Categories
ข่าว ท่องเที่ยว ทั้งหมด

ททท.ประจวบฯ ชวนนักท่องเที่ยวพิชิตเขาล้อมหมวก ช่วงวันหยุดยาว

ททท.ประจวบฯ ชวนนักท่องเที่ยวพิชิตเขาล้อมหมวก ช่วงวันหยุดยาว

วันที่ 4 กรกฎาคม 2567 นายอาชวันต์ กงกะนันทน์ ผู้อำนวยการ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานประจวบฯ เปิดเผยว่า ในช่วงวันหยุดยาวที่ผ่านมา มีนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศ สาย Adventure ที่ชอบพิสูจน์ความท้าทายและความสามารถของตนเองในการปีนเขา เข้าร่วมกิจกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยวพิชิตเขาล้อมหมวก สูง 902 ฟุต (275 เมตร) ภายในกองบิน 5 อ.เมืองประจวบฯ กันเป็นจำนวนมาก ต่างพากันปีนป่ายโขดหินสูงชันเพื่อขึ้นไปชมวิวที่สวยงามของท้องทะเลเมืองประจวบฯ แบบ 360 องศา ทั้ง 3 อ่าว ได้แก่ อ่าวมะนาว อ่าวประจวบ และอ่าวน้อย ตลอดจนเกาะแก่งน้อยใหญ่ต่างๆ พร้อมกับเก็บภาพความสวยงามและความประทับใจไว้เป็นที่ระลึก

สำหรับในเดือนกรกฎาคมนี้ มีวันหยุดนักขัตฤกษ์ติดต่อกัน 3 วัน ได้แก่ วันที่ 20 – 22 กรกฎาคม เป็นวันอาสาฬหบูชา วันเข้าพรรษา และวันหยุดชดเชยวันเข้าพรรษา วันที่ 27 – 29 กรกฎาคม เป็นวันวันเฉลิมพระชนมพรรษาพระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัวฯ รัชกาลที่ 10 และวันหยุดชดเชย กองบิน 5 จึงเปิดกิจกรรมพิชิตเขาล้อมหมวกรอบพิเศษในช่วงวันหยุดยาวดังกล่าว โดยเปิดรับนักท่องเที่ยวทุกเพศทุกวัย ที่สามารถปีนได้ มีค่าบริการขึ้นพิชิตยอดเขาคนละ 40 บาท เปิดให้ขึ้นเขาตั้งแต่เวลา 06.00 น. – 09.00 น. หากมาหลังจากเวลา 09.00 น. เจ้าหน้าที่ของกองบินจะไม่อนุญาตให้ขึ้นเขา เพราะอากาศค่อนข้างร้อน ไม่มีร่มไม้ใหญ่ เกรงจะเป็นลมแดดได้ และภายในเวลา 12.00 น. นักท่องเที่ยวจะต้องลงจากยอดเขา เนื่องจากคำนึงถึงความปลอดภัยของนักท่องเที่ยวเป็นหลัก

“ข้อแนะนำในการพิชิตยอดเขาล้อมหมวก พักผ่อนร่างกายให้เพียงพอก่อนเดินขึ้นเขา กายพร้อม ใจพร้อม เตรียมใส่ถุงมือและใช้รองเท้าผ้าใบเท่านั้น เนื่องจากกิจกรรมผจญภัยนี้เป็นการเดินขึ้นบันได 496 ขั้น ระยะทางประมาณ 1 กิโลเมตร ระหว่างทางจะพบกับฝูงค่างแว่นถิ่นใต้เป็นระยะ จากนั้นไต่เชือกช่วงกลางเขา ขึ้นไปถึงยอดเขาด้วยระดับความลาดชัน 45 – 90 องศา ใช้เวลาประมาณ 2 – 3 ชั่วโมง จึงเสร็จสิ้น นอกจากนี้ยังมีแหล่งท่องเที่ยวให้เที่ยวอีกหลายแห่งและหลากหลายกิจกรรม อาทิ มาดูความน่ารักของน้องค่างแว่นถิ่นใต้ ซึ่งเป็นมาสคอตของจังหวัดประจวบฯ สักการะขอพรเจ้าพ่อเขาล้อมหมวกศักดิ์สิทธิ์มาก มานั่งเล่นดูทิวทัศน์ทะเลริมอ่าวมะนาว หรือจะลองพายซับบอร์ด เล่นบานาน่าโบ้ทก็ได้ จากนั้นจะไปทานอาหารทะเลสด อร่อย เดินเล่นถนนคนเดิน ถ่ายรูปเช็คอินที่สะพานสราญวิถี แล้วอัพรูปรัวๆ ก็ไม่ผิดกติกาแต่อย่างใด จึงขอชวนนักท่องเที่ยวมาร่วมพิชิตเขาล้อมหมวกได้ตามวันดังกล่าว สอบถามเพิ่มเติมได้ที่เบอร์โทร. 032 – 513885 ในวันและเวลาราชการ และที่เพจ ททท.สำนักงานประจวบคีรีขันธ์.

