Categories
ข่าว ทั้งหมด

ตำรวจแจกหมวกกันน็อกแทนใบสั่ง ลดอัตราการเสียชีวิตช่วงเทศกาลสงกรานต์

ตำรวจแจกหมวกกันน็อกแทนใบสั่ง ลดอัตราการเสียชีวิตช่วงเทศกาลสงกรานต์

วันที่ 11 เมษายน 2568 พ.ต.อ.ไพทูล พรมเขียน ผกก.สภ.เมืองประจวบคีรีขันธ์ นำเจ้าหน้าที่ตำรวจจิตอาสา พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจจราจร ร่วมกันตั้งจุดตรวจ จุดสกัดกวดขันวินัยจราจร เนื่องในช่วงเทศกาลสงกรานต์ ที่ถนนสวนสน เลียบชายหาดทะเลอ่าวประจวบฯ เขตเทศบาลเมืองประจวบคีรีขันธ์ โดยเน้นการตรวจจับรถจักรยานยนต์ที่ผู้ขับขี่ไม่สวมหมวกนิรภัย พร้อมตรวจค้นอาวุธและสิ่งของผิดกฎหมายต่างๆ ซึ่งผู้ที่ไม่สวมหมวกนิรภัย หลังจากจับแล้วจะแจกหมวกกันน็อคให้แทนการออกใบสั่งค่าปรับจราจร พร้อมแนะนำประชาสัมพันธ์ให้ความรู้ สร้างความตระหนักถึงความปลอดภัยในการขับขี่ รวมถึงเครื่องหมายจราจรต่างๆ และผลกระทบที่อาจจะเกิดขึ้นหลังจากประสบอุบัติเหตุในช่วงเทศกาลสงกรานต์ที่จะถึงนี้

พ.ต.อ.ไพทูล พรมเขียน ผกก.สภ.เมืองประจวบฯ เปิดเผยว่า โครงการดังกล่าว เป็นโครงการของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เนื่องจากมีความห่วงใยพี่น้องประชาชนที่ขี่รถจักรยานยนต์เดินทางในช่วงเทศกาลสงกรานต์ ซึ่งมักจะเกิดอุบัติเหตุบ่อยครั้ง จึงจัดโครงการนี้ขึ้น เพื่อให้เจ้าหน้าที่ตำรวจแจกหมวกให้กับประชาชน ในส่วนของ สภ.เมืองประจวบฯ ได้หมวกมา จำนวน 80 ใบ จะแจกให้หมดในช่วงเทศกาลสงกรานต์นี้ โดยจะถ่ายบัตรประชาชนและทำประวัติไว้ว่าได้แจกหมวกให้ใครไปบ้าง และได้นำไปสวมใส่ขณะขับขี่หรือไม่ และฝากเตือนพี่น้องประชาชนทุกคนให้ขับขี่รถด้วยความระมัดระวัง โดยเฉพาะช่วงเทศกาลสงกรานต์ที่จะถึงนี้

ส่วนที่จุดตรวจริมถนนบริเวณหน้าสำนักงานไปรษณีย์อำเภอบางสะพาน พ.ต.อ.ชัยรินทร์ แก้วสุวรรณ ผกก.สภ.บางสะพาน มอบหมายมอบหมาย พ.ต.ท.ประหยัด อินทนาศักดิ์ รอง ผกก.ป. พ.ต.ต.ปองปรีดา ทองศิริ สวป. ร.ต.ต.ศักดิ์สหรัฐ แพรพันธ์
รอง สว.จราจร นำกำลังเจ้าหน้าที่สายตรวจ, เจ้าหน้าที่จราจร, ประชาชนจิตอาสา ร่วมแจกหมวกนิรภัยให้ผู้ขับขี่ไม่สวมหมวกนิรภัย และให้ความรู้กฎหมายจราจร ตามโครงการจิตอาสา ขับขี่ปลอดภัย สวมหมวกนิรภัย เพื่อลดอุบัติเหตุจราจรทางบกในช่วงเทศกาลสงกรานต์ประจำปี 2568

พ.ต.ท.ประหยัด อินทนศักดิ์ กล่าวว่า สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ตำรวจภูธรภาค 7 และตำรวจภูธรจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ สั่งการให้ตำรวจภูธรอำเภอบางสะพาน ดำเนินการจิตอาสาจราจร เพื่อความปลอดภัยของประชาชนผู้ใช้รถใช้ถนน เพราะสาเหตุของอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นอันดับหนึ่ง คือประมาณ 70% มาจากอุบัติเหตุจากกลุ่มผู้ใช้รถจักรยานยนต์ที่เป็นกลุ่มเปราะบาง ผู้ใช้แรงงาน และนักเรียนนักศึกษาที่ไม่สวมหมวกนิรภัย ซึ่งหากเกิดอุบัติเหตจะบาดเจ็บอย่างรุนแรงที่สุด สำนักงานตำรวจจึงมีนโยบายเปลี่ยนจุดจับ เป็นจุดแจก สภ. บางสะพาน รับนโยบายมาปฏิบัติการดังกล่าว โดยใช้จุดตรวจขับขี่ปลอดภัย มีวินัย เคารพกฎจราจร โดยแจกหมวกนิรภัยให้กับประชาชนที่ขี่รถจักรยานยนต์ระหว่างวันที่ 11 – 20 เมษายน 2568 ซึ่ง สภ.บางสะพาน ได้รับมา 80 ใบ ซึ่งเป็นหมวกนิรภัยที่ได้จากจิตอาสาของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ จึงฝากเตือนประชาชนผู้ใช้รถใช้ถนนและใช้รถจักรยานยนต์ว่าให้สวมหมวกนิรภัยทุกครั้งที่ขับขี่รถจักรยานยนต์ เพื่อความปลอดภัยของตัวท่านเอง.

