Categories
ข่าว ทั้งหมด

รอง ผบ.ตร. ตรวจชายแดนสิงขร แก้ปัญหาลักลอบเข้าเมืองผิดกฎหมาย และคนร้ายข้ามชาติ

รอง ผบ.ตร. ตรวจชายแดนสิงขร แก้ปัญหาลักลอบเข้าเมืองผิดกฎหมาย และคนร้ายข้ามชาติ

วันที่ 2 พฤษภาคม 2567 พล.ต.อ.ธนา ชูวงศ์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พร้อมด้วย พล.ต.ท.อิทธิพล อัจฉริยะประดิษฐ์ ผู้ช่วย ผบ.ตร. และคณะ เดินทางโดยเครื่องบินเฮลิคอปเตอร์ มาลงที่กองร้อย ตชด.146 จากนั้นเดินทางโดยรถยนต์ไปตรวจเยี่ยมการปฏิบัติงานป้องกันและปราบปรามการเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย และคนร้ายข้ามชาติ ที่บริเวณฐานจุดตรวจช่องสิงขรของกองร้อยตำรวจตระเวนชายแดนที่ 146 ซึ่งตั้งอยู่บริเวณจุดผ่อนปรนพิเศษชายแดนด่านสิงขรไทย – เมียนมา มีนายสินาทร โอ่เอี่ยม รองผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบฯ นายจิรศักดิ์ ติณสุวรรณ ป้องกันจังหวัด พ.ต.อ.ภาคภูมิ โห้ใย รองผู้บังคับการภูธรจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ พ.ต.อ.สุทธิพงษ์ อ่อนละออ ผกก.สภ.คลองวาฬ พ.ต.อ.อัคราวัส สีห์ธนบุญอุบล ผกก.ตชด.14 พ.ต.อ.เศรษฐภัทร ณ สงขลา ผกก.ตม.จว.ประจวบฯ พ.อ.สรายุทธ ศรลัมพ์ รอง ผบ.ฉก.จงอางศึก นายประทีป สมมัง ผู้อำนวยการส่วนควบคุมด่านศุลกากรประจวบฯ (ผู้แทนนายด่าน) พ.ท.โกเมธ จันทร์นุหงษ์ รองหัวหน้าฝ่ายข่าว กอ.รมน.จังหวัดประจวบฯ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมให้การต้อนรับ

หลังจากรับฟังบรรยายสรุปสถานการณ์ชายแดนด่านสิงขรเกี่ยวกับปัญหาเส้นเขตแดน รวมถึงการลักลอบทำผิดกฎหมายจาก พ.อ.สรายุทธ ศรลัมพ์ รอง ผบ.ฉก.จงอางศึก เช่น การลักลอบเข้าเมืองโดยผิดกฎหมายของบุคคลต่างด้าว และการลักลอบนำเข้าสิ่งของผิดกฎหมาย เช่น ของหนีภาษีและยาเสพติด ซึ่งเป็นปัญหาที่ป้องกันได้ยาก เนื่องจากจังหวัดประจวบฯ มีระยะทางที่ยาว มีช่องทางธรรมชาติมากกว่า 50 ช่องทาง

ที่ผ่านมามีผลการปฏิบัติงานจับกุมผู้กระทำผิดระหว่างเดือนตุลาคมปี 2566 ถึงเมษายนปี 2567 จับกุมบุคคลต่างด้าวลักลอบหลบหนีเข้าเมืองได้ 40 ครั้ง รวม 207 คน ได้ผู้นำพา 32 คน จับกุมลักลอบขนยาเสพติด เป็นยาบ้า 20,000 เม็ด โดยปัญหาการลักลอบข้ามแดนส่วนใหญ่ขณะนี้ สาเหตุมาจากหลบหนีการสู้รบในประเทศเมียนมาและหลบหนีการเกณฑ์ทหาร ซึ่งหน่วยงานทหารซึ่งปฏิบัติหน้าที่รับผิดชอบดูแลแนวชายแดน ใช้วิธีการพัฒนาความสัมพันธ์กับกองกำลังต่างชาติ และกองกำลังเพื่อนบ้าน หากมีการสู้รบกัน ขอให้ถอยห่างออกจากแนวชายแดนไทยประมาณ 80 กิโลเมตร

จากนั้นคณะรอง ผบ.ตร. ได้ตรวจเยี่ยมให้กำลังใจ และมอบสิ่งของให้กับเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานด้านแนวชายแดนเพื่อเป็นขวัญและกำลังใจให้กับเจ้าหน้าที่ จากนั้นเดินตรวจดูการขนถ่ายสินค้าที่บริเวณพื้นที่โนแมนแลนด์ช่องทางด่านสิงขร ก่อนจะเดินทางไปมอบนโยบายการปฏิบัติงานให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจภูธรจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ณ กองกำกับการตำรวจภูธรจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ต่อไป.