Categories
ข่าว ทั้งหมด

เจ้าหน้าที่อุทยานจับเจ้าอาวาส ครอบครองซากสัตว์ป่าสงวน และสัตว์คุ้มครองเพียบ

เจ้าหน้าที่อุทยานจับเจ้าอาวาส ครอบครองซากสัตว์ป่าสงวน และสัตว์คุ้มครองเพียบ

วันที่ 3 กรกฎาคม 2567 นายสมเจตน์ จันทนา ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 3 (สบอ.3) สาขาเพชรบุรี เปิดเผยว่าได้รับรายงานจากนายธีระศักดิ์ พรายมี หัวหน้าชุดสายตรวจป้องกันและปราบปราม ส่วนอนุรักษ์สัตว์ป่า สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 3 สาขาเพชรบุรี พร้อมด้วยหน่วยปฏิบัติการพิเศษที่ 1 หน่วยปฏิบัติการพิเศษที่ 4 สายตรวจป้องกันและปราบปรามส่วนอนุรักษ์และป้องกันทรัพยากร สบอ.3 พบ. สายที่ 2 และ สายที่ 3 ฐานปฏิบัติการป้องกันรักษาป่าที่ พบ.2 (หุบตะเคียนยักษ์) และเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.5 บก.ปทส. ว่าได้ร่วมกันจับกุมเจ้าอาวาสสำนักสงฆ์แห่งหนึ่งในพื้นที่ตำบลบึงนคร อ.หัวหิน จ.ประจวบฯ พร้อมยึดพร้อมของกลาง ได้แก่ ซากหัวเลียงผา 3 ซาก, เต่าเหลือง 11 ตัว, เต่าหวี 1 ตัว, เต่าหก 1 ตัว, ลิงกัง 1 ตัว นำตัวมาสอบสวน

โดยก่อนหน้านี้เจ้าหน้าที่ได้รับการร้องเรียนว่าที่สำนักสงฆ์ดังกล่าว มีการครอบครองซากสัตว์ป่าสงวนและสัตว์ป่าคุ้มครองโดยไม่ได้รับอนุญาตจำนวนมาก จึงนำกำลังเข้าตรวจค้น พบลิงกัง 1 ตัว ถูกผูกอยู่กับต้นไม้ และพบเต่าดังกล่าวถูกเลี้ยงรวมอยู่ในบ่อปูนจำนวน 13 ตัว นอกจากนี้ภายในกุฎิเจ้าอาวาส ยังพบซากหัวเลียงผา 3 หัว แขวนโชว์ติดไว้กับฝาผนังในห้อง ตรวจสอบแล้วไม่พบหลักฐานการครอบครองแต่อย่างใด เบื้องต้นเจ้าอาวาสให้การรับสารภาพว่าลิงกังตัวดังกล่าวมีญาติโยมนำมาถวายตั้งแต่ยังเล็กๆ ด้วยความสงสารจึงเลี้ยงไว้ ส่วนเต่าทั้งหมดมีชาวบ้านจับมาจากในป่าเอามาถวายให้หลายครั้ง จึงได้กั้นคอกเลี้ยงดูไว้ รวมถึงหัวเลียงผาทั้ง 3 หัว ก็มีชาวบ้านนำมาถวายให้เช่นกัน จึงนำมาติดโชว์ไว้ข้างฝาผนังในกุฎิ จนกระทั่งถูกจับกุม เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อหามีไว้ครอบครองซากสัตว์ป่าสงวนและสัตว์ป่าคุ้มครองโดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าหน้าที่ ต้องโทษระวางจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 5 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ นำผู้ต้องหาส่งพนักงานสอบสวน สภ.หนองพลับ อ.หัวหิน จ.ประจวบฯ ดำเนินคดี ส่วนของได้นำไปเก็บรักษาไว้ที่สถานีเพาะเลี้ยงสัตว์ป่าห้วยทราย อ.ชะอำ จ.เพชรบุรี ต่อไป.

