Categories
ข่าว ทั้งหมด

กกต.ประจวบฯ เปิดอบรมสร้างความรู้การสรรหา สว.ชุดใหม่ 200 คน

กกต.ประจวบฯ เปิดอบรมสร้างความรู้การสรรหา สว.ชุดใหม่ 200 คน

วันที่ 25 มีนาคม 2567 นายกิตติพงศ์ สุขภาคกุล รองผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เป็นประธานเปิดการอบรมให้ความรู้เกี่ยวกับการเลือกสมาชิกวุฒิสภา หรือ สว. ตามโครงการศูนย์ส่งเสริมพัฒนาประชาธิปไตย ที่โรงแรมประจวบแกรนด์ อ.เมืองประจวบคีรีขันธ์ มีกรรมการศูนย์ส่งเสริมประชาธิปไตยตำบล จากทั้ง 8 อำเภอ และผู้แทนหน่วยงานภาครัฐ ภาคประชาชน องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เยาวชนจากสถานศึกษาต่างๆ รวมจำนวน 276 คน เข้าร่วม มีนายศักดิ์ชัย เลิศกิตติวัฒนกุล ผู้อำนวยการสำนักงาน กกต.ประจำจังหวัดฯ และวิทยากรจากสำนักงาน กกต.ประจำจังหวัดฯ บรรยายให้ความรู้เกี่ยวกับกระบวนการได้มาซึ่ง สว.ชุดใหม่ จำนวน 200 คน ตามบทบัญญัติในรัฐธรรมนูญปี 2560 ซึ่งครั้งนี้จะใช้วิธีการเลือกกันเองของกลุ่มอาชีพและกลุ่มต่างๆ 20 กลุ่ม โดยมีคณะกรรมการดูแลการเลือก สว. ระดับอำเภอ ระดับจังหวัดและระดับประเทศ พร้อมกันนี้ ได้มีการสร้างความเข้าใจเกี่ยวกับอำนาจหน้าที่ของ สว. คุณสมบัติและลักษณะต้องห้ามของผู้สมัคร สว. รวมถึงการเตรียมความพร้อมด้านต่างๆ เพื่อรองรับกรณีที่คณะกรรมการการเลือกตั้งได้ประกาศกำหนดวันเวลารับสมัครเลือก สว.ออกมาแล้ว ภายหลังจากที่ สว.ชุดปัจจุบันจะครบวาระการดำรงตำแหน่งในวันที่ 11 พฤษภาคม 2567 ซึ่งกรรมการศูนย์ส่งเสริมประชาธิปไตยตำบล และผู้แทนจากหน่วยงานต่างๆ ที่เข้าร่วมกิจกรรมในครั้งนี้จะนำความรู้ที่ได้รับไปเผยแพร่ต่อให้กับประชาชนในพื้นที่ได้รับทราบต่อไป

ทั้งนี้ รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย ปี 2560 กำหนดให้มี สว.ทั้งหมด 200 คน ดำรงตำแหน่งได้คราวละ 5 ปี และ สว.ทุกคนดำรงตำแหน่งได้เพียงวาระเดียว ไม่สามารถลงสมัครได้อีก ซึ่งการเลือก สว.ชุดใหม่นี้ จะมาจากการเลือกกันเอง ตั้งแต่ระดับอำเภอ จังหวัดและระดับประเทศของบุคคล ซึ่งมีความรู้ ความเชี่ยวชาญ ประสบการณ์ อาชีพ ลักษณะหรือประโยชน์ร่วมกัน หรือทำงาน หรือเคยทำงานด้านต่างๆ ที่หลากหลายของสังคมจาก 20 กลุ่มตามที่กฎหมายกำหนด ประกอบด้วย 1.กลุ่มการบริหารราชการแผ่นดินและความมั่นคง ได้แก่ผู้เคยเป็นข้าราชการ เจ้าหน้าที่รัฐ หรืออื่นๆ ในทำนองเดียวกัน 2.กลุ่มกฎหมายและกระบวนการยุติธรรม ได้แก่ผู้เป็นหรือเคยเป็นผู้พิพากษา อัยการ ตำรวจ ผู้ประกอบวิชาชีพกฎหมาย หรืออื่นๆ ในทำนองเดียวกัน 3.กลุ่มการศึกษา ได้แก่ผู้เป็นหรือเคยเป็นครู อาจารย์ นักวิจัย ผู้บริหารสถานศึกษา บุคลากรทางการศึกษา หรืออื่นๆ ในทำนองเดียวกัน 4.กลุ่มสาธารณสุข ได้แก่ผู้เป็นหรือเคยเป็นแพทย์ทุกประเภท เทคนิคการแพทย์ สาธารณสุข พยาบาล เภสัชกร หรืออื่นๆ ในทำนองเดียวกัน 5.กลุ่มอาชีพทำนา ปลูกพืชล้มลุก หรืออื่นๆ ในทำนองเดียวกัน 6.กลุ่มอาชีพทำสวน ป่าไม้ ปศุสัตว์ ประมง หรืออื่นๆ ในทำนองเดียวกัน 7.กลุ่มพนักงานหรือลูกจ้างของบุคคล ซึ่งไม่ใช่ราชการหรือหน่วยงานรัฐ ผู้ใช้แรงงาน หรืออื่นๆ ในทำนองเดียวกัน 8.กลุ่มผู้ประกอบอาชีพด้านสิ่งแวดล้อม ผังเมือง อสังหาริมทรัพย์ สาธารณูปโภค ทรัพยากรธรรมชาติ พลังงาน หรืออื่นๆ ในทำนองเดียวกัน 9.กลุ่มผู้ประกอบกิจการขนาดกลางและขนาดย่อยตามกฎหมาย หรืออื่นๆ ในทำนองเดียวกัน 10.กลุ่มผู้ประกอบกิจการอื่นนอกจากกิจการตามกลุ่มที่ 9
11.กลุ่มผู้ประกอบธุรกิจหรืออาชีพด้านการท่องเที่ยว ได้แก่ มัคคุเทศก์ ผู้ประกอบกิจการหรือพนักงานโรงแรม หรืออื่นๆ ในทำนองเดียวกัน 12.กลุ่มผู้ประกอบอุตสาหกรรม หรืออื่นๆ ในทำนองเดียวกัน 13.กลุ่มผู้ประกอบอาชีพด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี การสื่อสาร การพัฒนานวัตรกรรม หรืออื่นๆ ในทำนองเดียวกัน 14.กลุ่มสตรี 15.กลุ่มผู้สูงอายุ คนพิการหรือทุพพลภาพ กลุ่มชาติพันธุ์ กลุ่มอัตลักษณ์อื่น หรืออื่นๆ ในทำนองเดียวกัน 16.กลุ่มศิลปะ วัฒนธรรม ดนตรี การแสดงและบันเทิง นักกีฬา หรืออื่นๆ ในทำนองเดียวกัน 17.กลุ่มประชาสังคม กลุ่มองค์กรสาธารณประโยชน์ หรืออื่นๆ ในทำนองเดียวกัน 18.กลุ่มสื่อสารมวลชน ผู้สร้างสรรค์วรรณกรรม หรืออื่นๆ ในทำนองเดียวกัน 19.กลุ่มผู้ประกอบวิชาชีพอิสระ หรืออื่นๆ ในทำนองเดียวกัน 20.กลุ่มอื่นๆ เช่น กลุ่มชาติพันธุ์

