Categories
ข่าว ทั้งหมด

จังหวัดประจวบฯ วางพวงมาลาเนื่องในวันรพี รำลึกพระบิดาแห่งกฎหมายไทย

จังหวัดประจวบฯ วางพวงมาลาเนื่องในวันรพี รำลึกพระบิดาแห่งกฎหมายไทย

วันที่ 7 สิงหาคม 2567 พระธรรมวชิรสิทธาจารย์ เจ้าคณะภาค 15 เจ้าอาวาสวัดคลองวาฬ พระอารามหลวง เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ นางระวีวรรณ หงษ์ขจร โพธิ์ทอง ปฏิบัติหน้าที่ผู้พิพากษาหัวหน้าศาลจังหวัดประจวบฯ เป็นประธานจัดงานวันรพี ปี 2567 ที่บริเวณหน้าอาคารศาลจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ มีนายสมคิด จันทมฤก ผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบฯ หัวหน้าส่วนราชการ หน่วยงานในกระบวนการยุติธรรม เข้าร่วมพิธีสงฆ์ และวางพวงมาลาสักการะหน้าพระรูปพระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้ารพีพัฒนศักดิ์ กรมหลวงราชบุรีดิเรกฤทธิ์ เพื่อเป็นการเทิดพระเกียรติและรำลึกถึงพระเกียรติคุณของพระองค์ท่านในฐานะที่ทรงเป็นผู้พัฒนากิจการด้านนิติศาสตร์และกระบวนการยุติธรรมของไทยให้มีความเจริญทัดเทียมนานาอารยประเทศจนถึงปัจจุบัน

ส่วนที่ศาลจังหวัดหัวหิน นายชยาธร เฉียบแหลม ผู้พิพากษาหัวหน้าศาลจังหวัดหัวหิน และคณะผู้พิพากษาศาลจังหวัดหัวหิน จัดกิจกรรมวันรพี ครบรอบ 104 ปี เพื่อน้อมรำลึกถึงคุณความดีของพระบรมวงศ์เธอ กรมหลวงราชบุรีดิเรกฤทธิ์ มีนายวชิระ หัสดีพงษ์ อัยการจังหวัดหัวหิน นายพลกฤต พวงวลัยสิน นายอำเภอหัวหิน นางอุษา พวงวลัยสิน นายกกิ่งกาชาดอำเภอหัวหินพ.ต.อ.คมสันต์ มาศิริ ผู้กำกับการสอบสวนสถานีตำรวจภูธรจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ พันเอกวาทยุทธ เฟืองทอง เสนาธิการศูนย์การทหารราบค่ายธนะรัชต์ พร้อมด้วยตัวแทนหน่วยงานต่างๆ อาทิ อำเภอหัวหิน เทศบาลเมืองหัวหิน ตำรวจภูธรจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ศูนย์การทหารราบค่ายธนะรัชต์ อำเภอสามร้อยยอด อำเภอปราณบุรี ร่วมกิจกรรมวันรพี ประจำปี 2567 มี นางพึงพิศ พูลธรัตน์ ผู้อำนวยการสำนักงานศาลจังหวัดหัวหินและเจ้าหน้าที่ศาลจังหวัดหัวหินให้การต้อนรับ

หลังเสร็จพิธีทำบุญเลี้ยงพระ ผู้พิพากษาหัวหน้าศาลจังหวัดหัวหิน ได้นำคณะผู้พิพากษา มอบทุนการศึกษา โล่รางวัลและใบประกาศเกียรติคุณแก่โรงเรียนที่ชนะการแข่งขันตอบปัญหากฎหมาย ซึ่งจัดการแข่งขันขึ้นเมื่อวันที่ 2 สิงหาคมที่ผ่านมา มีทีมเข้าร่วมแข่งขันจำนวน 22 ทีม จาก 11 โรงเรียนในเขตอำเภอหัวหินและอำเภอใกล้เคียงด้วย.

ข่าวแนะนำ
Categories
ข่าว ทั้งหมด

เทศบาลหัวหิน จับมือทีมวิจัยธรรมศาสตร์ ขับเคลื่อนเมืองหัวหินสู่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นรูปแบบพิเศษ

เทศบาลหัวหิน จับมือทีมวิจัยธรรมศาสตร์ ขับเคลื่อนเมืองหัวหินสู่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นรูปแบบพิเศษ

วันที่ 7 สิงหาคม 2567 นายนพพร วุฒิกุล นายกเทศมนตรีเมืองหัวหิน เป็นประธานเปิดการสัมมนาแนะนำโครงการวิจัยเรื่อง “โครงการวิจัยเทศบาลเมืองหัวหินเพื่อเป็นองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นรูปแบบพิเศษ” ที่โรงแรมหัวหินแกรนด์โฮเทล แอนด์ พลาซ่า จ.ประจวบฯ มีศาสตราจารย์ ดร.ศุภสวัสดิ์ ชัชวาลย์ หัวหน้าโครงการวิจัยฯ, ศาสตราจารย์ ดร.โกวิทย์ พวงงาม, ศาสตราจารย์ ดร.สมคิด เลิศไพฑูรย์ และนายสุทธิเกียรติ อังการบูรณะ นักวิจัยและที่ปรึกษาโครงการวิจัยฯ พร้อมด้วยคณะผู้บริหารเทศบาลเมืองหัวหิน สมาคม หน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน และผู้นำชุมชนต่างๆ เข้าร่วมรับฟัง