Categories
ข่าว ท่องเที่ยว ทั้งหมด

สุวัจน์เปิดเทศกาล ‘Durian Lover 2024’ เอาใจคอทุเรียน GI หลากสายพันธุ์ในราคาพิเศษ

สุวัจน์เปิดเทศกาล ‘Durian Lover 2024’ เอาใจคอทุเรียน GI หลากสายพันธุ์ในราคาพิเศษ

ช่วงบ่ายวันที่ 3 กรกฎาคม 2567 นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ อดีตรองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานเปิดงานเทศกาลทุเรียน “Durian Lover คนรักทุเรียน 2024” ที่บริเวณลานอีเว้นท์พอร์ต ชั้น G ศูนย์การค้าบลูพอร์ตหัวหิน จ.ประจวบฯ มีนางอารดา เฟื่องทอง ผู้ตรวจราชการกระทรวงพาณิชย์, นายสมคิด จันทมฤก ผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบฯ, นายพลกฤต พวงวลัยสิน นายอำเภอหัวหิน, นายอาชวันต์ กงกะนันทน์ ผู้อำนวยการ ททท.สำนักงานประจวบฯ, นางศันสนีย์ เกษตรสินสมบัติ เกษตรจังหวัดประจวบฯ, นางไพลิน กองพันธ์ รองนายกเทศมนตรีเมืองหัวหิน, พ.ต.อ.กัมปนาท ณ วิชัย ผกก.สภ. หัวหิน, น.ส.วจี กลมเกลี้ยง กรรมการบริหาร บริษัท หัวหินแอสเสท จำกัด และนายโชคชัย วงศ์จักรภัชร์ กรรมการผู้จัดการ บลูพอร์ตหัวหิน แขกผู้มีเกียรติและนักท่องเที่ยวร่วมงานอย่างคับคั่ง

กระทรวงพาณิชย์ ร่วมกับศูนย์การค้าบลูพอร์ตหัวหิน บริษัท ทิพยประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) และสำนักงานเกษตรจังหวัดประจวบฯ จัดงานเทศกาลทุเรียนยิ่งใหญ่แห่งปี ‘Durian Lover 2024’ ขึ้น เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวและกระตุ้นเศรษฐกิจในพื้นที่ โดยมีเป้าหมายเพื่อเผยแพร่และประชาสัมพันธ์ทุเรียน GI (Geographical Indication) ที่มีความเป็นเอกลักษณ์เฉพาะถิ่นและของจังหวัดอื่นๆ ใกล้เคียง ภายในงานมีการตั้งบูธจำหน่ายทุเรียน GI หลากหลายสายพันธุ์ที่ขึ้นชื่อระดับประเทศ ที่มีความโดดเด่นและมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ทั้งในด้านรสชาติและคุณภาพ รวมไปถึงทุเรียนหมอนทองพันธุ์ป่าละอู ที่มีชื่อเสียงที่ปลูกในพื้นที่ตำบลห้วยสัตว์ใหญ่ อ.หัวหิน จ.ประจวบฯ ส่งตรงจากไร่สู่ผู้บริโภคในราคาพิเศษ นอกจากนี้ยังมีทุเรียนพันธุ์หมอนทองอื่นๆ เช่น ทุเรียนเขาจ้าว ปราณบุรี, ทุเรียนบ้านในวง จ.ระนอง และหมอนทอง จ.ปราจีนบุรี ซึ่งพร้อมเปิดโอกาสให้ผู้ร่วมงานได้สัมผัสและลิ้มลอง รวมไปถึงไฮไลท์สุดพิเศษครั้งแรกในหัวหิน กับตู้กดทุเรียนแคปซูล ที่เรียกความสนใจจากนักท่องเที่ยวได้ลองทานด้วยความอร่อยในรสชาติไม่เหมือนใคร

นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ กล่าวว่า “การจัดงานในครั้งนี้ เป็นอีกหนึ่งกิจกรรมที่น่าสนใจ เป็นงานที่เกิดจากความร่วมมือกันระหว่างภาครัฐและภาคเอกชน ที่จะช่วยส่งเสริมการท่องเที่ยวและกระตุ้นเศรษฐกิจในพื้นที่หัวหิน เผยแพร่และประชาสัมพันธ์ในเรื่องอัตลักษณ์ทุเรียนท้องถิ่นไทยและผลไม้ที่มีคุณภาพของหัวหินและจังหวัดใกล้เคียง เพื่อสร้างโอกาสให้เกษตรกร รวมไปถึงผู้ประกอบการในการจำหน่ายผลผลิตโดยตรงถึงผู้บริโภค และเป็นอีกหนึ่งช่องทางในการช่วยกระจายผลผลิตทางการเกษตรแบบยั่งยืนของเกษตรกรไทย การผลักดันกิจกรรมดีๆ แบบนี้ จะช่วยส่งเสริมภาพลักษณ์การท่องเที่ยว เผยแพร่และให้ความรู้เกี่ยวกับผลไม้ท้องถิ่นที่มีชื่อเสียงของไทย และยังเป็นเวทีที่เปิดโอกาสให้เกษตรกรไทยได้พัฒนาศักยภาพของตนเอง และที่สำคัญเป็นการสร้างชื่อเสียงให้กับทุเรียนและผลไม้ไทยให้เป็นที่รู้จักในระดับสากล”

นอกจากนี้ภายในงานมีการเสวนาให้ความรู้เกี่ยวกับทุเรียนอัตลักษณ์แต่ละสายพันธ์ุ การประกวดทุเรียนหมอนทอง และการแข่งขันปอกทุเรียน ชิงเงินรางวัล 10,000 บาท พร้อมใบประกาศ กิจกรรมเวิร์คช้อปการทำขนมจากทุเรียน การจำหน่ายทุเรียนและผลิตภัณฑ์แปรรูปจากทุเรียน ที่ยกขบวนกันมาจากทั่วประเทศ และพิเศษเฉพาะงานนี้ ห้ามพลาดนาทีทองกับจำหน่ายทุเรียนหมอนทองลูกละ 99 บาท จนกว่าจะหมด จึงขอเชิญชวนคนรักทุเรียนมาร่วมอุดหนุนเกษตรกรไทยกับขบวนทุเรียนและผลไม้ไทยสดจากสวนส่งตรงจากไร่ และผลิตภัณฑ์แปรรูปจากทุเรียนและผลไม้อื่นๆ ที่ผ่านการคัดสรรอย่างพิถีพิถัน ในงานเทศกาล “Durian Lover 2024 คนรักทุเรียน 2024” ตั้งแต่วันนี้จนถึงวันที่ 7 กรกฎาคม 2567 ชั้น G ศูนย์การค้าบลูพอร์ตหัวหิน.

Categories
ข่าว ทั้งหมด

ประจวบฯ เปิด“มหกรรมแก้หนี้ สร้างวิถีแห่งความเป็นธรรม” ครั้งที่ 22 มูลหนี้กว่า 76 ล้านบาท

ประจวบฯ เปิด“มหกรรมแก้หนี้ สร้างวิถีแห่งความเป็นธรรม” ครั้งที่ 22 มูลหนี้กว่า 76 ล้านบาท