สำหรับคุณสมบัติของผู้สมัครรับเลือก สว. – มีสัญชาติไทยโดยการเกิด อายุไม่ต่ำกว่า 40 ปี ในวันสมัครรับเลือก – มีความรู้ ความเชี่ยวชาญและประสบการณ์ หรือทำงานในด้านที่สมัครไม่น้อยกว่า 10 ปี (ยกเว้น กลุ่ม 14, 15) – เป็นผู้มีลักษณะอย่างใดอย่างหนึ่ง ดังต่อไปนี้ 1. เกิดในอำเภอที่สมัคร 2. มีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้านในอำเภอที่สมัครติดต่อกันไม่น้อยกว่า 2 ปี นับถึงวันสมัครรับเลือก 3. ทำงานในอำเภอที่สมัครติดต่อกันไม่น้อยกว่า 2 ปี นับถึงวันสมัครรับเลือก 4. เคยทำงาน หรือเคยมีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้านที่อยู่ในอำเภอที่สมัครรับเลือก เป็นเวลาติดต่อกันไม่น้อยกว่า 2 ปี 5. เคยศึกษาในสถานศึกษาที่ตั้งอยู่ในอำเภอที่สมัครติดต่อกันไม่น้อยกว่า 2 ปีการศึกษา 6. ไม่มีลักษณะต้องห้ามตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการได้มาซึ่งสมาชิกวุฒิสภา พ.ศ.2561

อำนาจหน้าที่ของ สว.ได้แก่ การพิจารณาและกลั่นกรองกฎหมาย พิจารณาและกลั่นกรองพระราชบัญญัติ อนุมัติพระราชกำหนด แก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ ควบคุมการบริหารราชการแผ่นดิน ตั้งกระทู้ถาม เปิดอภิปรายทั่วไปในวุฒิสภาหรือที่ประชุมรัฐสภา การตั้งกรรมาธิการ การให้คำแนะนำหรือความเห็นชอบให้บุคคลดำรงตำแหน่งในองค์กรตามรัฐธรรมนูญ เช่น ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ คณะกรรมการการเลือกตั้ง ผู้ตรวจการแผ่นดิน เป็นต้น.

Categories
ข่าว ทั้งหมด

ผู้ว่าฯ ประจวบฯ คนใหม่ สักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองก่อนเข้าทำงาน ท่ามกลางต้อนรับอย่างอบอุ่น

ผู้ว่าฯ ประจวบฯ คนใหม่ สักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองก่อนเข้าทำงาน ท่ามกลางต้อนรับอย่างอบอุ่น

วันที่ 25 มีนาคม 2567 นายสมคิด จันทมฤก ผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์คนใหม่ พร้อมด้วยผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.ศศิธร จันทมฤก ภริยา เดินทางเข้าสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองของจังหวัดประจวบฯ เพื่อความเป็นสิริมงคลในโอกาสที่เดินทางมารับตำแหน่ง โดยเข้าสักการะองค์หลักเมืองจตุโชค ที่ศาลหลักเมืองประจวบฯ สักการะพระบรมราชานุสาวรีย์ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 บริเวณหน้าศาลากลางจังหวัดหลังเก่า สักการะพระพุทธนวราชบพิตร ที่สำนักงานคลังจังหวัด และไหว้พระพุทธรูป ที่ห้องปฏิบัติงาน ชั้น 2 ศาลากลางจังหวัดประจวบฯ มีนายกิตติพงศ์ สุขภาคกุล, นายคมกริช เจริญพัฒนสมบัติ, นายองครักษ์ ทองนิรมล, นายสินาทร โอ่เอี่ยม รองผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบฯ นำหัวหน้าส่วนราชการ ข้าราชการ เจ้าหน้าที่หน่วยงานในศาลากลางจังหวัด มอบช่อดอกไม้แสดงความยินดี และทักทายประชาชนที่มาร่วมให้การต้อนรับอย่างอบอุ่น พร้อมกล่าวว่าจะปฏิบัติหน้าที่ดูแลทุกข์สุขของประชาชนอย่างเต็มความสามารถ ทั้งนี้นายสมคิด จันทมฤก ได้รับการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญ กระทรวงมหาดไทย ประเภทผู้บริหารระดับสูง 10 ราย เมื่อวันที่ 21 มีนาคมที่ผ่านมา นับเป็นผู้ว่าราชการคนที่ 55 ของจังหวัดประจวบคีรีขันธ์

