Categories
ข่าว ทั้งหมด

ผู้ว่าฯ ประจวบฯ ระดมรถน้ำเร่งดับไฟที่ยังคุใต้บ่อขยะเก่าหัวหิน พร้อมสั่งดูแลประชาชนที่ได้รับผลกระทบ

ผู้ว่าฯ ประจวบฯ ระดมรถน้ำเร่งดับไฟที่ยังคุใต้บ่อขยะเก่าหัวหิน พร้อมสั่งดูแลประชาชนที่ได้รับผลกระทบ

เมื่อเวลา 19.00 น. วันที่ 8 พฤษภาคม 2567 นายสมคิด จันทมฤก ผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบฯ พร้อมด้วยนายพลกฤต พวงวลัยสิน นายอำเภอหัวหิน นางไพลินธ์ กองพันธ์ รองนายกเทศมนตรีเมืองหัวหิน นายธนวัฒน์ เรืองเดช หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดประจวบฯ อบต. กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ลงพื้นที่บ่อขยะเก่าพื้นที่ 170 ไร่ หมู่ 1 บ้านหนองพรานพุก ต.ทับใต้ อ.หัวหิน ภายหลังเกิดเหตุเพลิงไหม้ซากขยะกองมหึมา สูงท่วมหัวที่หมักหมมมานานกว่า 10 ปี จากสภาพอากาศร้อนจัด กินพื้นที่เป็นวงกว้างกว่า 20 ไร่ ส่งผลทำให้กลุ่มควันจำนวนมากลอยขึ้นด้านบนและกระจายไปตามทิศทางลม รบกวนประชาชนรอบข้างได้รับผลกระทบ เมื่อวันที่ 7 พฤษภาคมที่ผ่านมา ภายหลังเกิดเหตุ นายอำเภอหัวหินได้ประสานหน่วยงานต่างๆ ระดมรถจักรกล รถแบคโฮ เข้าไปเปิดทางรอบพื้นที่ไฟไหม้ เพื่อให้รถน้ำจากเทศบาล อบต.และหน่วยงานต่างๆ เข้าไปฉีดน้ำดับไฟอย่างเร่งด่วน เนื่องจากใต้กองขยะมีความร้อนสะสมเป็นจำนวนมาก และล่าสุดเหลือกลุ่มควันไม่มาก โดยมีเจ้าหน้าที่ยังคงฉีดน้ำดับไฟอย่างต่อเนื่องจนกว่าจะดับ

นายสมคิด จันทมฤก กล่าวว่า ไฟไหม้บ่อขยะเก่าตั้งแต่เมื่อวันที่ 4 – 5 แล้ว เริ่มมอดไปช่วงหนึ่งเนื่องจากฝนตก แต่วันนี้มีเปลวไฟขึ้นมา แสดงว่าข้างล่างยังมีไฟอยู่ ดูแล้วจะมีแนวโน้มเพิ่มมากขึ้น จากการประเมินด้วยสายตา มีแนวทางเบื้องต้นคือ พรุ่งนี้เช้า จะระดมเครื่องจักรเข้ามา โดยจะใช้รถแบคโฮเปิดกองขยะ เนื่องจากไม่มั่นใจว่ากองขยะด้านล่างมีความลึกขนาดไหน แต่เท่าที่ดูด้วยสายตา สูงจากพื้นประมาณ 5 เมตร จะใช้วิธีเปิดแล้วใช้น้ำฉีดเข้าไป ซึ่งตอนนี้เครื่องจักรยังไม่พอ พรุ่งนี้จะระดมรถแบคโฮอย่างน้อย 6 ตัว แล้วรถน้ำเข้ามา 10 กว่าคัน จะเปิดทางเพิ่มมากขึ้น เนื่องจากว่าตอนนี้ทางขึ้นมีทางหลักอยู่ทางเดียว เราจะอ้อมไปอีกทางหนึ่ง โดยใช้วิธีการเดียวกัน คือจะเปิดหน้าแล้วใช้วิธีเอาน้ำไปฉีดพ่น

“ตอนนี้หน่วยงานควบคุมมลพิษ เอาเครื่องมือมาวัดอากาศ วัดเปรียบเทียบระยะเวลาเป็นช่วงๆ เพื่อดูว่าคุณภาพอากาศเป็นอย่างไรบ้าง แต่ที่เป็นห่วง คือการเผาไหม้ที่ไม่สมบูรณ์ จะมีคาร์บอนไดออกไซด์ที่มีผลกระทบต่อการหายใจ หน่วยงานสาธารณสุขไปเดินสำรวจ พบว่าที่หมู่ 1 หมู่ 10 และหมู่ 13 ตำบลทับใต้ ที่มีผลกระทบเนื่องจากว่าควันลอยไปด้านนั้น มีทั้งตาแดง หายใจลำบากแล้วก็แน่นหน้าอก สิ่งที่เป็นห่วงคือว่าถ้ายังไม่สามารถที่จะควบคุมไฟได้ ต้องขอความร่วมมือพี่น้องประชาชนคือดูแลตัวเอง ถ้ามีความจำเป็นจะต้องขยับออกจากพื้นที่”

