Categories
ข่าว ทั้งหมด

ชาวบ้านค้านเหมืองหินแกรนิต ยันไม่เอา วอนรัฐพิจารณาผลกระทบรอบด้าน

ชาวบ้านค้านเหมืองหินแกรนิต ยันไม่เอา วอนรัฐพิจารณาผลกระทบรอบด้าน

เมื่อวันที่ 23 ธันวาคม 2566 ชาวบ้านในพื้นที่บ้านหนองไม้แก่น ต.เกาะหลัก อ.เมืองประจวบฯ กว่า 300 คน เดินทางมาร่วมคัดค้านโครงการทำเหมืองแร่หินแกรนิต ของบริษัทอธิภัทร จำกัด โดยต่างชูป้ายข้อความ”พวกเราไม่เอาเหมืองหิน” ก่อนการเข้าประชุมรับฟังความคิดเห็นของชาวบ้านที่บริษัทฯ จัดขึ้นในโรงเรียนบ้านทุ่งเคล็ด ต.เกาะหลัก อ.เมืองประจวบฯ มีเจ้าหน้าที่ตำรวจและหน่วยงานความมั่นคงเข้าสังเกตการณ์ ขณะที่กลุ่มชาวบ้านตั้งโต๊ะเพื่อร่วมกันลงรายชื่อคัดค้านโครงการดังกล่าวเป็นจำนวนมาก เพื่อส่งให้หน่วยงานรัฐรับพิจารณา หนึ่งในนั้นมีพระเกษตร ปคุโณ หรือที่ชาวบ้านเรียกว่าหลวงพ่อจี้กง ที่เป็นกระแสโด่งดังในโซเชียล เป็นผู้ดูแลสำนักสงฆ์เขาหินเทิน แหล่งท่องเที่ยวขึ้นชื่อของจังหวัดประจวบฯ เพราะเป็นหนึ่งในผู้ได้รับผลกระทบโดยตรง หากมีการระเบิดชั้นหินเพื่อนำมาแปรรูป เนื่องจากลักษณะพื้นที่โดยรอบบริเวณสำนักสงฆ์อยู่ไม่ห่างจากแหล่งชุมชนที่จะเกิดเหมืองแร่ อาจเกิดแรงสั่นสะเทือนหากมีการระเบิดชั้นหิน หรือการนำเอาเครื่องจักรเข้ามาประกอบกิจการเหมืองแร่ เนื่องจากลักษณะชิ้นหินแต่ก่อนตั้งเกยกันไปมาอย่างเป็นธรรมชาติ หลายจุดอาจเกิดถล่มลงมา รวมทั้งอาจส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมโดยรวมบริเวณพื้นที่ดังกล่าวได้ ขณะที่ชาวบ้านหลายครัวเรือนในพื้นที่บางราย ไม่ทราบว่าก่อนหน้ามีการขออนุญาตสำรวจแร่หินในพื้นที่หมู่ 7 บ้านหนองไม้แก่น โดยมี อบต.เกาะหลัก เซ็นอนุมัติให้ดำเนินการเข้าสำรวจโดยผ่านพื้นที่ทางการเกษตรของชาวบ้านเมื่อสองปีก่อน เข้าใจว่าเป็นการเข้าสำรวจแร่หินตามปกติ ต่อมามีการนำเอกสารจากหน่วยงานมาปิดประกาศไว้ที่บริเวณศาลาเอนกประสงค์ของชุมชน เพื่อให้ชาวบ้านที่เกี่ยวข้องในพื้นที่เข้าร่วมรับฟังความคิดเห็นการทำโครงการเหมืองแร่ดังกล่าว ชาวบ้านส่วนใหญ่เห็นว่าการกระทำของหน่วยงานรัฐบางรายนำเอกสารมาปิด มีเจตนาเอื้อประโยชน์ให้บริษัทดังกล่าว โดยการจัดทำประชาพิจารณ์รับฟังความคิดเห็นของชาวบ้านส่วนน้อยที่ไม่ได้รับผลกระทบหรือไม่ และหากหน่วยงานรัฐที่เกี่ยวข้องยังคงดันโครงการเหมืองแร่ในพื้นที่หมู่ 7 บ้านหนองไม้แก่น โดยไม่ฟังเสียงของประชาชนส่วนใหญ่ และเสียงคัดค้านของชาวบ้านในพื้นที่โดยรวม และหากบริษัทฯ ยังคงใช้เจ้าหน้าที่รัฐในพื้นที่บางราย เป็นเครื่องมือสร้างความแตกแยกภายในชุมชน เพื่อให้ได้มาซึ่งผลประโยชน์ อาจเกิดปัญหาขัดแย้งภายในชุมชนและครอบครัวโดยรวมเหมือนเช่นอดีต เคยมีโครงการจัดทำประชาพิจารณ์โรงงานกำจัดขยะในพื้นที่หมู่ 7 บ้านหนองไม้แก่นมาก่อนหน้านี้