เอกภพ วงษ์ประเสริฐ / พิสิษฐ์ รื่นเกษม…..รายงาน

Categories
ข่าว ทั้งหมด

อบต.อ่างทอง ส่งเสริมพัฒนาคุณภาพชีวิต เนื่องในวันผู้สูงอายุและสืบสานประเพณีสงกรานต์

อบต.อ่างทอง ส่งเสริมพัฒนาคุณภาพชีวิต เนื่องในวันผู้สูงอายุและสืบสานประเพณีสงกรานต์

วันที่ 11 เมษายน 2568 นายสิทธิพร คงหอม นายอำเภอทับสะแก เป็นประธานเปิดโครงการส่งเสริมพัฒนาคุณภาพชีวิต สุขภาพ สร้างกำลังใจผู้สูงวัย เนื่องในวันผู้สูงอายุและสืบสานประเพณีวันสงกรานต์ ประจำปี 2568 ที่ศาลาการเปรียญวัดวังยาง หมู่ 4 ต.อ่างทอง อ.ทับสะแก จ.ประจวบคีรีขันธ์ มีนายบังเอิญ พึ่งโพธิ์ทอง นายก อบต.อ่างทอง นายลือยศ ภู่ทอง สจ.เขต 3 อำเภอทับสะแก นายชลิต เพชรดี กำนันตำบลอ่างทอง นายสมชาย คงเม่น ประธานสภา อบต.อ่างทอง น.ส.ชิดชนก กอวัฒนาวรานนท์ หัวหน้าแผนกพัฒนาเครือข่ายภาครัฐ นายมหยศ โกศิน หัวหน้าศูนย์การเรียนรู้ กฟผ.ทับสะแก นายสนม มณีแดง ประธานชมรมผู้สูงอายุตำบลอ่างทอง พร้อมคณะผู้บริหาร สมาชิกสภา อบต. ผู้ใหญ่บ้าน พนักงาน อบต. เจ้าหน้าที่ รพ.สต.อสม. และผู้สูงอายุตำบลอ่างทอง ให้การต้อนรับ

นายสนม มณีแดง ประธานชมรมผู้สูงอายุตำบลอ่างทอง กล่าวว่าวัตถุประสงค์ของการจัดโครงการส่งเสริมพัฒนาคุณภาพชีวิต สุขภาพ สร้างกำลังใจผู้สูงวัย หรือสืบสานประเพณีวันสงกรานต์ ประจำปี 2568 เพื่อส่งเสริมให้สังคมและประชาชนทุกภาคส่วนตระหนักถึงคุณค่าของผู้สูงอายุและความสำคัญของการพัฒนาคุณภาพชีวิตผู้สูงอายุในพื้นที่ ส่งเสริมให้ผู้สูงอายุได้มีโอกาสทำกิจกรรมร่วมกัน ก่อให้เกิดความสัมพันธ์ที่ดี ส่งเสริมให้ผู้สูงอายุได้รับความรู้เกี่ยวกับการออกกำลังกาย การดูแลสุขภาพกาย สุขภาพใจ การนำธรรมจรรโลงใลงใจ มาประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวัน และที่สำคัญเพื่อให้ผู้สูงอายุเห็นค่าและศักดิ์ศรีในตนเอง มีกำลังใจใช้ชีวิตในสังคมต่อไป.

ณัฐธภพ พันสาย…..รายงาน

Categories
ข่าว ทั้งหมด

กระบะตู้ทึบชนสองผัวเมียขี่จักรยานยนต์ไปหาหมอที่ รพ.สต. กระบะตู้ทึบชนเจ็บสาหัสจนต้อง CPR กู้ชีวิต

กระบะตู้ทึบชนสองผัวเมียขี่จักรยานยนต์ไปหาหมอที่ รพ.สต. กระบะตู้ทึบชนเจ็บสาหัสจนต้อง CPR กู้ชีวิต

ช่วงเช้าวันที่ 11 เมษายน 2568 ร.ต.ท.นนทนันท์ สิงหนาท พนักงานสอบสวน สภ.สามกระทาย รับแจ้งว่ามีอุบัติเหตุ รถกระบะเฉี่ยวชนรถจักรยานยนต์ มีผู้ได้รับบาดเจ็บ บนถนนเพชรเกษมฝั่งขาเข้ากรุงเทพฯ ใกล้กับจุดกลับรถบ้านดอนกลาง ต.สามกระทาย อ.กุยบุรี จ.ประจวบฯ จึงรุดไปตรวจสอบพร้อมด้วยกู้ภัยมูลนิธิหลวงพ่อในกุฏิ วัดกุยบุรี

เมื่อไปถึงที่เกิดเหตุ พบจักรยานยนต์ฮอนด้า สีขาว – น้ำตาล ทะเบียน 1 กม 6292 ประจวบฯ ล้มตะแคงอยู่ ใกล้กันพบร่างผู้บาดเจ็บ 2 ราย รายแรกเป็นชายสูงอายุ บาดเจ็บศีรษะแตก กู้ภัยนำส่งโรงพยาบาลก่อนแล้ว อีกรายเป็นหญิงสูงวัย นอนหมดสติ ศีรษะแตก เลือดไหลนอง ตรวจไม่พบชีพจร เจ้าหน้าที่กู้ภัยต้องทำการปั๊มหัวใจด้วยการกดหน้าอก (CPR) จนสามารถช่วยให้กลับมาหายใจได้ แต่ยังหมดสติอยู่ จึงประสานหน่วยกู้ชีพโรงพยาบาลกุยบุรีมาให้การช่วยเหลือ และนำส่งโรงพยาบาลให้แพทย์ทำการรักษาต่อไป ทราบชื่อต่อมาคือนายจำลอง จำศิลป์ และนางจอน จำศิลป์ ทั้งคู่เป็นสามีภรรยากัน