เอกภพ วงษ์ประเสริฐ….รายงาน

Categories
ข่าว ทั้งหมด

อส.ตร.ปราณบุรี โวย ถนนเส้นท่องเที่ยว “นาห้วย – เขากะโหลก”สร้างล่าช้าจนเกิดอุบัติเหตุรายวัน

อส.ตร.ปราณบุรี โวย ถนนเส้นท่องเที่ยว “นาห้วย – เขากะโหลก”สร้างล่าช้าจนเกิดอุบัติเหตุรายวัน

วันที่ 3 พฤษภาคม 2567 นายพรหมสิงห์ สิงหเสนี อายุ 28 ปี อส.ตร. และกรรมการหมู่บ้านหนองบัว ต.ปากน้ำปราณ อ.ปราณบุรี จ.ประจวบฯ เข้าร้องเรียนกับผู้สื่อข่าว ว่าตนทำงานในหน้าที่สังคม ดูแลประชาชนในเขตหมู่บ้านชุมชน ตำบล ในท้องที่ ปรากฏว่าขณะนี้มีปัญหาเกิดขึ้นบ่อยครั้ง เนื่องจากกรมโยธาธิการและผังเมือง ได้ให้บริษัทรับเหมาก่อสร้างถนนสายนาห้วย – เขากะโหลก ตั้งแต่วันที่ 11 มกราคม 2565 และต้องแล้วเสร็จในวันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2568 ในวงเงินงบประมาณ 484 ล้านบาท และขณะนี้การก่อสร้างถนนเสร็จแล้วเกือบ 100 % แต่กลับไม่ดำเนินการติดตั้งไฟฟ้าส่องสว่าง สัญญาณไฟจราจร ป้ายเตือนเส้นทาง การตีเส้นขอบแนวถนน ทั้งเส้นกลางถนน รวมทั้งจุดแยกจุดตัดทางเข้าก่อสร้างบ้านนาห้วย ช่องมอญ สี่แยกบ้านหนองบัว สี่แยกถนนสายปากน้ำปราณ – เขากะโหลก ตรงที่ลงทะเล ซึ่งที่ผ่านมานั้นเกิดอุบัติเหตุรถชนกัน มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บบ่อยครั้ง และที่สำคัญนั้น เมื่อร้อยเวรสอบสวนมาตรวจที่เกิดเหตุ มักจะตัดสินว่าเป็นการประมาทร่วม ทำให้คนที่ถูกชนหรือผู้บาดเจ็บ ไม่สามารถที่จะเรียกค่าเสียหายใดๆ จากคู่กรณีได้

นายพรหมสิงห์ ยังกล่าวอีกว่า ตนต้องทำหน้าที่ในการดูแลผู้คนที่เดินทางเข้ามาในเขต อบต.ปากน้ำปราณ และ เทศบาลตำบลปากน้ำปราณ ในช่วงเทศกาลงานต่างๆ จะมีรถยนต์ของนักท่องเที่ยวเป็นจำนวนมาก ปรากฏว่าส่วนใหญ่รถนักท่องเที่ยวมาชนกับรถในพื้นที่ทั้งนั้น เพราะในแต่ละจุดของถนนที่ทำเสร็จแล้ว ไม่มีไฟฟ้าแสงสว่าง ไม่มีป้ายเตือนบอก ไม่มีป้ายบอกชะลอความเร็ว หยุดทางตัดสี่แยก ได้ทำหนังสือร้องเรียนแจ้งเตือนไปยังจังหวัดประจวบฯ ให้ทราบเพื่อให้ลงมาช่วยแก้ไขปัญหา ก่อนที่ว่าจะมีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตมากไปกว่านี้

สำหรับในถนนก่อสร้างเส้นทางนี้ มีชื่อว่า “โครงการพัฒนาพื้นที่เฉพาะชายหาดปราณบุรี เขากะโหลก” ก็ขอเรียกร้องให้โยธาธิการจังหวัด และผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบฯ ลงมาตรวจสอบและแก้ไขปัญหาของถนนเส้นนี้ด้วย

