Categories
ข่าว ทั้งหมด

นายอำเภอชะอำปิดทองหลวงพ่อทัย เกจิดังเมืองเพชรบุรีในงานปิดทองประจำปีวัดไทรย้อย

นายอำเภอชะอำปิดทองหลวงพ่อทัย เกจิดังเมืองเพชรบุรีในงานปิดทองประจำปีวัดไทรย้อย

วันที่ 11 มีนาคม 2567 นายแก้ว คงวงศ์ นายอำเภอชะอำ จ.เพชรบุรี เดินทางไปกราบสักการะปิดทองรูปเหมือน “หลวงพ่อทัย” พระครูวชิรคุณารักษ์ อดีตเจ้าอาวาสวัดไทรย้อย อ.ชะอำ ในงานปิดทองประจำปีรูปเหมือน “หลวงพ่อทัย – หลวงพ่อม่วง” วัดไทรย้อย มีพระครูอากรวัชรธรรม เจ้าอาวาสวัดไทรย้อย ประธานชุมชนและคณะกรรมการจัดงานให้การต้อนรับ พร้อมกันนี้เจ้าอาวาสวัดไทรย้อย ได้นำนายอำเภอชะอำเยี่ยมชมพระอุโบสถไม้สักเก่า สร้างในสมัยรัชกาลที่ 6 และลอดใต้พระอุโบสถรวม 3 รอบ เพื่อความเป็นสิริมงคลด้วย โดยวัดจัดงานปิดทองประจำปี ตั้งแต่วันที่ 9 – 11 มีนาคม 2567 รวม 3 วัน ภายในงานมีการออกร้านค้าและมหรสพทุกค่ำคืน แต่ละคืนที่ผ่านมา มีประชาชนจำนวนมากเที่ยวงานเป็นจำนวนมาก

หลวงพ่อทัย เดิมชื่อพริกไทย เกิดเมื่อ พ.ศ.2438 นามสกุลของท่าน คือหมื่นชำนาญป่า บ้านเดิมอยู่บ้านทับใต้ ปัจจุบันอยู่ในพื้นที่ห้วยมงคล อ.หัวหิน หลวงพ่อเป็นพี่ชายของหลวงพ่อปลั่ง วัดห้วยมงคล เจ้าอาวาสองค์แรกผู้สร้างวัด ในวัยหนุ่ม หลวงพ่อรับราชการเป็นตำรวจ เมื่อเข้าสู่อายุครบบวช ก็ได้บวชกับหลวงพ่อนาค วัดหัวหิน สมัยก่อนบ้านเมืองยังไม่ใหญ่โต ก่อนเปลี่ยนแปลงการปกครอง วัดในหัวหินมีแค่ในหัวหินที่เดียว เข้าใจว่าการรับราชการสมัยก่อน ใครพออ่านออกเขียนได้ ก็ให้รับราชการ เรื่องเบี้ยเลี้ยงเงินเดือนไม่ได้เป็นระบบเหมือนในสมัยนี้ จึงไม่ได้ทำให้เกิดความจูงใจมากนัก หลวงพ่อจึงบวชเรียนอยู่กับหลวงพ่อนาคที่วัดหัวหินอยู่นานหลายปี ประมาณ พ.ศ.2400 หมู่บ้านบางควาย เริ่มมีการตั้งถิ่นฐานกันอยู่บ้าง ด้วยเป็นเส้นทางการค้าขายระหว่างเพชรบุรี – หัวหิน – ปราณบุรี จุดที่ตั้งของบ้านบางควาย มีน้ำจืด และเป็นช่องเขาที่ลงมาจากป่าทิศตะวันตกด้วย จึงเป็นจุดนัดพบสำคัญแห่งหนึ่งในเส้นทางสายนี้ จนกระทั่ง พ.ศ.2450 หมู่บ้านเริ่มมีคนมาอยู่มากขึ้น ชาวบ้านมักนิยมไปทำบุญ แต่วัดที่ใกล้เคียงในเวลานั้น มีแค่วัดโตนดหลวง กับวัดหัวหิน พอถึงวันพระใหญ่ ก็จะมีขบวนเกวียนชาวบ้านไปทำบุญกันที่วัดหัวหิน

นานวันเข้า ชาวบ้านจึงได้อาราธนากับหลวงพ่อนาค ว่าให้ส่งพระจากวัดหัวหิน มาอยู่ที่หมู่บ้านบางควายบ้าง จะได้อนุเคราะห์ญาติโยมในการทำบุญ เบื้องต้นหลวงพ่อนาคได้ส่งหลวงพ่อเล็ก กับพระอีก 3 – 4 รูปมาอยู่เป็นชุดแรก และในปี 2460 หลวงพ่อเล็ก มาอยู่ที่วัดบางควายไม่นาน ก็มรณภาพ หลวงพ่อทัยจึงได้ขึ้นเป็นเจ้าอาวาสแทน ในปี 2470 ได้จัดงานผูกพัทสีมาอุโบสถหลังแรก เป็นอุโบสถไม้สักทั้งหลัง อยู่ติดทะเลบางควายมานานกว่า 80 ปี ต่อมาปี 2504 ท่านได้สมณศักดิ์ที่พระครูวชิรคุณารักษ์ หลวงพ่อทัย ปกครองวัดไทรย้อยเรื่อยมาตั้งแต่ปี 2471 ถึงปี 2519 ก็มรณภาพด้วยโรคตับแข็ง เมื่อวันศุกร์ที่ 23 เมษายน 2519 สิริอายุ 80 ปี ตำแหน่งสุดท้ายท่านเป็นพระอุปัชฌาย์และเจ้าคณะตำบลชะอำ