จากการสอบถามเบื้องต้น ทราบว่า สองสามีภรรยาได้ขี่รถจักรยานยนต์มาจากบ้าน เพื่อมาหาหมอที่โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล (รพ.สต.) บ้านดอนกลาง ซึ่งอยู่ห่างออกไปอีกเพียงไม่เกิน 50 เมตร ขณะขี่มาถึงที่เกิดเหตุ มีรถกระบะตู้ทึบขนส่งของแช่แข็ง ยี่ห้อโตโยต้า สีขาว ทะเบียน 2 ฒต 6677 กรุงเทพฯ ซึ่งกลับจากการส่งลูกชิ้นที่อำเภอหาดใหญ่ จ.สงขลา โดยมีนายนภสิทธิ์ กิจพจน์ อายุ 19 ปี ชาวตำบลคู้สลอด อ.ลาดบัวหลวง จ.พระนครศรีอยุธยา เป็นคนขับ มาเฉี่ยวรถจักรยานยนต์ด้านข้างซ้ายของตัวรถ จนกระจกมองข้างหลุดออก จากนั้นส่วนของตู้ทึบไปกระแทกกับสองสามีภรรยาจนรถล้มได้รับบาดเจ็บดังกล่าว ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจจะทำการสอบสวนอีกครั้งหนึ่ง เพื่อหาสาเหตุที่แท้จริงต่อไป.

พันธุ์พงษ์ โพธิ์จินดา…..รายงาน

Categories
กีฬา ข่าว ทั้งหมด

กลับมาอีกครั้ง‘วิ่งกันดุ๊ RUN KHAN DO #2’ส่งเสริมให้ประชาชนออกกำลังกาย ประเดิมสนามแรกที่ปราณบุรี

กลับมาอีกครั้ง‘วิ่งกันดุ๊ RUN KHAN DO #2’ส่งเสริมให้ประชาชนออกกำลังกาย ประเดิมสนามแรกที่ปราณบุรี

วันที่ 11 เมษายน 2568 นายปรีดา สุขใจ รองผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบฯ เป็นประธานประชุมจัดกิจกรรมวิ่งกันดุ๊ RUN KHAN DO ซีซั่น 2 ที่ห้องประชุมช่องกระจก ชั้น 2 ศาลากลางจังหวัด มีส่วนราชการและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ สำนักงานท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัด สำนักงานการกีฬาแห่งประเทศไทยจังหวัด ที่ทำการปกครองจังหวัด สำนักงานสาธารณสุขจังหวัด สำนักงานจังหวัด สำนักงานวัฒนธรรมจังหวัด เทศบาลเมืองประจวบฯ สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัด เข้าร่วมประชุมเพื่อหารือเกี่ยวกับรูปแบบการจัดกิจกรรมในเบื้องต้น

นายปรีดา สุขใจ กล่าวว่า กิจกรรมวิ่งกันดุ๊ ซีซั่น 2 เป็นกิจกรรมที่จังหวัดประจวบฯ ร่วมกับเหล่ากาชาดจังหวัดและส่วนราชการต่างๆ จัดขึ้น โดยมีวัตถุประสงค์ที่สำคัญ คือสร้างสุขภาพด้านการออกกำลังกายให้ประชาชน เพื่อนำไปสู่การขับเคลื่อนพัฒนาด้านการออกกำลังกายและกีฬา ส่งเสริมและประชาสัมพันธ์การท่องเที่ยวของแต่ละอำเภอ และพัฒนาส่งเสริมอัตลักษณ์เส้นทางท่องเที่ยวเชื่อมโยงทุกอำเภอ ตลอดถึงจังหวัดใกล้เคียง และเป็นการสร้างกิจกรรมด้านกีฬาและการท่องเที่ยวในงานท่องเที่ยวประจวบคีรีขันธ์ มหัศจรรย์ เมืองสามอ่าวและงานกาชาด ประจำปี 2568 โดยกำหนดจัดขึ้นในระดับอำเภอ จำนวน 8 ครั้ง และจังหวัด 1 ครั้ง ซึ่งครั้งที่ผ่านมาได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากทุกภาคส่วน โดยวิ่งกันดุ๊ ซีซั่น 2 นี้ กำหนดจัดขึ้นระหว่างวันที่ 14 พฤษภาคม – 9 กรกฎาคม 2568 จัดขึ้นทุกวันพุธของสัปดาห์ ระยะทางการวิ่ง 5 กิโลเมตร

“ประเดิมสนามแรกที่อำเภอปราณบุรี วันที่ 14 พฤษภาคม สนาม 2 ทับสะแก วันที่ 21 พฤษภาคม สนาม 3 หัวหิน วันที่ 28 พฤษภาคม สนาม 4 เมืองประจวบฯ วันที่ 4 มิถุนายน สนาม 5 สามร้อยยอด วันที่ 11 มิถุนายน สนาม 6 บางสะพาน วันที่ 18 มิถุนายน สนาม 7 กุยบุรี วันที่ 25 มิถุนายน สนาม 8 บางสะพานน้อย วันที่ 2 กรกฎาคม และสนามระดับจังหวัด อ.เมืองประจวบฯ วันที่ 9 กรกฎาคม ส่วนเรื่องสถานที่หากได้ข้อสรุป ทางจังหวัดจะดำเนินการแจ้งให้ทราบต่อไป”

สำหรับการจัดจำหน่ายเสื้อ Run Kan Do #2 ได้เปิดให้จองแล้ว ประเภทคอกลม ราคาตัวละ 150 บาท ประเภทคอปก ตัวละ 249 บาท สามารถขอใบสั่งจองได้ที่เพจ Run Khan Do – วิ่งกันดุ๊ และส่งใบสั่งจองได้ทางไลน์ https://line.me/R/ti/p/@529ohygi เท่านั้น และรับเสื้อได้ที่สำนักงานท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดประจวบฯ (ตรงข้ามสนามกีฬาจังหวัดประจวบฯ) หรือท่านใดไม่สะดวก สามารถสั่งจองได้ที่ ที่ว่าการอำเภอทั้ง 8 อำเภอ ของจังหวัด.