นายธนวัฒน์ เรืองเดช กล่าวว่า จากเหตุเพลิงไหม้บ่อขยะเก่าไม่ได้ใช้งานนับ 10 ปี พื้นที่หมู่ที่ 1 บ้านหนองพรานพุก ต.ทับใต้ อ.หัวหิน พื้นที่กว่า 20 ไร่ คาดว่ามีสาเหตุมาจากความร้อนที่สะสมอยู่ใต้กองขยะจากสภาพอากาศที่ร้อนจัด โดยเพลิงได้ลุกลามและเกิดกลุ่มควันจำนวนมาก ลอยไกลไปถึงเขตเทศบาลเมืองหัวหิน จึงได้ระดมรถบรรทุกน้ำควบคุมเพลิง ประกอบกับมีฝนตกลงมาเมื่อวานนี้ ทำให้เบื้องต้นสามารถควบคุมเพลิงไว้ได้ ขณะนี้ยังมีกลุ่มควันเหลืออยู่บ้างเล็กน้อย ได้มีการพลิกกองขยะและฉีดน้ำ เฝ้าระวังไม่ให้เกิดเพลิงลุกไหม้ซ้ำ พร้อมตรวจวัดคุณภาพอากาศบริเวณเกิดไฟไหม้ โดยสำนักงานสิ่งแวดล้อมและควบคุมมลพิษที่ 8 ราชบุรี สรุปอยู่ในเกณฑ์ปกติ ไม่ส่งผลกระทบต่อประชาชน ค่า PM 2.5 ณ สถานี อ.หัวหิน วัดได้ 17.0 มคก./ลบ.ม. อยู่ในเกณฑ์ดี

ขณะเดียวกัน นพ.วรา เศลวัตนะกุล นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดประจวบฯ พร้อมด้วยนายพลกฤต พวงวลัยสิน นายอำเภอหัวหิน นางอุษา พวงวลัยสิน นายกกิ่งกาชาดอำเภอหัวหิน นายเจนวิท ผลิศักดิ์ สาธารณสุขอำเภอหัวหิน และบุคลากรสาธารณสุขในพื้นที่ เข้าเยี่ยมเยียน มอบถุงยังชีพ พร้อมให้คำแนะนำแก่ประชาชนในละแวกบ้านเรือนที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ดังกล่าว รวมถึงดูแลประชาชนกลุ่มเปราะบางเป็นอย่างดี.

Categories
ข่าว ทั้งหมด

เจ้าของสวนทุเรียนป่าละอูเศร้า โดนพายุพัดร่วงเสียหายกว่า 3 แสนบาท

เจ้าของสวนทุเรียนป่าละอูเศร้า โดนพายุพัดร่วงเสียหายกว่า 3 แสนบาท

วันที่ 7 พฤษภาคม 2567 นายพลกฤต พวงวลัยสิน นายอำเภอหัวหิน จ.ประจวบฯ เปิดเผยว่าหลังจากที่เมื่อช่วงบ่ายของวันที่ 6 พฤษภาคมที่ผ่านมา เกิดพายุฤดูร้อนพัดถล่มในพื้นที่ ต.ห้วยสัตว์ใหญ่ อ.หัวหิน ทำให้บ้านเรือนและทรัพย์สินราษฎรได้รับความเสียหาย เช่นที่ หมู่ 5 บ้านเฉลิมพร หลังคาบ้านของนายประดิษฐ์ ตุ้มทอง ถูกลมพัดหลังคาปลิวไปทั้งแถบ ที่หมู่ 9 บ้านโป่งสำโรง หลังคาโรงรถของนายคะนอง จันทะสาย และคอกวัวของ น.ส.งามนิตย์ พุ่มสวัสดิ์ พังเสียหาย นอกจากนี้ ที่หมู่ 8 บ้านเฉลิมราชพัฒนา พายุฤดูร้อนยังได้พัดสวนทุเรียนของนายขจรพัฒน์ งามขำขันธ์ เสียหายไปประมาณ 3 ไร่ ผลทุเรียนป่าละอูที่กำลังสุกและเตรียมตัดไว้ขาย ถูกพายุพัดร่วงเกลื่อนโคนต้นกว่า 1 ตัน คิดเป็นมูลค่ากว่า 3 แสนบาท

นายพลกฤต กล่าวว่าขณะนี้ได้ประสาน อบต. กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน เข้าช่วยเหลือดูแลและสำรวจความเสียหาย เพื่อหางบประมาณช่วยเหลือเบื้องต้น พร้อมทั้งสั่งการให้เจ้าหน้าที่ติดตามสภาพอากาศในช่วงนี้อย่างใกล้ชิด.