หลวงพ่อทัยเป็นพระเกจิอาจารย์ที่เก่งไม่เป็นรองใคร ไม่ว่าเรื่องปลัดขิก เสือมหาอำนาจ ตะกรุดหลวงพ่อทัย วัดไทรย้อย เป็นสุดยอดตะกรุด ที่ขนาดหลวงพ่ออี๋ วัดสัตหีบ ให้ศิษย์ทหารเรือไปกราบและหามาใช้ ท่านออกเหรียญรุ่นเดียว คือรุ่น 1 ปี 2504 ท่านดังปลัดขิกมากกว่าไหนๆ หลวงพ่ออี๋บอกกับทหารเรือสัตหีบว่า “นอกจากฉันแล้ว ก็มีแต่หลวงพ่อทัยที่สู้ฉันได้” เคยมีลูกศิษย์ท่านประสบอุบัติเหตุอย่างหนัก รถพังยับเยินตายเกือบทั้งคัน ยกเว้นคนที่พกปลัดขิก ไม่ได้รับอันตรายบาดเจ็บใดๆ และมีคนพื้นที่เล่าให้ฟังว่า ตชด.ค่ายนเรศวร โดดร่มแล้วร่มไม่กาง เอ่ยชื่อท่านแล้วขอให้ท่านช่วย ตกลงมาไม่เป็นอะไรเลย ซึ่งของขลังของหลวงพ่อทัย คนในพื้นที่จะหวงมาก.

Categories
ข่าว ทั้งหมด

คนหัวหินรับรางวัล คนดีจิตอาสาวันสตรีสากล

คนหัวหินรับรางวัล คนดีจิตอาสาวันสตรีสากล

ช่วงเย็นวันที่ 8 มีนาคม 2567 คุณหญิงโรส บริบาลบุรีภัณฑ์ เป็นประธานในการจัดงานเนื่องในงานวันสตรีสากล โดยมี น.ส.กิ่งเพชร บุญยงค์ ประธานชมรมอนุรักษ์วัฒนธรรมไทยในต่างแดน จัดขึ้นที่โรงแรมรอยัลปริ๊นเซส หลานหลวง กรุงเทพมหานคร มีคุณรัญชา บริบาลบุรีภัณฑ์ เจ้าเจือจันทร์ ณ เชียงใหม่ และ ดร.สุวภรณ์ แนวจำปา ร่วมงาน

ในงานมีพิธีแสดงมุฑิตาจิต พระมหาณัฎฐานนท์ เจ้าอาวาสวัดไทย ชวาร์ชวาลด์ เยอรมนี เนื่องในโอกาสรับพระราชทานสมมณศักดิ์ ราชทินนาม พระครูศรีกิตยาภินันท์ จากนั้นมีคอนเสิร์ตโดยแมน วทัญญู มุ่งหมาย, ปีเตอร์ โฟดิฟาย, แมวเหมียว เขี้ยวเพชร, ดวงจันทร์ สุวรรณี, อานนท์ คนโคราช, เวียนนา วาปีปทุม, น้อย นิวซีแลนด์, แหม่ม ภาวิดา และยังมีการเดินแฟชั่นโชว์อีกด้วย

ก่อนที่จะมีการมอบโล่คนดี จิตอาสา โดยนายศิโรจน์ มิ่งขวัญ นายกสมาคมนักข่าวอาชญากรรมแห่งประเทศไทย ให้กับ ศิลปินนักแสดงและบุคคลสำคัญ รวมทั้งสิ้น 24 คน โดยมีคนหัวหินทั้งสามคนที่ได้รางวัลจิตอาสา ได้แก่ 1. นางวาสนา ศรีกาญจนา นายกสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวหัวหิน – ชะอำ รับรางวัลผู้บริหารจิตอาสา ภาคเอกชนช่วยเหลือสังคม 2. นายศุภชัย ลูกชาย นายกสโมสรโรตารีหัวหิน รับรางวัลผู้บริหารจิตอาสา ภาคเอกชนช่วยเหลือสังคม 3. นายกิติพงษ์ สิริเพชรเกษม ประธานชมรมเราเพื่อนกัน.

Categories
ข่าว ท่องเที่ยว ทั้งหมด

เริ่มแล้วเทศกาลชิมปูชัก @ ชะอำ ครั้งที่ 9 นักท่องเที่ยวชิมปูม้าแน่นหาด

เริ่มแล้วเทศกาลชิมปูชัก @ ชะอำ ครั้งที่ 9 นักท่องเที่ยวชิมปูม้าแน่นหาด

ช่วงค่ำวันที่ 9 มีนาคม 2567 ที่บริเวณจุดชมวิวชายหาดชะอำ อ.ชะอำ จ.เพชรบุรี นายณัฏฐชัย นำพูลสุขสันติ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบุรี เป็นประธานเปิดงานเทศกาลชิมปูชัก @ ชะอำ ครั้งที่ 9 ประจำปี 2567 มี นายมงคลชัย สมอุดร รองปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี นางสุดฤทัย เลิศเกษม อธิบดีกรมประชาสัมพันธ์ นายฤกษ์ อยู่ดี สส.เพชรบุรี เขต 2 พรรคภูมิใจไทย นายนุกูล พรสมบูรณ์ศิริ นายกเทศมนตรีเมืองชะอำ นายแก้ว คงวงศ์ นายอำเภอชะอำ นายนิติ วงษ์วิชาสวัสดิ์ ผู้อำนวยการ ททท.สำนักงานเพชรบุรี นายวสันต์ กิตติกุล นายกสมาคมโรงแรมไทยภาคตะวันตก (เพชรบุรี – ประจวบฯ) และแขกผู้มีเกียรติให้การต้อนรับ ท่ามกลางนักท่องเที่ยวจำนวนมากร่วมงาน จัดโดยเทศบาลเมืองชะอำ ร่วมกับ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานเพชรบุรี และบริษัท สิงห์คอร์เปอเรชั่น จำกัด ในระหว่างวันที่ 9 – 16 มีนาคม 2567 บริเวณจุดชมวิวชายหาดชะอำ ภายหลังเปิดงานแล้ว ผู้ว่าราชการ จังหวัดเพชรบุรี และแขกผู้มีเกียรติ ร่วมกับเชฟโรงแรมชื่อดังเมืองเพชรบุรี ปรุงอาหารเมนูเด็ด “แกงคั่วปูม้าใบชะพลูกับเส้นแองเจิ้นแอร์” แจกจ่ายให้ผู้มาร่วมงานและนักท่องเที่ยวได้ลองชิมด้วยความเอร็ดอร่อย