นายกิตติ นามบุญลือ ตัวแทนชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบโดยตรง เปิดเผยว่าจากการศึกษาโดยภาพรวม ทราบว่าอุตสาหกรรมก่อสร้างภายในประเทศนั้น ทรัพยากรแร่หินเพื่อการผลิตอุตสาหกรรมภายในประเทศและเพื่อการส่งออกยังคงเพียงพออีกหลายร้อยปี จึงไม่จำเป็นที่จะต้องดำเนินการเปิดเหมืองแร่แห่งใหม่เพื่อนำมาแปรรูป และจากการให้อนุญาตบริษัทอธิภัทร จำกัด เข้าสำรวจแร่หินในพื้นที่กว่า 733 ไร่ 3 งาน 63 ตารางวา โดยมีอธิบดีกรมอุตสาหกรรมอนุญาตให้เข้าสำรวจเมื่อปี 2564 นั้น มีเงื่อนไขข้อตกลงหลังเข้าแผ้วถางผืนป่าบางส่วนเพื่อเจาะสำรวจหาแร่บางชนิดในพื้นที่บ้านหนองไม้แก่นนั้น เมื่อดำเนินการแล้วเสร็จจะต้องทำการฟื้นฟูพื้นที่ให้กลับสภาพเดิม โดยจะไม่มีการรุกล้ำลำห้วย ทางสาธารณะ และพื้นที่ทำกินทางการเกษตรของชาวบ้าน แต่ไม่มีการปฏิบัติตามเงื่อนไขดังกล่าว และไม่มีการแจ้งประสงค์เพื่อประโยชน์ใด ซึ่งชาวบ้านเข้าใจว่าเป็นการเจาะสำรวจค่าแร่ตามปกติ จึงไม่ติดใจ หากการกระทำเช่นนี้ มองว่าบริษัทฯ ไม่เห็นความทุกข์ร้อนของชาวบ้านที่มีอาชีพเกษตรกรเป็นหลัก ทั้งยังแอบทำประชาพิจารณ์รับฟังความคิดเห็น โดยไม่มีการประกาศแจ้งให้ชาวบ้านทราบล่วงหน้า มีเพียงปิดประกาศแค่สองวันก่อนการประชุม ดังนั้นโครงการเหมืองแร่ดังกล่าว อาจมีความไม่ชอบธรรมตั้งแต่ต้นทาง จนถึงปลายทางจากภาครัฐ เพื่อเอื้อประโยชน์ให้ความช่วยเหลือไปจนถึงกระบวนการออกประทานบัตรให้กับบริษัทอธิภัทร เพื่อดำเนินการทำเหมืองแร่หรือไม่ และหากการทำเหมืองแร่ในพื้นที่ทางการเกษตรของชาวบ้านนั้นดำเนินการได้จริง อาจส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมโดยรวม ทั้งวิถีชีวิตของชาวบ้านในชุมชนที่เคยเป็นอยู่อาจเปลี่ยนไปอย่างแน่นอน นายกิตติกล่าว

ขณะที่บรรยากาศของการจัดเวทีรับฟังความคิดเห็นของชาวบ้านในพื้นที่บริเวณโรงเรียนบ้านทุ่งเคล็ด เป็นไปด้วยความตึงเครียด เนื่องจากมีชาวบ้านทั้งสองกลุ่มที่เห็นด้วยและไม่เห็นด้วย โดยชาวบ้านที่คัดค้านนำป้ายขึ้นมาแสดงจุดยืน “พวกเราไม่เอาเหมืองหิน” “พวกเราขออนุรักษ์ป่าต้นน้ำให้เป็นสมบัติของชาติสืบต่อไป” ชาวบ้านบางรายกล่าวว่า ตนเป็นลูกเกิดในชุมชน หลังทราบข่าวจากผู้ใหญ่บ้านแจ้งให้ลูกบ้านเข้ารับฟังความคิดเห็นการทำโครงการเหมืองแร่ของบริษัทอธิภัทร จำกัด เพียงไม่กี่วัน เนื่องจากไม่ทราบข้อมูลมาก่อนว่าจะมีการเข้าทำเหมืองแร่ในถิ่นเกิดของตน จึงเดินทางมาเพื่อร่วมคัดค้าน โดยให้เหตุผลเรื่องความปลอดภัยในสุขภาพคนในครอบครัวและชุมชน และมีผู้สูงอายุหลายคนอาศัยอยู่ หากการขนถ่ายแร่หินขาดการควบคุม ปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็กที่เกิดจากการขนถ่ายแร่หิน เนื่องจากยังต้องใช้เส้นทางในชุมชน อาจส่งผลให้เกิดมลพิษทางอากาศในระยะยาว หากปล่อยให้เกิดโครงการเหมืองแร่ในพื้นที่ ชาวบ้านและชุมชนอาจได้รับผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมเป็นวงกว้างอย่างแน่นอน จึงอยากให้หน่วยงานรัฐที่เกี่ยวข้อง พิจารณาผลได้ ผลเสียของชุมชนและประชาชนโดยรวม ก่อนจะออกประทานบัตรให้กับบริษัท อธิภัทร จำกัด อนุญาตให้ดำเนินการตามโครงการดังกล่าว.