Categories
ข่าว ทั้งหมด

รถพ่วงหลับใน เสียหลักพลิกคว่ำขวางถนน รถติดยาวนับ 10 กิโลเมตร

รถพ่วงหลับใน เสียหลักพลิกคว่ำขวางถนน รถติดยาวนับ 10 กิโลเมตร

เมื่อเวลา 09.30 น. ของวันที่ 10 เมษายน 2568 เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ทับสะแก จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ รับแจ้งเกิดอุบัติเหตุรถบรรทุกพ่วงพลิกคว่ำขวางถนน เหตุเกิดช่วงระหว่างหลักกิโลเมตรที่ 352 – 353 หมู่ 1 ต.นาหูกวาง อ.ทับสะแก จึงพร้อมด้วยสายตรวจ เจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวงทับสะแก กู้ภัยทางหลวง หมวดการทางทับสะแก มูลนิธิสว่างรุ่งเรืองธรรมสถานอำเภอทับสะแก และการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคทับสะแก รุดไปตรวจสอบ

เมื่อไปถึงที่เกิดเหตุ บริเวณขาขึ้นกรุงเทพฯ ช่วงก่อนถึงโค้งโรงพยาบาลทับสะแก พบรถยนต์บรรทุกพ่วง 18 ล้อ สีแดงชมพู ตัวแม่ ทะเบียน 70 – 0684 พังงา ตัวลูก 80 – 6689 พังงา พลิกคว่ำขวางถนน ทำให้กะลาปาล์มสับที่บรรทุกมาตกกะจายเกลื่อนถนน ตัวลูกหลุดจากหางลากตัวแม่ ข้างทางพบรอยรถเสียหลักชนเสาไฟขาดสะบั้น ด้านหน้ารถกระจกแตก เจ้าหน้าที่ต้องประสานรถแบคโฮมากวาดเกลี่ยกะลาปาล์มและยกรถขึ้นลากไปโรงพัก เพื่อเปิดการจราจรให้รถวิ่งเพียง 1 ช่องทางก่อน

จากการสอบถามนายจักรกฤษ มากละม้าย อายุ 31 ชาวตำบลรัชฎา อ.เมือง ภูเก็ต คนขับซึ่งได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย เล่าว่าตนขับรถบรรทุกคันดังกล่าวบรรทุกกะลาปาล์มจากจังหวัดกระบี่ จะไปส่งที่จังหวัดสมุทรสาคร เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุเกิดอาการวูบหลับใน ทำให้รถเสียหลักตกลงข้างทางและชนเสาไฟฟ้า ตนจึงหักรถขึ้นมาพลิกคว่ำอยู่บนถนนกีดขวางการจราจร หลังจากเกิดอุบัติเหตุพบว่าบนถนนเพชรเกษมฝั่งขาขึ้นกรุงเทพฯ มีรถสัญจรจำนวนมาก ทำให้รถติดสะสมยาวนับ 10 กิโลเมตร ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้รีบยกรถออกจากจุดเกิดเหตุเพื่อเร่งระบายรถดังกล่าวเรียบร้อยแล้ว.

ณัฐธภพ พันสาย…..รายงาน

Categories
ข่าว ทั้งหมด

หัวหินปล่อยแถวป้องกันอาชญากรรมช่วงสงกรานต์ สร้างความเชื่อมั่นนักท่องเที่ยว

หัวหินปล่อยแถวป้องกันอาชญากรรมช่วงสงกรานต์ สร้างความเชื่อมั่นนักท่องเที่ยว

เมื่อเวลา 19.00 น. วันที่ 10 เมษายน 2568 พ.ต.อ.กัมปนาท ณ วิชัย ผกก.สภ.หัวหิน เป็นประธานปล่อยแถวระดมกวาดล้างอาชญากรรม ที่หน้า สภ.หัวหิน จ.ประจวบฯ ตามมาตรการป้องกันปราบปรามอาชญากรรม การรักษาความสงบเรียบร้อย และการดูแลอำนวยความสะดวกด้านการจราจรการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนน ในช่วง เทศกาลสงกรานต์ ปี 2568 ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) โดย พล.ต.ท.นัยวัฒน์ ผะเดิมชิต ผบช.ภ.7 สั่งการให้ทุกหน่วยบูรณาการร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งทหาร ฝ่ายปกครอง ระดมกำลังกวาดล้างอาชญากรรมในช่วงเทศกาลดังกล่าว โดยมี พ.ต.อ.เทียนชัย ชมภู ผกก.ตม.จ.ประจวบฯ พ.ต.ท.วรท กรุงกาญจนา รอง ผกก.ป.สภ.หัวหิน ตำรวจท่องเที่ยว ฝ่ายปกครองอำเภอหัวหิน เทศบาลนครหัวหิน อส. และมูลนิธิฯ รวมกันประมาณ 200 คน เข้าร่วม

พ.ต.อ.กัมปนาท ณ วิชัย กล่าวว่า ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ซึ่งเป็นวันหยุดยาว จะมีประชาชนจำนวนมากเดินทางกลับภูมิลำเนา และเดินทางท่องเที่ยวตามสถานที่ต่างๆ ซึ่งอาจทำให้เกิดปัญหาการจราจร ปัญหาอาชญากรรม และมาตรการป้องกันการแข่งรถในทางสาธารณะ สร้างความเดือดร้อนรำคาญ ตลอดถึงอาจมีกลุ่มมิจฉาชีพแอบแฝงเข้าไปในสถานที่จัดงานต่างๆ โดยเฉพาะอำเภอหัวหินเป็นพื้นที่ท่องเที่ยวที่ชาวโลกรู้จักดี ดังนั้นเพื่อที่จะสร้างความมั่นใจ สร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชนนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติที่เข้ามาพักผ่อนในช่วงเทศกาลนี้ในพื้นที่ จึงได้สนธิกำลังระดมกวาดล้างอาชญากรรมในช่วงเทศกาลสงกรานต์ของตำรวจภูธรจังหวัดประจวบฯ เป็นมาตรการในการรักษาความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน การรักษาความสงบเรียบร้อยของสังคม โดยบูรณาการร่วมกับหน่วยตำรวจในพื้นที่ ฝ่ายปกครอง และอาสาสมัคร เพื่อเป็นการสร้างความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน และเพื่อความเป็นระเบียบเรียบร้อยของสังคมในพื้นที่ช่วงเทศกาลดังกล่าว.