ภายในงานมีกิจกรรมที่สนใจมากมาย อาทิ การออกร้านจำหน่ายอาหารทะเลเน้นเมนูปูม้าสดๆ ของชาวประมงพื้นบ้านชะอำ และอาหารที่รังสรรค์เป็นพิเศษจากเชฟโรงแรมและร้านอาหารชื่อดังในอำเภอชะอำในราคาเหมาะสมกว่า 60 ร้านค้า การจำลองวิถีชีวิตการชักปูของชาวประมง การจำหน่ายผลิตภัณฑ์ท้องถิ่นบนถนนคนเดินชายหาดชะอำ และการแสดงของศิลปินนักร้องที่ได้รับความนิยมบนเวทีทุกค่ำคืน นอกจากนี้ ยังจัดให้มีกิจกรรม CSR “ปล่อยพันธุ์ลูกปูม้า คืนสู่ทะเล” ทุกวัน ภายในงาน ตั้งแต่เวลา 18.00 – 19.30 น. ฟรี ไม่มีค่าใช้จ่าย จึงขอเชิญทุกท่านร่วมงานเทศกาลแห่งวิถีชีวิตและการอนุรักษ์ปูม้าของชะอำ ในเทศกาลชิมปูชัก@ชะอำ ครั้งที่ 9 ณ จุดชมวิวชายหาดชะอำ หนึ่งปีมีครั้งเดียวจนถึงวันที่ 16 มีนาคมนี้.

Categories
ข่าว ทั้งหมด

ชะอำจัดวันคณะกรรมการหมู่บ้าน มอบใบประกาศเกียรติคุณให้กำนันผู้ใหญ่บ้าน

ชะอำจัดวันคณะกรรมการหมู่บ้าน มอบใบประกาศเกียรติคุณให้กำนันผู้ใหญ่บ้าน

วันที่ 9 มีนาคม 2567 นายแก้ว คงวงศ์ นายอำเภอชะอำ เป็นประธานเปิดงานวันคณะกรรมการหมู่บ้าน ประจำปี 2567 ที่หอประชุมที่ว่าการอำเภอชะอำ จ.เพชรบุรี มี ปลัดอำเภอ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน แพทย์ตำบล สารวัตรกำนัน รวม 8 ตำบล และ อส.กองร้อยที่ 3 เข้าร่วมงาน โดย นายอำเภอชะอำ นำกล่าวคำปฏิญาณตนเนื่องในวันคณะกรรมการหมู่บ้าน พร้อมอ่านสารจากนายกรัฐมนตรี เนื่องในวันคณะกรรมการหมู่บ้าน ประจำปี 2567 และกล่าวแสดงความยินดีกับคณะกรรมการหมู่บ้าน โดยกล่าวว่า คณะกรรมการหมู่บ้านมีบทบาทที่สำคัญในการแก้ไขปัญหา พัฒนาหมู่บ้านและสร้างความเข้มแข็งให้หมู่บ้าน รวมถึงเป็นกลไกหลักในการแบ่งเบาภาระงานของทางราชการ และขับเคลื่อนนโยบายของรัฐบาลไปสู่ประชาชน เพื่อให้ได้รับประโยชน์สูงสุด และขอเป็นกำลังใจในการทำงานให้แก่กรรมการหมู่บ้านทุกท่าน ที่ทุ่มเท เสียสละ ปฏิบัติหน้าที่เพื่อประเทศชาติด้วยจิตสาธารณะ อีกทั้งขอแสดงความยินดีกับหมู่บ้านที่ได้รับรางวัลชนะเลิศในระดับเขต และระดับภาค ทุกหมู่บ้านคือพลังสำคัญของชาติในการพัฒนาประเทศ เพื่อให้ประชาชนมีคุณภาพชีวิตที่ดีอย่างยั่งยืนต่อไป พร้อมกันนี้ นายอำเภอชะอำมอบใบประกาศเกียรติคุณ ให้แก่นายสุขุม องอาจ กำนันตำบลสามพระยา, นายสายยน มีมาก ผู้ใหญบ้าน หมู่ 5 ต.สามพระยา, นายอนุชา นุชนาถ ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน หมู่ 5 ต.บางเก่า, นางเนาวรัตน์ สาริชะ ผู้ช่วย ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ 8 บ้านนายาง ที่เป็นผู้นำดีเด่น และได้ดำรงตำแหน่งครบ 10 ปี