วันที่ 1 กรกฎาคม 2567 นายยู่สิน จินตภากร ผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เป็นประธาเปิดงานมหกรรมแก้หนี้ สร้างวิถีแห่งความเป็นธรรม ครั้งที่ 22 ที่โรงแรมประจวบแกรนด์ อ.เมือง จ.ประจวบคีรีขันธ์ จัดโดยกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ กระทรวงยุติธรรม ร่วมกับสำนักงานยุติธรรมจังหวัดประจวบฯ มี น.ส.ดวงดาว เกียรติพิศาลสกุล รองอธิบดีกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ นายปรีดา สุขใจ ปลัดจังหวัดประจวบฯ นางระวีวรรณ หงส์ขจรโพธิ์ทอง ผู้พิพากษาหัวหน้าศาลจังหวัดประจวบฯ น.ส.กชวรรณ จันทร์เณร อัยการจังหวัด สำนักงานอัยการคุ้มครองสิทธิและช่วยเหลือทางกฎหมายและการบังคับคดีจังหวัด นายวสันต์ เภรีวิค ยุติธรรมจังหวัดประจวบฯ นายบรรพต รัตนจันทร์ ผู้บัญชาการเรือนจำจังหวัด หัวหน้าส่วนราชการ เจ้าหน้าที่หน่วยงานในสังกัดกระทรวงยุติธรรม ผู้แทนสถานีตำรวจ ภ.จ.ประจวบฯ ผู้แทนสถาบันการเงิน ผู้แทน กยศ. ผู้ไกล่เกลี่ยประจำศูนย์ไกล่เกลี่ยข้อพิพาทภาคประชาชน เครือข่ายอาสาสมัครคุ้มครองสิทธิฯ เครือข่ายยุติธรรมชุมชน ภาคีเครือข่ายทุกภาคส่วน คณะอาสาสมัครคุมประพฤติ และประชาชนผู้เป็นลูกหนี้สถาบันการเงินและลูกหนี้ กยศ. เข้าร่วมงานเป็นจำนวนมาก

พร้อมกันนี้ ผู้ช่วยรัฐมนตรีฯ ได้มอบป้ายศูนย์ไกล่เกลี่ยข้อพิพาทภาคประชาชน ประจำสถานีตำรวจภูธรฯ ทั้ง 8 แห่ง ประกอบด้วยศูนย์ไกล่เกลี่ยข้อพิพาทภาคประชาชน สภ.เมืองประจวบฯ, สภ.หัวหิน, สภ.ปราณบุรี, สภ.สามร้อยยอด, สภ.ทับสะแก, สภ.ธงชัย สภ.บางสะพาน และ สภ.บางสะพานน้อย และเดินเยี่ยมชมบูธนิทรรศการของแต่ละหน่วยงานในสังกัดกระทรวงยุติธรรมและหน่วยงานต่างๆ ที่มาร่วมจัดนิทรรศการสร้างการรับรู้ทางกฎหมาย และงานบริการประชาชนของหน่วยงาน อาทิ บูธนิทรรศการสำนักงานยุติธรรมจังหวัด สำนักงานบังคับคดีจังหวัด เรือนจำจังหวัด สำนักงานคุมประพฤติจังหวัด สถานพินิจเด็กและเยาวชนจังหวัด ศาลจังหวัด สำนักอัยการคุ้มครองสิทธิฯ คลังจังหวัด สำนักงาน ปปส.ภาค 7 ตลอดจนหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง พร้อมให้กำลังใจประชาชนที่เป็นลูกหนี้ที่พร้อมเข้าสู่กระบวนการไกล่เกลี่ยหนี้กับสถาบันการเงิน และกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.) ที่มาตั้งโต๊ะรอรับลงทะเบียนไกล่เกลี่ยหนี้ ท่ามกลางบรรยากาศที่อบอุ่นและสร้างความหวังให้กับลูกหนี้ที่เข้าร่วมงานในครั้งนี้