Categories
ข่าว ทั้งหมด

บลูพอร์ตร่วมสนับสนุน “หัวหินมาราธอน 2024” แจกรางวัลสุดพรีเมียมให้นักวิ่ง

บลูพอร์ตร่วมสนับสนุน “หัวหินมาราธอน 2024” แจกรางวัลสุดพรีเมียมให้นักวิ่ง

ศูนย์การค้าบลูพอร์ตหัวหิน ร่วมสนับสนุนงานวิ่งสุดยิ่งใหญ่แห่งปี การแข่งขันวิ่งพิทักษ์หัวหิน ครั้งที่ 18 หัวหินมาราธอน ครั้งที่ 4 ชิงถ้วยพระราชทานสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ในวันอาทิตย์ที่ 12 พฤษภาคม 2567 เวลา 03.00 – 11.00 น. ปล่อยตัวที่บริเวณวัดเขาไกรลาศ อ.หัวหิน ผ่านเส้นทางเมืองหัวหินสุดคลาสสิคและชายหาดหัวหินสุดชิล เพื่อเป็นการหาทุนสนับสนุนกิจกรรมของชมรมพิทักษ์หัวหิน ในการพิทักษ์สิ่งแวดล้อมในเขตเทศบาลเมืองหัวหิน ร่วมกันสร้างจิตสำนึกในการดูแลรักษาสิ่งแวดล้อมชายหาด และสนับสนุนต่อเนื่องโครงการพัฒนาระบบนิเวศป่าชายเลนผืนสุดท้ายของเมืองหัวหิน เนื้อที่รวม 18 ไร่ บริเวณวัดเขาไกรลาศ หมู่บ้านเขาตะเกียบ อนุรักษ์ให้เป็นสถานที่สำหรับศึกษาระบบนิเวศอันสมบูรณ์ รวมทั้งทำให้เป็นพื้นที่ในรูปแบบของศูนย์การท่องเที่ยวเชิงนิเวศในนาม “โครงการไกรลาศนิเวศ” รวมถึงสนับสนุนเมืองหัวหินเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ กระตุ้นเศรษฐกิจด้านการท่องเที่ยวในเมืองหัวหิน

โดยแบ่งการแข่งขันออกเป็น 4 ระยะทาง ได้แก่ มาราธอน 42.195 กิโลเมตร ชิงถ้วยพระราชทาน โอเวอร์ออล สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ประเภทชาย 1 รางวัล และประเภทหญิง 1 รางวัล ประเภทฮาล์ฟมาราธอน 21 กิโลเมตร มินิมาราธอน 10.5 และฟันรัน 5 กิโลเมตร โดยคาดว่าจะมีนักวิ่งทั้งชาวไทยและต่างประเทศเข้าร่วมการแข่งขันในครั้งนี้กว่า 3,500 คน

สำหรับนักวิ่งที่มาร่วมงานหัวหินมาราธอน ครั้งที่ 4 นี้ ช่วงวิ่งผ่านด้านหน้าลานเดอะสแควร์ บลูพอร์ตหัวหิน ทางบลูพอร์ตได้ตั้งจุดบริการขนมหวานเติมพลัง เป็นขนมหวานจากหัวหินเทสต์ ซึ่งเป็นโซนของฝากชื่อดังจากบลูพอร์ต ให้นักวิ่งได้ลิ้มลองความอร่อยของร้านของฝากท้องถิ่นชื่อดังต่างๆ ในเมืองหัวหิน และน้ำผลไม้จากชบาไว้คอยบริการนักวิ่งเพื่อเพิ่มความสดชื่นในการวิ่งครั้งนี้ รวมถึงจุดบริการในการเข้าห้องน้ำที่สะอาดและสะดวกสบายมากถึง 2 จุดใหญ่ที่บริเวณชั้น G บลูพอร์ตหัวหิน นอกจากนี้ยังมีโปรโมชั่นพิเศษสุด สำหรับนักวิ่งงานหัวหินมาราธอนครั้งที่ 4 เมื่อลงทะเบียนหน้างาน รับเสื้อและบิบ ในวันที่ 11 พฤษภาคม เพียงแวะมาที่บูธ Port Club ภายในงาน สมัครสมาชิกใหม่ รับทันทีคูปองเงินสดมูลค่า 100 บาท (ไม่มีขั้นต่ำในการใช้) สามารถใช้ได้ตั้งแต่วันที่ 11 – 15 พฤษภาคม 2567 (เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทกำหนด) ลุ้นร่วมจับฉลากชิงของรางวัลสุดพรีเมียมจากบลูพอร์ตหัวหิน แจกตลอดทั้งวัน สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ บลูพอร์ตหัวหิน โทร.032 – 905111 เฟซบุ๊ก : Bluport Hua Hin Official หรือ Line : @Bluporthuahin.