ขณะที่นายจักพันธ์ ปิยพรไพบูลย์ (สส.เซ้ม) สส.ประจวบฯ เขต 2 พรรคประชาธิปัตย์ ได้โพสต์ในโซเซียลว่า“เป็น สส.สมัยนี้ ผมตั้งใจจะมาตรวจสอบผู้รับเหมางานของรัฐในพื้นที่เขตจังหวัดประจวบฯ ให้ผู้รับเหมาทำงานให้มีคุณภาพ จะตรวจสอบเรื่องการบรรทุกน้ำหนักเกิน รถขนดิน ขนหิน บรรทุกน้ำหนักเกิน ทำให้ถนนพัง แจ้งตำรวจไปแล้ว ตำรวจไม่จับกุมผู้กระทำความผิดมาตรวจสอบ ที่จับมาแล้วเรื่องคดีก็ไม่คืบหน้า ถ้าตำรวจไม่ทำงาน ผมจะประสานนายอำเภอ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ที่มีอำนาจจับกุมแล้วนำไปส่งให้ตำรวจ แล้วจะทำข่าวด้วยว่าตำรวจจับไม่ได้ กำนัน ผู้ใหญ่บ้านเลยมาจับแทน จะประสานนายก อบต. นายกเทศบาล ขอให้นายกสั่งกองสาธารณสุข ลงมาดูแลนะครับ ถ้าไม่เอาจริงถนนบ้านเราพังหมด รบกวนผู้ประกอบการขนดิน ขนหินกรุณาอย่าบรรทุกน้ำหนักเกินนะครับ ถนนพัง ชาวบ้านเขาเดือดร้อน แจ้งเพื่อทราบ ขอบคุณมากครับ”.

Categories
ข่าว ทั้งหมด

ผู้ว่าฯ ประจวบฯ ปล่อยพันธุ์สัตว์น้ำสู่ท้องทะเลในวันแรงงานแห่งชาติ

ผู้ว่าฯ ประจวบฯ ปล่อยพันธุ์สัตว์น้ำสู่ท้องทะเลในวันแรงงานแห่งชาติ

วันที่ 2 พฤษภาคม 2567 นายสมคิด จันทมฤก ผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบฯ เป็นประธานเปิดกิจกรรมวันแรงงานแห่งชาติ ประจำปี 2567 ที่ธนาคารปูม้าชุมชนตาม่องล่าย อำเภอเมืองประจวบฯ มีนายสินาทร โอ่เอี่ยม รองผู้ว่าราชการจังหวัด นายกฤติผล แก่นนาคำ สวัสดิการและคุ้มครองแรงงานจังหวัด นายวิภพ วงศ์ภูรี ผู้แทนบริษัทไลน์ทรานสปอร์ต จำกัด หัวหน้าส่วนราชการ ผู้นำชุมชน ผู้ประกอบการ รัฐวิสาหกิจ ผู้ใช้แรงงาน เข้าร่วมกิจกรรม

นายสมคิด จันทมฤก กล่าวว่า การจัดงานในวันนี้ เป็นโอกาสสำคัญที่จะกระตุ้นเตือนให้ทุกภาคส่วนได้ตระหนักถึงคุณค่าและความสำคัญของผู้ใช้แรงงาน การที่สำนักงานสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานจังหวัดประจวบฯ ได้ร่วมกับสถานประกอบกิจการ ลูกจ้าง และรัฐวิสาหกิจ จัดให้มีกิจกรรมขึ้น นับว่าเป็นการแสดงให้เห็นถึงความสำคัญของผู้ใช้แรงงานที่ทำคุณประโยชน์นานัปการให้กับประเทศ เป็นผู้ที่มีบทบาทสำคัญในการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมของประเทศให้มีความเจริญก้าวหน้าต่อไป