พิสิษฐ์ รื่นเกษม….รายงาน

ข่าวแนะนำ
Categories
กีฬา ข่าว ทั้งหมด

นายอำเภอ นำสมาชิกพาร์ครันเปิดสนามเมืองเก่าปราณบุรี

นายอำเภอ นำสมาชิกพาร์ครันเปิดสนามเมืองเก่าปราณบุรี

วันที่ 23 ธันวาคม 2566 นายปรีดา สุขใจ นายอำเภอปราณบุรี เป็นประธานเปิดสนามพาร์ครันเมืองเก่าปราณบุรีอย่างเป็นทางการ บริเวณด้านหน้าสถานีรถไฟตลาดปราณ ต.ปราณบุรี อ.ปราณบุรี จ.ประจวบฯ มีนายชัยพร ศิลปริญญา กำนันตำบลปราณบุรี เจ้าของพื้นที่ กล่าวต้อนรับแขกผู้มีเกียรติและสมาชิก อาทิ นายบำรุง ตรีเพชร นายก อบต.ปราณบุรี นายสมยศ เผ่าพันธุ์ กำนันตำบลวังก์พง นางวิรัลพัชร เชื้อวงค์สกุล กำนันตำบลหนองตาแต้ม นายสุรชัย พูลสวัสดิ์ กำนันตำบลปากน้ำปราณ สาธารณสุขอำเภอ สรรพากร หัวหน้าสถานีรถไฟปราณบุรี ปราณสแควร์ ชมรมนาฎศิลป์ปราณบุรี ชมรมเพลินเพลงลีลาศ

น.ส.ณัฐหทัย เกาะเกตุ RD สนามพาร์ครันเมืองเก่าปราณบุรี กล่าวถึงวัตถุประสงค์ในการจัดกิจกรรม พร้อมมอบเสื้อวินัยให้กับสมาชิกที่มีวินัยในการวิ่งครบตามที่กำหนด และมอบรางวัลให้กับสมาชิกสนามเมืองเก่าพาร์ครันที่มาทำกิจกรรมติดต่อกันตั้งแต่เปิดสนามแบบมีวินัยต่อเนื่อง 13 ครั้ง รวม 7 คน แล้วร่วมกันเปิดป้ายพาร์ครันสนามเมืองเก่าอย่างเป็นทางการ และร่วมกันอบอุ่นร่างกายด้วยการเต้นแอโรบิค ก่อนเริ่มเดิน – วิ่ง ระยะทางไปกลับ 5 กิโลเมตร เริ่มตั้งแต่บริเวณหน้าสถานีรถไฟ ไปจุดกลับตัวที่ศาลหลักเมือง

สำหรับสนามพาร์ครันเมืองเก่าปราณบุรี เป็นการจัดกิจกรรมวิ่งเพื่อสร้างสุภาพของพาร์ครันปราณบุรี โดยจัดทุกเช้าวันเสาร์ เริ่มออกกำลังกาย เวลา 06.00 – 09.00 น. เดินวิ่ง ระยะทาง 5 กิโลเมตร เริ่มเปิดสนามมาตั้งแต่วันที่ 23 กันยายน 2566 จนถึงสัปดาห์นี้เป็นสัปดาห์ที่ 14 ปัจจุบันมีสมาชิกกว่า 30 คน มีสมาชิกอายุมากสุด 88 ปี และอายุน้อยสุด 4 ขวบ

หลังกิจกรรมเดินวิ่ง มีการจัดให้สอนทำ CPR เพื่อให้ความรู้กับสมาชิก โดยวิทยากรจาก 1169 มูลนิธิสว่างแผ่ไพศาลธรรมสถานปราณบุรี มาให้ความรู้เบื้องต้นและฝึกสอนให้สมาชิกในสนาม ก่อนถึงมือแพทย์อย่างถูกต้องและปลอดภัย.