Categories
ข่าว ทั้งหมด

ไฟไหม้บ่อขยะหัวหิน ควันเริ่มกระทบหนักชาวบ้าน

ไฟไหม้บ่อขยะหัวหิน ควันเริ่มกระทบหนักชาวบ้าน

วันที่ 7 พฤษภาคม 2567 นายพลกฤต พวงวลัยสิน นายอำเภอหัวหิน จ.ประจวบฯ พร้อมด้วยนายนพพร วุฒิกุล นายกเทศมนตรีเมืองหัวหิน นายเชาวรัตน์ เกิดทอง นายก อบต.ทับใต้ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ลงพื้นที่บ่อขยะเก่า พื้นที่ 170 ไร่ หมู่ 1 บ้านหนองพรานพุก ต.ทับใต้ อ.หัวหิน ซึ่งก่อนหน้านี้เกิดไฟไหม้เมื่อวันที่ 4 พฤษภาคมที่ผ่านมาและควบคุมเพลิงไว้ได้แล้ว แต่กลับมาปะทุซ้ำขึ้นอีกรอบ กินเป็นวงกว้างกว่า 20 ไร่ ส่งผลทำให้เกิดกลุ่มควันจำนวนมากลอยขึ้นด้านบน และกระจายไปตามทิศทางลม รบกวนประชาชนรอบข้าง รวมถึงชุมชนในเขตเทศบาลเมืองหัวหิน เริ่มได้รับผลกระทบหนัก

นายพลกฤต พวงวลัยสิน กล่าวว่าขณะนี้ได้ประสานหน่วนงานต่างๆ ระดมรถจักรกล รถแบคโฮ เข้าไปเปิดทางรอบพื้นที่ไฟไหม้ เพื่อให้รถน้ำจากเทศบาล อบต.และหน่วยงานต่างๆ เข้าไปฉีดน้ำดับไฟอย่างเร่งด่วน เนื่องจากใต้กองขยะมีความร้อนสะสมเป็นจำนวนมาก พร้อมกันนี้ได้ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนทราบและลงพื้นที่แจกหน้ากากอนามัยให้กับประชาชนที่ได้รับผลกระทบ รวมถึงดูแลประชาชนกลุ่มเปราะบาง ส่วนสาเหตุการปะทุ คาดว่าเกิดจากความร้อนใต้กองขยะ ซึ่งต้องควบคุมดูแลต่อไปจนกว่าจะหมดควัน คาดว่าจะใช้เวลา 2 – 3 วัน.

Categories
ข่าว ทั้งหมด

ช้างป่าละอูโขลงใหญ่ 30 ตัว ลงเล่นน้ำดับร้อน อวดโฉมนักท่องเที่ยว

ช้างป่าละอูโขลงใหญ่ 30 ตัว ลงเล่นน้ำดับร้อน อวดโฉมนักท่องเที่ยว

วันที่ 6 พฤษภาคม 2567 นายสมเจตน์ จันทนา ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 3 (สบอ.3) สาขาเพชรบุรี เปิดเผยว่าในช่วงเทศกาลและวันหยุดสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา เพื่อให้การเดินทางใช้รถใช้ถนนมีความปลอดภัยบนเส้นทางสายเขาหุบเต่า – พุไทร – ไทรเอน และเส้นทางสายไปน้ำตกป่าละอู ต.ห้วยสัตว์ใหญ่ อ.หัวหิน จ.ประจวบฯ เนื่องจากมีนักท่องเที่ยวใช้เส้นทางจำนวนมาก จึงมีเจ้าหน้าที่หน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติที่ กจ.7 (เขาหุบเต่า) และสมาคมอนุรักษ์สัตว์ป่า (WCS) ประเทศไทย เฝ้าระวังและดูแลความปลอดภัยให้ช้างและผู้ใช้เส้นทางบริเวณพื้นที่ที่เสี่ยงกับช้างป่าเดินข้ามถนน ในช่วงเวลาที่นักท่องเที่ยวและชุมชนในพื้นที่สัญจรไปมาตามเส้นทางสายหลัก ก่อนผลักดันและเฝ้าระวังอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดจากสภาพอากาศที่ร้อนอบอ้าว ทำให้ช้างป่าละอูโขลงใหญ่ประมาณ 30 ตัว พากันลงเล่นน้ำเริงร่าคลายร้อน บริเวณอ่างกลาง ทางไปน้ำตกป่าละอู พิกัด 47P 557051 1384964 ท่ามกลางความตื่นตาตื่นใจจากประชาชนและนักท่องเที่ยวที่ผ่านเส้นทาง แวะชมโขลงช้างและถ่ายภาพเก็บไว้ดูตามๆ กัน โดยมีเจ้าหน้าที่อุทยานฯ เฝ้าระวังความปลอดภัยอย่างใกล้ชิด