นายกฤติผล แก่นนาคำ กล่าวว่า ผู้ใช้แรงงานถือว่าเป็นบุคคลที่มีส่วนสำคัญต่อการพัฒนาเศรษกิจ ความมั่นคง ก้าวหน้าและการพัฒนาระบบอุตสาหกรรมของประเทศ เพื่อเป็นการยกย่องและชี้ให้เห็นถึงความสำคัญของแรงงาน และทำให้เกิดการพัฒนาทั้งในเชิงคุณภาพ และความเป็นอยู่ตลอดจนสิทธิอันชอบธรรมที่ผู้ใช้แรงงานสมควรจะได้รับการดูแลเอาใจใส่อย่างจริงจัง จึงทำให้รัฐบาลกำหนดให้วันที่ 1 พฤษภาคมของทุกปี เป็น “วันแรงงานแห่งชาติ” สำนักงานสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานจังหวัด ร่วมกับผู้ใช้แรงงาน ชาวบ้านชุมชนม่องล่าย และหน่วยงานในสังกัดกระทรวงแรงงาน ประกอบด้วยสำนักงานแรงงานจังหวัด สำนักงานจัดหางานจังหวัด สำนักงานประกันสังคมจังหวัด และสถาบันพัฒนาฝีมือแรงงาน 36 ประจวบฯ จัดกิจกรรมประกอบด้วย ปล่อยพันธุ์สัตว์น้ำคืนสู่ธรรมชาติเพื่อฟื้นฟูสมดุลระบบนิเวศท้องทะเล โดยได้รับการสนับสนุนอุปกรณ์พร้อมพันธุ์สัตว์น้ำจากสำนักงานประมงจังหวัด และศูนย์วิจัยและพัฒนาการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำชายฝั่งประจวบฯ, เก็บขยะปรับภูมิทัศน์ริมชายหาดชุมชนม่องล่าย และสนับสนุนงบประมาณให้กับธนาคารปูม้าชุมชนม่องล่าย 20,000 บาท ในการจัดซื้อแม่พันธุ์ปูม้าที่มีไข่นอกกระดอง เพื่อใช้ในการเพาะพันธุ์และอนุบาลก่อนปล่อยลงสู่ท้องทะเลต่อไป.

Categories
กีฬา ข่าว ทั้งหมด

ปิดท้าย “วิ่งกันดุ๊” ส่งเสริมสุขภาพและท่องเที่ยววิถีชุมชน

ปิดท้าย “วิ่งกันดุ๊” ส่งเสริมสุขภาพและท่องเที่ยววิถีชุมชน

ช่วงเย็นวันที่ 1 พฤษภาคม 2567 นายสมคิด จันทมฤก ผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เป็นประธานเปิดกิจกรรม “วิ่งกันดุ๊” ซึ่งเป็นครั้งที่ 9 เส้นทางสุดท้ายของจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ มีนายกิตติพงศ์ สุขภาคกุล นายคมกริช เจริญพัฒนสมบัติ นายสินาทร โอ่เอี่ยม รองผู้ว่าราชการจังหวัด นายปรีดา สุขใจ ปลัดจังหวัด นายประสูตร หอมบรรเทิง นายอำเภอเมืองประจวบคีรีขันธ์ นายสราวุธ ลิ้มอรุณรักษ์ นายก อบจ.ประจวบคีรีขันธ์ นายกมล แก้วเทศ นายกเทศมนตรีเมืองประจวบคีรีขันธ์ ตามโครงการส่งเสริมสุขภาพภายในหน่วยงานภาครัฐและเอกชน และส่งเสริมการท่องเที่ยวในพื้นที่ ที่จัดขึ้นระดับอำเภอจำนวน 8 ครั้ง ตั้งวันที่ 28 กุมภาพันธ์ – 1 พฤษภาคม 2567

โดยครั้งที่ 9 ปล่อยตัวที่สะพานสะราญวิถี หน้าอ่าวประจวบฯ ในเขตเทศบาลเมืองประจวบคีรีขันธ์ มีผู้ร่วมกิจกรรมกว่า 1,500 คน วิ่งเลียบถนนชายทะเลอ่าวประจวบฯ เข้ากองบิน 5 ผ่านเขาล้อมหมวก และวกกลับมาจบที่ถนนสู้ศึก ถนนสายวัฒนธรรม ระยะทาง 6 กิโลเมตร มีร้านอาหารมาเปิดบู๊ธ 30 ร้าน ทั้งขนมไทย ผลไม้ เครื่องดื่ม อาหารคาว รวมทั้งเมนูบำรุงสุขภาพนักวิ่ง เช่น แตงโม ดับกระหายหน้าร้อน ไข่ต้ม ข้าวโพดต้ม เด็ดสุดคือแกงเขียวหวานเนื้อกวาง โดยที่มีสีสันในงาน คือการแต่งตัวแฟนซีเป็นแนวขำขัน เช่น แต่งชุดไทย ใส่ชุดราตรี สวมปีกผีเสื้อ ที่โดดเด่นคือแต่งเป็น “ดำดง” แต่ทุกคนมาพร้อมกับรองเท้าวิ่งเต็มสตรีม

สำหรับเส้นทางการวิ่งในแต่ละสนาม เลือกเส้นทางที่มีแหล่งท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงในพื้นที่ของแต่ละอำเภอ เพื่อส่งเสริมให้เป็นที่รู้จักสำหรับนักท่องเที่ยว และเตรียมเส้นทางความพร้อมในการจัดการแข่งขันวิ่งในระดับต่อไป สำหรับเมืองประจวบคีรีขันธ์ มีสถานที่ท่องเที่ยวที่ขึ้นชื่อ คือ เมืองสามอ่าว ได้แก่ อ่าวน้อย อ่าวประจวบฯ และอ่าวมะนาว เขาล้อมหมวก กองบิน 5 ถนนสู้ศึกย่านเมืองเก่าสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2.