Categories
ข่าว ท่องเที่ยว ทั้งหมด

แลนด์มาร์คแห่งใหม่ ในงาน “นาหูกวาง สตรีทอาร์ต 2025” วันที่ 14 – 15 เมษายน 2568

แลนด์มาร์คแห่งใหม่ ในงาน “นาหูกวาง สตรีทอาร์ต 2025” วันที่ 14 – 15 เมษายน 2568

วันที่ 10 เมษายน 2568 นายปรีดา สุขใจ รองผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เป็นประธานในการแถลงข่าวการจัดงาน “นาหูกวาง สตรีทอาร์ต 2025” ที่ อบต.นาหูกวาง อ.ทับสะแก จ.ประจวบฯ จัดขึ้น มีนายสิทธิพร คงหอม นายอำเภอทับสะแก นายลือยศ ภู่ทอง สจ.เขต 3 อำเภอทับสะแก นายเชาว์ เอี่ยมสุขขา นายก อบต.นาหูกวาง นายสายชล ชนะภัย น.ส.ทิฆัมพร ยอดใหญ่ รองนายก อบต.นาหูกวาง นายอรุษ ห้วยหงส์ทอง กำนันตำบลนาหูกวาง น.ส.แอนนา ศิลปินชาวรัสเซีย นายพนม ปัถวี หัวหน้าแผนกโรงไฟฟ้าทับสะแก น.ส.ชิดชนก กอวัฒนาวรานนท์ หัวหน้าแผนกพัฒนาเครือข่ายภาครัฐ นายมหยศ โกศิน หัวหน้าศูนย์การเรียนรู้ กฟผ.ทับสะแก พร้อมผู้บริหารท้องถิ่น สมาชิกสภา อบต.ผู้ใหญ่บ้าน ผู้บริหารสถานศึกษา ผู้นำชุมชน พนักงาน เข้าร่วมงาน

งานนาหูกวางสตรีทอาร์ตนี้ เป็นงานศิลปะมหาชนที่ตื่นตาตื่นใจ โดยนำเอาศิลปะร่วมสมัย มาผสมผสานกับแนวคิดการรีไซเคิลและ การอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม โดยมีหาดแหลมกุ่มเป็นพื้นที่จัดแสดงผลงานศิลปะที่สร้างสรรค์จากวัสดุเหลือใช้ต่างๆ ภายใต้ธีม “นาหูกวาง อัพไซเคิล” เพื่อส่งเสริมจิตสำนึกในการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมและสร้างสรรค์สังคมที่ยั่งยืน สร้างความตระหนักให้กับประชาชนเกี่ยวกับปัญหาขยะและความสำคัญของการรีไซเคิล กระตุ้นเศรษฐกิจชุมชนผ่านการท่องเที่ยวและการจำหน่ายสินค้า สร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับหาดแหลมกุ่มและตำบลนาหูกวาง ซึ่งกำหนดจัดงานวันที่ 14 – 15 เมษายน 2568 ณ หาดแหลมกุ่ม หมู่ 7 ต.นาหูกวาง อ.ทับสะแก จ.ประจวบฯ

ไฮไลท์ภายในงาน มีการออกร้านอาหารหลากหลายที่คัดสรรเมนูคุณภาพ ทั้งอาหารทะเลสดใหม่ อาหารพื้นบ้านรสเด็ด และของหวานท้องถิ่นสุดอร่อย ทุกเมนูผ่านการคัดเลือกเพื่อความสะอาด ปรุงสดใหม่ พร้อมเสิร์ฟให้ผู้ร่วมงานได้ลิ้มลองรสชาติที่หลากหลายและประทับใจไปกับความอร่อยแบบต้นตำรับของตำบลนาหูกวาาง

กิจกรรมร่วมลงสีสันบนสตรีทอาร์ตใหญ่ที่สุดในจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ : ภาพ Street Art ออกแบบโดย “Miss Anna” ศิลปินอิสระชาวรัสเซีย รังสรรค์ผลงานที่สร้างจากเอกลักษณ์ และอัตลักษณ์ของตำบลนาหูกวาง ศิลปินจะทำการร่างโครงแล้วให้นักท่องเที่ยว ประชาชน นักเรียน นักศึกษา ศิลปินพื้นที่ร่วมกันลงสี เพื่อแสดงถึงพลังความสามัคคี ที่พร้อมต้อนรับการท่องเที่ยวตำบลนาหูกาง

ชมมินิคอนเสิร์ตจากศิลปิน นั่งฟังสบายๆ ริมทะเล ผ่อนคลายไปกับเพลงที่คุณชื่นชอบในบรรยากาศชิลล์ๆ ริมทะเล รับลมเย็นๆ เพลิดเพลินกับบทเพลงสบายๆ ที่เหมาะกับทุกเพศทุกวัย ไม่ว่าจะมากับครอบครัว คนรัก หรือเพื่อนฝูง ก็สามารถนั่งฟังและดื่มด่ำไปกับช่วงเวลาพิเศษได้

ชมประติมากรรมจากขยะพลาสติก ประติมากรรมสุดสร้างสรรค์ที่รังสรรค์ขึ้นจากขยะพลาสติกในชุมชน เปลี่ยนสิ่งของไร้ค่า ให้กลายเป็นผลงานทรงคุณค่า แฝงแนวคิดการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม และกระตุ้นจิตสำนึกในการลดใช้พลาสติกแบบใช้ครั้งเดียวแล้วทิ้ง

รวมถึงมีมุมถ่ายภาพเก๋ๆ จากขยะเป็นงานศิลปะ พบกับจุดถ่ายภาพสุดครีเอทีฟ ที่นำขยะมาเปลี่ยนเป็นงานศิลปะสุดชิค ไม่ว่าจะเป็นฉากหลัง หรือโครงสร้างที่สร้างจากวัสดุเหลือใช้ กลายเป็นสถานที่ให้ผู้เข้าร่วมงานได้มาถ่ายรูป เช็คอินและแชร์ความประทับใจลงโชเชียล พร้อมทั้งเรียนรู้แนวคิดรีไซเคิลและเห็นคุณค่าของสิ่งของรอบตัวในมุมมองใหม่ ซึ่งกิจกรรมจะมีในช่วงเย็นทั้งสองวัน.