สำหรับประวัตินายสมคิด จันทมฤก เกิดเมื่อวันที่ 8 กรกฎาคม 2508 ปัจจุบันอายุ 59 ปี เป็นสิงห์ดำรุ่น 37 จบปริญญาตรีรัฐศาสตรบัณฑิต จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย จบนิติศาสตรบัณฑิต มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช และรัฐศาสตรมหาบัณฑิต มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ หลังจบรัฐศาสตร์จุฬาฯ สมัครเข้าทำงานกับภาคเอกชน 5 ปี ก่อนที่จะสอบเข้าเป็นนักเรียนปลัดอำเภอเมื่อปี 2535 เริ่มต้นเส้นทางชีวิตราชการเป็นปลัดอำเภอชาติตระการ จ.พิษณุโลก เจ้าหน้าที่วิเคราะห์นโยบายและแผน กองวิชาการและแผนงาน กรมการปกครอง, ปลัดอำเภอเมืองสมุทรสงคราม จ.สมุทรสงคราม, หัวหน้ากลุ่มพัฒนาระบบบริหาร กรมการปกครอง, หัวหน้ากลุ่มงานวางแผนอัตรากำลังและพัฒนาระบบงาน กองการเจ้าหน้าที่ กรมการปกครอง, นายอำเภอสระโบสถ์ จ.ลพบุรี, ผู้อำนวยการส่วนการข่าว สำนักกิจการความมั่นคงภายใน กรมการปกครอง, ผู้อำนวยการกองวิชาการและแผนงาน กรมการปกครอง, ผู้อำนวยการกองการเจ้าหน้าที่ กรมการปกครอง, ผู้ช่วยปลัดกระทรวงมหาดไทย สำนักงานปลัดกระทรวงมหาดไทย และเป็นผู้ตรวจราชการกระทรวงมหาดไทย สำนักงานปลัดกระทรวงมหาดไทย รับผิดชอบกลุ่มจังหวัดชายแดนภาคใต้ จังหวัดยะลา นราธิวาส ปัตตานี เมื่อ 1 ตุลาคม 2560 ก่อนที่หนึ่งปีต่อมาจะดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร เป็นพ่อเมืองอยู่แค่ปีเดียว 1 ตุลาคม 2562 ย้ายเข้ากระทรวงในตำแหน่งรองปลัดกระทรวง 1 ตุลาคม 2564 ดำรงตำแหน่งอธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน 1 ตุลาคม 2565 ตำแหน่งรองปลัดกระทรวง สำนักงานปลัดกระทรวง ล่าสุดตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบฯ.

Categories
ข่าว ทั้งหมด

วนอุทยานเขานางพันธุรัต คว้ารางวัลคนดีศรีจังหวัด สาขาผู้ส่งเสริมการท่องเที่ยวดีเด่น

วนอุทยานเขานางพันธุรัต คว้ารางวัลคนดีศรีจังหวัด สาขาผู้ส่งเสริมการท่องเที่ยวดีเด่น

วันที่ 24 มีนาคม 2567 นายพัฒนพันธ์ เจือจันทร์ หัวหน้าวนอุทยานเขานางพันธุรัต อ.ชะอำ จ.เพชรบุรี เปิดเผยว่า ตามนโยบายของนายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช นายสมเจตน์ จันทนา ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 3 (สบอ.3) สาขาเพชรบุรี ที่ให้เน้นการดูแลรักษาทรัพยากรการท่องเที่ยวและส่งเสริม พัฒนาการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนโดยการมีส่วนร่วมทุกภาคส่วน ซึ่งวนอุทยานเขานางพันธุรัตเป็นแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่โดดเด่น มีกิจกรรมที่เป็นอนุรักษ์และฟื้นฟูสิ่งแวดล้อม เป็นแหล่งเรียนรู้ทางธรรมชาติที่ใกล้เมือง ห่างจากหาดชะอำแค่เพียง 10 กิโลเมตร โดยวนอุทยานเขานางพันธุรัต ได้ปรับปรุงและพัฒนาศักยภาพแหล่งท่องเที่ยวอย่างต่อเนื่อง ทำให้เริ่มเป็นที่รู้จักของผู้คนมากขึ้น จนได้รับรางวัลคนดีศรีจังหวัด สาขาผู้ส่งเสริมการท่องเที่ยวดีเด่น จากชมรมสายใยไทย แทนคุณแผ่นดิน ที่หอประชุมคุรุสภา กระทรวงศึกษาธิการ กรุงเทพฯ สำหรับการมอบรางวัลนี้ เพื่อยกย่องเชิดชูเกียรติแก่บุคคลและองค์กรที่สร้างสรรค์สังคมไทย โดยยึดมั่นในหลักคุณธรรมจริยธรรม ที่เข้าถึงผลประโยชน์ของประเทศชาติเป็นหลัก นำนโยบายต่างๆ มาใช้ปฏิบัติหน้าที่จนประสบความสำเร็จในองค์กร ซึ่งจะเป็นแบบอย่างและกำลังใจในการพัฒนาบ้านเมืองเศรษฐกิจ สังคม และประเทศชาติต่อไป