คณะกรรมการหมู่บ้าน หรือ กม. จัดตั้งขึ้นตามพระราชบัญญัติลักษณะปกครองท้องที่พุทธศักราช 2457 โดยถือกำหนดขึ้นครั้งแรกเมื่อวันที่ 9 มีนาคม 2486 และในปี 2551 ได้มีการปรับปรุงแก้ไขโครงสร้างและอำนาจหน้าที่ของ กม. เพื่อให้สอดคล้องกับบริบทของสังคมที่เปลี่ยนแปลงไป และครอบคลุมการทำงานในทุกมิติ ของหมู่บ้าน เสมือนเป็น“คณะรัฐมนตรีประจำหมู่บ้าน”โดยร่วมกันทำงานด้วยความมุ่งมั่น ทุ่มเท เสียสละ ตามอำนาจหน้าที่ด้วยจิตสาธารณะ จนสร้างความเข้มแข็งให้แก่หมู่บ้าน อันหมายถึงรากฐานสำคัญของประเทศ โดยเฉพาะในห้วงปีที่ผ่านมาประเทศไทยประสบปัญหาการแพร่ระบาดของโรคโควิด – 19 ส่งผลกระทบต่อสุขภาพ เศรษฐกิจ และวิถีชีวิตความเป็นอยู่ของพี่น้องประชาชน รัฐบาลได้ออกมาตรการต่างๆ เพื่อแก้ไขปัญหา และป้องกันการแพร่ระบาดของโรคดังกล่าวฯ มาอย่างมากมาย ทั้งนี้ บุคลากรสำคัญที่เป็นกลไก ขับเคลื่อนนำนโยบายและมาตรการต่างๆ ลงไปสู่ประชาชนในพื้นที่ หนึ่งในนั้นคือคณะกรรมการหมู่บ้าน ที่มีความใกล้ชิด รับรู้ รับทราบ เข้าถึงข้อมูล สภาพพื้นที่ ปัญหาและความต้องการของหมู่บ้านเป็นอย่างดี โดยที่ได้ร่วมกันบูรณาการกับภาครัฐ ภาคเอกชน รวมทั้งประชาชนในพื้นที่ สร้างการรับรู้ในการแก้ไขปัญหา และนำนโยบายไปปฏิบัติให้เกิดผลสัมฤทธิ์ ทั้งนี้ กระทรวงมหาดไทยได้ประกาศให้วันที่ 9 มีนาคม ของทุกปีเป็นวันคณะกรรมการหมู่บ้าน เพื่อเสริมสร้างขวัญและกำลังใจในการทำงานให้แก่คณะกรรมการหมู่บ้าน.

Categories
ข่าว ทั้งหมด

สภาผู้บริโภคประจวบฯ มุ่งเป้าโรงเรียนประจวบวิทยาลัยเป็นศูนย์เรียนรู้ระบบรถรับส่งนักเรียนปลอดภัย

สภาผู้บริโภคประจวบฯ มุ่งเป้าโรงเรียนประจวบวิทยาลัยเป็นศูนย์เรียนรู้ระบบรถรับส่งนักเรียนปลอดภัย

วันที่ 8 มีนาคม 2567 นายนันทปรีชา คำทอง ประธานสภาองค์กรของผู้ปริโภคจังหวัดประจวบฯ เป็นประธานประชุมกลไก – ภาคีเครือข่ายการจัดการรถนักเรียนปลอดภัยจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ตามโครงการพัฒนาบริการขนส่งสาธารณะที่ปลอดภัยและเป็นธรรม เพื่อการคุ้มครองผู้บริโภคพื้นที่จังหวัดประจวบฯ ที่ห้องทองนพคุณ โรงแรมประจวบแกรนด์ อ.เมือง จ.ประจวบคีรีขันธ์ โดยมี น.ส.ธนพร บางบัวงาม หัวหน้าหน่วยงานประจำจังหวัดประจวบฯ สภาองค์กรของผู้บริโภค กล่าวรายงาน และมีพระครูวิสุทธิ์ธรรมโสภิต เจ้าคณะตำบลเกาะหลัก ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดเกาะหลัก พระอารามหลวง (คณะกรรมการสถานศึกษา โรงเรียนประจวบวิทยาลัย) นายเดชา เรืองอ่อน หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) จ.ประจวบฯ นายจิรศักดิ์ ติณสุวรรณ ป้องกันจังหวัด นายสุทธินาถ ทานนท์ รองศึกษาธิการจังหวัด นายณัฐพงศ์ เส็งดอนไพร รองผู้อำนวยการโรงเรียนประจวบวิทยาลัย และมีหน่วยงานจากภาครัฐและเอกชนเข้าร่วม ประกอบด้วยบริษัทกลางคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาประจวบฯ ศูนย์อำนวยการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดจังหวัด สำนักงานขนส่งจังหวัด วิทยาลัยเทคนิคประจวบฯ ตำรวจภูธรจังหวัด เทศบาลเมืองประจวบฯ ผู้เชี่ยวชาญในแต่ละด้านประจำสภาผู้บริโภคจังหวัด ทนายความประจำหน่วยงานประจำจังหวัด สภาองค์กรของผู้บริโภค คณะครู คณะกรรมการสถานศึกษาโรงเรียนประจวบวิทยาลัย และภาคีเครือข่ายศูนย์คุ้มครองสิทธิผู้บริโภคและองค์กรคุ้มครองผู้บริโภคทั้ง 8 อำเภอ 13 แห่ง เข้าร่วม