สมบัติ ลิมปจีระวงษ์….รายงาน

Categories
ข่าว ทั้งหมด

บลูพอร์ตหัวหิน ชวนตักบาตรพระสงฆ์ 99 รูป ส่งท้ายปีรับโชคปีใหม่

บลูพอร์ตหัวหิน ชวนตักบาตรพระสงฆ์ 99 รูป ส่งท้ายปีรับโชคปีใหม่

ศูนย์การค้าบลูพอร์ต หัวหิน จ.ประจวบฯ ขอเชิญทุกท่านร่วมทำบุญตักบาตรข้าวสารอาหารแห้งและถวายภัตตาหารแด่พระภิกษุสงฆ์จำนวน 99 รูป เนื่องในโอกาสส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ พ.ศ.2567 ในวันอาทิตย์ ที่ 31 ธันวาคม 2566 เวลา 08.00 น. เป็นต้นไป ณ ลานเดอะสแควร์ ด้านหน้าศูนย์การค้าบลูพอร์ตหัวหิน โดยงานนี้บลูพอร์ตหัวหินจัดขึ้นเพื่อให้บุคลากรในองค์กร ร้านค้า ประชาชนทั่วไป และนักท่องเที่ยว ทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติได้มาร่วมทำบุญตักบาตรข้าวสารอาหารแห้งเพื่อความเป็นสิริมงคล เสริมโชคลาภ และความราบรื่นในชีวิตการงาน เริ่มต้นสิ่งดีๆ ในปีพุทธศักราชใหม่ 2567 อีกทั้งเป็นการอนุรักษ์ขนบธรรมเนียมประเพณีอันดีงามของไทยให้คงอยู่สืบไป สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่บลูพอร์ตหัวหิน โทร.032 – 905111, Facebook: Bluport Hua Hin Official หรือ Line: @Bluport.

Categories
ทั้งหมด สังคม

ทำบันทึกข้อตกลงความร่วมมือทางวิชาการ

ข่าวสังคม

อาจารย์ ดร.วัชราภรณ์ รวมธรรม คณบดีคณะสัตวศาสตร์และเทคโนโลยีการเกษตร มหาวิทยาลัยศิลปากร ได้ทำบันทึกข้อตกลงความร่วมมือทางวิชาการ ระหว่างคณะสัตวศาสตร์และเทคโนโลยีการเกษตร มหาวิทยาลัยศิลปากร วิทยาเขตสารสนเทศเพชรบุรี กับเครือข่ายวิสาหกิจชุมชนตามศาสตร์พระราชา โดยนายตติย อัครวานิชตระกูล ประธานเครือข่ายวิสาหกิจชุมชนตามศาสตร์พระราชา เพื่อสนับสนุน ส่งเสริมและพัฒนาต่อยอดศักยภาพของผลิตภัณฑ์ชุมชน ณ ห้องประชุมอาคารบริหาร มหาวิทยาลัยศิลปากร วิทยาเขตสารสนเทศเพชรบุรี เมื่อวันที่ 22 ธันวาคม 2566.

Categories
ข่าว ทั้งหมด

หัวหินสุ่มตรวจกระเช้าของขวัญปีใหม่ สร้างความมั่นใจแก่ผู้บริโภค

หัวหินสุ่มตรวจกระเช้าของขวัญปีใหม่ สร้างความมั่นใจแก่ผู้บริโภค

วันที่ 23 ธันวาคม 2566 น.ส.บุษบา โชคสุชาติ รองนายกเทศมนตรีเมืองหัวหิน จ.ประจวบฯ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่จากสำนักงานพาณิชย์จังหวัดประจวบฯ, กอ.รมน.ประจวบฯ, สาธารณสุขจังหวัด, ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัด, ศูนย์คุ้มครองผู้บริโภคจังหวัด และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ลงพื้นที่สุ่มตรวจสอบกระเช้าของขวัญที่วางจำหน่ายในห้างสรรพสินค้าและสถานประกอบการในเขตเทศบาลเมืองหัวหิน ในช่วงเทศกาลคริสต์มาสและปีใหม่ 2567 ซึ่งส่วนใหญ่จะนำผลิตภัณฑ์อาหารสำเร็จรูปมาจัดเป็นกระเช้าของขวัญจำหน่ายให้กับประชาชน โดยเจ้าหน้าที่ได้ทำการตรวจสอบคุณภาพของสินค้า การแสดงป้ายราคาสินค้า การแสดงรายการสินค้า ขนาด น้ำหนักต่อหน่วย ปริมาณการบรรจุและราคาสินค้า รวมทั้งการแสดงวันเดือนปีที่ผลิตและวันหมดของสินค้าแต่ละรายการต้องมีระยะเวลาก่อนหมดอายุอย่างน้อย 6 เดือน และห้ามบรรจุเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในกระเช้า

จากการตรวจสอบพบว่าผู้ประกอบการต่างๆ ได้ดำเนินการตามกฎหมาย มีการแสดงราคาสินค้าตามประกาศคณะกรรมการกลางว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ ฉบับที่ 65 พ.ศ.2566 ลงวันที่ 1 กรกฎาคม 2566 เรื่องการแสดงราคาสินค้าและค่าบริการ หากฝ่าฝืนไม่แสดงราคาต้องระวางโทษปรับไม่เกินหนึ่งหมื่นบาท พร้อมทั้งขอความร่วมมือผู้ผลิตและผู้จำหน่ายกระเช้าของขวัญให้ความสำคัญต่อความปลอดภัยของผู้บริโภค โดยเจ้าหน้าที่จะดำเนินการตรวจสอบอย่างต่อเนื่อง เพื่อป้องกันไม่ให้ผู้ประกอบธุรกิจนำสินค้าใกล้หมดอายุ หรือไม่มีคุณภาพมาจัดกระเช้าของขวัญปีใหม่ ในส่วนของผู้บริโภคที่ไม่ได้รับความเป็นธรรมในด้านราคาสินค้า ปริมาณสินค้า หรือค่าบริการ สามารถแจ้งขอรับความเป็นธรรม หรือแจ้งเบาะแสได้ที่สำนักงานพาณิชย์จังหวัดประจวบฯ โทรศัพท์ : 032 – 611972 หรือสายด่วน 1569.