ขณะที่อุทยานฯ ขอให้รถทุกชนิดใช้ความเร็วไม่เกิน 60 กิโลเมตรต่อชั่วโมงในจุดที่ช้างป่าเดินบนถนน หากมีการหยุดรถ ควรให้ห่างจากช้างอย่างน้อย 30 เมตร หากช้างเดินเข้าหา ให้เคลื่อนรถหนี หรือรอจนกว่าช้างจะเดินลงจากถนน จึงเคลื่อนรถผ่านไป ห้ามใช้แตรรถ หรือส่งเสียงดังรบกวนช้าง หรือไล่ช้าง เพราะอาจทำให้ช้างโกรธ งดการใช้แฟลชถ่ายภาพ เพราะอาจทำให้ช้างตกใจและตรงเข้ามาทำร้ายได้ นอกจากนั้นให้ติดเครื่องรถยนต์ไว้ตลอดเวลา เพื่อให้เคลื่อนรถหนีได้ทันท่วงที และขอยืนยันว่าที่ผ่านมา ยังไม่มีช้างป่าละอูมีพฤติกรรมดุร้าย หรือทำร้ายบุคคลใดที่ใช้ถนนผ่านเส้นทางดังกล่าว.

Categories
ข่าว ทั้งหมด

ผู้ว่าฯ ประจวบฯ เป็นประธานออกรางวัลใหญ่สลากกาชาดการกุศล รถยนต์ 2 คัน

ผู้ว่าฯ ประจวบฯ เป็นประธานออกรางวัลใหญ่สลากกาชาดการกุศล รถยนต์ 2 คัน

เมื่อเวลา 20.00 น. วันที่ 5 พฤษภาคม 2567 นายสมคิด จันทมฤก ผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบฯ พร้อมด้วย ผศ.ดร.ศศิธร จันทมฤก นายกเหล่ากาชาดจังหวัดประจวบฯ เป็นประธานออกรางวัลสลากกาชาดการกุศลจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ประจำปี 2567 ที่เวทีกลางการจัดงาน ลานพิธีศาลากลางจังหวัดประจวบฯ มีรองผู้ว่าราชการจังหวัด เหล่ากาชาดจังหวัด หัวหน้าส่วนราชการ ข้าราชการ ประชาชน และสื่อมวลชนร่วมเป็นสักขีพยานในการหมุนวงล้อออกรางวัลกาชาดในครั้งนี้ด้วยความเรียบร้อยและโปร่งใส โดยสลากกาชาดการกุศลจังหวัดประจวบฯ ประจำปี 2567 พิมพ์ออกจำหน่าย จำนวน 60,000 ฉบับๆ ละ 100 บาท โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อหารายได้นำไปเป็นค่าใช้จ่ายด้านสาธารณกุศลของเหล่ากาชาดจังหวัดประจวบฯ ในการช่วยเหลือผู้ยากไร้ ผู้ด้อยโอกาส ผู้ประสบสาธารณภัยและกิจกรรมต่างๆ ซึ่งการออกรางวัลในปีนี้ เป็นไปด้วยความเรียบร้อยและโปร่งใส

โดยมีผลการออกรางวัลดังนี้ รางวัลที่ 1 รถยนต์ยี่ห้อมิตซูบิชิ รุ่น NEW XPANDER 1 คัน ได้แก่หมายเลข 02708 รางวัลที่ 2 รถยนต์ยี่ห้อมิตซูบิชิ รุ่น ALL NEW TRITON ตอนครึ่ง 1 คัน ได้แก่หมายเลข 25963 และรางวัลอื่นๆ อีกมากมาย สำหรับผู้ที่ถูกรางวัล ให้นำสลากกาชาดที่ถูกรางวัลพร้อมบัตรประจำตัวประชาชน ติดต่อขอรับของรางวัลได้ที่สำนักงานเหล่ากาชาดจังหวัดประจวบฯ ภายใน 30 วัน จนถึงวันที่ 4 มิถุนายน 2567 หากพ้นกำหนดจะถือว่าสละสิทธิ์ในการขอรับรางวัล.

Categories
ข่าว ทั้งหมด

เด็กแห่ชมเงือกแหวกว่ายภายในพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำหว้ากอจังหวัดประจวบฯ ก่อนเปิดภาคเรียน

เด็กแห่ชมเงือกแหวกว่ายภายในพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำหว้ากอจังหวัดประจวบฯ ก่อนเปิดภาคเรียน