วนอุทยานเขานางพันธุรัต ตั้งอยู่ที่หมู่ 2 ต.เขาใหญ่ อ.ชะอำ จ.เพชรบุรี เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มีความโดดเด่นของเขาหินปูน ความหลากหลายของระบบนิเวศ มีกิจกรรมที่เป็นการสร้างจิตสำนึกในการอนุรักษ์ทรัพยากร สามารถเข้าถึงกิจกรรมได้ทุกเพศทุกวัย อาทิ การปั่น – ยิงเมล็ดพันธุ์แห่งความดี การศึกษาซากฟอสซิลสัตว์ดึกดำบรรพ์โบราณ การเดินเส้นทางศึกษาธรรมชาติ การวิ่ง การปั่นจักรยาน การท่องเที่ยวเชิงนิเวศโดยรอบชุมชน เชื่อมโยงแหล่งท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์สมัยทวารวดี และในวันที่ 26 พฤษภาคม 2567 นี้ จะมีการจัดงานวิ่งพันธุรัต ยักษ์ก็มีหัวใจ ครั้งที่ 3 เป็นการวิ่งสัมผัสธรรมชาติและชมบรรยากาศรอบๆ ชุมชนบ้านโคกเศรษฐีและชุมชนบ้านนายาง สำหรับผู้สนใจกิจกรรมต่างๆ ติดต่อได้ที่โทร. 098 – 6860989 หรือเพจวนอุทยานเขานางพันธุรัตและโครงการฯเขานางพันธุรัต อันเนื่องมาจากพระราชดำริ.

Categories
ข่าว ทั้งหมด

โรงเรียนทับสะแกวิทยา จัดงานคืนสู่เหย้า 52 ปี มีคอนเสิร์ตคาราบาวก่อนเตรียมยุบวง

โรงเรียนทับสะแกวิทยา จัดงานคืนสู่เหย้า 52 ปี มีคอนเสิร์ตคาราบาวก่อนเตรียมยุบวง

เมื่อวันที่ 23 มีนาคม 2567 นายปรีดา สุขใจ ปลัดจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เป็นประธานเปิดงานคืนสู่เหย้า ศิษย์เก่าราชพฤกษ์ 52 ปี โรงเรียนทับสะแกวิทยา ที่สนามฟุตบอลโรงเรียนทับสะแกวิทยา อ.ทับสะแก จ.ประจวบคีรีขันธ์ มีนายสุภัทร โพธิ์เงินงาม นายกสมาคมศิษย์เก่าครูและผู้ปกครองโรงเรียนทับสะแกวิทยา น.ส.ชลิกา หูทิพย์ ผู้อำนวยการโรงเรียนทับสะแกวิทยา และคณะกรรมการสมาคม แขกผู้มีเกียรติ ร่วมงาน

งานนี้ สมาคมศิษย์เก่าครูและผู้ปกครองโรงเรียนทับสะแกวิทยา จัดแสงสีเสียงเต็มระบบ มีวัตถุประสงค์หารายได้เพื่อซ่อมแซมรั้วโรงเรียนและพัฒนาการศึกษา ภายในงานมีวงคาราบาวเต็มวงมาแสดง ซึ่งก่อนแสดง น้าแอ๊ด ยืนยง โอภากุล หรือแอ๊ด คาราบาว ได้มอบกีต้าร์ที่มีลายเซ็นสมาชิกของวงครบทุกคน ให้กับคุณสวัสดิ์ สุขศรี ศิษย์เก่าราชพฤกษ์ ที่ประมูลไปเป็นเงิน 53,000 บาท เพื่อนำเงินดังกล่าวไปช่วยเด็กนักเรียนที่ยากไร้ด้วย

ทั้งนี้น้าแอ๊ด ยืนยง โอภากุล หรือแอ๊ด คาราบาว ได้ประกาศระหว่างแสดงที่งาน Bom Sincharoen Fanmeet No.4 ว่า “คาราบาว” จะเลิกวงที่มีมายาวนานกว่า 40 ปี ในปี 2567 นี้ หลังการแสดงคอนเสิร์ตครั้งสุดท้ายในเดือนเมษายน 2567 เนื่องจากสมาชิกอายุมากขึ้นและมีอาการป่วย ล่าสุด เมื่อวันที่ 18 มีนาคม 2567 “ดุก คาราบาว” หรือนายลือชัย งามสม มือคีย์บอร์ด ทรัมเป็ต, แอคคอร์เดียน, ประสานเสียงของวงคาราบาว ได้เสียชีวิตอย่างสงบ ในวัย 70 ปี ทำให้คอนเสิร์ตคาราบาวที่โรงเรียนทับสะแกวิทยาครั้งนี้เป็นการเดินสายแสดงคอนเสิร์ตช่วงสุดท้ายก่อนจะยุบวง ปิดตำนานวงคาราบาว จึงมีศิษย์เก่าทับสะแกวิทยา และใกล้เคียง เดินทางมาชมคอนเสิร์ตอย่างคับคั่ง จนเต็มพื้นที่จัดงาน.