ณัฐธภพ พันสาย…..รายงาน

Categories
ข่าว ทั้งหมด

ผู้ว่าฯ ประจวบฯ นำทีม “ลงแขก – ลงคลอง” กำจัดปลาหมอคางดำให้หมดคลองบางนางรม

ผู้ว่าฯ ประจวบฯ นำทีม “ลงแขก – ลงคลอง” กำจัดปลาหมอคางดำให้หมดคลองบางนางรม

วันที่ 10 เมษายน 2568 นายสิทธิชัย สวัสดิ์แสน ผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบฯ เป็นประธานเปิดกิจกรรมร่วมด้วยช่วยกัน “ลงแขก – ลงคลอง” กำจัดปลาหมอคางดำออกจากแหล่งน้ำธรรมชาติ “Next Move Prachuap ประจวบต้องไปต่อ” ที่คลองบางนางรม บริเวณด้านหลังสำนักงานประมงจังหวัดประจวบฯ อ.เมืองประจวบฯ โดยมี นายสมนึก พรหมศร ประมงจังหวัด นายสมเจตน์ จันทนา ผู้อำนวยการสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัด นายบรรพต รัตนจันทร์ ผู้บัญชาการเรือนจำจังหวัด นายธนวัฒน์ เรืองเดช หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดประจวบฯ หัวหน้าส่วนราชการ และชาวประมงพื้นบ้านร่วมกิจกรรม เพื่อประชาสัมพันธ์สร้างความตระหนักรู้ และการมีส่วนร่วมในการกำจัดปลาหมอคางดำ ให้กับทุกภาคส่วน ควบคุมและกำจัดปลาหมอคางดำในแหล่งน้ำธรรมชาติ โดยมีเจ้าหน้าที่สำนักงานประมง เจ้าหน้าที่กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช ชาวประมงพื้นบ้าน และผู้ต้องขังในเรือนจำจังหวัด มาร่วมบำเพ็ญสาธารณประโยชน์ ช่วยกันจับปลาหมอคางดำออกจากคลองบางนางรม พร้อมมีกิจกรรมสาธิตการทำน้ำหมักชีวภาพ โดยสถานีพัฒนาที่ดินประจวบฯ ซึ่งผู้ว่าราชการจังหวัด และหัวหน้าส่วนราชการได้ร่วมกันทำน้ำหมักชีวภาพด้วย ก่อนร่วมกันปล่อยปลากะพงขาว ขนาด 5 – 7 นิ้ว ซึ่งเป็นปลาผู้ล่า ลงสู่คลองบางนางรม เพื่อไปกินลูกปลาหมอคางดำในแหล่งน้ำธรรมชาติ

นายสมนึก พรหมศร กล่าวว่า จังหวัดประจวบฯ พบการแพร่ระบาดของปลาหมอคางดำ ในพื้นที่ 8 อำเภอ ซึ่งสำนักงานประมงจังหวัดได้ดำเนินมาตรการต่างๆ ของกรมประมง เพื่อควบคุมและกำจัดปลาหมอคางดำในแหล่งน้ำทุกแห่งที่พบการแพร่ระบาด โดยดำเนินการร่วมกับหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน และประชาชนมาอย่างต่อเนื่อง ทั้งการกำจัดโดยการ “ลงแขก ลงคลอง” และการนำขึ้นมาใช้ประโยชน์ ตั้งแต่เดือนมีนาคม 2567 ซึ่งครั้งนี้นับเป็นครั้งที่ 68 และยังต้องปฏิบัติการอย่างต่อเนื่องในทุกอำเภอ อย่างน้อยอำเภอละ 1 – 2 ครั้งต่อเดือน เพื่อควบคุมจำนวนปลาหมอคางดำให้เหลือน้อยที่สุด ให้เกิดความสมดุลของระบบนิเวศ ไม่ส่งผลกระทบต่อสัตว์น้ำประจำถิ่น ซึ่งที่คลองบางนางรมนี้มีการทำกิจกรรมลงแขกลงคลองไปแล้ว 4 ครั้ง พบว่าปลาหมอคางดำเริ่มลดน้อยลง จึงได้ปล่อยปลากะพงผู้ล่าลงไป ทั้งนี้ จากการดำเนินการกำจัดปลาหมอคางดำ มากว่า 1 ปี พบความชุกชุมในแหล่งน้ำลดลงชัดเจน เหลือเพียงลำคลองไม่กี่แห่งที่ยังมีความชุกชุม ส่วนการระบาดในบ่อเลี้ยงของเกษตรกรที่เลี้ยงแบบบ่อธรรมชาติ หลังจากที่ได้มีการรับซื้อปลาหมอคางดำจากเกษตรกรเพื่อนำไปทำน้ำหมักชีวภาพ ก็พบว่าไม่ค่อยมีปลาหมอคางดำหลงเหลือแล้ว อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ จังหวัดประจวบฯ ได้รับโควต้ารับซื้อปลาหมอคางดำจากกรมประมงเพิ่มอีก 104 ตัน เพื่อเร่งกำจัดปลาหมอคางดำออกจากแหล่งน้ำอย่างต่อเนื่อง.

Categories
ข่าว ทั้งหมด

เจ้าคณะภาค 15 เปิดงาน “เดือนห้านมัสการหลวงพ่อในกุฏิ วัดกุยบุรี” ครบรอบ 154 ปี

เจ้าคณะภาค 15 เปิดงาน “เดือนห้านมัสการหลวงพ่อในกุฏิ วัดกุยบุรี” ครบรอบ 154 ปี

วันที่ 10 เมษายน 2568 พระธรรมวชิรสิทธาจารย์ เจ้าคณะภาค 15 เจ้าอาวาสวัดคลองวาฬ พระอารามหลวง เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ นายสินาทร โอ่เอี่ยม รองผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบฯ ประธานฝ่ายฆราวาส ในพิธีเปิดงานเดือนห้านมัสการหลวงพ่อในกุฏิ ครบรอบ 154 ปี ที่วัดกุยบุรี อ.กุยบุรี จ.ประจวบฯ มีพระราชรัตนวิสุทธิ์ เจ้าคณะจังหวัดประจวบฯ (มหานิกาย) เจ้าอาวาสวัดกุยบุรี พร้อมด้วยพระสงฆ์ทรงสมณศักดิ์ นายปรีดา สุขใจ รองผู้ว่าราชการจังหวัด นางอรษา โอ่เอี่ยม รองประธานแม่บ้านมหาดไทยจังหวัด นายอร่าม ญาณแก้ว นายอำเภอกุยบุรี หัวหน้าส่วนราชการ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น แขกผู้มีเกียรติและพุทธศาสนิกชนจำนวนมากเข้าร่วมงาน โดยก่อนเปิดงานมีขบวนแห่อัญเชิญหลวงพ่อในกุฏิ เพื่อให้ชาวบ้านกราบนมัสการบูชา พร้อมเครื่องสักการะ ซึ่งงานดังกล่าวทางวัดจัดขึ้นเป็นประจำทุกปี เพื่อให้ประชาชนทั่วไปได้มาปิดทองรูปหล่อ “หลวงพ่อในกุฏิ” ระหว่างวันที่ 10 – 18 เมษายน 2568 เป็นเวลา 9 วัน 9 คืน

“หลวงพ่อในกุฏิ” เดิมชื่อมาก หรือบุญมาก เกิดในราวปีมะเส็ง สมัยแผ่นดินพระเจ้าเอกทัศ กรุงศรีอยุธยาตอนปลาย เป็นน้องคนสุดท้องของ 3 พี่น้อง คือ ท่านอินทร์ ท่านม่วง และท่านมาก ท่านมีพี่น้องสี่คน น้องคนสุดท้องเป็นผู้หญิง ท่านเป็นคนปักษ์ใต้โดยกำเนิดน่าจะอยู่จังหวัดชุมพร ตระกูลของหลวงพ่อเป็นตระกูลที่มีศรัทธาเลื่อมใสในพระพุทธศาสนาเป็นอันมาก เมื่ออายุครบบวช ท่านและพี่ชายได้ออกบวชและครองสมณเพศตลอดชีวิต หลวงพ่อทั้งสามเชี่ยวชาญเรื่องเวชกรรม ไสยศาสตร์ และวิปัสสนากัมมัฏฐาน เมื่อบวชเป็นเวลาพอสมควรแล้ว จึงชวนกันออกธุดงค์ มีความแตกฉานในสรรพวิชาทั้งสามองค์ เมื่อได้อยู่จำพรรษาที่วัดเดิมกันมาตามสมควรแล้ว จึงชักชวนกันเดินธุดงค์ โดยหลวงพ่ออินทร์ เลือกมาจำพรรษาที่เมืองกำเนิดนพคุณ หรือเมืองบางสะพาน ปัจจุบันมีรูปเหมือนของท่านประดิษฐานอยู่ที่วัดเขาโบสถ์ อ.บางสะพาน หลวงพ่อม่วง น้องคนกลาง เลือกจำพรรษาที่ถ้ำแห่งหนึ่ง ระหว่างบ้านกรูดและทับสะแก ถ้ำแห่งนั้น คือถ้ำคีรีวงศ์ และกลายเป็นวัดถ้ำคีรีวงศ์ ในปัจจุบัน ส่วนหลวงพ่อมาก หรือหลวงพ่อในกุฏิ เลือกจำพรรษาที่เมืองกุยบุรี ที่วัดกุยบุรี วัดเก่าแก่คู่บ้านคู่เมือง มีแม่น้ำกุยบุรีไหลผ่านทางด้านหลังวัดและตั้งอยู่ไม่ไกลจากหมู่บ้าน ที่พระภิกษุจะต้องออกไปบิณฑบาตในเวลาเช้า นับเป็นสับปายะของผู้อยู่อาศัย ถึงจะไม่ไกลจากหมู่บ้านแต่ก็ปราศจากเสียงอื้ออึงเข้ามารบกวน สมเป็นที่หลีกอยู่ของสมณะผู้ใคร่หาความสงบ หลวงพ่อในกุฏิเป็นผู้ที่ใฝ่ใจในด้านหาความสงบทางจิตยู่แล้ว จึงได้รับอาราธนาจากเจ้าเมืองและชาวกุยบุรี ปกครองวัดกุยบุรีตลอดมา

ปฏิปทาของหลวงพ่อในกุฏิ ท่านเป็นผู้เคร่งครัดในด้านวิปัสสนากัมมัฏฐาน และชำนิชำนาญคล่องแคล่วด้านไสยศาสตร์คาถา นับว่าหลวงพ่อเป็นผู้มีอาคมขลัง พร้อมทั้งเป็นผู้มีเมตตาจิตอย่างสูง ทั้งเป็นผู้มีวาจาศักดิ์สิทธิ์อีกด้วย คือเมื่อพูดคำใดแล้วจะต้องเป็นอย่างนั้น เมื่อเป็นดังนี้ชาวเมืองกุยบุรี เมืองคลองวาฬ เมืองปราณ ตลอดจนถึงเมืองใกล้เคียงจึงได้ศรัทธาเลื่อมใสในบุญบารมีเป็นอันมาก เมื่อใดได้รับทุกข์ ก็จะต้องหาโอกาสมาบนบานศาลกล่าว ขอให้ช่วยปัดเป่าให้ผ่อนคลายหายจากทุกข์นั้นๆ ครั้นเมื่อได้รับความสำเร็จแล้ว หรือสมความปรารถนาจากที่ตนได้บอกกล่าวกับหลวงพ่อไว้แล้ว ก็จะต้องนมัสการและปิดทองที่ตัวท่านเป็นจำนวนมาก แม้ในปัจจุบันรูปเหมือนหลวงพ่อในกุฏิก็ยังมีคนมาปิดทองท่านอยู่ตลอดมา.