Categories
ข่าว ทั้งหมด

หลายหน่วยงานระดมรถดับเพลิงดับไฟไหม้ป่าข้างทาง ควันท่วมถนนทำรถติดยาว

หลายหน่วยงานระดมรถดับเพลิงดับไฟไหม้ป่าข้างทาง ควันท่วมถนนทำรถติดยาว

ช่วงเย็นวันที่ 22 ธันวาคม 2566 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ริมถนนเพชรเกษม ฝั่งล่องใต้ บริเวณหลักกิโลเมตรที่ 273 บ้านหนองหมู หมู่ 7 ต.กุยบุรี อ.กุยบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์ เกิดเพลิงลุกไหม้ป่าหญ้าข้างทาง บวกกับมีกระแสลมแรง ทำให้เพลิงโหมลุกลามอย่างรวดเร็ว เทศบาลตำบลกุยบุรีได้ระดมรถดับเพลิงมาสกัดเพลิงที่อาจลุกลามเข้าบ้านและสถานที่ราชการ

สำหรับจุดที่มีเพลิงลุกไหม้นั้น เป็นป่าต้นธูปฤาษี และเป็นป่าละเมาะ ต้นเพลิงอยู่ห่างจากถนนประมาณ 300 เมตร อีกทั้งวันนี้มีกระแสลมแรงทั้งวัน บวกกับอากาศแห้ง ทำให้เพลิงได้ลามอย่างรวดเร็วมาใกล้ถนนเพชรเกษม ทำให้มีควันลอยเข้ามาในถนนจนทัศนวิสัยไม่ดี มองเห็นได้แค่ระยะใกล้ เจ้าหน้าที่ตำรวจและกู้ภัยตำรวจทางหลวง ต้องปิดถนน 1 เลน และคอยอำนวยความสะดวก พร้อมทั้งเตือนให้รถที่สัญจรผ่านจุดดังกล่าวขับด้วยความระมัดระวัง ต่อมายังไม่สามารถควบคุมเพลิงได้ เทศบาลกุยบุรีจึงประสานขอความช่วยเหลือไปยังหน่วยงานต่างๆ ใกล้เคียง เพื่อขอรถดับเพลิงมาช่วย รวมถึงหน่วยงาน ปภ.จังหวัดประจวบฯ รถดับเพลิงจากทหารกองบิน 5 และอำเภอสามร้อยยอด ซึ่งนายมนต์ชัย หนูสาย นายอำเภอสามร้อยยอด เดินทางมาร่วมสังเกตการณ์และช่วยอำนวยความสะดวก โดยมีนายไพศาล ช่อผกา นายอำเภอกุยบุรี คอยควบคุมสถานการณ์อยู่ ซึ่งรถดับเพลิงทั้งหมดที่มา ทำได้เพียงอยู่บนถนนและฉีดน้ำสกัดเท่านั้น เพราะจุดที่เพลิงไหม้เป็นพื้นที่ลุ่มต่ำ มีน้ำขัง จึงต้องปล่อยให้เพลิงลุกจนหมดเชื้อไฟ ส่วนจุดไหนที่ใกล้บ้านเรือนหรืออาคารราชการ ก็ฉีดน้ำป้องกันไฟลุกลามเข้าอาคารบ้านเรือนดังกล่าว เจ้าหน้าที่ใช้เวลากว่า 3 ชั่วโมงจึงสามารถควบคุมเพลิงให้สงบได้.

พันธุ์พงษ์ โพธิ์จินดา….รายงาน

Categories
ข่าว ทั้งหมด

อดีตเจ้าหน้าที่พิทักษ์ป่า วัยเกษียณ โดนอ้างกรมบัญชีกลาง หลอกให้โหลดแอพ สูญเงินเกลี้ยงบัญชี

อดีตเจ้าหน้าที่พิทักษ์ป่า วัยเกษียณ โดนอ้างกรมบัญชีกลาง หลอกให้โหลดแอพ สูญเงินเกลี้ยงบัญชี

วันที่ 22 ธันวาคม 2566 นายสมพงษ์ กรีดกราย อดีตเจ้าหน้าที่พิทักษ์ป่า เดินทางเข้าแจ้งความกับตำรวจ สภ.กุยบุรี อ.กุยบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์ ว่าโดนแก๊งค์มิจฉาชีพหลอกให้โหลดแอปพลิเคชันจากลิงค์ โดยหลอกให้เชื่อว่าเป็นแอปฯ จากกรมบัญชีกลาง เพื่อจะจ่ายเงินค่าตอบแทนหลังจากเกษียณราชการ จากนั้นถูกดูดเงินจากบัญชีจนเกลี้ยง