เอกภพ วงษ์ประเสริฐ….รายงาน

Categories
ข่าว ทั้งหมด

ยึดไม้แปรรูปจันทน์หอมในป่ากุยบุรี ขยายผลหาคนทำ

ยึดไม้แปรรูปจันทน์หอมในป่ากุยบุรี ขยายผลหาคนทำ

วันที่ 30 เมษายน 2567 เจ้าหน้าที่หน่วยป้องกันรักษาป่าที่ ปข.4 (รวมไทย) เจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการพิเศษป่าไม้ประจวบคีรีขันธ์, ฝ่ายปกครองอำเภอกุยบุรี, ทหารหน่วยเฉพาะกิจจงอางศึก, ตำรวจ กก.5 บก.ปทส., เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติกุยบุรี ร่วมกันตรวจยึดไม้จันทน์หอม ในพื้นที่ป่าไม้บริเวณชายเขาเทิกเจ็ดหมื่น พื้นที่หมู่ 6 บ้านยางชุมเหนือ ต.หาดขาม อ.กุยบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์ หลังจากที่เจ้าหน้าที่ป่าไม้ได้รับแจ้งว่ามีการลักลอบตัดไม้ในป่า บริเวณทางลงถนนไทยานนท์ (เทิกเจ็ดหมื่น) จึงได้สนธิกำลังกับหน่วยงานข้างต้นเข้าตรวจสอบ

เมื่อคณะเจ้าหน้าที่เดินทางมาถึงบริเวณที่รับแจ้ง พบเส้นทางเดินจากถนนลงลำห้วยเข้าไปในพื้นที่ป่า คณะเจ้าหน้าที่จึงเดินตามเส้นทางดังกล่าว ไปพบกองไม้แปรรูปวางอยู่ 2 กอง และตอไม้ที่ถูกโค่นอีก 4 ตอ เดินตรวจสอบพื้นที่โดยรอบ ไม่พบผู้ใดอยู่ในที่เกิดเหตุ เมื่อตรวจสอบไม้แปรรูปกับตอไม้ที่ถูกตัดโค่นดังกล่าว พบว่าเป็นไม้จันทน์หอม และไม้แปรรูปไม่พบรอยดวงตราของพนักงานเจ้าหน้าที่แต่อย่างใด

คณะเจ้าหน้าที่ได้ร่วมกันตรวจสอบไม้แปรรูปของกลางที่ตรวจยึดอย่างละเอียด ปรากฏว่าเป็นไม้หวงห้าม ประเภท ข. ไม้หวงห้ามพิเศษ ลำดับที่ 5 ชนิดไม้จันทน์หอม ตามพระราชบัญญัติป่าไม้ พุทธศักราช 2484 มีไม้ขนาดความกว้างและยาว แตกต่างกันไป รวมไม้จันทน์หอมแปรรูป 58 แผ่น ปริมาตรรวม 0.69 ลูกบาศก์เมตร โดยค่าเสียหายของรัฐเป็นเงิน 119,520 บาท คณะเจ้าหน้าที่ได้ใช้ดวงตรา ย.327 ตีประทับไว้ที่หน้าตัดไม้ทุกแผ่นเป็นที่เรียบร้อยแล้ว และพิจารณาแล้วว่าเป็นการกระทำความผิดกฎหมายว่าด้วยการป่าไม้ ก่อนถ่ายรูปไว้เป็นหลักฐาน พร้อมทั้งทำบันทึกและเอกสารหลักฐานที่เกี่ยวข้อง มอบหมายให้นายอโณทัย เกษมสุขไพศาล พนักงานขับเครื่องจักรกลขนาดกลาง ข.2 หัวหน้าหน่วยป้องกันรักษาป่าที่ ปข.4 (รวมไทย) นำส่งให้พนักงานสอบสวน สภ.บ้านยางชุม กล่าวโทษต่อพนักงานสอบสวน ให้ทำการสืบสวนหาผู้กระทำความผิดเพื่อนำตัวมาดำเนินคดีต่อไป.

พันธุ์พงษ์ โพธิ์จินดา….รายงาน