วันที่ 4 พฤษภาคม 2567 นางวนิดา พิมอุบล รองผู้อำนวยการ รักษาการตำแหน่งผู้อำนวยการอุทยานวิทยาศาสตร์พระจอมเกล้า ณ หว้ากอ จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ได้จัดการแสดงโชว์เงือก ส่งท้ายก่อนเปิดภาคเรียน ในช่วงวันหยุดเสาร์ – อาทิตย์ ที่พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำ อุทยานวิทยาศาสตร์พระจอมเกล้า ณ หว้ากอ จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ระหว่างวันที่ 4 – 5 พฤษภาคม 2567 ซึ่งได้รับความสนใจจากเด็กและเยาวชน ทั้งในพื้นที่จังหวัดประจวบคีรีขันธ์และจังหวัดใกล้เคียงเป็นจำนวนมาก โดยมีพ่อแม่ผู้ปกครองนำพาบุตรหลานทยอยเดินทางมาเข้าชมตามรอบการแสดงที่กำหนดไว้ ณ บริเวณตู้ Big Tank อาคารพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำหว้ากอ นอกจากนี้ยังได้เที่ยวชมศึกษาเรียนรู้เกี่ยวกับสัตว์น้ำชนิดต่างๆ ที่อุทยานได้จัดแสดงไว้ ส่วนค่าเข้าชม ผู้ใหญ่และเด็กที่มีส่วนสูง 136 ซม.ขึ้นไป 50 บาท/คน เด็กที่มีความสูงไม่เกิน 135 ซม. 30 บาท/คน ยกเว้นค่าเข้าชมให้พระภิกษุ สามเณร ผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไป ผู้พิการ ผู้ด้อยโอกาส และผู้อยู่ในความดูแลของสถานสงเคราะห์ต่างๆ ประชาชนที่มีที่อยู่ตามบัตรประชาชนในเขตตำบลคลองวาฬ อ.เมือง จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ นักเรียนในระบบ ในพื้นที่จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ในเครื่องแบบ นักศึกษา กศน. ในพื้นที่จังหวัดเพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ และชุมพร

นางวนิดา พิมอุบล เปิดเผยว่า เนื่องจากช่วงนี้ใกล้จะเปิดภาคเรียน และอากาศภายนอกร้อนอบอ้าว จึงมีแนวคิดจัดกิจกรรมให้นักเรียนและเยาวชน รวมถึงผู้ปกครองและนักท่องเที่ยวที่ชื่นชอบและสนใจศึกษาเรียนรู้เกี่ยวกับสัตว์น้ำ ได้ชมการแสดงโชว์เงือก เพื่อสร้างสีสันดึงดูดใจให้กับนักท่องเที่ยวและเยาวชนนักเรียน ผู้ที่สนใจสามารถติดตามกิจกรรมต่างๆ ของอุทยานวิทยาศาสตร์พระจอมเกล้า ณ หว้ากอ ได้ตามเพจเฟซบุ๊กของอุทยาน.

เอกภพ วงษ์ประเสริฐ….รายงาน

Categories
ข่าว ทั้งหมด

อุทยานกุยบุรี เร่งเติมน้ำในบ่อธรรมชาติให้สัตว์ป่า หลังเจอภัยแล้งหนัก

อุทยานกุยบุรี เร่งเติมน้ำในบ่อธรรมชาติให้สัตว์ป่า หลังเจอภัยแล้งหนัก

วันที่ 4 พฤษภาคม 2567 นายอรรถพงษ์ เภาอ่อน หัวหน้าอุทยานแห่งชาติกุยบุรี จ.ประจวบฯ เปิดเผยว่า ตามที่อุทยานแห่งชาติกุยบุรีได้ปรับปรุงแหล่งน้ำแหล่งอาหารให้สัตว์ป่า ซึ่งเป็นแหล่งอาหารหลักของช้างป่า กระทิง วัวแดง อย่างต่อเนื่อง เพื่อให้พื้นที่มีความอุดมสมบูรณ์นั้น แต่เนื่องจากในปีนี้เกิดภาวะแห้งแล้งอย่างรุนแรงและยาวนาน ทำให้น้ำในบ่อเกิดการแห้งขอด จึงสั่งการให้เจ้าหน้าที่เติมน้ำในบ่อน้ำธรรมชาติ เพื่อแก้ไขปัญหาสัตว์ป่าออกนอกพื้นที่ไม่ให้ขยายวงกว้างออกไป และป้องกันไม่ให้สัตว์ป่าออกมาสร้างความเดือดร้อนให้แก่ชาวบ้าน และไม่ย้ายถิ่นไปอยู่ในพื้นที่ ที่มีความเสี่ยงต่อการถูกล่า ทั้งนี้ป่ากุยบุรี เป็นผืนป่าอนุรักษ์ที่มีความหลากหลายทางระบบนิเวศและชีวภาพ แหล่งรวมพันธุ์ไม้หายาก และถิ่นอาศัยของสัตว์ป่านานาชนิด ไม่ว่าจะเป็นช้าง กระทิง วัวแดง เสือโคร่ง สมเสร็จ สัตว์ป่าอยู่อย่างสมบูรณ์มาเป็นร้อยปี