นายสมพงษ์เล่าว่า เมื่อวันที่ 21 ธันวาคมที่ผ่านมาได้รับโทรศัพท์จากสายหนึ่ง อ้างว่าเป็นฝ่ายการเงินจากกรมอุทยานฯ ถามว่า หลังจากเกษียณแล้ว กรมฯ มีเงินค่าตอบแทนพิเศษให้หรือไม่ จากนั้นได้แจ้งว่าตอนนี้ทางกรมฯ มีโครงการจะจ่ายเงินค่าตอบแทน เป็นเงินตกเบิกให้ก้อนหนึ่ง เกือบ 6 หมื่นบาท แต่ต้องให้ข้อมูลกับกรมบัญชีกลางเสียก่อน หลังจากนั้นไม่นานมีสายเข้ามาเป็นอีกเบอร์หนึ่ง แจ้งว่าจากกองบำเหน็จบำนาญ สอบถามหลอกล่อว่ามีเงินตกเบิกจะจ่ายให้ แต่ต้องให้ยื่นคำร้อง โดยการกดลิงค์เข้าไป แล้วให้ใส่ข้อมูลต่างๆ หลังจากทำตามขั้นตอนต่างๆ ที่ระบบแจ้งมา สักพักมียอดเงินโอนเข้าบัญชี 17,000 บาท เป็นยอดแรก แล้วจะมีโอนตามมาอีกยอด ทำให้ตนเชื่อว่าน่าจะเป็นเรื่องจริง ระหว่างนั้นมิจฉาชีพสาวได้โทรมาทางไลน์อีกว่า ให้โอนเงินจากบัตรเครดิตของธนาคารเข้ามาให้ในบัญชีธนาคารกรุงไทยของตน ในตอนนั้นตนเห็นว่ามีเงินเข้ามาในบัญชี 17,000 บาทแล้ว ไม่ได้เฉลียวใจ จึงกดโอนเงินจากบัตรเครดิตเข้าในบัญชีอีกจำนวน 33,000 บาท แต่เนื่องจากการโอนเงินจากบัตรเครดิตต้องใช้เวลาสักระยะ ระหว่างนั้นตนรู้สึกแปลกใจที่ทุกอย่างเงียบไป ไม่มีการแจ้งยอดเงินที่เหลือ อีก 47,000 บาทเข้ามา ตนจึงเข้าเช็คยอดเงินจากแอปพลิเคชันของธนาคาร และพบว่ายอดเงินเหลือ 0 บาท จึงทำให้ทราบว่า ตนโดนแฮกข้อมูลตามที่เคยได้ยินข่าวมาบ้างแล้ว จึงโทรเข้าไปยังธนาคาร ขอให้ระงับการใช้งานบัญชีของตนชั่วคราว แล้วตรวจสอบจากแอปพลิเคชันของธนาคาร พบว่ายอดเงินทั้งหมดของตน ซึ่งมีเงินอยู่ 29,410 บาทรวมอยู่ด้วย ถูกโอนไปยังบัญชีของนายไชยมงคล กาศักดิ์ ส่วนยอดเงินที่จะโอนจากบัตรเครดิตนั้น เคราะห์ดีที่ยอดเงินยังไม่ทันเข้าบัญชี ทำให้มิจฉาชีพได้เงินไปเพียงยอดเดิมที่มีอยู่ในบัญชีเท่านั้น ตนจึงได้รวบรวมหลักฐาน เข้าพบพนักงานสอบสวน สภ.กุยบุรี เพื่อแจ้งความเอาผิดกับแก๊งค์คอลเซ็นเตอร์ โดยพนักงานสอบสวนแจ้งว่าจะส่งเรื่องดังกล่าวให้กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี หรือกองบัญชาการตำรวจไซเบอร์ดำเนินการต่อไป

นายสมพงษ์ กล่าวในตอนท้ายว่าฝากเตือนไปยังทุกคน ว่าหากได้รับโทรศัพท์จากบุคคลที่อ้างว่ามาจากหน่วยงานต่างๆ และหากมีการบอกให้โหลดแอปฯ อะไร อย่าได้หลงเชื่อทำตามโดยเด็ดขาด มิฉะนั้นอาจจะโดนหลอกแบบตน.