ณัฐธภพ พันสาย….รายงาน

Categories
กีฬา ข่าว ท่องเที่ยว ทั้งหมด

นักปั่นร่วมปั่น…พิทักษ์ปู ชมความงามของทะเลอ่าวไทย จ.ประจวบฯ

นักปั่นร่วมปั่น…พิทักษ์ปู ชมความงามของทะเลอ่าวไทย จ.ประจวบฯ

เมื่อเวลา 07.00 น. วันที่ 24 มีนาคม 2567 ที่ลานมหาราช ต.ปากน้ำปราณ อ.ปราณบุรี จ.ประจวบฯ นายปรีดา สุขใจ ปลัดจังหวัดประจวบฯ เป็นประธานปล่อยตัวนักกีฬาโครงการปั่นจักรยานการกุศล‘Bike for Crab 2024’ปั่น…พิทักษ์ปู มีว่าที่พันตรีอภิญญา ศักดินันท์ นายอำเภอปราณบุรี พลตรีนิรินธน์ ปุณโณทก ผู้บัญชาการศูนย์การกำลังสำรอง นายดำรงค์ มากระจัน พัฒนาการจังหวัดประจวบฯ นายอติชาติ ชัยศรี รองนายกเทศมนตรีเมืองหัวหิน นายศุรอัฐ ณรงค์ฤทธิ์ ประธานหอการค้าจังหวัดประจวบฯ น.ส.จิราวรรณ บุญฤทธิ์ รองผู้อำนวยการ ททท.สำนักงานประจวบฯ นายนำลาภ อิ่มทั่ว นายก อบต.ปากน้ำปราณ นางวาสนา ศรีกาญจนา นายกสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวหัวหิน-ชะอำ นายสมศักดิ์ กรีธาธร หัวหน้าวนอุทยานปราณบุรี นายศรัณยู ชเนศร์ รองประธานกรรมการบริหารกลุ่มบริษัทในเครือโรงพยาบาลกล้วยน้ำไท และนักกีฬาจักรยานกว่า 300 คน ร่วมปั่นผ่านจุดเช็คอินของจังหวัด สัมผัสกับความงดงามของทะเลอ่าวไทย ระยะทางไปกลับ 60 กิโลเมตร เริ่มจากลานมหาราช – ถ้ำพระยานคร สามร้อยยอด สิ้นสุดยังลานมหาราช ปากน้ำปราณ ท่ามกลางอากาศเย็นสบาย โดยก่อนปล่อยตัวนักกีฬาได้ร่วมกันปล่อยพันธุ์ปูม้า – ปูลาย 800 ตัว ลงสู่ท้องทะเลปราณบุรีด้วย

นายศรัณยู ชเนศร์ ประธานโครงการปั่นฯ กล่าวว่า โรงพยาบาลกล้วยน้ำไท และกล้วยน้ำไทมูลนิธิ ได้เล็งเห็นถึงความสำคัญของปูม้า ซึ่งเป็นทรัพยากรสัตว์น้ำเศรษฐกิจที่ผู้คนนิยมบริโภคทั้งภายในประเทศและต่างประเทศ ทำให้ความต้องการบริโภคปูม้ามีปริมาณเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จึงได้จัดโครงการปั่นจักรยานการกุศล ครั้งที่ 6 ขึ้น ภายใต้ชื่อ‘Bike for Crab 2024’ปั่น…พิทักษ์ปู เพื่อนำรายได้สนับสนุนโครงการธนาคารปูในชุมชน ทำให้เกิดการขยายพันธ์ุประชากรปูม้าเพิ่มมากขึ้น สร้างจิตสำนึกให้ตระหนักถึงความสำคัญของปูม้า สร้างรายได้ สร้างอาชีพให้กับชาวประมง อีกทั้งเป็นการส่งเสริมให้ประชาชนทั่วไปหันมาใส่ใจและดูแลสุขภาพมากขึ้นด้วยการออกกำลังกาย และกระตุ้นให้นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ ให้เดินทางมาท่องเที่ยวที่จังหวัดประจวบฯ มากยิ่งขึ้น เป็นการกระจายรายได้สู่ชุมชนและผู้ประกอบการที่พัก รีสอร์ทต่างๆ รวมถึงผลิตภัณฑ์สินค้า OTOP ของจังหวัดประจวบฯ ให้เป็นที่รู้จักแพร่หลายมากยิ่งขึ้น.

Categories
ข่าว ทั้งหมด

เทศบาลหัวหินทำบุญเนื่องในวัน อปพร. ครบรอบ 45 ปี

เทศบาลหัวหินทำบุญเนื่องในวัน อปพร. ครบรอบ 45 ปี

วันที่ 23 มีนาคม 2567 ที่ศูนย์ อปพร.เทศบาลเมืองหัวหิน สวนหลวงราชินี 19 ไร่ อ.หัวหิน จ.ประจวบฯ น.ส.บุษบา โชคสุชาติ นายอติชาติ ชัยศรี รองนายกเทศมนตรีเมืองหัวหิน พร้อมด้วยนายอุดม ดวงแข ประธานสภาเทศบาล นายจีรวัฒน์ พราหมณี ปลัดเทศบาล นายปรีชา อยู่ฟุก ประธาน อปพร.เทศบาลเมืองหัวหิน และเจ้าหน้าที่ศูนย์ อปพร.เทศบาลเมืองหัวหิน ร่วมพิธีทำบุญเลี้ยงเพลพระสงฆ์ 9 รูป เพื่อความเป็นสิริมงคล เนื่องในวันสถาปนาอาสาสมัครป้องกันและบรรเทาภัยฝ่ายพลเรือน (อปพร.) แห่งชาติ (22 มีนาคมของทุกปี) เพื่อเป็นการเชิดชูความสำคัญของ อปพร. ซึ่งทำหน้าที่เป็นเครือข่ายป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยสนับสนุน ช่วยเหลือ เป็นผู้เสียสละบำเพ็ญสาธารณประโยชน์แก่ส่วนรวมเป็นอย่างดีเสมอมา

สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 22 มีนาคม 2522 ได้มีการบังคับใช้พระราชบัญญัติป้องกันภัยฝ่ายพลเรือน พ.ศ.2522 เป็นครั้งแรก และกำหนดให้มีอาสาสมัครป้องกันภัยฝ่ายพลเรือน (อปพร.) จึงกำหนดให้ในวันที่ 22 มีนาคม ของทุกปี เป็นวัน อปพร. ซึ่งภารกิจ อปพร.สืบเนื่องมา 45 ปีแล้ว เพื่อยกย่องเชิดชูคุณงามความดีของสมาชิก อปพร. ที่มีจิตอาสาในการช่วยเหลือสังคม ผู้ประสบภัยจากภัยธรรมชาติ อุบัติเหตุทางถนนและอุบัติภัย รวมถึงการรักษาความสงบและความมั่นคงภายในเขตพื้นที่ด้วยความเสียสละ ปฏิบัติหน้าที่เพื่อประโยชน์ส่วนรวม ภายใต้อุดมการณ์ “เมตตา กล้าหาญ” โดยมิได้หวังผลประโยชน์หรือสิ่งตอบแทนใดๆ จนเป็นที่ประจักษ์แก่สังคม.

Categories
ข่าว ทั้งหมด

นายก อบต. สุดทนโพสต์เตือนลูกบ้านอย่าเข้าป่ากรมหลวงฯ เนื่องจากหมดคนไปประกันตัวให้แล้ว

นายก อบต. สุดทนโพสต์เตือนลูกบ้านอย่าเข้าป่ากรมหลวงฯ เนื่องจากหมดคนไปประกันตัวให้แล้ว

วันที่ 23 มีนาคม 2567 นายธิรวัฒน สุดจันทร์ นายก อบต.ช้างแรก อ.บางสะพานน้อย จ.ประจวบฯ เปิดเผยว่าขณะนี้ตนสุดทนกับลูกบ้านที่มีพฤติกรรมตัดไม้ทำลายป่าและบุกรุกพื้นที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า อุทยานเสด็จในกรม กรมหลวงชุมพร ด้านทิศเหนือ (ตอนบน) จ.ประจวบฯ จนต้องโพสต์เตือนสติลูกบ้านว่า“เรียนพี่น้องชาวช้างแรก ใครมีที่ดินติดแนวเขตรักษาพันธุ์ หรือใกล้แนวเขต ช่วงนี้ให้งดเข้าทำพื้นที่ก่อนนะครับ เนื่องจากมีการกวดขันและจับกุมทุกวันเลย ตอนนี้หมดคนประกันแล้วครับ”นายธิรวัฒน กล่าวต่อว่าจากการที่เจ้าหน้าที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า อุทยาน เสด็จในกรม กรมหลวงชุมพรฯ เข้มงวดกวดขันการบุกรุกทำลายป่าในพื้นที่ ประกอบกับมีระบบดาวเทียมติดตามและรายงานจุดความร้อน หรือ Hot Spot ชาวบ้านที่เข้าไปบุกรุกพื้นที่ป่าไม่มีทางหลบหนีการกวดขันของเจ้าหน้าที่พ้น ตนจึงได้โพสต์ลงสื่อโซเชียล ในไลน์กลุ่มต่างๆ ที่มีลูกบ้านอยู่ เพื่อเตือนสติว่าหากโดนจับกุมดำเนินคดีจะไม่คุ้มกันเลย ซึ่งตอนนี้เจ้าหน้าที่ อบต.ช้างแรกทุกคนไปเป็นผู้ประกันตัวให้กับลูกบ้านหมดแล้ว จึงขอวิงวอนให้หยุดการกระทำที่เป็นการสุ่มเสี่ยงในพื้นที่เขตรักษาพันธุ์ฯ เป็นอันขาด

นายสมเจตน์ จันทนา ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 3 (สบอ.3) สาขาเพชรบุรี กล่าวว่าตามนโยบายของพลตำรวจเอก พัชรวาท วงษ์สุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) นายจตุพร บุรุษพัฒน์ ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม นายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช ที่ให้เข้มงวดกวดขันการเข้าไปกระทำความผิดในการตัดไม้และล่าสัตว์ป่าในพื้นที่ป่าอนุรักษ์ทั่วประเทศ และติดตามเฝ้าระวังการเกิดไฟป่าอย่างจริงจัง จนทำให้พื้นที่ในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า อุทยานเสด็จในกรม กรมหลวงชุมพร ด้านทิศเหนือ (ตอนบน) จ.ประจวบฯ ภายใต้การนำของนายกิตติศักดิ์ สมศรี นักวิชาการป่าไม้ชำนาญการ หัวหน้าเขตฯ มีการจับกุมและดำนินคดีแก่บุคคลที่เข้าไปกระทำความผิดในพื้นที่ โดยในปีงบประมาณ พ.ศ.2566 ดำเนินคดีกับผู้กระทำผิด 42 คดี ผู้ต้องหา 17 ราย และในปีงบประมาณ พ.ศ.2567 จนถึงปัจจุบัน ดำเนินคดีกับผู้กระทำผิดไปแล้วทั้งสิ้น 16 คดี ผู้ต้องหา 16 ราย รวมการดำเนินคดีกับผู้กระทำผิดทั้งสิ้น 58 คดี ผู้ต้องหา 33 ราย