น.ส.ธนพร บางบัวงาม หัวหน้าหน่วยงานประจำจังหวัดประจวบฯ กล่าวว่า การประชุมกลไกการขับเคลื่อนและพัฒนาบริการขนส่งสาธารณะที่ปลอดภัยและเป็นธรรม เพื่อการคุ้มครองผู้บริโภคในพื้นที่จังหวัดประจวบฯ ในครั้งนี้ มีเนื้อหาในประเด็น กระบวนการขับเคลื่อนเพื่อเป็นศูนย์การเรียนรู้การจัดการรถรับส่งนักเรียนที่ปลอดภัย องค์ประกอบ 9 ขั้น โรงเรียนประจวบวิทยาลัยจะเป็นโรงเรียนต้นแบบ ตามโครงการแผนงานร่วมทุน ระหว่างสภาองค์กรของผู้บริโภค กับสำนักงานสนับสนุนกองทุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ในโครงการพัฒนาบริการขนส่งสาธารณะที่ปลอดภัยและเป็นธรรมเพื่อการคุ้มครองผู้บริโภค ในพื้นที่ภาคตะวันตก มีจังหวัดกาญจนบุรี จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ และจังหวัดสมุทรสงคราม โดยมีการพัฒนาและขับเคลื่อนนโยบายบริการขนส่งสาธารณะ จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ 2 ประเด็น ได้แก่ความร่วมมือการพัฒนาระบบรถรับส่งนักเรียนปลอดภัยให้เป็นศูนย์เรียนรู้ โรงเรียนประจวบวิทยาลัย (โรงเรียนต้นแบบ) และประเด็นที่ 2 ความร่วมมือการพัฒนาบริการขนส่งมวลชนที่ประชาชนเข้าถึงได้ง่าย สะดวก ปลอดภัย และเป็นธรรม ในเขตพื้นที่เศรษฐกิจ

การประชุมในครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อจัดตั้งกลไกคณะกรรมการขับเคลื่อนพัฒนาระบบรถรับส่งนักเรียนปลอดภัย ให้โรงเรียนประจวบวิทยาลัยเป็นศูนย์เรียนรู้ ตามองค์ประกอบ 9 ขั้นรถรับส่งนักเรียนปลอดภัย โดยขั้นที่ 1 มีคณะกรรมการและคณะทำงานระดับจังหวัด หรืออำเภอ ซึ่งคณะทำงานมีองค์ประกอบจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้ามามีส่วนร่วมกับโรงเรียน ขั้นที่ 2 มีกลไกการจัดการรถรับส่งนักเรียนของโรงเรียน (นักเรียน ครู ผู้ปกครอง กรรมการสถานศึกษา ) ขั้นที่ 3 มีระบบข้อมูล (ข้อมูลนักเรียน ข้อมูลรถและผู้ประกอบการ เส้นทางเดินรถ เส้นทาเสี่ยง พฤติกรรมคนขับ ฯลฯ) ขั้นที่ 4 มีระบบกลไกเฝ้าระวังภายในโรงเรียน โดยความร่วมมือของนักเรียน ครู ผู้ปกครอง ผู้ประกอบการ ตลอดจนมีระบบการติดต่อสื่อสารของกลไกเฝ้าระวังฯ ขั้นที่ 5 มีระบบการดูแลในรถ มีครู นักเรียน ควบคุมดูแลนักเรียนในรถ การติดต่อสื่อสารและการแจ้งปัญหา ขั้นที่ 6 มีการรวมกลุ่มของผู้ประกอบการ คนขับ รถนักเรียน ตลอดจนระบบการสื่อสาร ประสานงาน ให้ความรู้กับกลุ่มผู้ประกอบการ กลไกเฝ้าระวังฯ ขั้นที่ 7 มีระบบการดูแลเรื่องมาตรฐานรถและระบบรับรองมาตรฐานรถ (ระบบรับรองรถของโรงเรียน การขึ้นทะเบียนกับขนส่ง การรับรองโดยขนส่ง การประกันภัยรถ) ขั้นที่ 8 มีการจัดการจุดจอดรถ / ถนน (การกำหนดจุดจอดรถที่ปลอดภัย ระบบความปลอดภัยของถนนหน้าโรงเรียน และขั้นที่ 9 มีระบบการติดตามประเมินผล ระบบการจัดการทั้งระบบ

น.ส.ธนพร กล่าวต่อว่า ทั้งนี้เพื่อร่วมออกแบบการจัดการปัญหาจุดจอดรถ รถรับส่งนักเรียน และจุดรถมอเตอร์ไซค์ภายนอกโรงเรียน บริเวณถนนสู้ศึก บริเวณโรงพยาบาลประจวบฯ บริเวณวัดเกาะหลัก บริเวณประตูทางเข้าด้านหน้าโรงเรียนประจวบวิทยาลัย และบริเวณโดยรอบถนนสละชีพ นอกจากนี้ยังพบปัญหาการจอดรถริมทางในเวลาเร่งรีบ ช่วงเลิกเรียน ปัญหาการจอดรถรถมอเตอร์ไซค์ในซอยสละชีพ 9 บริเวณประตูทางเข้าด้านหลังโรงเรียน และบริเวณโดยรอบถนนพิทักษ์ชาติ อีกทั้งปัญหาการจอดรถช่วงโรงพยาบาลประจวบฯ ถึงบริเวณประตูหลังโรงเรียน ปัญหาจุดจอดรถรับ หลังโรงเรียนถนนพิทักษ์ชาติ ติดกับถนนมหาราช 1 และปัญหาการจอดรถมอเตอร์ไซค์จุดจอดรถในบริเวณวัดเกาะหลัก

นอกจากนี้ เพื่อหารือแนวทางการพัฒนานโยบายรถนักเรียนปลอดภัยระดับจังหวัด มีและผู้บริหารจากโรงเรียนประจวบวิทยาลัย วิทยาลัยเทคนิคประจวบฯ และพระครูวิสุทธิ์ธรรมโสภิต เจ้าคณะตำบลเกาะหลัก ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดเกาะหลัก พระอารามหลวง เข้าร่วมการประชุม เพื่อปรึกษาหาแนวทางการแก้ไขปัญหาจุดจอดรถนักเรียน โดยแนวทางการพัฒนานโยบายรถนักเรียนปลอดภัยระดับจังหวัด การสื่อสารสาธารณะ ขอความร่วมมือและเพื่อเตรียมความพร้อมประกาศให้โรงเรียนประจวบวิทยาลัยเป็นโรงเรียนต้นแบบและการขับเคลื่อนนโยบายสาธารณะต่อไป.