พันธุ์พงษ์ โพธิ์จินดา….รายงาน

Categories
ข่าว ทั้งหมด

ทางหลวงประจวบฯ รวบหนุ่มบัญชีม้า อ้างว่าถูกหลอกให้เปิดบัญชีออนไลน์

ทางหลวงประจวบฯ รวบหนุ่มบัญชีม้า อ้างว่าถูกหลอกให้เปิดบัญชีออนไลน์

ตามข้อสั่งการ พล.ต.ต.คงกฤช เลิศสิทธิกุล ผบก.ทล. ให้ตำรวจทางหลวงระดมกวาดล้างอาชญากรรมก่อนถึงวันหยุดยาวช่วงเทศกาลปีใหม่ ระหว่างวันที่ 18 – 27 ธันวาคม 2566 ต่อมาวันที่ 22 ธันวาคม พ.ต.อ.ภคพล สุชล ผกก.2 บก.ทล. พ.ต.ท.กฤตย์ ธีรเวศย์สุวรรณ รอง ผกก.2 บก.ทล. พ.ต.ต.พุทธางกูร เรืองธรรม สว.ส.ทล.3 กก.2 บก.ทล. (ประจวบฯ) ร.ต.อ.คมสัน วรรณสกุล รอง สว.ส.ทล.3 กก.2 บก.ทล. ร่วมกันจับกุมนายชัชนันท์ ธิมาบุตร อายุ 23 ปี ที่อยู่ 75/1 หมู่ 3 ต.กะแดะ อ.กาญจนดิษฐ์ จ.สุราษฎร์ธานี ตามหมายจับศาลจังหวัดน่าน ที่ จ.109/2566 ลงวันที่ 15 พฤษภาคม 2566 ในความผิดฐานฉ้อโกงประชาชน, นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือน หรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน

ก่อนหน้านั้นตำรวจทางหลวงประจวบฯ ตั้งจุดตรวจบริเวณหน่วยบริการประชาชนตำรวจทางหลวงห้วยมงคล ถนนบายพาสชะอำ – ปราณบุรีขาเข้า หลักกิโลเมตรที่ 39 ต.ทับใต้ อ.หัวหิน จ.ประจวบฯ พบรถกระบะโตโยต้า สีบรอนซ์เงิน ทะเบียน 3 ฒฆ – 4933 กรุงเทพฯ บรรทุกสิ่งของมีผ้าใบคลุมมิดชิดวิ่งผ่านมา จึงเรียกให้หยุดรถเพื่อขอตรวจค้น แต่ไม่พบสิ่งของผิดกฎหมาย ก่อนขอดูใบอนุญาตขับขี่ ทราบชื่อว่านายชัชนันท์ จึงตรวจสอบข้อมูลอาชญากรรมผ่านระบบข้อมูลอาชญากรรมสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (CRIMES) ทราบว่านายชัชนันท์มีหมายจับอยู่ เบื้องต้นนายชัชนันท์ยอมรับว่าเป็นบุคคลตามหมายจับจริงและยังไม่เคยถูกดำเนินคดีตามหมายจับนี้มาก่อน และอ้างว่าถูกหลอกให้เปิดบัญชีออนไลน์ธนาคาร จึงควบคุมตัวผู้ต้องหานำส่ง สภ.เวียงสา จ.น่าน ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป.

Categories
ข่าว ท่องเที่ยว ทั้งหมด

ททท.ประจวบฯ ชวนเที่ยวงาน“Happy คลองวาฬ แสง สี New Year 2024”ส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่

ททท.ประจวบฯ ชวนเที่ยวงาน“Happy คลองวาฬ แสง สี New Year 2024”ส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่

วันที่ 21 ธันวาคม 2566 นางบุญเยี่ยม วินิจ นายกเทศมนตรีตำบลคลองวาฬ อ.เมือง จ.ประจวบฯ กล่าวว่า เทศบาลตำบลคลองวาฬ ร่วมกับ ททท.สำนักงานประจวบฯ สมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวจังหวัดประจวบฯ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จัดกิจกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยวและเผยแพร่อัตลักษณ์ชุมชน ในงาน“Happy คลองวาฬ แสง สี New Year 2024” ซึ่งจัดขึ้นเป็นครั้งแรก ที่บริเวณสะพานปลาคลองวาฬเก่า ริมอ่าวคลองวาฬ ในวันที่ 31 ธันวาคมนี้ โดยจะมีการออกร้านจำหน่ายอาหารพื้นถิ่น อาหารทะเลจากผู้ค้าในชุมชนคลองวาฬ การแสดงดนตรี การลอยกระทงสาย และไฮไลต์ การจุดพลุเฉลิมฉลองก้าวเข้าสู่พุทธศักราชใหม่ 2567 ท่ามกลางฉากหลังของเขาคลองวาฬที่สวยงาม พร้อมกิจกรรมสวดมนต์ข้ามปีที่วัดคลองวาฬ พระอารามหลวง และการทำบุญตักบาตรเพื่อความเป็นสิริมงคลในเช้าวันที่ 1 มกราคม 2567 จึงขอเชิญชวนประชาชนและนักท่องเที่ยวร่วมงานดังกล่าว ชาวคลองวาฬพร้อมเป็นเจ้าบ้านที่ดีต้อนรับผู้มาเยือนทุกคน

