรศการประกวดการอนุรักษ์พระบูชาพระเครื่อง เหรียญพระคณาจารย์และเครื่องรางของขลัง ครั้งนี้ ถือว่าเป็นงานใหญ่สำคัญอีกงานนึง ที่นักสะสมพระเครื่องทั่วประเทศได้ให้ความสนใจกันมาก เพื่ออนุรักษ์พุทธศิลปะไทยและส่งเสริมกล่อมเกลาจิตใจให้ประชาชนร่วมกันศึกษาหาความรู้เกี่ยวกับศิลปะ วัฒนธรรมของพระพุทธศาสนา และมีผู้ใหญ่หลายๆ ท่านให้การสนับสนุนการจัดงานในครั้งนี้ สำหรับสถานที่จัดงานบลูพอร์ตหัวหิน เป็นพื้นที่ที่สะดวกสบาย ติดแอร์ ที่นักสะสมสามารถพาครอบครัวมาพักผ่อน ช้อปปิ้ง นอกเหนือจากมาร่วมงานประกวดพระได้อีกด้วย และยิ่งไปกว่านั้น สำหรับท่านผู้ใหญ่และเซียนพระชื่อดังระดับประเทศหลายๆ ท่านตอบรับมาร่วมในการประกวดพระในครั้งนี้ด้วย

สำหรับรางวัลชนะเลิศคะแนนรวมสูงสุด แต่ละรายการ จะได้รับเงินสด 20,000 บาท และพระปิดตาเจริญยศ (เนื้อใบลาน, เนื้อผงธูป และเนื้อเกษร) ที่ปลุกเสกโดยพระครูรัตนภาวนาวิสุทธิ์ วิ. (หลวงพ่อนวณ ปริสุทโธ) วัดแก้วเจริญ อ.อัมพวา จ.สมุทรสงคราม ซึ่งเป็นเกจิอาจารย์ชื่อดัง ที่มีลูกศิษย์ศรัทธามากมายทั่วประเทศ เพิ่มพุทธคุณให้ทรงพลังอำนาจพุทธาคมประกอบด้วยความศักดิ์สิทธิ์และบุญญาบารมี เหมาะสมคู่ควรแก่การบูชาและเมตตาให้ผู้ชนะแต่ละรายการ

นอกจากการประกวดพระเครื่องฯ แล้ว ยังมีแผงพระชั้นนำจากทั่วประเทศ กว่า 1,000 แผง มาเปิดแผงพระให้พี่น้องประชาชนที่นิยมพระเครื่อง เครื่องราง ของขลัง ได้เลือกชมและเช่าอีกด้วย ขอเชิญชวนเพื่อนพ้องน้องพี่และนักสะสมพระเครื่องทั่วประเทศ มาร่วมในงานนิทรรศการประกวดการอนุรักษ์พระบูชาพระเครื่อง เหรียญพระคณาจารย์และเครื่องรางของขลัง ที่จะจัดขึ้นในวันที่ 23 – 24 มีนาคมนี้ บริเวณชั้น 3 บลูพอร์ตหัวหิน จ.ประจวบฯ สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ บลูพอร์ตหัวหิน โทร.032 – 905111, เฟซบุ๊ก : Bluport Hua Hin Official หรือ Line : @Bluport.

Categories
ข่าว ทั้งหมด

ธ.ก.ส.ประจวบคีรีขันธ์ ส่งมอบฝายชะลอน้ำให้ชุมชน

ธ.ก.ส.ประจวบคีรีขันธ์ ส่งมอบฝายชะลอน้ำให้ชุมชน

วันที่ 13 มีนาคม 2567 นายสามารถ เอี่ยมวงษ์ รองผู้อำนวยการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร ภาคตะวันตก ธ.ก.ส.เกาะยายฉิม ธ.ก.ส.จังหวัดประจวบดีรีขันธ์ ร่วมกับหัวหน้าส่วนราชการ ผู้นำท้องที่ ผู้นำท้องถิ่น ครู นักเรียนและชุมชนบ้านห้วยพลู หมู่ 11 ต.ร่อนทอง อ.บางสะพาน จ.ประจวบคีรีขันธ์ จัดกิจกรรมเรียงหินสร้างความมั่นคงให้กับฝายชะลอน้ำบ้านหุบเพชร ที่ได้รับงบประมาณค่าวัสดุอุปกรณ์ในการสร้างจาก ธ.ก.ส. 150,000 บาท และชุมชนช่วยงานทดแทนค่าจ้างแรงงาน 25,000 บาท รวมงบประมาณในการก่อสร้างเป็นเงิน 175,000 บาท เป็นฝายแบบคอนกรีตเสริมเหล็กแทนดินเรียงหินท้าย ฝายกว้าง 3 เมตร ยาว 5 เมตร สูง 2 เมตร ขุดลอกลำห้วยยาว 100 เมตร สามารถกักเก็บน้ำได้ 1,000 ลูกบาศก์เมตร มีผู้ได้รับประโยชน์เป็นลูกค้าธนาคารจำนวน 20 ครัวเรือน เกษตรกรและชุมชนทั่วไป 40 ครัวเรือน รวม 60 ครัวเรือน พื้นที่การเกษตรจำนวน 1,200 ไร่ แบ่งเป็นปาล์มน้ำมัน 100 ไร่ ยางพารา 800 ไร่ ทุเรียน 300 ไร่