นายนพพร วุฒิกุล กล่าวว่า เทศบาลเมืองหัวหิน ร่วมกับ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ จัดสัมมนาแนะนำโครงการวิจัยดังกล่าว โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อสำรวจสภาพพื้นที่และสภาพแวดล้อมโดยทั่วไปของเมืองหัวหิน รวมถึงแนวโน้ม ความท้าทายและข้อจำกัดการพัฒนาและการบริหารจัดการพื้นที่เขตเทศบาลเมืองหัวหิน นำมาประเมินศักยภาพและความเป็นไปได้ของการพัฒนาพื้นที่เมืองหัวหินเป็นองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นรูปแบบพิเศษ และจัดทำข้อเสนอแนะแนวทางการขับเคลื่อนเมืองหัวหินสู่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่มีประสิทธิภาพและมีประสิทธิผล รวมทั้งการออกแบบรูปแบบการปกครองท้องถิ่นที่เหมาะสมสำหรับพื้นที่เมืองหัวหิน เพื่อจัดทำข้อเสนอแนะร่างกฎหมายการบริหารพื้นที่เมืองหัวหินต่อไป

ดร.ศุภสวัสดิ์ ชัชวาลย์ กล่าวว่า ในครั้งนี้มาคุยกับนายกเทศมนตรีเมืองหัวหิน และพี่น้องชาวหัวหิน ว่าวันนี้เมืองหัวหินมีความเจริญ มีความก้าวหน้าไปมาก การที่เรามีโครงสร้างเป็นเทศบาลเมืองอย่างที่เป็นอยู่ อาจจะทำให้การบริหารไม่มีประสิทธิภาพ ประสิทธิผลอย่างที่ควร เพราะว่าขอบเขตภารกิจหน้าที่และอำนาจของการเป็นเทศบาลเมืองมันมีจำกัด วันนี้เรามาเสนอแนวคิดว่าเราน่าจะทำให้เมืองหัวหินของเรานั้นมีโครงสร้างเป็นท้องถิ่นรูปแบบพิเศษ ซึ่งจะเป็นการเปิดโอกาสทำให้เมืองหัวหินของเรามีหน้าที่และอำนาจที่กว้างขวางมากขึ้น รวมไปถึงอาจจะมีโครงสร้างการบริหารงานที่ต่างกว่าเดิม ซึ่งจะทำให้การบริหารงานของเมืองหัวหินมีความคล่องตัว สามารถดูแลตอบสนองพี่น้องประชาชนในพื้นที่ได้ดีขึ้นกว่าเดิม

“ความสำเร็จของโครงการนี้ จะทำทั้งสองฝั่ง คือฝั่งที่เป็นประชาชนในพื้นที่ ที่เห็นความสำคัญ ร่วมกันระดมความคิดเห็น แต่ในขณะเดียวกันเรื่องนี้จะประสบความสำเร็จได้ก็ต้องได้รับการเห็นดีเห็นงามจากภาครัฐ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกระทรวงมหาดไทย จากรัฐบาลที่จะยอมให้เราได้มีการปรับเปลี่ยนสถานภาพของเทศบาลเมืองหัวหินไปเป็นท้องถิ่นรูปแบบพิเศษในอนาคต ซึ่งแนวคิดเรื่องเมืองพิเศษมีหลายที่ มี เช่น แหลมฉบัง แม่สอด ภูเก็ต เกาะสมุย ทีมธรรมศาสตร์เคยไปช่วยที่เกาะสมุย ในการคิดเรื่องการทำให้เกาะสมุยเป็นท้องถิ่นรูปแบบพิเศษ เราเจอปัญหาว่าร่างกฎหมายไม่ยาก แต่สิ่งที่ยากคือขับเคลื่อนให้เกิดความสำเร็จในระดับรัฐบาล” ดร.ศุภสวัสดิ์ กล่าว.

Categories
ข่าว ทั้งหมด

ผู้ว่าฯ ประจวบฯ เปิดโครงการน้ำพระทัยพระราชทานเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระบรมราชชนนีพันปีหลวง

ผู้ว่าฯ ประจวบฯ เปิดโครงการน้ำพระทัยพระราชทานเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระบรมราชชนนีพันปีหลวง

วันที่ 7 สิงหาคม 2567 นายสมคิด จันทมฤก ผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบฯ เป็นประธานเปิดกิจกรรมโครงการน้ำพระทัยพระราชทานส่วนภูมิภาค สภาสังคมสงเคราะห์ฯ 76 จังหวัด ประจำปี 2567 เพื่อเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ที่สถานคุ้มครองคนไร้ที่พึ่งประจวบคีรีขันธ์ อ.เมืองประจวบฯ มี ผศ.ดร.ศศิธร จันทมฤก นายกเหล่ากาชาดจังหวัด นายองครักษ์ ทองนิรมล รองผู้ว่าราชการจังหวัด พ.อ.วีระชัย ศิระสากร รอง ผอ.กรมน.จังหวัด นางไพทิพย์ หนูพรหม ผู้อำนวยการศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่งจังหวัด (บ้านประจวบโชค) นางสุพัตรา ไพฑูรย์ พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัด ประธานกรรมการประสานงานส่วนภูมิภาค สมาคมสภาสังคมสงเคราะห์แห่งประเทศไทย ประธานชมรมแม่ดีเด่นแห่งชาติประจำจังหวัด หน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน เข้าร่วม

การจัดกิจกรรมโครงการน้ำพระทัยพระราชทานส่วนภูมิภาคฯ ของจังหวัดประจวบฯ ประกอบด้วย การจัดเลี้ยงอาหารกลางวันและมอบผ้าอ้อมผู้ใหญ่สำเร็จรูป แก่ผู้ใช้บริการในสถานคุ้มครองคนไร้ที่พึ่งประจวบคีรีขันธ์ จำนวน 415 คน

ตามที่สภาสังคมสงเคราะห์แห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ ได้น้อมเกล้าฯ รับพระราชเสาวนีย์ในสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ดำเนินงานโครงการน้ำพระทัยพระราชทาน สภาสังคมสงเคราะห์แห่งประเทศไทยฯ มาเป็นปีที่ 26 สภาสังคมสงเคราะห์แห่งประเทศไทยฯ จึงถือโอกาสนี้ ร่วมกับจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ พร้อมด้วย เหล่ากาชาดจังหวัด และชมรมแม่ดีเด่นแห่งชาติประจำจังหวัด จัดกิจกรรมโครงการน้ำพระทัยพระราชทานเลี้ยงอาหารกลางวันแก่ผู้ตกงาน ผู้สูงอายุ คนพิการ และผู้ประสบปัญหาความเดือดร้อน และกิจกรรมอื่นๆ ตามความเหมาะสมเพื่อเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เนื่องในโอกาสเฉลิมพระชนมพรรษา ในเดือนสิงหาคม 2567 ซึ่งการจัดงานครั้งนี้ได้รับความร่วมมืออย่างดียิ่งจากผู้ว่าราชการจังหวัด รองผู้ว่าราชการจังหวัด รวมทั้งนายกเหล่ากาชาดจังหวัด ประธานกรรมการประสานงานส่วนภูมิภาค สมาคมสภาสังคมสงเคราะห์แห่งประเทศไทยฯ / ประธานชมรมแม่ดีเด่นแห่งชาติประจำจังหวัด ตลอดจนหน่วยงานทั้งภาครัฐ และเอกชน รวมทั้งผู้มีจิตศรัทธาทุกท่าน.

Categories
ข่าว ทั้งหมด

ประจวบฯ สร้างลานมาตรฐานขนถ่ายสินค้าสัตว์น้ำที่ด่านสิงขร

ประจวบฯ สร้างลานมาตรฐานขนถ่ายสินค้าสัตว์น้ำที่ด่านสิงขร

วันที่ 7 สิงหาคม 2567 นายสมคิด จันทมฤก ผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบฯ เปิดเผยว่าได้ร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือระหว่างองค์การสะพานปลา โดยนายปรีดา ยังสุขสถาพร ผู้อำนวยการองค์การสะพานปลา กับจังหวัดประจวบฯ เพื่อส่งเสริมโครงการจัดตั้งศูนย์ขนถ่ายและกระจายสินค้าสัตว์น้ำ ด่านสิงขร อ.เมืองประจวบฯ ให้เป็นไปตามประกาศกรมประมง เรื่องมาตรฐานด้านสุขอนามัยของท่าเทียบเรือประมง สะพานปลา กิจการแพปลา หรือตลาดกลางซื้อขายสัตว์น้ำและหลักเกณฑ์ในการออกหนังสือรับรอง พ.ศ.2559 ซึ่งเป็นโครงการภายใต้การพัฒนาด่านสิงขร มีนายปรีดา สุขใจ ปลัดจังหวัด นายสราวุธ ลิ้มอรุณรักษ์ นายก อบจ.ประจวบฯ นายศุรอัฐ ณรงค์ฤทธิ์ ประธานหอการค้าจังหวัดประจวบฯ นายศุภชาติ ชาสมบัติ รองผู้อำนวยการองค์การสะพานปลา หัวหน้าส่วนราชการ และผู้แทนจากหน่วยงานภาครัฐและเอกชนร่วมเป็นสักขีพยาน

นายสมคิด จันทมฤก กล่าวว่าการลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือในครั้งนี้ องค์การสะพานปลาจะช่วยสนับสนุนการสร้างลานขนถ่ายสินค้าสัตว์น้ำชั่วคราว ที่ด่านสิงขร เพื่อให้มีสถานที่ ที่เหมาะสมสำหรับการเป็นจุดขนถ่ายสินค้าสัตว์น้ำที่ขนส่งมาจากจังหวัดมะริด สาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมา มีระบบการจัดการน้ำเสียตามมาตรฐาน ป้องกันไม่ให้เกิดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ระหว่างที่รอการจัดสรรงบประมาณจากกรมโยธาธิการและผังเมือง ในการดำเนินโครงการจัดตั้งศูนย์ขนถ่ายและกระจายสินค้าสัตว์น้ำ ด่านสิงขร ตามแผนโครงการพัฒนาด่านสิงขร ระยะที่ 4 โดยองค์การสะพานปลาจะเริ่มดำเนินการสร้างลานขนถ่ายสินค้าสัตว์น้ำได้ในเดือนตุลาคม 2567

“สิ่งที่จะเกิดขึ้นหลังจากการลงนามความร่วมมือในครั้งนี้ คือจังหวัดและองค์การสะพานปลา จะประสานการปฏิบัติร่วมกันด้านเอกสาร เพื่อขออนุญาตจากหน่วยงานผู้รับผิดชอบพื้นที่ในการเข้าดำเนินการก่อสร้างลานขนถ่ายสินค้าสัตว์น้ำ ขณะที่ในส่วนของภาพใหญ่ของโครงการพัฒนาด่านสิงขร ระยะที่ 1 และ 2 ที่ปัจจุบันดำเนินการเสร็จสิ้นแล้ว จะต้องเร่งดำเนินการส่งมอบทรัพย์สินโครงสร้างพื้นฐานต่างๆ จากกรมโยธาธิการและผังเมืองให้แก่หน่วยงานในพื้นที่เป็นผู้รับผิดชอบ ซึ่งถือเป็นเรื่องสำคัญในการที่จะเสนอของบประมาณมาดำเนินการโครงการในระยะที่ 4 ต่อไป” นายสมคิด กล่าว.

Categories
ข่าว ทั้งหมด

ประจวบฯ เปิดค่ายสานสัมพันธ์น้องพี่ต้านยาเสพติด รุ่น 4

ประจวบฯ เปิดค่ายสานสัมพันธ์น้องพี่ต้านยาเสพติด รุ่น 4

วันที่ 6 สิงหาคม 2567 นายคมกริช เจริญพัฒนสมบัติ รองผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เป็นประธานเปิดโครงการสานสัมพันธ์น้อง – พี่ เสริมพลังต้านยาเสพติด รุ่นที่ 4 ปี 2567 มีนางพรโพยม นาคน้อย รองผู้อำนวยการสำนักงานคุมประพฤติฯ รักษาราชการแทนผู้อำนวยการสำนักงานคุมประพฤติจังหวัด กล่าวรายงาน มีนายปรีดา สุขใจ ปลัดจังหวัด นพ.วรา เศลวัตนะกุล นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด นายดำรงค์ มากระจัน พัฒนาการจังหวัด ผู้แทนส่วนราชการ หน่วยงานในสังกัดกระทรวงยุติธรรม อาสาสมัครคุมประพฤติจังหวัด เจ้าหน้าที่สำนักงานคุมประพฤติ ตลอดจนผู้ถูกคุมความประพฤติที่สมัครใจเข้าร่วมโครงการ ที่ห้องประชุมใหญ่ ศูนย์ฝึกอบรมมวลชน (ศูนย์สมานมิตร) ถ.ปิ่นอนุสรณ์ อ.เมือง จ.ประจวบคีรีขันธ์

นายคมกริช เจริญพัฒนสมบัติ รองผู้ว่าฯ กล่าวให้โอวาทและให้กำลังใจผู้เข้าร่วมโครงการ ที่สำนักงานคุมประพฤติจังหวัดประจวบฯ เป็นผู้จัดโครงการ ซึ่งมุ่งหมายให้ผู้เข้าร่วมโครงการ มีความเข้มแข็งทางจิตใจ เสริมสร้างแรงจูงใจให้เลิกยาเสพติดได้อย่างต่อเนื่อง ทั้งเป็นการบำบัดยาเสพติดให้กับผู้กระทำผิดที่ศาลกำหนดเงื่อนไขให้บำบัดยาเสพติด โดยมีวิทยากรจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง มาให้ความรู้ในการเข้าถึงความช่วยเหลือทางสังคม และจะมีการศึกษาดูงานโครงการในพระราชดำริ ณ ศูนย์เรียนรู้การพัฒนาคุณภาพชีวิตตามหลักทฤษฎีใหม่ ประยุกต์สู่โคกหนองนาโมเดล แปลงนายวีรวุฒิ กลมเกลี้ยง กำนันตำบลปากแพรก ที่บ้านทุ่งสะท้อน หมู่ 6 ต.ปากแพรก อ.บางสะพานน้อย จ.ประจวบฯ ซึ่งอยู่ในความรับผิดชอบของสำนักงานพัฒนาชุมชมชนอำเภอบางสะพานน้อย เพื่อเป็นแนวทางในการประกอบอาชีพและพัฒนาชีวิต เป็นการคืนคนดีสู่สังคมให้เป็นกำลังสำคัญในการพัฒนาจังหวัดประจวบคีรีขันธ์และประเทศชาติต่อไป

รองผู้ว่าฯ กล่าวต่อว่า ขอให้ผู้เข้าร่วมโครงการสานสัมพันธ์น้อง – พี่ เสริมพลังต้านยาเสพติด รุ่นที่ 4 ประจำปีงบประมาณ 2567 ทุกคน เปิดโอกาสให้กับตัวเองที่จะรับความรู้จากวิทยากร และแลกเปลี่ยนประสบการณ์ต่อกัน เพื่อนำไปสู่การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมให้เหมาะสม นำไปสู่การแก้ไขปัญหายาเสพติดในสังคม ลดจำนวนผู้เสพและผู้ติดยาเสพติดได้ สามารถใช้ชีวิตอย่างมีคุณภาพที่ดีและเป็นการคืนคนดีสู่สังคมต่อไป ขอขอบคุณศูนย์ฝึกอบรมมวลชนสมานมิตร คณะวิทยากรจากสำนักงานคุมประพฤติจังหวัด สำนักงานพัฒนาสังคมและความมันคงของมนุษย์จังหวัด วิทยากรจากศูนย์เรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียง บ้านทุ่งสะท้อน สำนักงานพัฒนาชุมชนจังหวัด โดยสำนักงานพัฒนาชุมชนอำเภอบางสะพานน้อย ขอให้การดำเนินงานประสบผลสำเร็จตามวัตถุประสงค์ที่กำหนดไว้ทุกประประการ

ด้านนางพรโพยม นาคน้อย รองผู้อำนวยการคุมประพฤติฯ กล่าวว่า กรมคุมประพฤติ ในฐานะหน่วยงานที่รับผิดชอบเกี่ยวกับการคุมความประพฤติ และการพัฒนาพฤตินิสัย แก้ไข ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมผู้เสพยาเสพติดในกระบวนการคุมประพฤติ ได้มีนโยบายให้ความสำคัญกับการยกระดับระบบการแก้ไขฟื้นฟูผู้กระทำผิด มุ่งเน้นการแก้ไขปัญหาและให้โอกาสแก่ผู้กระทำผิด ได้มีโอกาสกลับตัวเป็นคนดี และกลับมาสร้างคุณประโยชน์ให้กับสังคม ตามแนวคิดการเปลี่ยนภาระให้เป็นพลัง จึงได้มีโครงการ “สานสัมพันธ์น้อง – พี่ เสริมพลังต้านยาเสพติด” เพื่อให้ผู้กระทำผิดเกี่ยวกับยาเสพติดที่ศาลให้โอกาสรอการลงโทษ โดยกำหนดเงื่อนไขการคุมความประพฤติ และผู้กระทำผิดที่ศาลมีคำสั่งให้บำบัดยาเสพติด มีความเข้มแข็งทางใจในการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรม เสริมสร้างแรงจูงใจให้เลิกสารเสพติดได้อย่างต่อเนื่อง และสามารถเข้าถึงแหล่งสนับสนุนทางสังคม

ทั้งนี้ สำนักงานคุมประพฤติจังหวัดประจวบฯ ได้รับการจัดสรรงบประมาณประจำปี 2567 จำนวน 5 รุ่น ซึ่งการจัดโครงการในครั้งนี้เป็นรุ่นที่ 4 มีกลุ่มเป้าหมายเป็นผู้ที่อยู่ในระบบงานคุมประพฤติเข้าร่วมโครงการฯ จำนวน 40 คน วิธีการดำเนินการ ประกอบด้วยการบรรยาย การแบ่งกลุ่มฝึกปฏิบัติ การศึกษาดูงานหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง หรือโครงการในพระราชดำริ มีวิทยากรจากสำนักงานคุมประพฤติ สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัด และได้รับการสนับสนุนด้านสถานที่การจัดโครงการ จากศูนย์ฝึกอบรมมวลชน (ศูนย์ฝึกสมานมิตร).

บุญมา ลิบลับ….รายงาน

Categories
ข่าว ทั้งหมด

เทศบาลหัวหิน จับมือกรมอุทยานฯ ทำหมันลิง 150 ตัว ป้องกันโรคจากสัตว์สู่คนและลดปัญหาประชากรลิง

เทศบาลหัวหิน จับมือกรมอุทยานฯ ทำหมันลิง 150 ตัว ป้องกันโรคจากสัตว์สู่คนและลดปัญหาประชากรลิง

วันที่ 6 สิงหาคม 2567 นายนพพร วุฒิกุล นายกเทศมนตรีเมืองหัวหิน เป็นประธานประชุมโครงการควบคุมประชากรลิงแสมในเขตเทศบาลเมืองหัวหิน ร่วมกับนายสมเจตน์ จันทนา ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 3 (สบอ.3) สาขาเพชรบุรี ที่สำนักงานเทศบาลเมืองหัวหิน จ.ประจวบฯ มีนายอติชาติ ชัยศรี รองนายกเทศมนตรีเมืองหัวหิน นายสุรศักดิ์ อนุเมธางกูร ผู้อำนวยการส่วนอนุรักษ์สัตว์ป่า คณะผู้บริหารเทศบาลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อหาแนวทางในการควบคุมประชากรลิงแสมที่เพิ่มปริมาณขึ้นอย่างต่อเนื่อง และลิงแสมบางส่วน ลงจากเขาหินเหล็กไฟเข้าไปหากินในเขตชุมชน สร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชนและนักท่องเที่ยว โดยได้หารือถึงแนวทางในการแก้ไขปัญหาทั้งระยะสั้นและระยะยาว เพื่อให้เกิดการแก้ไขปัญหาที่เป็นรูปธรรม

พร้อมกันนี้ นายนพพร วุฒิกุล นายกเทศมนตรีเมืองหัวหิน ได้ลงนามบันทึกข้อตกลงร่วมกับนายสมเจตน์ จันทนา ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 3 สาขาเพชรบุรี ตัวแทนอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธ์ุพืช เพื่อจัดทำโครงการควบคุมลิงแสม บริเวณพื้นที่เขาตะเกียบและเขาหินเหล็กไฟ ในเขตเทศบาลเมืองหัวหิน ปีงบประมาณ พ.ศ.2567 โดยจะดำเนินการทำหมันลิงแสม 150 ตัว ตามแผนการดำเนินงานของโครงการ ช่วงปลายเดือนสิงหาคมนี้

โดยก่อนหน้านี้ นายกเทศมนตรีเมืองหัวหินได้รับการร้องเรียนจากชาวบ้านชุมชนชายทะเล ว่ามีฝูงลิงแสมประมาณ 10 – 20 ตัว ลงจากเขาหินเหล็กไฟเข้ามาหากินและซ่อนตัวตามอาคารบ้านเรือน โดยลิงจ่าฝูงมีพฤติกรรมก้าวร้าว วิ่งไล่กัดกัน รื้อทำลายหลังคาบ้าน ทำลายสิ่งของ สร้างความเดือดร้อนให้กับชาวบ้านในชุมชน จึงประสานเจ้าหน้าที่ชุดช่วยเหลือสัตว์ป่า สบอ.3 วางกรงดักจับและใช้วิธีการยิงยาสลบ สามารถดักจับลิงได้ 13 ตัว ก่อนนำไปดูแลที่สถานีเพาะเลี้ยงสัตว์ป่าห้วยทราย จ.เพชรบุรี ส่วนลิงแสมที่ไม่มีพฤติกรรมก้าวร้าว เจ้าหน้าที่ได้ดำเนินการผลักดันกลับขึ้นเขาหินเหล็กไฟต่อไป.

Categories
ข่าว ท่องเที่ยว ทั้งหมด

กลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนบน จับคู่ธุรกิจด้านสุขภาพกับผู้ประกอบการประจวบฯ – เพชรบุรี สะพัดกว่า 2 ล้านบาท

กลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนบน จับคู่ธุรกิจด้านสุขภาพกับผู้ประกอบการประจวบฯ – เพชรบุรี สะพัดกว่า 2 ล้านบาท

วันที่ 5 สิงหาคม 2567 นายโยธิน ประสงค์ความดี รองผู้ว่าราชการจังหวัดลำพูน เป็นประธานเปิดโครงการส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพวิถีล้านนา กิจกรรมพัฒนาศักยภาพด้านการประชาสัมพันธ์ และการตลาดท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ ภายใต้โครงการกลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนบน 1 ประจำปีงบประมาณ 2567 ที่โรงแรมจีหัวหินรีสอร์ทแอนด์มอลล์ อ.หัวหิน จ.ประจวบฯ มี น.ส.พัชรศรี สมบัติทวีพูน ท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดประจวบฯ กล่าวต้อนรับ พร้อมด้วยนางเกศกนก เดชมา ท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดลำพูน นายอาชวันต์ กงกะนันทน์ ผู้อำนวยการ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานประจวบฯ นางวาสนา ศรีกาญจนา นายกสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวหัวหิน/ชะอำ นายศุรอัฐ ณรงค์ฤทธิ์ ประธานหอการค้าจังหวัดประจวบฯ นายชณัฏฐ์ พงศ์ธราธิก ประธานอุตสาหกรรมท่องเที่ยวจังหวัดประจวบฯ ตำรวจท่องเที่ยว ผู้ประกอบด้านสุขภาพกลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนบน 1 จำนวน 40 ราย และผู้ประกอบการในจังหวัดประจวบฯ ร่วมโครงการ ซึ่งก่อนหน้านี้ ผู้ประกอบการกลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนบน 1 ได้ไปศึกษาดูงานที่ศูนย์ดูแลสุขภาพ Chavala wellness center หัวหินด้วย

นายโยธิน ประสงค์ความดี รองผู้ว่าราชการจังหวัดลำพูน กล่าวแสดงความยินดีที่กลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนบนหนึ่ง ได้รุกธุรกิจตามนโยบายของรัฐบาล โดยนำสินค้าของดีภาคเหนือมาโชว์ที่หัวหินและเพชรบุรี เนื่องจากเห็นว่าหัวหินและชะอำ มีศักยภาพสูงด้านการท่องเที่ยว โดยเฉพาะเชิงสุขภาพ คาดว่าจะมีการลงนามซื้อขายแลกเปลี่ยนกันระหว่างธุรกิจ สร้างเม็ดเงินรายได้ให้กับทั้งสองภูมิภาคไม่ต่ำกว่าสองล้านบาท การเดินทางมาครั้งนี้ นอกจากการเจรจาธุรกิจแล้ว ยังเป็นการประชาสัมพันธ์ของดีจากทางภาคเหนือให้กับนักท่องเที่ยวได้รู้จักและสัมผัสอีกด้วย

นางเกศกนก เดชมา ท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดลำพูน ในฐานะประธานคณะกรรมการดำเนินการจัดโครงการ กล่าวว่า กลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนบน 1 ประกอบไปด้วยจังหวัดเชียงใหม่ ลำปาง แม่ฮ่องสอนและลำพูน มอบหมายให้สำนักงานการท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดลำพูน จัดกิจกรรมพัฒนาศักยภาพด้านการประชาสัมพันธ์ และการตลาดด้านการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ ส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพอัตลักษณ์ล้านนา เพิ่มโอกาสทางการตลาดให้กับผู้ประกอบการ และเป็นการบูรณาการทำงานร่วมกันระหว่างภาครัฐและเอกชน ในการจัดกิจกรรมดังกล่าว สำนักงานการท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดลำพูน ได้ดำเนินการจำนวน 2 กิจกรรม คือกิจกรรมพัฒนาศักยภาพให้กับผู้ประกอบการด้านการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ กลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนบน 1 ด้านการประชาสัมพันธ์และการตลาด มีการอบรมพัฒนาศักยภาพบุคลากรด้านการประชาสัมพันธ์และการตลาด ด้านการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพไปแล้วเมื่อวันที่ 28 – 30 มิถุนายนที่ผ่านมา ที่โรงแรมแกรนด์ปาแอนด์รีสอร์ท ลำพูน จ.ลำพูน และกิจกรรมแลกเปลี่ยนเรียนรู้และสร้างเครือข่ายการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพกับแหล่งท่องเที่ยวเชิงสุขภาพที่ประสบความสำเร็จ ระหว่างวันที่ 4 – 7 สิงหาคมนี้ ที่จังหวัดประจวบฯ และเพชรบุรี

นายอาชวันต์ กงกะนันทน์ ผู้อำนวยการ ททท.สำนักงานประจวบฯ กล่าวว่า ยินดีเป็นอย่างยิ่งที่สำนักงานการท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดลำพูน นำผู้ประกอบการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพจากกลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนบน 1 มาร่วมส่งเสริมแลกเปลี่ยนตลาดการท่องเที่ยวและสำรวจสินค้าและบริการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพใหม่ๆ เชื่อมโยงกับจังหวัดประจวบฯ ตามโครงการส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพวิถีล้านนา โดยเฉพาะ “หัวหิน” ถือเป็นจุดหมายปลายทางการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพที่สำคัญและเป็นเครื่องยนต์หลักทางเศรษฐกิจของจังหวัด ทั้งนี้จังหวัดประจวบฯ มีทรัพยากรและสินค้าการท่องเที่ยวที่หลากหลาย สามารถตอบโจทย์และไลฟ์สไตล์การท่องเที่ยวของลูกค้าแต่ละกลุ่มเป้าหมาย ซึ่งการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพก็เป็นสินค้าและกิจกรรมที่เสนอขายในพื้นที่ประจวบฯ สามารถจูงใจลูกค้าที่มีกำลังซื้อสูง มีการใช้จ่ายต่อหัวต่อคนมากกว่านักท่องเที่ยวปกติทั่วไป รวมถึงมีวันพักเฉลี่ยในการอยู่ที่นานวันกว่า

“อย่างไรก็ตามในการเจรจาธุรกิจ ถ้าผู้ประกอบการกลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนบน 1 และผู้ประกอบการจังหวัดประจวบฯ สามารถผสมผสานการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพเข้ากับวิถีสุขภาพล้านนา ซึ่งมีอัตลักษณ์ทั้งในเรื่องอาหาร กิจกรรม ภูมิปัญญาการบำบัดแบบล้านนา วิถีชีวิต เส้นทางท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ การแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ระหว่างกัน เป็นต้น เสนอขายจัดทำเป็นแพ็กเกจการท่องเที่ยวร่วมกัน เพราะกลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนบน 1 สามารถเดินทางเชื่อมโยงกันได้สะดวก ผ่านทางสนามบินเชียงใหม่ – หัวหิน ก็จะช่วยสร้างมูลค่าเพิ่มทางเศรษฐกิจร่วมกันได้เป็นอย่างมาก” นายอาชวันต์ กล่าว.

Categories
ข่าว ทั้งหมด

ประจวบฯ ประกอบพิธีลาสิกขาตามโครงการอุปสมบทเฉลิมพระเกียรติ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว

ประจวบฯ ประกอบพิธีลาสิกขาตามโครงการอุปสมบทเฉลิมพระเกียรติ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว

วันที่ 3 สิงหาคม 2567 นายสมคิด จันทมฤก ผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบฯ เป็นประธานฝ่ายฆราวาส ในการประกอบพิธีลาสิกขาให้กับพระนวกะที่เข้าร่วมโครงการบรรพชาอุปสมบทเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 ของจังหวัดประจวบฯ จัดขึ้นระหว่างวันที่ 14 กรกฎาคม – 3 สิงหาคม 2567 ที่วัดกุยบุรี อ.กุยบุรี จ.ประจวบฯ โดยมีพระราชรัตนวิสุทธิ์ เจ้าคณะจังหวัดประจวบฯ (มหานิกาย) เจ้าอาวาสวัดกุยบุรี เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ พร้อมด้วยหัวหน้าส่วนราชการ ข้าราชการ และประชาชนเข้าร่วมพิธี มีนายปรีดา สุขใจ ปลัดจังหวัด กล่าวสรุปโครงการ จากนั้นนายสมคิด จันทมฤก ผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบฯ ได้กล่าวขอบคุณและกล่าวปิดโครงการบรรพชาอุปสมบทเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567

พร้อมกันนี้ พระราชรัตนวิสุทธิ์ ประธานฝ่ายสงฆ์ ได้ขึ้นธรรมาสน์มอบเกียรติบัตรแก่ผู้เข้าร่วมโครงการทุกรูป พร้อมให้โอวาทแก่ผู้ที่สึกเป็นฆราวาส ได้นำหลักคำสอนในการบรรพชาในครั้งนี้ไปใช้ในการทำงานและใช้ในชีวิตประจำวัน สำหรับการจัดงานในครั้งนี้ เพื่อเป็นการเฉลิมพระเกียรติและถวายพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว นอกจากนี้ผู้เข้าร่วมโครงการยังได้ศึกษาพระธรรมวินัยและปฏิบัติธรรมตามคำสอนของพระพุทธศาสนา โดยมีวิทยากรให้ความรู้เกี่ยวกับพระธรรม พระวินัย การฝึกกรรมฐาน และการปฏิบัติตนในเพศบรรพชิต และมีพระพี่เลี้ยงคอยสั่งสอนให้คำแนะนำเพิ่มเติม ซึ่งนับว่าเป็นประสบการณ์ชีวิตและเป็นประโยชน์ต่อผู้เข้ารับบรรพชาอุปสมบทเป็นอย่างยิ่ง แม้ลาสิกขาไปแล้วก็สามารถนำไปประพฤติปฏิบัติให้เกิดประโยชน์ต่อตนเอง ครอบครัว สังคม และประเทศชาติต่อไปได้.

Categories
ข่าว ท่องเที่ยว ทั้งหมด

เริ่มแล้วเทศกาลอาหารหัวหิน 2024 พบกับเมนูดังโรงแรม 5 ดาว และอาหารพื้นถิ่นมากมาย

เริ่มแล้วเทศกาลอาหารหัวหิน 2024 พบกับเมนูดังโรงแรม 5 ดาว และอาหารพื้นถิ่นมากมาย

เมื่อเวลา 20.00 น. วันที่ 2 สิงหาคม 2567 นายสินาทร โอ่เอี่ยม รองผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบฯ เป็นประธานเปิดงานเทศกาลอาหารหัวหิน 2024 (Hua Hin Food Fest 2024) ซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่ 2 – 4 สิงหาคม 2567 ที่สวนหลวงราชินี 19 ไร่ (ฝั่งทะเล) อ.หัวหิน จ.ประจวบฯ มีนายนพพร วุฒิกุล นายกเทศมนตรีเมืองหัวหิน กล่าวรายงาน พร้อมด้วยนายพลกฤต พวงวลัยสิน นายอำเภอหัวหิน นางอุษา พวงวลัยสิน นายกกิ่งกาชาดอำเภอหัวหิน นายอาชวันต์ กงกะนันทน์ ผู้อำนวยการ ททท.สำนักงานประจวบฯ นายดำรงค์ มากระจัน พัฒนาการจังหวัดประจวบฯ นางวาสนา ศรีกาญจนา นายกสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวหัวหิน/ชะอำ คณะผู้บริหารเทศบาล ชมรมเชฟหัวหิน – ชะอำ แขกผู้มีเกียรติและนักท่องเที่ยวจำนวนมากร่วมในพิธี พร้อมชมชุดการแสดง “ทศกัณฐ์ปรุงรสโอชา อาหารหัวหินระบิลระบือไกล” จากเพชรจรัสแสง