นายยู่สิน จินตภากร กล่าวว่า ตลอดระยะเวลากว่า 4 ปีที่ผ่านมา พี่น้องประชาชนทั่วประเทศได้รับความเดือดร้อนจากสถานการณ์โควิด – 19 บางคนตกงาน บางคนถูกลดเงินเดือน ซ้ำร้ายไปกว่านั้น สินค้าอุปโภคบริโภคมีราคาแพงขึ้น ราคาน้ำมันก็พุ่งสูงตามสภาวะของโลก จนทำให้เกิดหนี้สินเป็นจำนวนมาก บ้างก็ค้างค่างวดส่งสถาบันการเงิน บ้างก็ถูกยึดบ้านที่เป็นที่อยู่อาศัย รัฐบาลปัจจุบันจึงกำหนดกรอบในการแก้ไขปัญหาหนี้สินเป็นนโยบายสำคัญเร่งด่วน โดยกระทรวงยุติธรรมจะไม่นิ่งเฉย จะดำเนินการช่วยคลายหนี้ให้กับทุกคนเท่าที่จะทำได้ ทั้งนี้ กระทรวงยุติธรรมได้นำนโยบายจากนายกรัฐมนตรี ดำเนินการตามมาตรการแก้ไขปัญหาหนี้สิน ภายใต้ปรัชญาที่จะไม่ขัดต่อวินัยทางการเงิน และไม่ทำให้เกิดภาวะภัยทางจริยธรรม ของผู้มีภาระหนี้สิน โดยมีเป้าหมายสำคัญ คือ สร้างความตระหนักรู้ และเลือกใช้การไกล่เกลี่ยระงับข้อพิพาท ซึ่งต้องเกิดจากความสมัครใจ และเกิดความเป็นธรรมของทุกฝ่ายในการยุติข้อพิพาททางแพ่งและข้อพิพาททางอาญา ตามพระราชบัญญัติการไกล่เกลี่ยข้อพิพาท พ.ศ.2562 ประกอบด้วย การไกล่เกลี่ยหนี้สินก่อนฟ้อง ตามพระราชบัญญัติการไกล่เกลี่ยข้อพิพาทฯ และหลังศาลพิพากษา ตามระเบียบของกรมบังคับคดีว่าด้วยการไกล่เกลี่ยข้อพิพาท พ.ศ.2558 เพื่อให้ประชาชนที่เป็นหนี้ ลูกหนี้สินเชื่อส่วนบุคคล เช่าซื้อ ลิสซิ่ง ที่ผิดนัดชำระหนี้เข้าเกณฑ์ฟ้อง หรือไม่มีกำลังผ่อนชำระตามสัญญา เข้าถึงกระบวนการยุติธรรมด้วยการไกล่เกลี่ยข้อพิพาท

“นอกจากนี้ยังมีการให้ความรู้เพื่อสร้างวินัยทางการเงินให้แก่ประชาชน เป็นเกราะป้องกันปัญหาหนี้สินภาคครัวเรือนต่อไป โดยผู้เข้าร่วมงานจะได้รับประโยชน์ในกรณีก่อนฟ้อง คือ การผ่อนผันการชำระหนี้ ลดเบี้ยปรับ ลดดอกเบี้ย ลดค่างวดรายเดือน งดฟ้องดำเนินคดี และรับเงื่อนไขปลดผู้ค้ำประกัน สำหรับในส่วนของชั้นบังคับคดี หรือหลังคำพิพากษา ประโยชน์ที่จะได้รับ คือการขยายเวลาผ่อนชำระหนี้ ลดเบี้ยปรับ ลดจำนวนเงินผ่อนชำระหนี้ งดยึดทรัพย์ งดขายทอดตลาด ลูกหนี้จะไม่ถูกบังคับคดี และยังมีสิทธิประโยชน์อื่นๆ อีกมากมาย”

ด้าน น.ส.ดวงดาว เกียรติพิศาลสกุล รองอธิบดีกรมคุ้มครองสิทธิฯ กล่าวว่า สำหรับการจัดงานมหกรรมแก้หนี้ สร้างวิถีแห่งความเป็นธรรมในครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อให้ลูกหนี้กองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา หนี้เช่าซื้อรถยนต์ หนี้สินข้าราชการ หนี้บัตรเครดิต และสินเชื่อส่วนบุคคลที่ผิดนัดชำระหนี้เข้าเกณฑ์จะถูกฟ้องดำเนินคดี หรือไม่มีกำลังผ่อนชำระตามสัญญา ได้เข้าสู่กระบวนการไกล่เกลี่ยและรู้สิทธิตามกฎหมาย เข้าถึงความยุติธรรม รวมถึงสร้างการตระหนักรู้เกี่ยวกับการวางแผน และสร้างวินัยทางการเงินให้ประชาชน เป็นเกราะป้องกันปัญหาหนี้สินภาคครัวเรือน โดยลูกหนี้จะได้รับโปรโมชั่นนอกจากจะไม่ถูกฟ้องคดี ไม่ถูกยึดทรัพย์ ไม่ถูกขายทอดตลาดแล้ว ยังจะได้รับสิทธิพิเศษส่วนลดจบหนี้ ส่วนลดดอกเบี้ย ลดค่างวดและขยายระยะเวลาการผ่อนชำระ และสิทธิประโยชน์อีกมากมาย ให้คำปรึกษาทางกฎหมายหรือการเงินของหน่วยงาน และการให้บริการไกล่เกลี่ยข้อพิพาท ทั้งก่อนฟ้องและหลังศาลมีคำพิพากษา