กิจกรรมครั้งนี้เป็นโครงการสืบสาน รักษา ต่อยอด ปลูกป่าเฉลิมพระเกียรติ สร้างฝายซะลอน้ำ เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 68 พรรษา วันที่ 28 กรกฎาคม 2563 ซึ่ง ธ.ก.ส เล็งเห็นว่าเป็นโครงการที่มีคุณค่า มีคุณประโยชน์ต่อเกษตรกรลูกค้าและชุมชน ทั้งภาคเกษตรกรรมและการอุปโกคบริโภคของชุมชน เป็นการสร้างความชุ่มชื้น ช่วยฟื้นฟูระบบนิเวศ ส่งเสริมการอนุรักษ์ดิน ป่า น้ำ ประกอบกับปี 2566 ที่ผ่านมา เกษตรกรลูกค้าประสบปัญหาภัยแล้งต่อเนื่อง ขาดน้ำในการอุปโภคและบริโภค ส่งผลเสียหายต่อพืชผลทางเกษตร ธ.ก.ส. จึงสนับสนุนงบประมาณเป็นกรณีพิเศษ สร้างฝายชะลอน้ำ 2 แห่ง โดยคัดเลือกพื้นที่ป่าต้นน้ำไทรคู่ หมู่ 2 ต.ร่อนทอง สร้างฝ่ายชะลอน้ำบ้านไทรคู่ ซึ่งมีจำนวนครัวเรือนที่ได้รับประโยชน์เพื่อการบริโภค อุปโภครวมทั้งสิ้น 167 ครัวเรือน เป็นลูกค้า ธ.ก.ส. 62 ครัวเรือน เกษตรกรบุคคลทั่วไป 105 ครัวเรือน และประโยชน์ด้านเกษตรกรรมได้แก่ ปาล์ม ยางพารา ผลไม้ รวม 2,986 ไร่

การสร้างฝายชะลอน้ำทั้งสองแห่งนี้ ได้รับความร่วมมือร่วมใจจากชุมชน หน่วยงานภาครัฐและเอกชน จนประสบความสำเร็จ ก่อให้เกิดคุณประโยชน์มหาศาล และเพื่อเกิดความยั่งยืนอย่างแท้จริง ธ.ก.ส. ได้ทำข้อตกลงส่งมอบฝายทั้งสองเห่งนี้ให้กับนายอำเภอบางสะพาน ส่งมอบต่อให้กับ อบต.ร่อนทอง และผู้นำชุมชนบ้านไทรคู่ หมู่ 2 และชุมชนบ้านห้วยพลู หมู่ 11 ช่วยดูแลรักษาต่อยอด สร้างความมั่นคงและยั่งยืนกับเกษตรกรในพื้นที่สืบไป.

พิศิษฐ์ รื่นเกษม….รายงาน

Categories
ข่าว ทั้งหมด

เตรียมจัดประมงไทยฟิชชิ่งบางสะพาน ใช้จุดตกปลาที่เรือสุโขทัยอับปาง เป็นสนามแข่งขัน

เตรียมจัดประมงไทยฟิชชิ่งบางสะพาน ใช้จุดตกปลาที่เรือสุโขทัยอับปาง เป็นสนามแข่งขัน

วันที่ 13 มีนาคม 2567 นายสุทิน ประเสริฐศักดิ์ นายอำเภอบางสะพาน น.ส.พัชรศรี สมบัติทวีพูน ท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ร่วมกันแถลงข่าว THAILAND amazing งานส่งเสริมการท่องเที่ยว “ประมงไทยฟิชชิ่งบางสะพาน ครั้งที่ 2 ปี 2567” ภายใต้โครงการขับเคลื่อนแผนพัฒนาการท่องเที่ยวแห่งชาติ ฉบับที่ 3 พ.ศ.2566 – 2570 ซึ่งเป็นกิจกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยงเชิงอาหาร จังหวัดประจวบคีรีขันธ์