ที่ผ่านมาเคยเกิดปัญหาขัดแย้งกันระหว่างคนกับช้างป่า คนไปบุกรุกที่ช้าง ช้างเข้ากัดกินพืชไร่ ทำให้ช้างป่าถูกฆ่าตายไปหลายตัว ความทราบถึงพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช รัชกาลที่ 9 จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ นำผืนป่าที่นายทุนคืนให้ทางราชการมาปรับปรุง จนกลายเป็น “โครงการอนุรักษ์และฟื้นฟูสภาพป่าสงวนแห่งชาติป่ากุยบุรี อันเนื่องมาจากพระราชดำริ” ทรงมีพระราชดำริให้ปลูกป่าเพื่อยังความชุ่มชื้นคืนธรรมชาติ และเป็นแหล่งอาศัยของสัตว์ป่าทั้งปวง ทรงมีพระราชดำรัสคนกับช้าง เมื่อวันที่ 5 กรกฎาคม 2542 ว่า “ช้างป่าควรอยู่ในป่า เพียงแต่ต้องสร้างแหล่งอาหารให้กับช้างเพียงพอ การปฏิบัติต้องไปสร้างแหล่งอาหารในป่าเป็นแปลงเล็กๆ และกระจาย กรณีช้างออกมาที่ชายป่า ต้องให้ความปลอดภัยกับช้าง หลังจากนั้นตั้งแต่ปี 2542 อุทยานแห่งชาติกุยบุรี จึงได้มีการสร้างแหล่งอาหารให้กับสัตว์ป่าต่อเนื่องมาจนถึงปัจจุบัน.

Categories
ข่าว ทั้งหมด

ผู้ว่าฯ ประจวบฯ เปิดกิจกรรม“เอามื้อสามัคคี ทำความดีถวายเป็นพระราชกุศล”เนื่องในวันฉัตรมงคล

ผู้ว่าฯ ประจวบฯ เปิดกิจกรรม“เอามื้อสามัคคี ทำความดีถวายเป็นพระราชกุศล”เนื่องในวันฉัตรมงคล

วันที่ 4 พฤษภาคม 2567 นายสมคิด จันทมฤก ผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบฯ เป็นประธานเปิดโครงการเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 กิจกรรม“เอามื้อสามัคคี ทำความดีถวายเป็นพระราชกุศล”เนื่องในโอกาสวันฉัตรมงคล ที่ศูนย์เรียนรู้การพัฒนาคุณภาพชีวิตตามหลักทฤษฎีใหม่ ประยุกต์สู่“โคก หนอง นา โมเดล”หมู่ 4 บ้านสามแยก ต.ร่อนทอง อ.บางสะพาน จ.ประจวบฯ มี นางทัศนีย์ ชัยคุณแสง หัวหน้าผู้ตรวจราชการกรมการพัฒนาชุมชน นายดำรงค์ มากระจัน พัฒนาการจังหวัด นายสุทิน ประเสริฐศักดิ์ นายอำเภอบางสะพาน หัวหน้าส่วนราชการ คณะกรรมการเครือข่ายศูนย์เรียนรู้ฯ ผู้นำชุมชน และเจ้าหน้าที่พัฒนาชุมชนจังหวัดและอำเภอ กว่า 50 คน เข้าร่วมกิจกรรม

โดยกิจกรรมที่ดำเนินการประกอบด้วยการแลกเปลี่ยนเรียนรู้การพัฒนาศักยภาพศูนย์เรียนรู้ฯ เพื่อนำไปสู่เป้าหมายการพัฒนาที่เป็นรูปธรรมและยั่งยืน กิจกรรมเอามื้อสามัคคี แบ่งเป็น 4 ฐานการเรียนรู้ ได้แก่ฐานคนรักษ์ป่า ฐานปุ๋ยหมัก ฐานคนรักษ์ดิน ฐานความมั่นคงทางอาหาร

นายสมคิด จันทมฤก กล่าวว่าจังหวัดมุ่งมั่นที่จะสืบสานพระราชดำริของในหลวงรัชกาลที่ 9 และในหลวงรัชกาลที่ 10 ในการส่งเสริมให้ประชาชนนำหลักการเศรษฐกิจพอเพียงมาใช้ในชีวิตประจำวัน ความพอเพียงในการดำรงชีวิตซึ่งเป็นเงื่อนไขพื้นฐานที่ทำให้คนไทยสามารถพึ่งตนเองได้อย่างยั่งยืน สำหรับกิจกรรมในวันนี้ ถือเป็นการรวมพลังของเครือข่ายโคก หนอง นา ในการร่วมกันจัดกิจกรรม “เอามื้อสามัคคี ทำความดีถวายเป็นพระราชกุศล” เนื่องในโอกาสวันฉัตรมงคล จากทุกอำเภอและขอให้มีการจัดกิจกรรมเอามื้อสามัคคีอย่างต่อเนื่องและช่วยกันขับเคลื่อน โคก หนอง นา ให้ประสบความสำเร็จในทุกๆ แปลง ขอขอบคุณสำนักงานพัฒนาชุมชนจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เครือข่ายโคก หนอง นา และทุกท่านที่มีส่วนร่วมในงานครั้งนี้.