ด้านนายกิตติศักดิ์ สมศรี นักวิชาการป่าไม้ชำนาญการ หัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า อุทยานเสด็จในกรม กรมหลวงชุมพร ด้านทิศเหนือ (ตอนบน) จ.ประจวบคีรีขันธ์ กล่าวว่า ตนและเจ้าหน้าที่เพียง 23 นาย ต้องดูแลพื้นที่กว่า 185,000 ไร่ ครอบคลุม 11 หมู่บ้าน 4 ตำบล 2 อำเภอ ในพื้นที่จังหวัดประจวบฯ ตามนโยบายของผู้บริหาร จึงทำให้ตนและเจ้าหน้าที่ต้องทำงานอย่างเข้มงวดในการกวดขันเฝ้าระวังการเข้าไปบุกรุกทำลายป่า ซึ่งมีทั้งกลุ่มนายทุนและชาวบ้านในพื้นที่ โดยเจ้าหน้าที่เดินลาดตระเวนป่าทุกวัน ประกอบกับการใช้เทคโนโลยีต่างๆ เข้ามาช่วย จึงส่งผลให้มีการจับกุมดำเนินคดีมากขึ้น ซึ่งตั้งแต่ตนมาดำรงตำแหน่งเป็นหัวหน้าเขตรักษาพันธุ์ป่าแห่งนี้ ได้จับกุมผู้กระทำความผิดไปแล้วทั้งสิ้น 162 คดี ผู้ต้องหา 137 ราย

ส่วนโพสต์ของนายก อบต. ช้างแรก ต้องขอขอบคุณที่ผู้นำในชุมชนเข้าใจและช่วยกันปรามลูกบ้าน หรือกลุ่มนายทุนที่หากคิดเข้ามาในพื้นที่ก็ต้องถูกจับกุมดำเนินคดี

สำหรับเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า อุทยานเสด็จในกรม กรมหลวงชุมพร ด้านทิศเหนือ (ตอนบน) จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ มีแหล่งท่องเที่ยวเป็นที่รู้จักของคนในชุมชน คือน้ำตกไทรคู่ อีกทั้งมีสัตว์ป่าสำคัญๆ ได้แก่ เสือดาว นกเงือกหัวหงอก และยังมีสัตว์ป่าสงวนในพื้นที่อย่างเช่น เก้งหม้อ สมเสร็จ แมวลายหินอ่อน จึงอยากขอความร่วมมือชุมชนในพื้นที่ช่วยกันหวงแหนและรักษาไว้ให้คงความอุดมสมบูรณ์ต่อไป.

Categories
ทั้งหมด สังคม

นำคณะสื่อมวลชนดูงานด้านการประชาสัมพันธ์และการบริการวิชาการ

ข่าวสังคม

รศ.ดร.อุดมวิทย์ ไชยสกุลเกียรติ อธิการบดี มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลรัตนโกสินทร์ มอบหมายให้ รศ.ดร.อาคีรา ราชเวียง รองอธิการบดี กล่าวต้อนรับและขอบคุณคณะสื่อมวลชน ที่ให้การสนับสนุนข่าวสารของมหาวิทยาลัยให้เข้าถึงกลุ่มเป้าหมาย เป็นการประชาสัมพันธ์เชิงรุกและประชาสัมพันธ์มหาวิทยาลัยให้เป็นที่รู้จักแก่นักศึกษาและบุคคลทั่วไป ให้เข้าใจถึงบทบาทต่างๆ อย่างทั่วถึง สร้างภาพลักษณ์และความเชื่อมั่นที่ดีต่อมหาวิทยาลัย ก่อนที่จะนำคณะสื่อมวลชนดูงานด้านการประชาสัมพันธ์และการบริการวิชาการ ที่ มทร.รัตนโกสินทร์ วิทยาลัยเพาะช่าง โดยมี ผศ.สุรัฐ บุญทรง ผู้อำนวยการวิทยาลัยเพาะช่าง ให้การต้อนรับเมื่อวันที่ 21 มีนาคม 2567.

Categories
ข่าว ทั้งหมด

เอสวีแอลกรุ๊ป จัดโครงการคัดแยกขยะจากต้นทาง มอบรายได้ให้ชุมชน

เอสวีแอลกรุ๊ป จัดโครงการคัดแยกขยะจากต้นทาง มอบรายได้ให้ชุมชน

บริษัท ไลน์ทรานสปอร์ต จำกัด ในกลุ่มธุรกิจโลจิสติกส์ของเอสวีแอลกรุ๊ป (SVL Group) ส่งเสริมให้พนักงานคัดแยกขยะในองค์กร และร่วมกันส่งมอบขยะรีไซเคิล อาทิ ขวดพลาสติก ขวดแก้ว อลูมิเนียม ขยะพลาสติก ฯลฯ ที่พนักงานได้คัดแยกประเภทแล้ว นำมาบริจาคในโครงการ “ขยะสร้างสุข” ที่เอสวีแอลกรุ๊ปรณรงค์และตั้งใจลดปริมาณขยะ สร้างความตระหนักให้พนักงาน สนใจและช่วยกันดูแลรักษาสิ่งแวดล้อมจากภายในสู่ภายนอกองค์กร โดยขยะดังกล่าวจะส่งต่อให้กับชุมชน หมู่ 4 บ้านละหาน และหมู่ 2 บ้านนาผักขวง ซึ่งผู้นำชุมชน ทั้งสองหมู่จะรวบรวมขยะและนำไปขาย เพื่อนำรายได้สมทบกองทุนส่งเสริมคุณภาพชีวิตผู้สูงวัย ผู้พิการ ผู้ป่วยติดเตียงและผู้ด้อยโอกาส รวมถึงช่วยเหลือชุมชนในพื้นที่ ต.กำเนิดนพคุณ อ.บางสะพาน จ.ประจวบคีรีขันธ์

ทั้งนี้โครงการดังกล่าวเปิดรับบริจาคขยะจากพนักงานและนำไปมอบให้ชุมชนต่อเนื่องทุกเดือน และครั้งนี้เป็นครั้งที่ 4 ที่ผ่านมา เอสวีแอลกรุ๊ปได้ร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการส่งเสริมกิจกรรมดีๆ ของชุมชน และรณรงค์การคัดแยกขยะจากต้นทางมาอย่างต่อเนื่อง เพื่อร่วมดูแลชุมชน มุ่งสู่สังคมคาร์บอนต่ำ สร้างสิ่งแวดล้อมที่ดีไปด้วยกัน.