อำเภอบางสะพาน ร่วมกับสำนักงานการท่องเที่ยวและกีฬาประจวบคีรีขันธ์ สำนักงานประมงอำเภอบางสะพาน สมาคมชาวประมงบางสะพาน เครือข่ายชาวประมงบางสะพาน วิสาหกิจชุมชนประมงและการท่องเที่ยวบางสะพาน กลุ่มเรือตกปลาบางสะพาน อบต.แม่รำพึง การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานประจวบฯ และบริษัท ท่าเรือประจวบ จำกัด กลุ่มเหล็กสหวิริยา เอสวีแอลกรุ๊ป ร่วมกันจัดโครงการส่งเสริมการท่องเที่ยว การแข่งขัน “ประมงไทยฟิชชิ่งบางสะพาน ครั้งที่ 2” ในวันที่ 23 – 24 มีนาคม 2567 ณ ลานขึ้นลงเรืออ่าวเทียน พื้นที่บริษัท ท่าเรือประจวบ จำกัด ต.แม่รำพึง อ.บางสะพาน จ.ประจวบคีรีขันธ เพื่อเพิ่มความหลากหลายและกระจายรายได้จากการท่องเที่ยวสู่ชุมชน ส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงอาหาร ซึ่งเป็น SOFT POWER ที่สำคัญของจังหวัดและทรัพยากรทางทะเลของท้องถิ่น ส่งเสริมอาชีพให้แก่ชุมชนให้สามารถสร้างมูลค่าเพิ่มทางเศรษฐกิจ เพื่อให้องค์กรภาคประชาชน ภาคเอกชน และภาครัฐมีการทำงานร่วมกัน และเพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวของอำเภอบางสะพาน จ.ประจวบคีรีขันธ์

ภายในงานมีร้านอาหารที่ทำเมนูจากเนื้อปูม้า ที่เป็นสินค้าเด่นของชุมชน มีการรักษาความสดของปลาที่ได้จากการตก และสาธิตการแล่ปลา มีตลาดให้สามารถนั่งเล่นชิลล์ๆ ริมอ่าวเทียน การแสดงตนตรี และสามารถซื้อสินค้าของฝากได้สำหรับนักท่องเที่ยวทั่วไป ซึ่งการแข่งขันตกปลาเป็นกิจกรรมสนับสนุนและเสริมสร้างความเข้มแข็งขององค์กรชุมชนประมงท้องถิ่น โดยกลุ่มเรือตกปลาบางสะพาน วิสาหกิจชุมชนประมงและการท่องเที่ยวบางสะพาน สำหรับผู้สนใจร่วมกิจกรรมตกปลา สอบถามรายละเอียดและสมัครได้ที่ คุณโทนี่ บอย ประธานกลุ่มเรือตกปลาบางสะพาน โทร.089 – 4515451 ซึ่งนักกีฬาตกปลาที่สมัครมีสิทธิลุ้นรับรางวัลใหญ่ จากการจับฉลากภายในงานอีกด้วย

คุณโทนี่ บอย ประธานกลุ่มเรือตกปลาบางสะพาน กล่าวว่า บางสะพานเป็นจุดสำคัญสำหรับนักตกปลา เพราะมีซั้งไม้ไผ่ที่ชาวบ้านไปทำไว้เพื่ออนุรักษ์ให้ปลาเข้ามาวางไข่ จะมีปลาหลากหลายชนิดมาก ซึ่งที่อื่นไม่มี และเป็นแหล่งอุดมสมบูรณ์มาก นอกจากนี้ยังมีจุดตกปลาแห่งใหม่อีกแห่ง คือ จุดตกปลาเรือรบหลวงสุโขทัย ที่กองทัพเรือได้ทำการปลดอาวุธและวัตถุอันตราย รวมทั้งเสากระโดงเรือออกแล้ว ตอนนี้มีปลาเข้ามาอาศัยจำนวนมาก ซึ่งนักท่องเที่ยวสามารถเข้าไปตกปลาได้หลากหลายชนิด เชื่อว่าจะมีนักกีฬากว่า 300 คนที่เข้ามาร่วมการแข่งขัน.

พิสิษฐ์ รื่นเกษม….รายงาน