บุญมา ลิบลับ….รายงาน

Categories
กีฬา ข่าว ทั้งหมด

ทับสะแกจัดวิ่งกันดุ๊ เข้าร่วมกว่า 2,000 คน ก่อนมอบธงต่อให้สามร้อยยอด

ทับสะแกจัดวิ่งกันดุ๊ เข้าร่วมกว่า 2,000 คน ก่อนมอบธงต่อให้สามร้อยยอด

ช่วงเย็นวันที่ 6 มีนาคม 2567 นายกิตติพงศ์ สุขภาคกุล รองผู้ว่าราชการจังหวัด รักษาราชการแทนผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ นายสินาทร โอ่เอี่ยม รองผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ นายปรีดา สุขใจ ปลัดจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ร่วมกันเป็นประธานเปิดและปล่อยตัวนักวิ่ง ในกิจกรรม “วิ่งกันดุ๊ (RUN KHAN DO)” ซึ่งเป็นกิจกรรมวิ่ง หรือเดินออกกำลังกาย ที่บริเวณลานวัดทุ่งประดู่ ต.ทับสะแก อ.ทับสะแก จ.ประจวบคีรีขันธ์ มีนายราม สิงหโศภิษฐ์ นายอำเภอทับสะแก นายวราวุธ จิรประภานนท์ นายอำเภอสามร้อยยอด นายทนงศักดิ์ รุ่งรัศมี ปลัดอาวุโสอำเภอทับสะแก นายวิบูลย์ เทียนทอง นายกอบต.ทับสะแก นายผดุงศักดิ์ อิ่มทั่ว กำนันตำบลเขาล้าน นายสรรชัย พรามณีย์ กำนันตำบลทับสะแก พร้อมหัวหน้าส่วนราชการ ผู้บริหารท้องถิ่น สมาชิกสภาท้องถิ่น กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน อำเภอทับสะแก อำเภอสามร้อยยอด อำเภอปราณบุรี นักวิ่งจากอำเภอทับสะแก และจากอำเภอต่างๆ ร่วมวิ่งกว่าสองพันคน

กิจกรรม “วิ่งกันดุ๊ (RUN KHAN DO)” เป็นกิจกรรมส่งเสริมสุขภาพด้วยการวิ่ง หรือเดินออกกำลังกาย ที่ไม่จำกัดอายุ เพศ อาชีพ เน้นให้มีความหลากหลายของผู้ร่วมกิจกรรม ไม่เน้นชัยชนะ ไม่มีการแข่งขัน เน้นการใส่เสื้อสีเหลือง เนื่องจากปี 2567 เป็นปีแห่งการเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 วิ่งทุกอำเภอ เริ่มที่อำเภอปราณบุรี เมื่อวันที่ 28 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา

สำหรับเส้นทางการวิ่งอำเภอทับสะแก จัดขึ้นต่อจากอำเภอปราณบุรี เริ่มที่วัดทุ่งประดู่ เวลา 17.00 น. วิ่งมาทางทุ่งนา ทางมาช่องขวาง ข้ามสะพานแล้วออกตรงร้านอาหารประจวบเหมาะ เลี้ยวซ้ายวนไป เลี้ยวซ้ายอีกครั้งที่ต้นโพธิ์ ชุมชนชายทะเลบ้านทุ่งประดู่ ไปสิ้นสุดที่วัดทุ่งประดู่ ระยะทาง 5.5 กิโลเมตร

หลังจากเสร็จกิจกรรมวิ่งที่ทับสะแก ได้มีพิธีมอบธงให้กับนายวราวุธ จิรประภานนท์ นายอำเภอสามร้อยยอด เพื่อไปจัดกิจกรรมในวันพุธที่ 13 มีนาคม ที่อำเภอสามร้อยยอดต่อไป.

ณัฐธภพ พันสาย….รายงาน

Categories
กีฬา ข่าว ทั้งหมด

มูลนิธิกล้วยน้ำไทจัดปั่นจักรยานการกุศล ครั้งที่ 6 โครงการ Bike For Crab 2024

มูลนิธิกล้วยน้ำไทจัดปั่นจักรยานการกุศล ครั้งที่ 6 โครงการ Bike For Crab 2024

วันที่ 7 มีนาคม 2567 นายปรีดา สุขใจ ปลัดจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ พร้อมด้วยนายศรัณยู ชูเนศร์ รองประธานกรรมการบริหารกลุ่มบริษัทในเครือโรงพยาบาลกล้วยน้ำไท ร่วมกันแถลงข่าวกิจกรรมปั่นจักรยานการกุศล ประจำปี 2567 ครั้งที่ 6 โครงการ Bike For Crab 2024 ปั่นพิทักษ์ปู ที่ห้องประชุม อบต.ปากน้ำปราณ อ.ปราณบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์ มีนายดำรงค์ มากระจัน พัฒนาการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ว่าที่พันตรีอภิญญา ศักดินันท์ นายอำเภอปราณบุรี นายอติชาติ ชัยศรี รองนายกเทศมนตรีเมืองหัวหิน นายนำลาภ อิ่มทั่ว นายก อบต.ปากน้ำปราณ นายอาชวันต์ กงกะนันทน์ ผู้อำนวยการ ททท.สำนักงานประจวบคีรีขันธ์ นางวาสนา ศรีกาญจนา นายกสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวหัวหิน – ชะอำ นายสมศักดิ์ กรีธาธร หัวหน้าวนอุทยานปราณบุรี และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วม