ฟิสิษฐ์ รื่นเกษม….รายงาน

Categories
กีฬา ข่าว ทั้งหมด

ชมรมจักรยานสายบุญประจวบฯ ปั่นระดมทุนร่วมสร้างโรงพยาบาลแพทย์แผนไทยพระพิทักษ์สหโรคา แห่งแรกของไทย

ชมรมจักรยานสายบุญประจวบฯ ปั่นระดมทุนร่วมสร้างโรงพยาบาลแพทย์แผนไทยพระพิทักษ์สหโรคา แห่งแรกของไทย

วันที่ 22 มีนาคม 2567 นายพลกฤต พวงวลัยสิน นายอำเภอหัวหิน เป็นประธานแถลงข่าวโครงการปั่นแบ่งปันน้ำใจ ของชมรมจักรยานสายบุญประจวบฯ สมทบทุนสร้างโรงพยาบาลแพทย์แผนไทยพระพิทักษ์สหโรคา อ.ดอนเจดีย์ จ.สุพรรณบุรี เส้นทางหัวหิน – ชะอำ – เพชรบุรี – อัมพวา – ราชบุรี – โพธาราม – นครปฐม – กำแพงแสน – อู่ทอง – สุพรรณบุรี – วัดตรีวิสุทธิธรรม อ.ดอนเจดีย์ จ.สุพรรณบุรี รวมระยะทาง 360 กิโลเมตร ในระหว่างวันที่ 6 – 12 เมษายน 2567 มีว่าที่ร้อยตรี ธนสาร แกมไทย ประธานชมรมจักรยานสายบุญประจวบฯ พ.ต.ท.คมสันต์ วันเปลี่ยนสี ที่ปรึกษาชมรมจักรยานสายบุญประจวบฯ พร้อมคณะ หน่วยงานต่างๆ และสื่อมวลชน เข้าร่วมรับฟังที่ห้องประชุมที่ว่าการอำเภอหัวหิน จ.ประจวบฯ

โรงพยาบาลแพทย์แผนไทยพระพิทักษ์สหโรคา เป็นโรงพยาบาลแพทย์แผนไทยเอกชนแห่งแรกของไทย เพื่อรักษาพระอาพาธและผู้ป่วยผู้ยากไร้ฟรี ซึ่งพัฒนาต่อยอดจากคลินิกการแพทย์แผนไทยพิทักษ์ศาสนวงศ์ จากดำริของพระครูพิทักษ์ศาสนวงศ์ หรือ “หลวงพ่อไก่” เจ้าอาวาสวัดตรีวิสุทธิธรรม เพื่อช่วยบำบัดรักษาผู้ป่วย โดยใช้หลักธรรมะบำบัดแบบองค์รวม ประกอบด้วยการรักษาร่างกายด้วยศาสตร์การแพทย์แผนไทย และการรักษาจิตใจด้วยธรรมโอสถ รักษาคน เพื่อรักษาธรรม ทำให้ผู้ป่วยแข็งแรงทั้งร่างกายและจิตใจ สามารถกลับไปเป็นกำลังสำคัญให้กับครอบครัวและสังคมไทย สำหรับโครงการก่อสร้างโรงพยาบาลแพทย์แผนไทยพระพิทักษ์สหโรคา เป็นโรงพยาบาลขนาดกลาง ที่คาดว่าจะใช้งบประมาณก่อสร้างประมาณ 300 ล้านบาท เป็นอาคาร 6 เหลี่ยม 6 ชั้น จำนวนเตียงประมาณ 60 เตียง มีระบบการรักษาที่เป็นมาตรฐาน มีประสิทธิภาพ รองรับการรักษา การพักค้างคืนของผู้ป่วย และเป็นศูนย์กลางการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ทางการแพทย์แผนไทยในอนาคต ซึ่งจะก่อให้เกิดประโยชน์ต่อสังคมและประเทศต่อไป

ว่าที่ร้อยตรี ธนสาร แกมไทย กล่าวว่า “ตนทราบว่ามูลนิธิพระพิทักษ์สหโรคา กำลังจะสร้างโรงพยาบาลแพทย์แผนไทยพระพิทักษ์สหโรคา เป็นแห่งแรกของประเทศไทย “รักษาคน เพื่อรักษาธรรม” จึงได้ปรึกษากับมูลนิธิพระพิทักษ์สหโรคา เกี่ยวกับการระดมทุนจัดโครงการปั่นแบ่งปันน้ำใจสร้างโรงพยาบาลแพทย์แผนไทยพระพิทักษ์สหโรคาขึ้น เพื่อประชาสัมพันธ์บอกบุญและรับบริจาค ซึ่งรายได้ทั้งหมดในครั้งนี้ไม่มีการหักค่าใช้จ่าย จะนำส่งมอบให้กับมูลนิธิพระพิทักษ์สหโรคาใช้ในการสร้างโรงพยาบาลแพทย์แผนไทยพระพิทักษ์สหโรคาต่อไป คาดว่าจะมีนักปั่นจากชมรมนักปั่นจักรยานหลายจังหวัดเข้าร่วมสมทบกว่า 200 คน ผู้ที่สนใจสามารถร่วมปั่น หรือร่วมบริจาคทุนทรัพย์ได้ตามเส้นทางจักรยานที่ติดพุ่ม หรือร่วมทำบุญที่ธนาคารกรุงไทย เลขบัญชี 739 – 040950 – 9 ชื่อบัญชี : มูลนิธิพระพิทักษ์สหโรคา (ไม่สามารถลดหย่อนภาษีได้)”.