ด้านนายอาชวันต์ กงกะนันทน์ ผู้อำนวยการ ททท.สำนักงานประจวบฯ กล่าวว่า ททท.สำนักงานประจวบฯ ให้การสนับสนุนเทศบาลตำบลคลองวาฬ ร่วมกับพันธมิตรหน่วยงานภาครัฐและเอกชน จัดกิจกรรมสำคัญส่งเสริมการท่องเที่ยวในพื้นที่ ช่วงเทศกาลส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ “Happy คลองวาฬ แสง สี New Year 2024”เพื่อสื่อสารประชาสัมพันธ์ถึงความเป็นคลองวาฬ ว่าเป็นอีกจุดหมายปลายทางการท่องเที่ยวที่มีศักยภาพของจังหวัดประจวบฯ ที่นักท่องเที่ยวสามารถเดินทางมาเที่ยวได้ตลอดทั้งปี“สุขทันที ที่มาเที่ยวประจวบคีรีขันธ์”ทั้งนี้ตำบลคลองวาฬ เป็นพื้นที่ ที่มีศักยภาพด้านการท่องเที่ยวสามารถเดินทางเชื่อมโยงแหล่งท่องเที่ยวต่างๆ ใน อ.เมืองประจวบฯ เช่น อุทยานวิทยาศาสตร์พระจอมเกล้า ณ หว้ากอ อ่าวมะนาว วัดคลองวาฬ พระอารามหลวง เขาช่องกระจก ตลาดนัดถนนคนเดินริมอ่าวประจวบฯ ซึ่งอยู่ไม่ไกลกันมาก จึงขอเชิญชวนนักท่องเที่ยวได้เดินทางมาเที่ยวงานได้ตามวันดังกล่าว.

Categories
ข่าว ทั้งหมด

ผู้ว่าฯ ประจวบฯ คนใหม่ สักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมือง ท่ามกลางการต้อนรับอย่างอบอุ่น

ผู้ว่าฯ ประจวบฯ คนใหม่ สักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมือง ท่ามกลางการต้อนรับอย่างอบอุ่น

วันที่ 21 ธันวาคม 2566 นายนิติ วิวัฒน์วานิช ผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ คนใหม่ พร้อมด้วยนางปัทมา วิวัฒน์วานิช ภริยา เดินทางเข้าสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมือง จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เพื่อความเป็นสิริมงคลที่ศาลหลักเมืองประจวบฯ สักการะพระบรมราชานุสาวรีย์ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 บริเวณหน้าศาลากลางจังหวัดประจวบฯ หลังเก่า และไหว้พระพุทธรูป ณ ห้องปฏิบัติงาน ชั้น 2 ศาลากลางจังหวัดประจวบฯ มีนายกิตติพงศ์ สุขภาคกุล นายองครักษ์ ทองนิรมล รองผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบฯ นำเจ้าหน้าที่สำนักงานจังหวัดประจวบฯ ให้การต้อนรับ ทั้งนี้ นายนิติ วิวัฒน์วานิช ได้รับการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญ กระทรวงมหาดไทย ประเภทผู้บริหารระดับสูง 28 ราย และประเภทวิชาการระดับทรงคุณวุฒิ 3 ราย รวมทั้งหมด 31 ราย เมื่อวันที่ 19 ธันวาคมที่ผ่านมา

จากนั้นนายนิติ วิวัฒน์วานิช ผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบฯ พร้อมภริยา เดินทางเข้าจวนผู้ว่าราชการจังหวัด ไหว้สักการะศาลพระภูมิและพระภายในบ้านพัก ก่อนออกมาพบปะกับบรรดาหัวหน้าส่วนราชการ ข้าราชการ เจ้าหน้าที่ ภาคเอกชน และประชาชนจำนวนมากที่มาร่วมให้การต้อนรับ พร้อมรับปากจะปฏิบัติหน้าที่ดูแลทุกข์สุขให้ประชาชนอย่างเต็มความสามารถ โอกาสนี้ นายกิตติพงศ์ สุขภาคกุล รองผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบฯ และคณะ ได้มอบดอกไม้แสดงความยินดี ท่ามกลางบรรยากาศที่อบอุ่น

สำหรับประวัติ นายนิติ วิวัฒน์วานิช อายุ 54 ปี เกิดเมื่อวันที่ 14 มิถุนายน 2512 จบการศึกษานิติศาสตรบัณฑิต, ศิลปศาสตรมหาบัณฑิต (รัฐศาสตร์) จากมหาวิทยาลัยรามคำแหง ประวัติรับราชการ นายอำเภอศรีราชา จ.ชลบุรี เมื่อปี 2560, ผู้อำนวยการสำนักบริหารการปกครองท้องที่ กรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย เมื่อปี 2563, รองผู้ว่าราชการจังหวัดปัตตานี เมื่อปี 2563, รองผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี เมื่อปี 2564, ปัจจุบัน ตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบฯ.