Categories
ข่าว ทั้งหมด

ผู้ว่าฯ ประจวบฯ เปิดศูนย์เรียนรู้รถและเวทีเสวนาการจัดการรถนักเรียนปลอดภัย

ผู้ว่าฯ ประจวบฯ เปิดศูนย์เรียนรู้รถและเวทีเสวนาการจัดการรถนักเรียนปลอดภัย

วันที่ 30 มกราคม 2568 นายสิทธิชัย สวัสดิ์แสน ผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เป็นประธานเปิดงานบทบาทการพัฒนากระบวนการด้านการเรียนรู้ สนับสนุนและเสริมสร้างความเข้มแข็งโรงเรียนต้นแบบ และโรงเรียนขยายผลการจัดการรถนักเรียนปลอดภัยภาคตะวันตก ที่โรงเรียนประจวบวิทยาลัย อ.เมือง จ.ประจวบคีรีขันธ์ เพื่อพัฒนาศักยภาพและยกระดับ โรงเรียนต้นแบบ มีนายนันทปรีชา คำทอง ประธานสภาผู้บริโภคจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ น.ส.ธนพร บางบัวงาม หัวหน้าหน่วยงานประจำจังหวัดประจวบคีรีขันธ์สภาองค์กรผู้บริโภคจัดขึ้น โดยมีเป้าหมาย 100 คน ตามกลไกการดำเนินงานรถนักเรียนปลอดภัย หน่วยงานราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ โรงเรียนศูนย์เรียนรู้ โรงเรียนต้นแบบ และโรงเรียนขยายผล จ.กาญจนบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์ จ.สมุทรสงคราม หน่วยงานประจำจังหวัด สภาองค์กรของผู้บริโภค จ.กาญจนบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์ จ.สมุทรสงคราม หน่วยงานเขตพื้นที่ภาคตะวันตกเข้าร่วม

หลังจากนั้นผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ได้มอบประกาศนียบัตรให้กับโรงเรียนศูนย์เรียนรู้ โรงเรียนต้นแบบโรงเรียนขยายผล การจัดการรถรับส่งนักเรียนปลอดภัย มีโรงเรียนประจวบวิทยาลัย, โรงเรียนอัมพวันวิทยาลัย จ.สมุทรสงคราม, โรงเรียนถาวรวิทยา จ.กาญจนบุรี, ผู้แทนโรงเรียนขยายผล จ.กาญจนบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์ จ.สมุทรสงคราม

ต่อมาได้มีการเสวนาเรื่องบทบาทการพัฒนากระบวนการจัดการศูนย์เรียนรู้โรงเรียนประจวบวิทยาลัย มีตัวแทนศึกษาธิการจังหวัดประจวบฯ ตัวแทนสำนักงานขนส่งจังหวัดประจวบฯ – ตัวแทนประธานสภาผู้บริโภคจังหวัดประจวบฯ – ตัวแทนผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดประจวบฯ – นายคงศักดิ์ ชื่นไกลลาศ สภาองค์กรของผู้บริโภค ดำเนินรายการโดยอาจารย์ปิยาพร อรุณพงษ์

การจัดงานนี้ มีเป้าหมาย 2 ส่วน คือการศึกษาดูงานศูนย์เรียนรู้รถนักเรียนปลอดภัยของโรงเรียนประจวบวิทยาลัย ซึ่งเป็นศูนย์เรียนรู้ต้นแบบ แห่งเดียวของภาคตะวันตก กับเวทีเสวนาแลกเปลี่ยนเรียนรู้เรื่องการจัดการโรงเรียนปลอดภัยในพื้นที่ ที่ดำเนินโครงการทั้ง 3 จังหวัด คือประจวบคีรีขันธ์ สมุทรสงคราม และกาญจนบุรี โดยการเรียนรู้เป็นกิจกรรมที่สำคัญภายใต้โครงการพัฒนาบริการขนส่งสาธารณะที่ปลอดภัยและเป็นธรรม เพื่อการคุ้มครองผู้บริโภคในพื้นที่จังหวัดกาญจนบุรี ประจวบคีรีขันธ์และสมุทรสงคราม ซึ่งเป็นโครงการร่วมทุนระหว่างสภาองค์กรของผู้บริโภคและสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ หรือ สสจ. โดยดำเนินการมาตั้งแต่เดือนมิถุนายน ปี 2566 จนถึงมกราคมปี 2568 ผลลัพธ์ของการดำเนินงาน ถือว่าบรรลุเป้าหมายที่สามารถขยายผลการทำงาน เพราะนอกจากทำกิจกรรมที่โรงเรียนแล้ว ยังเป็นต้นแบบการเฝ้าระวัง หรือแผนปฏิบัติการเฝ้าระวังเรื่องความปลอดภัยของรถต่างๆ ในโรงเรียนด้วย.

พิสิษฐ์ รื่นเกษม…..รายงาน

ข่าวแนะนำ
Categories
ข่าว ทั้งหมด

เจ้าหน้าที่ห้องไตเทียมแต่งชุดแดงรับตรุษจีน บริการคนไข้ล้างไต ให้บริการดุจญาติมิตร

เจ้าหน้าที่ห้องไตเทียมแต่งชุดแดงรับตรุษจีน บริการคนไข้ล้างไต ให้บริการดุจญาติมิตร

วันที่ 29 มกราคม 2568 ผู้สื่อข่าวรายงานว่าที่ศูนย์ไตเทียม โรงพยาบาลประจวบคีรีขันธ์ อ.เมือง จ.ประจวบคีรีขันธ์ ภายในห้องสำหรับล้างไต มีสีสันแปลกตากับคนไข้และญาติเป็นอย่างมาก เนื่องจากเจ้าหน้าที่ทุกคนแต่งกายด้วยชุดกี่เพ้าสีแดง ทำให้บรรยากาศในห้องล้างไต เต็มไปด้วยรอยยิ้มของทุกคน ทั้งคนไข้ ญาติและเจ้าหน้าที่ มีบางคนให้ความร่วมมือกับห้องไตโดยใส่ชุดแดงมาร่วมกิจกรรมในวันนี้ด้วย

น.ส.พรทิพย์ หรือพลอย คำโม พยาบาลวิชาชีพ ผู้จัดการศูนย์ไตเทียม กล่าวว่าวันนี้เป็นวันตรุษจีน หรือวันปีใหม่ของจีน จึงนัดกันแต่งชุดจีน เพื่อให้คนไข้ผ่อนคลายที่ต้องมาฟอกไต 2 – 3 ครั้งต่อสัปดาห์ ซึ่งปกติคนไข้จะใช้เวลาอยู่กับเราค่อนข้างเยอะ จึงจัดกิจกรรมนี้ขึ้นเพื่อให้คนไข้ผ่อนคลาย ลดความวิตกกังวล เราจะให้คำแนะนำด้านสุขภาพกับคนไข้ ทำให้ได้รับความร่วมมือจากคนไข้เป็นอย่างมาก

น.ส.นคิน วรกรภัควรกุล พยาบาลวิชาชีพ จัดเต็มมาในชุดของฮองเฮา เป็นที่ฮือฮาของทุกคน อีกทั้งมีการต้อนรับทั้งคนไข้และญาติด้วยดีมาโดยตลอด

คนไข้รายหนึ่ง กล่าวว่ารู้สึกดีที่เจ้าหน้าที่ชุดนี้มีการแต่งตัวแบบนี้ เจ้าหน้าที่ดีทุกคนเอาใจใส่ดี รู้สึกอบอุ่นใจ อยากให้จัดกิจกรรมแบบนี้เรื่อยๆ

ทั้งนี้ห้องไตเทียม รพ.ประจวบฯ วันเทศกาลต่างๆ อาทิ วันคริสต์มาส วันเด็ก เจ้าหน้าที่มักจะแต่งกายตามเทศกาลเป็นที่สนใจและชื่นชอบของทุกคน.

พันธุ์พงษ์ โพธิ์จินดา…..รายงาน

Categories
ข่าว ท่องเที่ยว ทั้งหมด

นักท่องเที่ยวแห่ชมขบวนมังกร – สิงโต เสริมบารมีรับโชคดีปีใหม่

นักท่องเที่ยวแห่ชมขบวนมังกร – สิงโต เสริมบารมีรับโชคดีปีใหม่

ช่วงเย็นวันที่ 28 มกราคม 2568 นายปรีดา สุขใจ รองผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบฯ เป็นประธานเบิกเนตรมังกรและเปิดงาน“CHINESE NEW YEAR..YEAR OF THE SNAKE 2025”เฉลิมฉลองเทศกาลตรุษจีนปีมะเส็ง มหามงคล อุดมโชคลาภ ปี 2568 ที่ลานเดอะสแควร์ ด้านหน้าศูนย์การค้าบลูพอร์ตหัวหิน มีนายนิติ วงษ์วิชาสวัสดิ์ ผู้อำนวยการ ททท.สำนักงานประจวบฯ นายอติชาติ ชัยศรี รองนายกเทศมนตรีเมืองหัวหิน นางวาสนา ศรีกาญจนา นายกสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวหัวหิน/ชะอำ น.ส.วจี กลมเกลี้ยง กรรมการบริหาร บริษัท หัวหินแอสเสท จำกัด นายโชคชัย วงศ์จักรภัชร์ กรรมการผู้จัดการ บลูพอร์ตหัวหิน และแขกผู้มีเกียรติจำนวนมากในชุดสีแดงสดใสเข้าร่วมในพิธีเปิดอย่างยิ่งใหญ่ ท่ามกลางนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติจำนวนมาก เข้าร่วมชมโชว์ตีกลองจีนมงคล สื่อถึงการขจัดสิ่งชั่วร้าย สร้างสิริมงคล การแสดงโชว์เชิดสิงโตเงิน – สิงโตทองกินผักผลไม้มงคล และไฮไลท์ที่สร้างความตื่นตาตื่นใจให้กับนักท่องเที่ยวได้แก่ การแสดงโชว์มังกรพันเสาพ่นไฟสุดอลังการ และร่วมกันสักการะขอพรเจ้าแม่กวนอิม เพื่อความเป็นสิริมงคลในเทศกาลตรุษจีนนี้

ส่วนที่หน้าสำนักงานเทศบาลเมืองหัวหิน นายพลกฤต พวงวลัยสิน นายอำเภอหัวหิน นายนพพร วุฒิกุล นายกเทศมนตรีเมืองหัวหิน ร่วมปล่อยขบวนแห่องค์เทพเจ้าไฉ่ซิงเอี๊ย เจ้าพ่อสมบูรณ์ – เจ้าแม่ทับทิม และขบวนมังกร – สิงโต เนื่องในเทศกาลตรุษจีนประจำปี 2568 ของเทศบาลเมืองหัวหิน มีนางอุษา พวงวลัยสิน นายกกิ่งกาชาดอำเภอหัวหิน นายอมรเทพ อ่วมมีเพียร ผู้จัดการทั่วไปศูนย์การค้ามาณ์เก็ตวิลเลจ หัวหิน คณะผู้บริหารเทศบาลเมืองหัวหิน แขกผู้มีเกียรติและชาวไทยเชื้อสายจีนในชุดสีแดง ร่วมขบวนแห่กันอย่างคึกคักจากหน้าสำนักงานเทศบาล ผ่านหอนาฬิกาหัวหินเลี้ยวซ้ายสี่แยกจี้อันตึ๊ง เข้าถนนชมสินธุ์ เข้าสู่ถนนสระสรง โดยระหว่างทางขบวนแห่ผ่าน มีประชาชนตั้งโต๊ะรับเทพเจ้า มังกรทอง สิงโตเงิน – สิงโตทอง เพื่อความเป็นสิริมงคล ค้าขายดี ร่ำรวยในเทศกาลตรุษจีน พร้อมกันนี้นายอำเภอหัวหินได้แจกส้มมงคลให้กับประชาชนและนักท่องเที่ยวด้วย จากนั้นเป็นพิธีเปิดงานเทศกาลตรุษจีนอย่างเป็นทางการที่หน้าศูนย์การค้ามาร์เก็ตวิลเลจ หัวหิน โดยไฮไลท์แขกผู้มีเกียรติร่วมกันผัดหมี่ซั่วกระทะยักษ์มหามงคล ซึ่งชาวจีนมีความเชื่อว่า หากกินหมี่ซั่วจะมีอายุยืนยาวเหมือนเส้นบะหมี่ แจกจ่ายให้กับประชาชนนักท่องเที่ยวที่มาร่วมงานได้ลิ้มลองด้วย.

Categories
ข่าว ทั้งหมด

สราวุธลุยหาเสียงโค้งสุดท้าย อ้อนขอกลับไปนั่งเก้าอี้ นายก อบจ.ประจวบฯ อีกสมัย

สราวุธลุยหาเสียงโค้งสุดท้าย อ้อนขอกลับไปนั่งเก้าอี้ นายก อบจ.ประจวบฯ อีกสมัย

วันที่ 27 มกราคม 2568 นายสราวุธ หรือ “เฮียไล้” ลิ้มอรุณรักษ์ อดีตนายก อบจ. ประจวบฯ ผู้สมัครนายก อบจ.ประจวบฯ ผู้สมัครหมายเลข 2 เปิดเผยขณะเดินหาเสียงพร้อมลูกทีม ว่าจากการลงพื้นที่ในการเลือกตั้งรอบนี้ ตนได้ลงพื้นที่หาเสียงตลอดทุกวัน ตั้งแต่อำเภอหัวหิน ไปจนถึงบางสะพานน้อย ความตั้งใจคือ ต้องการลงพื้นที่แนะนำตัวด้วยตนเองทั้งหมด โดยคิดเสมอว่า การเข้าไปหาประชาชน เป็นการให้เกียรติพ่อแม่พี่น้องทุกคน เพราะตนตั้งใจอาสามาทำงาน เพื่อพ่อแม่พี่น้อง จึงอยากเดินเข้าไปหาทุกท่านด้วยตนเอง

การลงพื้นที่ทั้งจังหวัดด้วยตนเองรอบนี้ ด้วยความที่บ้านเมืองเรา ทุกคนน่ารัก ตนได้รับการต้อนรับและกำลังใจมากมาย ส่วนใหญ่อวยพรให้กลับมาทำงานเพื่อบ้านเมืองอีก เพราะเห็นผลงานมาแล้ว ในช่วงที่ผ่านมา ผลงานของตน เรียกได้ว่าครอบคลุมครบทั้ง 8 อำเภอ อย่างทั่วถึงและเท่าเทียมกัน

“ตนชอบรับฟังความคิดเห็น ชอบให้มีคนเสนอแนะ เพราะจะได้มุมมองที่แตกต่างกัน โดยเฉพาะความเห็นของสมาชิกสภา ที่เป็นตัวแทนของพ่อแม่พี่น้อง รวมทั้งของประชาชนที่มาบอกด้วยตนเอง ตนให้ความสำคัญและ ติดตามงานเสมอ การเมืองปัจจุบันเปลี่ยนแปลงไปมาก ตนอยากให้ทุกคนที่เสนอตัวเข้ามาทำงาน นำเสนอผลงานและความดี อย่าเล่นสกปรก สาดโคลนกันเลย เพราะมันเป็นการเมืองแบบเดิมๆ ไม่มีประโยชน์อะไร ปัจจุบันโลกเปลี่ยนไปเยอะแล้ว ให้เอาผลงาน เอาความดีมาแข่งกันดีกว่า เพราะการสาดโคลนใส่กัน มันเสียเวลาของพ่อแม่พี่น้อง ที่จะมารับฟังเรื่องเหล่านี้ แต่ควรจะเอาผลงาน ความดี มาเป็นทางเลือกให้พ่อแม่พี่น้องเห็น จะได้อุ่นใจว่าเลือกคนดี คนทำงานเป็น คนมีประสบการณ์มาดูแลบ้านเมืองของเรา การเลือกตั้งรอบนี้ ขอฝากทุกๆ ท่านให้ออกมาใช้สิทธิ์ เลือกตั้งนายก อบจ. ประจวบฯ และสมาชิกสภา อบจ. ในวันเสาร์ที่ 1 กุมภาพันธ์ เวลา 08.00 น – 17.00 น. ขอให้เลือกคนดี คนจริงใจครับ” นายสราวุธ กล่าวตอนท้าย.

Categories
ข่าว ทั้งหมด

ลุงขี่จักรยานยนต์ชนรถท้ายพ่วงจอดข้างทางเสียชีวิต

ลุงขี่จักรยานยนต์ชนรถท้ายพ่วงจอดข้างทางเสียชีวิต

เมื่อเวลา 05.37 น. ของวันที่ 26 มกราคม 2568 ศูนย์วิทยุกู้ภัยมูลนิธิหลวงพ่อในกุฏิ วัดกุยบุรี รับแจ้งว่ามีอุบัติเหตุรถจักรยานยนต์ชนท้ายรถพ่วง บนถนนเพชรเกษมฝั่งขาขึ้นกรุงเทพฯ ก่อนถึงแยกไฟแดงกุยบุรี 200 เมตร อ.กุยบุรี จ.ประจวบฯ มีผู้ได้รับบาดเจ็บ จึงส่งรถพยาบาลพร้อมเจ้าหน้าที่ออกตรวจสอบ

เมื่อไปถึงที่เกิดเหตุ พบรถจักรยานยนต์ยามาฮ่า รุ่นสปาร์ค 115 สีขาว – ดำ ทะเบียน 1 กฉ 9617 ประจวบคีรีขันธ์ ล้มตะแคงติดอยู่กับรถพ่วง ยี่ห้อฮีโน่ สีขาว ทะเบียนตัวแม่ 70 – 2394 ประจวบฯ ตัวลูกทะเบียน 70 – 7415 นนทบุรี ซึ่งคนขับจอดนอนอยู่ไหล่ทาง ที่บริเวณท้ายรถพบร่างชายคนหนึ่งนุ่งกางเกงยีนส์สีน้ำเงินขายาว สวมเสื้อแขนยาวสีดำ มีเลือดไหลจากศีรษะนองพื้น เจ้าหน้าที่กู้ภัยตรวจสอบไม่พบชีพจร จึงทำการปั๊มหัวใจ (CPR) พร้อมประสานขอความช่วยเหลือไปยังหน่วยกู้ชีพโรงพยาบาลกุยบุรี ร่วมตรวจสอบ หลังจากเจ้าหน้าที่กู้ภัยทำการปั๊มหัวใจ รวมทั้งใช้เครื่องกระตุกหัวใจไฟฟ้าอัตโนมัติให้การช่วยเหลือ ก่อนนำส่งโรงพยาบาล แต่ก็ไม่สามารถยื้อชีวิตเอาไว้ได้ ทราบชื่อต่อมาว่านายกลม ชาวแพรกน้อย อายุ 62 ปี ชาวบ้านหนองตาเสือ ต.กุยบุรี อ.กุยบุรี จ.ประจวบฯ

โชเฟอร์รถบรรทุกคันหนึ่งที่พบเหตุ เล่าว่าตนขับรถมาเห็นรถจักรยานยนต์ล้มอยู่บนถนน และมีคนเจ็บนอนอยู่ท้ายรถพ่วง จึงจอดลงมาดู พร้อมทั้งใช้ไฟฉายส่องเพื่อป้องกันอุบัติเหตุซ้ำซ้อน แต่ก็ไม่ทัน มีรถเก๋งคันหนึ่งไม่ทราบรุ่นและยี่ห้อ ขับมาชนรถจักรยานยนต์ที่ล้มอยู่ จนรถกระเด็นไปติดกับตัวพ่วงของรถพ่วง แต่ไม่ได้ชนคน และขับต่อไปโดยไม่ได้จอดลงมาดู ตนจึงโทรแจ้งเจ้าหน้าที่ให้ทราบ

จากการสอบถามเบื้องต้น ทราบว่านายกมล ผู้ตาย ทำงานเป็นลูกจ้างของเทศบาลตำบล กม.5 ต.อ่าวน้อย อ.เมือง จ.ประจวบฯ เพิ่งขับขี่รถจักรยานยนต์กลับจากบ้านภรรยาที่ตำบลกุยเหนือ เพื่อกลับบ้านหนองตาเสือ ต.กุยบุรี แต่ไม่ทราบว่าทำไมผู้ตายถึงขี่รถย้อนกลับมาทางสี่แยกกุยบุรีอีก ส่วนของคนขับรถพ่วงนั้น เจ้าหน้าที่ต้องไปปลุกให้ตื่นจากหน้ารถ โดยไม่ทราบว่ามีรถจักรยานยนต์มาชนท้ายรถของตนแต่อย่างใด ซึ่งพนักงานสอบสวนจะสอบสวนหาสาเหตุอีกครั้ง.

พันธุ์พงษ์ โพธิ์จินดา…..รายงาน

Categories
ข่าว ทั้งหมด

รองผู้ว่าประจวบฯ เปิดงานปิดทองฝังลูกนิมิต วัดหนองพังพวย

รองผู้ว่าประจวบฯ เปิดงานปิดทองฝังลูกนิมิต วัดหนองพังพวย

วันที่ 25 มกราคม 2568 ที่วัดหนองพังพวย ต.เกาะหลัก อ.เมืองประจวบฯ พระเทพวชิรสุธี เจ้าคณะจังหวัดประจวบฯ (ธ) เจ้าอาวาสวัดธรรมิการามวรวิหาร ประธานฝ่ายสงฆ์ นายปรีดา สุขใจ รองผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบฯ ประธานฝ่ายฆราวาส ในพิธีเปิดงานผูกพัทธสีมา ปิดทองฝังลูกนิมิตวัดหนองพังพวย มีพระเมธีคุณาภรณ์ รองเจ้าคณะจังหวัดประจวบฯ เจ้าอาวาสวัดเกาะหลัก พระอธิการประสาร ปิยสาโร เจ้าอาวาสวัดหนองพังพวย พร้อมคณะสงฆ์ นายสุวิทย์ เยื่อใย นายก อบต.เกาะหลัก องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น แขกผู้มีเกียรติและพุทธศาสนิกชนร่วมในพิธีและปิดทองกันเป็นจำนวนมาก งานจัดขึ้นตั้งแต่วันที่ 25 มกราคม – 3 กุมภาพันธ์ รวม 10 วัน 10 คืน

โดยได้รับความร่วมมือร่วมใจของชาวตำบลเกาะหลักและผู้มีจิตศรัทธาจัดงานดังกล่าวขึ้น โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นการกำหนดเขตวิสุงคามสีมา สำหรับพระภิกษุพระสงฆ์ใช้เป็นสถานที่ประชุมทำสังฆกรรมตามพระวินัยในโอกาสต่างๆ เปิดโอกาสให้ประชาชนในตำบลเกาะหลักและใกล้เคียงได้มาร่วมทำบุญปิดทองฝังลูกนิมิตถือว่าเป็นการทำบุญที่เป็นมหากุศลอันยิ่งใหญ่ หากใครได้มีโอกาสได้ทำ จะทำให้ผู้นั้นได้รับอนิสงส์ผลบุญ ส่งผลให้มีทรัพย์สินเงินทองไหลมาเทมา ผิวพรรณผ่องใส อายุยืนยาวปราศจากโรคภัย ได้เกิดในภพภูมิที่ดี ชาติตระกูลสูง อีกทั้งเป็นการอนุรักษ์และทำนุบำรุงพระพุทธศาสนาสืบไปอีกด้วย.

Categories
ข่าว ทั้งหมด

สิ้นเทพเจ้าแห่งเขาพรานธูป “หลวงปู่นน” ฉายา “ปลัดขิกดิ้นได้” นักเสี่ยงโชคนำอายุหลวงปู่ไปเสี่ยงโชคกันคึกคัก

สิ้นเทพเจ้าแห่งเขาพรานธูป “หลวงปู่นน” ฉายา “ปลัดขิกดิ้นได้” นักเสี่ยงโชคนำอายุหลวงปู่ไปเสี่ยงโชคกันคึกคัก

เมื่อเวลา 15.30 น. วันที่ 24 มกราคม 2568 ที่สำนักสงฆ์เขาพรานธูป ต.ทับใต้ อ.หัวหิน จ.ประจวบฯ นายพลกฤต พวงวลัยสิน นายอำเภอหัวหิน เป็นประธานงานบำเพ็ญกุศลสรงน้ำศพพระครูสังฆรักษ์นน จนฺทวิโร หรือหลวงปู่นน จันทวิโร อายุ 94 ปี พรรษา 23 พระเกจิชื่อดัง อดีตเจ้าอาวาสสำนักสงฆ์เขาพรานธูป มีนางอุษา พวงวลัยสิน นายกกิ่งกาชาดอำเภอหัวหิน นายนพพร วุฒิกุล นายกเทศมนตรีเมืองหัวหิน พระเถระชั้นผู้ใหญ่ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ศิษยานุศิษย์และประชาชนจำนวนมากร่วมในพิธี พร้อมกันนี้นักเสี่ยงโชคต่างนำอายุหลวงปู่ไปเสี่ยงโชคลาภงวดที่จะถึงนี้กันอย่างคึกคัก

สำหรับประวัติของหลวงปู่นน จันทวิโร สำนักสงฆ์เขาพรานธูป พระเกจิอาจารย์เรืองอาคมแห่งหัวหิน เป็นน้องชายแท้ๆ ของหลวงพ่อยิด อดีตเจ้าอาวาสวัดหนองจอก อ.กุยบุรี จ.ประจวบฯ ผู้ที่มีความเชี่ยวชาญสามารถเสกปลัดขิกดิ้นได้เช่นเดียวกับหลวงพ่อยิด ท่านเกิดในตระกูลกล่ำเรือง เมื่อวันที่ 3 กรกฎาคม 2474 ปีมะแม ที่บ้านนาพรม อ.ท่ายาง จ.เพชรบุรี มีศักดิ์เป็นลูกพี่ลูกน้องกับหลวงพ่อยิด วัดหนองจอก เมื่ออายุ 21 ปี ได้อุปสมบทที่วัดประดิษฐวนาราม (วัดนาพรม) จ.เพชรบุรี โดยมี หลวงพ่อเพลิน วัดหนองไม้เหลือง เป็นพระอุปัชฌาย์ หลังบวชได้อยู่ปรนนิบัติหลวงพ่อหวล จันทสิริ เจ้าอาวาสวัดนาพรม ซึ่งมีศักดิ์เป็นลุง พร้อมๆ กับหลวงพ่อยิด ซึ่งหลวงพ่อหวลได้ถ่ายทอดวิชาทางด้านสมุนไพร วิชาทำปลัดขิก และการลงจารอักขระให้ ทั้งนี้หลวงพ่อหวลมีศักดิ์เป็นน้าและพระกรรมวาจาจารย์ของหลวงยิด อีกทั้งเป็นอาจารย์ผู้ประสิทธิ์ประสาทถ่ายทอดวิชาทำปลัดขิกให้กับหลวงพ่อยิด จนมีชื่อเสียงโด่งดังกล่าวขานอยู่จนถึงทุกวันนี้อีกด้วย

หลวงพ่อนนได้จาริกแสวงบุญอยู่นาน จึงได้กลับมาที่วัดหนองจอก ซึ่งในขณะนั้น หลวงพ่อยิดท่านมีชื่อเสียงด้านปลัดขิกและมีลูกศิษย์ลูกหามากมาย ด้วยความที่มั่นใจในความแก่กล้าทางวิชาอาคมของหลวงพ่อนน และเป็นศิษย์รุ่นน้องร่วมอาจารย์เดียวกันหลวงพ่อยิด จึงให้หลวงพ่อนนช่วยลงอักขระลงบนปลัดขิก ซึ่งการลงอักขระนี้ หลวงพ่อยิดต้องเลือกเฟ้นคนที่ไว้ใจได้และมีความสามารถ เพื่อให้วัตถุมงคลมีความศักดิ์สิทธิ์ หลังจากหลวงพ่อยิดมรณภาพ หลวงพ่อนนจึงออกธุดงค์ต่อและได้ร่ำเรียนศึกษาวิชา รักษากระดูก และวิชาแก้คุณไสย จากนั้นได้มาจำพรรษาที่วัดมาลัยทับใต้ หัวหิน และที่วัดนี้เอง ท่านได้สร้างปลัดขิกในนามของท่าน เพื่อแจกจ่ายให้กับชาวบ้าน โดยท่านได้อยู่พัฒนาวัดมาลัยทับใต้ต่อมาอีกหลายปี จนเสร็จสิ้นสมบูรณ์ จึงได้เตรียมตัวจาริกอีกครั้ง ชาวบ้านที่ทราบข่าวต่างมาขอให้ท่านมาอยู่เป็นประธาน ช่วยจัดสร้างสำนักสงฆ์เขาพรานธูป หลวงพ่อนน จึงได้มาจำพรรษาที่สำนักสงฆ์เขาพรานธูป ตั้งแต่ปี 2550 เป็นต้นมา จนเมื่อวันที่ 23 มิถุนายน 2558 พระราชภัทรญานฯ มอบตราตั้งฐานานุกรมและพัดยศเป็น “พระครูสังฆรักษ์” ให้แก่หลวงปู่นน เจ้าสำนักสงฆ์เขาพรานธูป ให้เป็นพระครูสังฆรักษ์นน จนฺทวิโร โดยมีพิธีมอบขึ้นภายในอุโบสถของสำนักสงฆ์เขาพรานธูป ในช่วงระยะเวลา 3 – 5 ปี ที่ผ่านมา หลวงปู่นนได้อาพาธจากโรคเส้นเลือดหัวใจตีบ ก่อนเข้ารักษาตัวอย่างต่อเนื่องจนกระทั่งมรณภาพ เมื่อคืนวันที่ 23 มกราคม 2568 ที่โรงพยาบาลหัวหิน โดยทางวัดจะตั้งสวดบำเพ็ญกุศลที่สำนักสงฆ์ เป็นเวลา 30 วัน ก่อนบรรจุสรีรสังขารไว้ในโลงแก้วต่อไป

หลวงปู่นน ท่านสามารถเสกปลัดขิกดิ้นได้เช่นเดียวกับหลวงพ่อยิด ด้วยกิตติศัพท์อันเลื่องลือ ทำให้ท่านได้รับกิจนิมนต์ร่วมปลุกเสกวัตถุมงคลทั่วประเทศ นอกจากนี้ยังมีลูกศิษย์มากมาย มีผู้คนเข้าไปกราบท่านไม่ขาดสาย ผู้คนต่างได้รับประสบการณ์ดีๆ ที่เกิดจากท่าน พระเครื่องของท่านมากมาย และเครื่องรางของท่านเป็นที่นิยมอย่างแผ่กว้างไปเรื่อยๆ ถึงต่างประเทศ วัตถุมงคลของหลวงปู่นนที่ขึ้นชื่อ คือปลัดขิก ที่สร้างปาฏิหาริย์บินได้ เป็นที่นิยมกว้างขวางในหมู่ทหารและตำรวจ เพราะเชื่อกันว่าใครมีปลัดขิกของหลวงปู่นนติดตัวแล้ว จะดีเด่นในด้านเมตตามหานิยมและแคล้วคลาดจากอันตรายทั้งปวง อีกทั้งมีผู้ประสบเหตุการณ์ต่างๆ ทั้งแคล้วคลาดและโชคลาภ.

Categories
ข่าว ทั้งหมด

รถตู้นักท่องเที่ยวฝรั่งชนท้ายรถน้ำมันปาล์ม เจ็บหลายราย

รถตู้นักท่องเที่ยวฝรั่งชนท้ายรถน้ำมันปาล์ม เจ็บหลายราย

เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 23 มกราคม 2568 พ.ต.ท.ปณสิทธิ์ ฤทธิรงค์ สารวัตรสอบสวนสถานีตำรวจภูธรสามร้อยยอด ได้รับแจ้งอุบัติเหตุรถตู้นักท่องเที่ยวต่างชาติมาเต็มคัน ชนท้ายรถบรรทุกน้ำมันปาล์ม มีผู้ได้รับบาดเจ็บหลายราย บนถนนเพชรเกษม ขาขึ้นกรุงเทพฯ หลักกิโลเมตรที่ 253 + 600 บ้านหนองคาง หมู่ 9 ต.ศิลาลอย อ.สามร้อยยอด จ.ประจวบคีรีขันธ์ จึงประสานอาสาหน่วยกู้ภัยมูลนิธิเมธีธรรมสถานสามร้อยยอด อาสาสมัครกู้ภัยทางหลวงจุดสามร้อยยอด รุดไปตรวจสอบ

เมื่อไปถึงที่เกิดเหตุ พบผู้ได้รับบาดเจ็บเป็นนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติทั้งชายและหญิง รวม 11 คน ส่วนใหญ่ได้รับบาดเจ็บที่ศีรษะและใบหน้า เจ้าหน้าที่ต้องช่วยกันปฐมพยาบาลเบื้องต้นก่อนนำส่งโรงพยาบาลสามร้อยยอด บนถนนพบรถตู้ยี่ห้อโตโยต้า สีขาว ทะเบียน 30 – 0353 ข้างประตูรถ มีข้อความ FAME Tour & Servive จอดอยู่ บริเวณหน้ารถไฟด้านซ้ายมีร่องรอยการชนอย่างแรงจนยุบเข้าไป ห่างออกไปประมาณ 100 เมตร พบรถบรรทุกน้ำมันปาล์ม ยี่ห้อฮีโน่ สีฟ้า ทะเบียน 70 – 8860 สุราษฏร์ธานี จอดอยู่ ที่บริเวณกันชนท้ายมีร่องรอยการถูกชนยุบและยางระเบิด ส่วนคนขับนั่งรอเจ้าหน้าที่อยู่ จากนั้นเจ้าหน้าที่หมวดทางหลวงได้ช่วยกันทำความสะอาดถนน นำทรายมาโรยน้ำมันเครื่อง กันลื่นเพื่อไม่ให้เกิดอุบัติเหตุซ้ำซ้อน จนสามารถใช้งานได้ตามปกติ

คนขับรถตู้ เล่าว่านำนักท่องเที่ยวมาจากเกาะเต่า จ.ชุมพร จำนวน 11 คน กำลังไปส่งที่กรุงเทพฯ เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุตนขับมาเลนซ้าย เห็นรถบรรทุกน้ำมันที่วิ่งอยู่ข้างหน้า จึงจะแซงเปลี่ยนไปเลนขวา แต่หักพวงมาลัยรถไม่พ้น จึงชนท้ายรถน้ำมันอย่างจัง จนมีผู้ได้รับบาดเจ็บ

ด้านคนขับรถน้ำมัน เล่าว่า ตนขับรถบรรทุกมันน้ำมันปาล์มมาจากจังหวัดนครศรีธรรมราช กำลังไปส่งโรงงานที่ปทุมธานี ขณะขับมา ได้ยินเสียงดังจนรถสะเทือนที่บริเวณท้ายรถ ตนจึงหยุดรถลงมาดูก็พบว่ามีรถมาชนท้ายดังกล่าว.

ฐิติชญา แสงสว่าง…..รายงาน

Categories
ข่าว ทั้งหมด

จับขบวนการขนแรงงานต่างด้าวลักลอบส่งมาเลย์ หนีเข้าที่ประจวบฯ

จับขบวนการขนแรงงานต่างด้าวลักลอบส่งมาเลย์ หนีเข้าที่ประจวบฯ

ช่วงค่ำวันที่ 22 มกราคม 2568 นายประสูตร หอมบรรเทิง นายอำเภอเมืองประจวบคีรีขันธ์ มอบหมายให้นายอุดร ผโประการณ์ ปลัดอำเภอฝ่ายความมั่นคง นำกำลังพลเจ้าหน้าที่อาสารักษาดินแดน (อส.) ออกลาดตระเวนในพื้นที่ หลังทราบว่าจะมีขบวนการค้าแรงงานเถื่อนข้ามชาติ นำแรงงานต่างด้าวเข้ามาพักในพื้นที่ ก่อนจะส่งต่อไปยังประเทศมาเลเซีย ระหว่างออกลาดตระเวนพบรถต้องสงสัยเป็นรถยนต์กระบะ 4 ประตู สีดำ ยี่ห้อโตโยต้า วีโก้ ทะเบียน กต 6561 ราชบุรี วิ่งผ่านมาลักษณะมีพิรุธ จึงส่องดูที่บริเวณท้ายกระบะปิดคลุมด้วยผ้าสแลนไนลอนสีเขียว มีหัวมนุษย์โผล่ขึ้นมา และภายในห้องโดยสารมีผู้โดยสารนั่งอัดมาในรถจนแน่น เจ้าหน้าที่จึงเรียกให้จอดรถเพื่อตรวจสอบ แต่คนขับได้ขับรถกระบะซิ่งรถหลบหนีเจ้าหน้าที่ไปอย่างรวดเร็ว เจ้าหน้าที่จึงขับรถตามจากบริเวณบ้านหนองปรือ ไปถึงตลาดนัดยายชุบ บ้านหนองเสือ พร้อมประสานเจ้าหน้าที่ทหารจากหน่วยเฉพาะกิจจงอางศึกให้ช่วยสกัดจับ จากนั้นรถขนแรงงานเถื่อนได้วนกลับหนีมาที่หมู่บ้านทุ่งเคล็ด หมู่ 6 ต.เกาะหลัก อ.เมืองประจวบฯ ก่อนที่ผู้นำพาซึ่งเป็นผู้ขับขี่และผู้โดยสาร 2 ราย ได้จอดรถยนต์และชักกุญแจ วิ่งหลบหนีเข้าไปในหลังบ้านพักหลังหนึ่ง โดยจอดรถทิ้งไว้บริเวณหน้าบ้าน บนถนนสายรองเพชรเกษม – บ้านทุ่งเคล็ด พร้อมกับทิ้งแรงงานชาวเมียนมาจำนวน 10 คนไว้ จึงได้โทรประสานผู้ใหญ่บ้านในพื้นที่ แต่ไม่รับสาย

เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองจึงได้ร่วมกับทหารหน่วยเฉพาะกิจจงอางศึก ตรวจค้นภายในรถและสัมภาระเดินทางของแรงงานชาวเมียนมา เพื่อหาสิ่งของผิดกฎหมาย แต่ไม่พบ จึงตรวจสอบทำประวัติ จากการตรวจสอบพบว่าแรงงานชาวเมียนมาทั้งหมด 10 คน เป็นชาย 9 คนหญิง 1 คน อายุระหว่าง 19 – 36 ปี เดินทางมาจากพญาตองซู ฝั่งเมียนมา แล้วเดินเท้าข้ามแดน ผ่านช่องทางธรรมชาติในจังหวัดกาญจนบุรี มายังฝั่งไทย แล้วนั่งรถนำพามายังจุดพักคอยในพื้นที่อำเภอเมืองประจวบคีรีขันธ์ โดยนั่งรถมาแล้วประมาณ 5 ชั่วโมง เปลี่ยนรถ 3 ครั้ง จนถึงอำเภอเมืองประจวบคีรีขันธ์ แล้วรอรถมารับไปส่งที่ประเทศมาเลเซีย ผ่านทางเรือ โดยเสียค่าใช้จ่ายให้กับนายหน้าผู้นำพา คนละ 520,000 จ๊าด หรือเงินไทยประมาณ 15,000 บาท เจ้าหน้าที่จึงได้ตรวจวัดอุณหภูมิร่างกาย พร้อมจัดทำประวัติบันทึกการจับกุมและยึดรถของกลางนำพาแรงงานต่างด้าวทั้งหมด ส่งพนักงนสอบสวน สภ.เมืองประจวบฯ เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป.

เอกภพ วงษ์ประเสริฐ…..รายงาน

Categories
ข่าว ทั้งหมด

รองเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร เปิดโครงการ “สานพลังจิตพอเพียงต้านทุจริต”

รองเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร เปิดโครงการ “สานพลังจิตพอเพียงต้านทุจริต”

วันที่ 24 มกราคม 2568 นายณัฏฐ์กฤษฎ์ วงศ์เจริญ รองเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ประธานชมรม STRONG สผ.องค์กรพอเพียงต้านทุจริต สำนักเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร เป็นประธานเปิดโครงการ “สานพลังจิตพอเพียงต้านทุจริต ของสำนักเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2568” ระหว่างวันที่ 24 – 25 มกราคม 2568 ที่โรงแรมเบสท์ เวสเทิร์น พลัสคาราเพซ หัวหิน จ.ประจวบฯ มีนายอติชาติ ชัยศรี รองนายกเทศมนตรีเมืองหัวหิน กล่าวต้อนรับ น.ส.สิริธร ลิปพยอม ผู้อำนวยการสำนักสารสนเทศ รองประธานชมรม STRONG สผ.องค์กรพอเพียงต้านทุจริต สำนักเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร กล่าวรายงาน มีองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น สถานศึกษา หน่วยงานภาครัฐ รัฐวิสาหกิจ สมาคมต่างๆ และสื่อมวลชน เข้าร่วมอบรม

ภายในงานมีการเสวนาโดยนายณัฏฐ์กฤษฎ์ วงศ์เจริญ รองเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ประธานชมรม STRONG สผ.องค์กรพอเพียงต้านทุจริต สำนักเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร นายเศรษฐพงษ์ ศรีเลิศ ผู้บังคับบัญชากลุ่มงานส่งเสริมคุณธรรมและจริยธรรมและรองประธานชมรม STRONG สผ.องค์กรพอเพียงต้านทุจริต สำนักเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร นางนวลใย นิลบรรพ์ ประธานโค้ชชมรม STRONG จิตพอเพียงต้านทุจริต จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ และนายจีรวัฒน์ พราหมณี ปลัดเทศบาลเมืองหัวหิน

นายณัฏฐ์กฤษฎ์ วงศ์เจริญ กล่าวว่าเป็นที่น่ายินดีเป็นอย่างยิ่ง ที่สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร และเครือข่ายองค์กรพอเพียงต้านทุจริตได้ให้ความสำคัญเรื่องการรักษาความเข้มแข็งด้านการป้องกันและการต่อต้านการทุจริต มีการแลกเปลี่ยนเรียนรู้และบูรณาการความร่วมมือในการป้องกันการทุจริต ผสานความร่วมมือในการป้องกันและปราบปรามการทุจริตระหว่างหน่วยงาน อีกทั้งเพื่อขยายผลการเสริมสร้างความเข้มแข็งของเครือข่าย เพื่อสร้างสังคมแห่งความดีที่ไร้การทุจริต นำพาองค์กรให้มีความสุจริต ความโปร่งใส เพื่อให้ประเทศไทยใสสะอาด ปราศจากการทุจริต โครงการครั้งนี้จะเกิดประโยชน์อย่างยิ่งกับสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ในการสร้างเครือข่ายการขับเคลื่อนงานด้านองค์กรพอเพียงต้านทุจริตและเพื่อบูรณาการความร่วมมือในการป้องกันการทุจริต รวมทั้งผสานความร่วมมือองค์กรพอเพียงต้านทุจริตกับเครือข่ายจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เพื่อบูรณาการความร่วมมือการขับเคลื่อนชมรม STRONG เพื่อพัฒนาแนวทางการป้องกันการทุจริต ในสถานการณ์ Digital Disruption ซึ่งเป็นส่วนสำคัญในการเสริมสร้างความเข้มแข็งในการป้องกันและต่อต้านการทุจริตในหน่วยงาน.