จากนั้นเชฟจากชมรมเชฟหัวหิน – ชะอำ ได้ร่วมกันปรุงอาหารจานเด็ด “ข้าวผัดรถไฟหัวหิน 113 ปี” กระทะยักษ์ ตำนานข้าวผัดโรงแรมรถไฟหัวหินอันโด่งดังในอดีต จำนวน 113 จาน แจกจ่ายให้นักท่องเที่ยวได้ลองชิมด้วยความเอร็ดอร่อย พร้อมกันนี้ สำนักงานพัฒนาชุมชนจังหวัดประจวบฯ ได้นำร้านค้าโอทอป ระดับ 5 ดาว กว่า 30 ร้าน มาร่วมออกบูธ “Street Food – Street Art” มีการสาธิตทำอาหารเมนู “ยำใบชะครามทะเล” พร้อมกิจกรรมสาธิตทำอาหารพื้นถิ่นประจำวัน 4 ครัว 4 เมนู แจกจ่ายให้นักท่องเที่ยวได้ลองทานทุกวันที่จัดงาน

นายนพพร วุฒิกุล กล่าวว่า เทศบาลเมืองหัวหิน ร่วมกับ สมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวหัวหิน/ชะอำ ททท.สำนักงานประจวบฯ สภาวัฒนธรรมอำเภอหัวหิน ชมรมเชฟชะอำ – หัวหิน และหลายหน่วยงานในพื้นที่ สนับสนุนการจัดเทศกาลอาหารหัวหินขึ้นเป็นประจำต่อเนื่องมาเกือบทุกปี เพื่อกระตุ้นนักท่องเที่ยวและกระตุ้นเศรษฐกิจช่วง Low Season สร้างรายได้ และให้ความสุขแก่ประชาชน ซึ่งที่ผ่านมาประสบความสำเร็จได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี และที่พิเศษในปีนี้เป็นปีครบรอบ 113 สถานีรถไฟหัวหิน จึงจัดกิจกรรมมากมายภายในงานมีการออกร้านจำหน่ายอาหารและเครื่องดื่มจากโรงแรม 5 ดาว การแข่งขันแกะสลักผักและผลไม้ การแข่งขันการประกอบอาหาร การประกวดตกแต่งบูธสวยงาม การแข่งขันลีลาประกอบอาหาร กิจกรรม work shop บาร์เทนเดอร์ทุกวัน โซนอาหารซีฟู้ดและอาหารพื้นถิ่นเมืองหัวหิน การแสดงดนตรีบนเวทีทุกค่ำคืน พร้อมจัดจุดเช็คอิน เก็บภาพความประทับใจให้นักท่องเที่ยว และคาดว่าจะมีผู้เข้าร่วมงานในครั้งนี้ไม่ต่ำกว่า 1 หมื่นคน มีรายได้หมุนเวียนไม่ต่ำกว่า 10 ล้านบาท จึงขอเชิญชวนประชาชนและนักท่องเที่ยวมาเที่ยวหัวหิน และเข้าชมงานดังกล่าวได้โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย.

Categories
ข่าว ทั้งหมด

เต่าแม่เพรียง ขึ้นวางไข่ต่อเนื่องบนเกาะทะลุ เกือบร้อยฟอง

เต่าแม่เพรียง ขึ้นวางไข่ต่อเนื่องบนเกาะทะลุ เกือบร้อยฟอง

วันที่ 2 สิงหาคม 2567 นายสมเจตน์ จันทนา ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 3 (สบอ.3) สาขาเพชรบุรี รับแจ้งจากนายเอกฤทธิ์ ดวงมาลา หัวหน้าอุทยานแห่งชาติอ่าวสยาม (เตรียมการ) จ.ประจวบฯ ว่า หลังจากเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติอ่าวสยาม ร่วมกับเจ้าหน้าที่มูลนิธิฟื้นฟูทรัพยากรทะเลสยาม เดินลาดตระเวนการขึ้นวางไข่ของเต่ากระ บนพื้นที่เกาะทะลุ อ.บางสะพานน้อย จ.ประจวบฯ และการเฝ้าติดตามการฟักไข่ของเต่ากระอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดเมื่อเวลา 23.10 น. ของวันที่ 1 สิงหาคม 2567 พบเต่ากระ ชื่อ “แม่เพรียง” หมายเลขไมโครชิพ 933.076400505267 ขึ้นวางไข่บริเวณอ่าวเทียน ของเกาะทะลุ จำนวน 1 รัง เป็นรังที่ 6 ของปี 2567 พิกัด 47 P 0560256E 1223924N อยู่ในเขตพื้นที่รับผิดชอบของอุทยานแห่งชาติอ่าวสยาม

จากการตรวจสอบพบเต่าแม่เพรียงมีขนาดลำตัวกระดอง กว้าง 77 เซนติเมตร ยาว 89 เซนติเมตร ขนาดของหลุมกว้าง 27 เซนติเมตร ลึก 39 เซนติเมตร จุดวางไข่ห่างจากน้ำทะเล 8 เมตร รอยพายมีความกว้าง 83 เซนติเมตร และพบไข่ทั้งหมด จำนวน 91 ฟอง เจ้าหน้าที่จึงทำการเคลื่อนย้ายรังไปยังบ่ออนุบาลของมูลนิธิฟื้นฟูทรัพยากรทะเลสยาม เพื่อป้องกันภัยคุกคามทางธรรมชาติ เนื่องจากหลุมไข่เต่าตั้งอยู่บริเวณที่น้ำทะเลท่วมถึง โดยมีมูลนิธิฟื้นฟูทรัพยากรทะเลสยามเป็นผู้ดูแล และให้เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติเฝ้าระวังและเก็บข้อมูลตลอด 24 ชั่วโมง สำหรับ “เต่ากระ” ชื่อทางวิทยาศาสตร์ Eretmochelys imbricata (Linnaeus,1766) เป็นสัตว์ทะเลหายากใกล้สูญพันธุ์ สถานภาพเป็นสัตว์ป่าคุ้มครอง ตาม พ.ร.บ.สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ.2562 และจัดอยู่ใน Appendix 1 ของอนุสัญญาไซเตส (CITES) ด้วย.