Categories
ข่าว ท่องเที่ยว ทั้งหมด

ผู้ว่าฯ ประจวบฯ เปิดศูนย์ป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงสงกรานต์ ตั้งเป้าเสียชีวิตน้อยกว่า 5 คน

ผู้ว่าฯ ประจวบฯ เปิดศูนย์ป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงสงกรานต์ ตั้งเป้าเสียชีวิตน้อยกว่า 5 คน

วันที่ 10 เมษายน 2568 นายสิทธิชัย สวัสดิ์แสน ผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบฯ เป็นประธานเปิดศูนย์ปฏิบัติการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลสงกรานต์ พ.ศ.2568 ที่บริเวณหน้าศาลากลางจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ มีนายธนวัฒน์ เรืองเดช หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดประจวบฯ คณะกรรมการและคณะทำงานศูนย์ปฏิบัติการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลและช่วงวันหยุด พ.ศ.2568 จังหวัดประจวบฯ หัวหน้าส่วนราชการ ตำรวจ ทหาร ตชด. มูลนิธิ อาสาสมัคร อปพร. จิตอาสาพระราชทาน เจ้าหน้าที่ทุกหน่วยงานร่วมพิธี ภายหลังผู้ว่าราชการจังหวัดได้กล่าวเปิดศูนย์ฯ พร้อมรับมอบของสนับสนุนจุดตรวจจุดบริการช่วงเทศกาลสงกรานต์จากภาคเอกชนแล้ว ได้ชมการสาธิตการใช้เครื่องมือ การช่วยเหลือผู้ประสบอุบัติเหตุทางถนนจากองค์กรการกุศล หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง พร้อมเป็นประธานปล่อยขบวนรณรงค์ หน่วยงานภาครัฐ เอกชน มูลนิธิกู้ภัย ร่วมกันออกปฏิบัติงานในช่วงควบคุมเข้มข้นระหว่างวันที่ 11 – 17 เมษายน พร้อมตั้งจุดตรวจจุดบริการประชาชนริมถนนเพชรเกษม เพื่อให้บริการประชาชนที่สัญจรผ่านพื้นที่จังหวัดประจวบฯ ตลอดระยะทางกว่า 200 กิโลเมตร เดินทางอย่างปลอดภัยไร้อุบัติเหตุ ในช่วงเทศกาลสงกรานต์นี้

นายธนวัฒน์ เรืองเดช กล่าวว่า การเปิดศูนย์ปฏิบัติการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลสงกรานต์ ปี 2568 ในวันนี้ ใช้ชื่อการรณรงค์ว่า “ขับขี่ปลอดภัย เมืองไทยไร้อุบัติเหตุ” มีการกำหนดช่วงเทศกาลสงกรานต์ ช่วงควบคุมเข้มข้นระหว่างวันที่ 11 – 17 เมษายน โดยมีมาตรการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนน 5 มาตรการหลัก ได้แก่ 1. มาตรการด้านการบริหารจัดการ 2. มาตรการด้านลดปัจจัยเสี่ยงด้านถนนและสภาพแวดล้อม 3. มาตรการด้านลดปัจจัยเสี่ยงด้านยานพาหนะ 4. มาตรการด้านผู้ใช้รถใช้ถนนอย่างปลอดภัย 5. มาตรการด้านการช่วยเหลือหลังเกิดอุบัติเหตุ ตลอดจนมุ่งเน้นลดสาเหตุและพฤติกรรมเสี่ยงหลักที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุ ได้แก่ ไม่ขับรถเร็วเกินกว่ากฎหมายกำหนด ดื่มไม่ขับ การสวมหมวกนิรภัย 100 เปอร์เซ็นต์ การคาดเข็มชัดนิรภัย และการรณรงค์ลดอุบัติเหตุบริเวณทางข้าม โดยบูรณาการปฏิบัติงานร่วมกันระหว่างหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งภาครัฐภาคเอกชน ภาคประชาชน อาสาสมัคร จิตอาสาพระราชทานและองค์กรสาธารณกุศล เพื่อลดความสูญเสียในชีวิต และทรัพย์สินของประชาชนจากปัญหาอุบัติเหตุทางถนนให้ได้มากที่สุด

ทั้งนี้จากสถิติการเกิดอุบัติเหตุทางถนนในช่วงเทศกาลสงกรานต์ พ.ศ.2567 ในระดับประเทศ เกิดอุบัติเหตุ 2,044 ครั้ง จำนวนผู้เสียชีวิต 287 ราย และผู้บาดเจ็บ (Admit) 2,060 ราย ส่วนสถิติการเกิดอุบัติเหตุทางถนนในช่วงเทศกาลสงกรานต์ พ.ศ.2567 ของจังหวัดประจวบฯ เกิดอุบัติเหตุ 58 ครั้ง มีผู้เสียชีวิต 9 ราย และผู้บาดเจ็บ (Admit) 55 ราย ซึ่งเป้าหมายในการดำเนินการของจังหวัดประจวบฯ คือ จำนวนครั้งการเกิดอุบัติเหตุ จำนวนผู้เสียชีวิตและจำนวนผู้บาดเจ็บ (Admit) ของจังหวัดลดลงไม่น้อยกว่า 5 เปอร์เซ็นต์ เมื่อเทียบกับสถิติในช่วงเทศกาลสงกรานต์ เฉลี่ย 3 ปีย้อนหลัง ทำให้จังหวัดประจวบฯ มีเป้าหมายการเกิดอุบัติเหตุน้อยกว่า 41 ครั้ง ผู้เสียชีวิตน้อยกว่า 5 ราย และผู้บาดเจ็บ (Admit) น้อยกว่า 41 ราย.