ด้วยโรงพยาบาลกล้วยน้ำไท และกล้วยน้ำไทมูลนิธิ ได้เล็งเห็นถึงความสำคัญของปูม้า จึงได้จัดกิจกรรมปั่นจักรยานการกุศลดังกล่าว เพื่อระดมทุนสนับสนุนโครงการธนาคารปูม้าในชุมชน, เพื่อเป็นการส่งเสริมให้ประชาชนทั่วไปหันมาใสใจและดูแลสุขภาพมากขึ้น และเพื่อกระตุ้นให้นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติเดินทางมาท่องเที่ยวที่จังหวัดประจวบคีรีขันธ์มากยิ่งขึ้น และช้อป ชิม แชร์ ตลอดเส้นทางจัดกิจกรรม เป็นการกระจายรายได้สู่ชุมชน และผู้ประกอบการที่พัก รีสอร์ทต่างๆ รวมถึงผลิตภัณฑ์สินค้า OTOP ของจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ โดยจะปั่นจักรยานในวันอาทิตย์ที่ 24 มีนาคม 2567 ตั้งแต่เวลา 07.00 น. ณ ลานมหาราช ต.ปากน้ำปราณ อ.ปราณบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์ ระยะทาง 60 กิโลเมตร เส้นทางจากลานมหาราช ปากน้ำปราณ ไปถ้ำพระยานคร สามร้อยยอด และวกกลับมาสิ้นสุดที่ลานมหาราช ปากน้ำปราณ.

Categories
ข่าว ทั้งหมด

สมาคมศิษย์เก่าหัวหินวิทยาลัย จัดแข่งฟุตบอลเชื่อมความสามัคคี น้ำเงินขาวแชมเปี้ยนลีก 2024

สมาคมศิษย์เก่าหัวหินวิทยาลัย จัดแข่งฟุตบอลเชื่อมความสามัคคี น้ำเงินขาวแชมเปี้ยนลีก 2024

วันที่ 6 มีนาคม 2567 ที่ห้องประชุมเทเรซา โรงเรียนหัวหินวิทยาลัย นายรังสรรค์ บุญแท้ นายกสมาคมศิษยเ์ก่าโรงเรียนหัวหินวิทยาลัย และนายกิติพงษ์ สิริเพชรเกษม ที่ปรึกษาสมาคมฯ จัดประชุมการแข่งขันฟุตบอลเชื่อมความสามัคคีระหว่างศิษย์เก่าประจำปี 2567 มีตัวแทนศิษย์เก่าแต่ละรุ่นที่ส่งทีมเข้าร่วมการแข่งขัน มารับฟังกำหนดการ ระเบียบการแข่งขัน และจับสลากแบ่งสาย

นายรังสรรค์ กล่าวว่า การแข่งขันฟุตบอลเชื่อมความสามัคคีระหว่างศิษย์เก่าโรงเรียนหัวหินวิทยาลัย ได้จัดการแข่งขันมาแล้วถึง 4 ครั้ง แต่ด้วยสถานการณ์โควิด – 19 ที่ผ่านมา ทำให้การแข่งขันต้องหยุดชะงักไป หลังจากที่โรคระบาดโควิดได้เบาบางลงแล้ว จึงหารือกับคณะกรรมการและกำหนดจัดการแข่งขันขึ้นอีกครั้ง โดยใช้ชื่อการแข่งขันครั้งนี้ว่าน้ำเงินขาวแชมป์เปี้ยนลีก 2024 มีทีมเข้าร่วมการแข่งขัน 16 ทีม แบ่งเป็น 4 สาย เริ่มการแข่งขันในวันเสาร์ที่ 30 มีนาคม 2567 แข่งทุกวันเสาร์และอาทิตย์ ตั้งแต่เวลา 14.00 น. เป็นต้นไป ที่สนามฟุตบอลโรงเรียนหัวหินวิทยาลัย ขอเชิญศิษย์เก่าทุกรุ่นมาร่วมเชียร์กันได้ตามวันและเวลาดังกล่าว.

Categories
ข่าว ทั้งหมด

คอมเพรสเซอร์แอร์ กว่า 20 เครื่องถูกขโมยไปไร้ร่องรอย

คอมเพรสเซอร์แอร์ กว่า 20 เครื่องถูกขโมยไปไร้ร่องรอย

วันที่ 6 มีนาคม 2567 นายเลิศพันธุ์ แก้วพิมพ์ ผู้ใหญ่บ้านหนองบัว หมู่ 4 ต.ปากน้ำปราณ อ.ปราณบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์ ได้ประชาสัมพันธ์ในสื่อออนไลน์กลุ่มปากน้ำปราณ ประกาศเตือนภัยว่า เช้าวันที่ 4 มีนาคม 2567 ได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่าถูกลักขโมยคอมเพรสเซอร์แอร์ จำนวน 2 เครื่อง ในหมู่บ้านโครงการเคเอ็มและตามโรงแรมต่างๆ จึงอยากให้ทุกท่านระมัดระวัง และสอดส่องดูแลช่วยกัน หากเจอเหตุ หรือพบเห็นเหตุการณ์ผิดปกติ กรุณาโทรแจ้งสายด่วน 191 หรือ 032 – 631046 สถานีตำรวจปากน้ำปราณ หรือแจ้งผ่านไลน์แจ้งเหตุฉุกเฉินปากน้ำปราณ จากทีมงานผู้ใหญ่บ้าน และคณะกรรมการหมู่บ้านหนองบัว