“โดยมีภาคีเครือข่ายที่เข้าร่วมการไกล่เกลี่ยข้อพิพาท จำนวน 7 สถาบันการเงิน แยกเป็นก่อนฟ้อง 122 ราย หลังมีคำพิพากษา 83 ราย ทุนทรัพย์กว่า 76,388,704.44 บาท พร้อมมอบป้ายศูนย์ไกล่เกลี่ยภาคประชาชนสถานีตำรวจ เป็นการบูรณาการร่วมระหว่างกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพื่อขับเคลื่อนกระบวนการยุติธรรมทางเลือกให้แก่ประชาชนในทุกพื้นที่ เพื่อเป็นการอำนวยความยุติธรรมให้กับประชาชนอย่างทั่วถึง สะดวก รวดเร็ว และประหยัดค่าใช้จ่าย พร้อมเดินหน้าจัดงานมหกรรมแก้หนี้ สร้างวิถีแห่งความเป็นธรรมทั่วประเทศ เปิดโอกาสให้ลูกหนี้และเจ้าหนี้ได้เข้าสู่กระบวนการไกล่เกลี่ยและเข้าถึงกระบวนการยุติธรรม”.

บุญมา ลิบลับ….รายงาน

Categories
ข่าว ทั้งหมด

จัดแข่งลิงขึ้นมะพร้าวในกีฬาตำบลกำเนิดนพคุณ ประจำปี 2567

จัดแข่งลิงขึ้นมะพร้าวในกีฬาตำบลกำเนิดนพคุณ ประจำปี 2567

วันที่ 30 มิถุนายน 2567 นายสุทิน ประเสริฐศักดิ์ นายอำเภอบางสะพาน มอบหมายให้นายนุกุล วัฒนากร ปลัดอำเภอ หัวหน้ากลุ่มงานบริหารงานปกครอง เป็นประธานเปิดงานกีฬาประจำปีตำบลกำเนิดนพคุณ ประจำปี 2567 โดยมีนายณรงค์ พลายน้อย นายก อบต.กำเนิดนพคุณ กล่าวรายงานวัตถุประสงค์ ที่สนามกีฬาโรงเรียนบ้านเขาน้อย มีนายสุรศักดิ์ ร่มแก้ว ประธานสภา อบต.กำเนิดนพคุณ ร.ต.อ.สมจิตร บุญตาม สารวัตรสอบสวน สภ.บางสะพาน นายบุญลือ ปานทอง สจ.นายวิเชียร เกตุงาม กำนันตำบลกำเนิดนพคุณ ผู้ใหญ่บ้าน ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน สมาชิกสภา อบต.กำเนิดนพคุณ ชาวบ้านในตำบลกำเนิดนพคุณและนักกีฬาร่วมการแข่งขัน

นายณรงค์ พลายน้อย นายก อบต.กำเนิดนพคุณ กล่าวว่า การแข่งขันกีฬาตำบลกำเนิดนพคุณ ประจำปี 2567 โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นการส่งเสริมให้เด็ก เยาวชน และประชาชน ได้มีการออกกำลังกาย และเล่นกีฬาเสริมสร้างความสามัคคี พัฒนาทักษะทางการกีฬาเพื่อความเป็นเลิศ และส่งเสริมอนุรักษ์กีฬาพื้นบ้านในท้องถิ่น มีการแข่งขัน ดังนี้ 1. กีฬาสากล 4 ประเภท ได้แก่ ฟุตบอลชาย 7 คน, วอลเล่ย์บอล, เซปักตะกร้อ, เปตอง และกีฬาพื้นบ้าน 1 ประเภท ได้แก่ การแข่งขันลิงขึ้นมะพร้าว

ไฮไลท์ของการจัดแข่งขันกีฬาพื้นบ้าน ให้กังขึ้นไปปั่นมะพร้าวลงมาแข่งกัน เมื่อถึงพื้น ก็ให้คนนำไปปอกเอาเนื้อมะพร้าว มีกองเชียร์แต่ละหมู่มาเชียร์กันอย่างสนุกสนาน ผลการแข่งขันชนะเลิศ หมู่ที่ 4 บ้านละหาร ส่วนฟุตบอล หมู่ 7 ต.กำเนิดนพคุณ ชนะเลิศ โดยยิงจุดโทษชนะหมู่ 4 บ้านละหาร.

พิสิษฐ์ รื่นเกษม….รายงาน