Categories
ข่าว ทั้งหมด

ชาวบ้านหนองไม้แก่น กลัวไม่ได้รับความเป็นธรรม หลังคัดค้านทำเหมืองแกรนิตในพื้นที่

ชาวบ้านหนองไม้แก่น กลัวไม่ได้รับความเป็นธรรม หลังคัดค้านทำเหมืองแกรนิตในพื้นที่

วันที่ 3 พฤษภาคม 2567 นายกิตติ นามบุญลือ อายุ 45 ปี อยู่บ้านเลขที่ 21 หมู่ 7 บ้านหนองไม้แก่น ต.เกาะหลัก อ.เมือง จ.ประจวบคีรีขันธ์ เข้าพบผู้สื่อข่าวพร้อมยื่นหนังสือร้องเรียน เรื่องกลัวความไม่ชอบธรรมของเจ้าหน้าที่บางหน่วยงาน และการที่ไม่เห็นหัวประชาชน ในการยื่นคัดค้านโครงการทำเหมืองแร่แกรนิตของบริษัทแห่งหนึ่งในพื้นที่บ้านหนองไม้แก่น โดยการชูป้ายข้อความพวกเราไม่เอาเหมือนหิน ก่อนเข้าประชุมรับฟังความคิดเห็นของชาวบ้านกว่า 300 คน ที่เข้าทำประชาพิจารณ์ที่ศาลาหมู่ 7 หนองไม้แก่น เมื่อวันที่ 24 และ 25 เมษายน 2567 ที่ผ่านมา และเมื่อวันที่ 23 เมษายน 2567 ตนพร้อมชาวบ้านได้ยื่นหนังสือถึงนายสมคิด จันทมฤก ผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เพื่อให้ทราบถึงโครงการทำเหมืองแร่หินแกรนิตของบริษัท อธิภัทร จำกัด ที่จะมีชาวบ้านได้รับผลกระทบและเดือดร้อน หากมีการก่อสร้างโครงการทำเหมืองแร่หินแกรนิตของดังกล่าว

นายกิตติ นามบุญลือ ตัวแทนชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบโดยตรง เปิดเผยว่าจากการศึกษาโดยภาพรวม ทราบว่าอุตสาหกรรมก่อสร้างภายในประเทศนั้น ทรัพยากรแร่หินเพื่อการผลิตอุตสาหกรรมภายในประเทศ และเพื่อการส่งออกยังคงเพียงพออีกหลายร้อยปี จึงไม่จำเป็นที่จะต้องดำเนินการเปิดเหมืองแร่แห่งใหม่เพื่อนำมาแปรรูป และจากการอนุญาตให้บริษัท อธิภัทร จำกัด เข้าสำรวจแร่หินในพื้นที่กว่า 733 ไร่ 3 งาน 63 ตารางวา โดยมีอธิบดีกรมอุตสาหกรรมอนุญาตให้เข้าสำรวจเมื่อปี 2564 นั้น มีเงื่อนไขข้อตกลง หลังเข้าแผ้วถางผืนป่าบางส่วน เพื่อเจาะสำรวจหาแร่บางชนิดในพื้นที่บ้านหนองไม้แก่นนั้น เมื่อดำเนินการแล้วเสร็จ จะต้องทำการฟื้นฟูพื้นที่ให้กลับสภาพเดิม โดยจะไม่มีการรุกล้ำลำห้วย ทางสาธารณะ และพื้นที่ทำกินทางการเกษตรของชาวบ้าน แต่กลับไม่มีการปฏิบัติตามเงื่อนไขดังกล่าว และไม่มีการแจ้งประสงค์เพื่อประโยชน์ใด ซึ่งชาวบ้านเข้าใจว่าเป็นการเจาะสำรวจค่าแร่ตามปกติ จึงไม่ติดใจ หากการกระทำเช่นนี้ มองว่าบริษัทไม่เห็นความทุกข์ร้อนของชาวบ้านที่มีอาชีพเกษตรกรเป็นหลัก การทำประชาพิจารณ์ทั้งสองครั้ง เมื่อวันที่ 24 และ 25 เมษายนที่ผ่านมา มีการคัดค้านและลงรายชื่ออย่างชัดเจน โดยมีผู้นำท้องที่ในพื้นที่และชาวบ้านนอกพื้นที่ไม่กี่ราย ที่เข้ามาลงชื่อเห็นด้วยกับการทำเหมืองหิน จากการที่ชาวบ้านส่วนใหญ่คัดค้านการทำเหมืองแร่หินแกรนิตของบริษัทดังกล่าว โดยต่างชูป้ายข้อความพวกเราไม่เอาเหมืองหินและลงรายชื่อคัดค้านส่วนใหญ่ไม่เอา ก็น่าจะยุติการทำได้แล้ว มีข่าวว่ารัฐบาลร่วมกับนายทุน บอกว่าให้ลุยไปเลย แม้จะมีการคัดค้าน ไม่เห็นหัวประชาชนในพื้นที่ หรือแม้จะกระทบสิ่งแวดล้อมอ่างเก็บน้ำเพื่อใช้บริโภคก็ตาม.

พิสิษฐ์ รื่นเกษม….รายงาน