ผู้สื่อข่าวจึงเดินทางไปพบนายเลิศพันธุ์ ผู้ใหญ่บ้าน ที่โครงการเคเอ็ม ซึ่งได้รับแจ้งจากคนดูแลบ้านหลังหนึ่ง ว่าคอมเพรสเซอร์แอร์ถูกคนร้ายไม่ทราบจำนวน มายกไปเมื่อวันที่ 4 มีนาคมที่ผ่านมา โดยคนร้ายยกเอาคอมเพรสเซอร์ไป และคนดูแลบ้านฝั่งตรงข้ามอีกหลังหนึ่ง บอกว่าที่บ้านเจ้านายก็ถูกคนร้ายขโมยคอมเพรสเซอร์ไป 2 ตัวเช่นกัน คาดว่าน่าจะหายวันเดียวกัน ซึ่งบ้านสองทั้งหลังไม่มีใครอยู่ เจ้าของซื้อทิ้งไว้ นานๆ จะมาพัก แต่จ้างคนดูแลคอยทำความสะอาด ภายในโครงการแห่งนี้ไม่มีกล้องวงจรปิด และเหตุการณ์แบบนี้ก็เพิ่งจะเคยเกิดขึ้นตั้งแต่มีโครงการขึ้นมา

นายพลนิกร นิลโอโล คนงาน เล่าว่าวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ตนมาทำความสะอาดและดูแลสวนบริเวณบ้าน ยังไม่พบอะไรผิดปกติแต่วันจันทร์มาเปิดประตูรั้วเข้าไป ก็เห็นว่าคอมเพรสเซอร์แอร์ที่อยู่ที่โรงจอดรถหายไป เดินดูรอบๆ บ้านตามประตูหน้าต่าง ก็ไม่มีร่องรอยถูกงัดแต่อย่างใด จึงรีบโทรศัพท์แจ้งเจ้านายและโทรแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจให้มาตรวจสอบ และทราบว่าจากคนดูแลบ้านหลังฝั่งตรงข้าม ว่าคอมเพรสเซอร์ที่ตั้งไว้หลังบ้านก็หายไป 2 เครื่อง ซึ่งคนร้ายถอดเอาเฉพาะคอมเพรสเซอร์ไปอย่างเดียว บางตัวก็ไม่เอาโครงไป ตรวจสอบรอบๆ บ้าน ไม่มีทรัพย์สินอื่นสูญหายเลย คาดว่าคนร้ายน่าจะมาขโมยในเวลากลางคืน

นายเลิศพันธุ์ กล่าวว่า ช่วงนี้มีเหตุลักขโมยในตำบลปากน้ำปราณบ่อยมาก ส่วนมากจะเป็นแอร์หรือคอมเพรสเซอร์ ไม่ว่าจะเป็น โรงแรมใหญ่ รีสอร์ทและบ้านในโครงการต่างๆ รวมๆ กันมากกว่า 20 ตัวแล้ว ซึ่งตนได้ประสานงานกับเจ้าหน้าที่ตำรวจและประชาสัมพันธ์แจ้งเตือนไปตามไลน์ต่างๆ ของหมู่บ้าน เพจหมู่บ้านและไลน์ตำบลปากน้ำปราณ เพื่อให้ทุกคนช่วยเป็นหูเป็นตากัน คิดว่าโจรที่เข้ามาลักทรัพย์ น่าจะทำเป็นขบวนการและมีความรู้ในเรื่องของแอร์ ไฟฟ้าเป็นอย่างดี เพราะการตัดแอร์ไม่ได้ง่าย ถ้าไม่มีความรู้จะเกิดอันตรายถึงขั้นระเบิดได้ ทั้งนี้ทรัพย์ที่หายส่วนใหญ่จะเป็นคอมเพรสเซอร์แอร์ เท่าที่สอบถามร้านรับซื้อของเก่า จะขายได้ประมาณ 1,500 – 2,000 บาทต่อตัว อยากให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเร่งติดตามตัวผู้ก่อเหตุมาลงโทษตามกฎหมายให้รวดเร็ว.

สมบัติ ลิมปจีระวงษ์….รายงาน

Categories
ทั้งหมด สังคม

โครงการบริจาคโลหิตเพื่อช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ ให้หนึ่งได้ถึงสาม

ข่าวสังคม

บริษัท ชาญธุรกิจ 1990 จำกัด ร่วมกับบริษัท ไทยฮอนด้า จำกัด เปิดรับบริจาคโลหิต ในโครงการบริจาคโลหิตเพื่อช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ ให้หนึ่งได้ถึงสาม มีนายชาญณรงค์ พานิชนันทนกุล กรรมการผู้จัดการใหญ่ น.ส.วิวิชชา พานิชนันทนกุล ผู้จัดการ มีโรงพยาบาลประจวบฯ โรงพยาบาลปราณบุรี โรงพยาบาลค่ายธนะรัชต์ และสมาชิกกิ่งกาชาดปราณบุรี มารับบริการ เพื่อนำโลหิตที่ได้ไปช่วยชีวิตผู้ป่วยที่ยังต้องการความช่วยเหลืออีกเป็นจำนวนมาก โดยมีว่าที่พันตรี อภิญญา ศักดินันท์ นายอำเภอปราณบุรี มาให้กำลังใจและมอบเหรียญกาชาดให้กับผู้ที่มาบริจาคโลหิตเป็นครั้งแรก และมอบของที่ระลึกให้กับทุกท่านที่มาร่วมบริจาคโลหิต ที่บริษัท ชาญธุรกิจ (1990) จำกัด เมื่อวันที่ 5 มีนาคม 2567.

สมบัติ ลิมปจีระวงษ์….รายงาน